บทที่ 221 ราคาของความเจ็บปวด
หลี่โม่กับกู้หยุนหลันสบตากันด้วยความรักใคร่ จากนั้นทั้งสองก็ยิ้มให้กันด้วยความลึกซึ้ง
ทั้งคู่ต่างก็มองตาและรู้ใจซึ่งกันและกัน
ในช่วงเวลานี้ไม่จำเป็นต้องมีคำพูดใดๆ อีก เพียงแค่สบตากันก็มากกว่าคำพูดนับพันคำ
คุณชายซูเบิกตากว้างแล้วมองไปที่หลี่โม่กับกู้หยุนหลัน ในตอนนี้เขารู้สึกร่างกายอ่อนแอและไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงที่จะพูดได้
ความกลัวยังฝังลึกอยู่ในใจของเขา มันแพร่กระจายไปทั่วร่างกายอย่างรวดเร็วจนกล้ามเนื้อของเขาเริ่มสั่นอย่างควบคุมไม่ได้
ทุกอย่างดูเหมือนอยู่ในความฝัน ก่อนหน้านี้เขายังเป็นเหมือนเทพพระเจ้าและในพริบตาเขาก็เหมือนตกอยู่ในขุมนรก
สถานการณ์มันพลิกผันอย่างรวดเร็ว เร็วเกินกว่าคุณชายซูจะรับได้ เขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมจู่ ๆ ก็มียอดฝีมือปรากฏตัวแบบนี้
เขาเตรียมการมาอย่างดีเพื่องานนี้ ความสำเร็จมันอยู่แค่เอื้อมแล้ว แต่ในพริบตาทุกอย่างมันกลับพลิกผันเป็น 180 องศา
คุณชายซูรับไม่ได้ เขาไม่สามารถยอมรับทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้าได้จริงๆ
คุณชายซูเริ่มกังวลกับสิ่งที่ทำกับหลี่โม่เมื่อครู่นี้ เขาทำร้ายหลี่โม่อย่างทารุณ แต่ตอนนี้เขากลับกลายเป็นลูกไก่ในกำมือของคนอื่น แล้วหลี่โม่จะเอาคืนเขายังไง?
ความคิดเหล่านี้ผุดขึ้นในสมองของคุณชายซูอย่างไม่หยุด
สิ่งที่เราทำลงไปเมื่อครู่นี้มันเลวร้ายเกินไป หลี่โม่ต้องแก้แค้นเราเป็นสองเท่าแน่เลย แล้วเราจะถูกฆ่าไหม?
หรือว่า เราจะถูกทารุณก่อนจะถูกฆ่า?
ความหวาดกลัวเต็มไปในความคิดของคุณชายซู เสียงร้องไห้ค่อยๆ ดังขึ้นในลำคอของเขา
คุณชายซูมองหลี่โม่กับกู้หยุนหลันด้วยความหวาดกลัว และทั้งสองก็มองไปที่คุณชายซูด้วยเช่นกัน
รังเกียจ!
ในสายตาของกู้หยุนหลันมีแต่ความรังเกียจ คุณชายซูในขณะนี้ทำให้เธอน่าขยะแขยงอย่างที่สุด
“ผมจะจัดการกับมันให้สาสม คุณหันหน้าไปก่อนนะ เดี๋ยวคุณจะรับไม่ได้กับภาพที่เห็น”
หลี่โม่กระซิบพูดกับกู้หยุนหลัน
กู้หยุนหลันส่ายหัวแล้วพูดอย่างแน่วแน่ “ฉันต้องการเห็นมันถูกลงโทษตามที่สมควรได้รับ”
“ไม่ ไม่นะ ผม ผมจะชดใช้เงินให้”
คุณชายซูพูดอย่างตะกุกตะกัก เขาไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะพูดจาให้ชัดเจน
“มีเงินแล้วทำได้ทุกอย่างเหรอ? คุณคิดว่าเรื่องนี้ชดใช้ด้วยเงินได้ใช่ไหม?”
หลี่โม่พูดอย่างเย็นชา
คุณชายซูถึงกับเงียบไป เพราะเรื่องแบบนี้ไม่สามารถชดใช้ด้วยเงินจริงๆ
“คุณ คุณบอกผมสิว่าคุณต้องการอะไร ผม ผมจะชดใช้คุณเอง”
คุณชายซูลองเปลี่ยนวิธีอื่นที่ไม่ใช่เงิน เผื่อจะสามารถตอบสนองความต้องการของหลี่โม่ได้
หลี่โม่หยิบมีดสั้นของคุณชายซูขึ้นมาแล้วจี้ปลายมีดไปที่ใบหน้าของคุณชายซู “ผมต้องการชีวิตสุนัขของคุณ”
“ไม่ ไม่นะ!”
คุณชายซูหวาดกลัวจนตัวสั่น คนเรามักจะเจอในสิ่งที่ตัวเองกลัว และเขาก็กลัวการสูญเสียชีวิตที่สุด
“ผม ผมเป็นหมา คุณปล่อยหมาตัวนี้ไปเถอะนะ ต่อไปผมจะเป็นหมาที่ดีให้กับคุณ”
คุณชายซูพูดด้วยความกลัว สายตาของเขากระวนกระวายและกังวลว่ามีดในมือของหลี่โม่จะสังหารเขาในตอนนี้
“เหอะๆ เมื่อกี้ยังเก่งอยู่เลย ตอนนี้รู้จักกลัวแล้วเหรอ?”
หลี่โม่พูดอย่างดูถูก
คุณชายซูพยายามฝืนยิ้มแล้วพูดอย่างอ่อนแรงว่า “กลัว ผมกลัวแล้วครับ ได้โปรดไว้ชีวิตผมเถอะครับ ไว้ชีวิตหมาตัวนี้เถอะครับ ผมจะร้องเหมือนหมาให้คุณฟังก็ได้ครับ”
คุณชายซูผู้ซึ่งสิ้นหวังได้ละทิ้งศักดิ์ศรีของตนเพื่อจะร้องขอชีวิตจากหลี่โม่
หลี่โม่ยิ้มพูดต่อ “ต่อหน้าหยุนหลัน ผมไม่ต้องการนองเลือดให้มากกว่านี้ ผมจะไว้ชีวิตคุณก็แล้วกันนะ”
ขณะที่คุณชายซูกำลังจะตอบด้วยความตื่นเต้น มีดในมือหลี่โม่ก็พุ่งเข้าหาต้นแขนของคุณชายซู
ปลายมีดอันแหลมคมเจาะผ่านผิวหนัง ชั้นไขมัน กล้ามเนื้อ สุดท้ายเจาะทะลุกระดูกแขนและแบ่งกระดูกแขนออกเป็นสองท่อน
จากนั้นหลี่โม่ดึงมีดออกจากแขนของคุณชายซูและเลือดก็พุ่งออกมาอย่างห้ามไม่หยุด
“อ้าก! แขน แขนของข้า!”
คุณชายซูมองเลือดที่กระเซ็นออกมาแล้วตะโกนด้วยความเจ็บปวด
พี่ตาวปาเห็นบาดแผลที่แขนของคุณชายซูและรู้สึกหวาดกลัวอย่างที่สุด หลี่โม่คนนี้ไม่ได้อ่อนแออย่างที่คิดจริงๆ
“จะหอนทำไม แผลนี้เป็นผลตอบแทนที่คุณลักพาตัวหยุนหลัน”
หลี่โม่พูดด้วยสีหน้าเฉยเมย
คุณชายซูตกใจและกัดฟันไว้แน่นๆ สีหน้าของเขาซีดเซียวแล้วมองหลี่โม่ด้วยความกลัวและนัยน์ตาเต็มไปด้วยความอ้อนวอน
ความเจ็บปวดทำให้คุณชายซูเหงื่อแตกไปทั่วร่างกาย เขาที่กำลังจะร้องขอความเมตตาแต่ทันใดนั้นก็เห็นแสงอันเย็นเยือกวาบผ่านหน้าเขา เมื่อรู้ตัวอีกทีปลายมีดที่คมกริบก็เสียบเข้าที่ต้นแขนซ้ายของเขาแล้ว
กระดูกต้นแขนด้านซ้ายที่ถูกแทงด้วยมีดอันแหลมคมก็หักไปเหมือนแขนขวา ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงทำให้คุณชายซูกระตุกไปทั่วร่างกายราวกับปลาที่กำลังดิ้นรนบนฝั่งเพราะขาดออกซิเจนกับน้ำ
“ปล่อยผมไปเถอะ ไว้ชีวิตผมเถอะครับ คุณชายหลี่โม่ ปล่อยผมไปเถอะครับ”
คุณชายซูพยายามอ้อนวอนอย่างเต็มที่ แต่หลี่โม่ไม่ได้แสดงท่าทีว่าจะใจอ่อนเลย
“กล้าทำต้องกล้ารับสิ ตอนนี้เป็นเวลาที่คุณจะต้องรับผิดชอบ เป็นลูกผู้ชายบ้าง ไม่อย่างนั้นผมจะดูถูกคุณได้นะ แล้วก็ แผลนี้เป็นค่าตอบแทนที่คุณทำให้หยุนหลันต้องตกใจนะ”
หลี่โม่พูดอย่างเย็นชา
“ผมผิดไปแล้ว ผมผิดไปแล้วจริงๆ ครับ ผมยอมแล้ว ขอร้องที อย่าทำผมอีกเลย จะเจ็บจะตายอยู่แล้วครับ ผมต้องไปโรงพยาบาล ไม่อย่างนั้นผมจะเสียเลือดจนตายได้นะครับ!”
คุณชายซูพูดอย่างสิ้นหวัง เลือดที่ไหลรินออกจากแผลบนแขนทั้งสองข้างทำให้คุณชายซูรู้ตัวว่าถ้าไม่ได้รับการรักษาเขาต้องตายอย่างแน่นอน
“และนี่คือผลตอบแทนที่คุณทำให้หยุนหลันร้องไห้!”
“ส่วนนี่ คือผลตอบแทนที่คุณทำให้หยุนหลันเสียใจ!”
หลี่โม่ตะโกนพูดด้วยความโกรธและมีดสั้นในมือของเขาก็เสียบเข้าไปที่ต้นขาทั้งสองข้างของคุณชายซู
มีดอันแหลมคมที่ทิ่มแทงทำให้กระดูกต้นขาทั้งสองข้างของคุณชายซูถึงกับแตกหักและในเวลาเดียวกันก็มีเลือดพุ่งออกมาอย่างไม่หยุด
แก๊งๆ
จากนั้นหลี่โม่ก็โยนมีดสั้นทิ้งไว้ที่ข้างศีรษะของคุณชายซู คุณชายซูในขนาดนี้เจ็บจนใบหน้าบูดเบี้ยวและไม่สามารถพูดเป็นคำได้อีกต่อไป มีเพียงเสียงร้องของความเจ็บปวดที่ส่งออกมาจากปากของเขาและลมหายใจที่สิ้นหวังเหมือนคนใกล้ตาย
“หักแขนขาของคุณทั้งสี่ข้างเพื่อเป็นการลงโทษคุณ และถ้าคุณกล้าทำร้ายหยุนหลันอีก ผมจะคร่าชีวิตคนทั้งครอบครัวของคุณ!”
หลังจากที่พูดจบ หลี่โม่ก็จับมือกู้หยุนหลันแล้วและยิ้มอย่างอ่อนโยนให้เธอราวกับว่าหลี่โม่เป็นคนละคนกับคนที่เลือดเย็นและไร้ความปรานีในก่อนหน้านี้
“ผมไม่ได้ทำให้คุณตกใจใช่ไหม งั้นเรากลับบ้านกันเถอะ” หลี่โม่ยิ้มพูดอย่างอบอุ่น
“อื้ม”
กู้หยุนหลันตอบสั้นๆ แล้วเดินออกจากโกงดังพร้อมกับหลี่โม่
หลังเดินออกจากโกงดังพวกเขาก็เห็นเหล่าผู้พิทักษ์ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งการสังหารยืนรออยู่ที่หน้าประตู พวกเขากำลังจะกล่าวทักทายแต่กลับถูกหลี่โม่ปฏิเสธด้วยสายตา
กู้หยุนหลันมองผู้พิทักษ์เหล่านั้นด้วยความประหลาดใจและเต็มไปด้วยความสับสน คนที่สามารถจัดการกับคนมากมายได้โดยที่ไม่มีใครรู้ตัว คนเหล่านี้ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งการสังหารต้องไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน
กู้หยุนหลันคิดในใจ
คนกลุ่มนี้คือคนที่หลี่โม่หามาจริงหรือ?
แล้วหลี่โม่ไปรู้จักยอดฝีมือเหล่านี้ได้ไง ซึ่งมันไม่น่าจะเป็นไปได้เลย
จากนั้นกู้หยุนหลันก็ถามอย่างสงสัยว่า “หลี่โม่ พวกเขาคือใครเหรอ?”