บทที่ 225 คุณเข้าใจผิดหรือเปล่า?
เมื่อได้ยินเสียงของเฉียวเจิ้งหลง ฮั่วเจี้ยนเฟิงก็ผงะไปชั่วขณะ จากนั้นใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
คุณชายฉิน คุณชายจางและคนอื่นๆ ต่างก็แสดงรอยยิ้มที่สดใสบนใบหน้าทันที
สำหรับพวกเขาแล้ว ขอแค่ได้ทักทายกับเฉียวเจิ้งหลงต่อหน้าก็ถือว่าเป็นเรื่องอันทรงเกียรติแล้ว
ฮั่วเจี้ยนเฟิงเงยหน้าขึ้นอย่างเย่อหยิ่งแล้วเหลือบมองหลี่โม่และพูดอย่างเย็นชา “เหอะ! นายลำบากแน่ เฉียวเจิ้งหลงเกลียดคนที่ชอบแอบอ้างที่สุด สิ่งที่นายพูดเมื่อกี้นี้พวกเราทุกคนได้ยินหมดแล้ว”
หลี่โม่มองทั้งสองเหมือนคนปัญญาอ่อน ไม่รู้ว่าพวกเขาเอาความกล้ามาจากไหนถึงกล้าพูดเช่นนี้ได้
ฮั่วเจี้ยนเฟิงรู้สึกโกรธมากที่เห็นสีหน้าของหลี่โม่ เขารู้สึกว่าหลี่โม่กำลังจงใจยั่วยุพวกเขา
เฉียวเจิ้งหลงเดินเข้ามาในงานพร้อมกับบอดี้การ์ดมากมาย
สายตาของผู้คนจับจ้องไปที่เฉียวเจิ้งหลงและหลายๆ คนก็มารวมตัวกันที่หน้าประตูเพื่อต้องการกล่าวทักทายกับเขา
หลังจากกวาดมองไปทั่วห้องแล้วสายตาของเฉียวเจิ้งหลงก็จดจ่อไปที่หลี่โม่
มุมปากของเขายกขึ้นและกำลังจะยิ้มด้วยความเคารพ แต่สุดท้ายก็ถูกสายตาของหลี่โม่สั่งให้หยุดไป ซึ่งเฉียวเจิ้งหลงก็เข้าใจดีกว่าหลี่โม่ไม่ต้องการเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขา
ลองคิดดูว่าถ้าสถานะของคนอย่างหลี่โม่ถูกเปิดเผย คนรวยทุกคนที่มาร่วมงานจะมีท่าทีต่อเขาอย่างไร โดยเฉพาะบางคนอาจจะเข้าไปตีสนิทกับเขาอย่างไม่เกรงใจหรืออาจทำให้สาวๆ หลายคนต้องตบตีแย่งชิงกันเพื่อจะได้ปีนขึ้นไปบนเตียงของหลี่โม่
เมื่อฮั่วเจี้ยนเฟิงเห็นสายตาของเฉียวเจิ้งหลงที่มองไปที่หลี่โม่เขาก็เออออในใจเองว่าเฉียวเจิ้งหลงต้องไม่รู้จักหลี่โม่อย่างแน่นอน
ใครอยากให้หลี่โม่คุยโม้เองล่ะ กล้าบอกว่าเฉียวเจิ้งหลงเป็นคนเชิญเขามาร่วมงานได้ยังไง โดยนิสัยของเฉียวเจิ้งหลงแล้ว ถ้าถูกใครเอาชื่อมาแอบอ้างเขาต้องส่งคนไปฆ่าคนคนนั้นอย่างแน่นอน
“สวัสดีครับท่านประธานเฉียว ผมเสี่ยวฮั่ว ชื่อจริงชื่อฮั่วเจี้ยนเฟิงจากบริษัทการลงทุนติ่งซินครับ”
ฮั่วเจี้ยนเฟิงพยายามตีสนิท
เฉียวเจิ้งหลงเงยหน้าแล้วตอบสั้นๆ ว่า “ออ”
แม้เสียงตอบของเฉียวเจิ้งหลงจะไม่เต็มใจมากนัก แต่ฮั่วเจี้ยนเฟิงก็ยังรู้สึกตื่นเต้นและพูดต่อทันที “ท่านประธานเฉียวครับ ไอ้หมอนี่ไม่รู้มันแอบเข้าไม่ได้ยังไง ผมสังเกตเห็นตั้งแต่แรกแล้วครับ ผมพยายามถามว่าเขาได้รับเชิญจากใคร แต่ไอ้กระจอกคนนี้กลับเอาชื่อของท่านประธานมาแอบอ้างครับ มันหาว่าท่านเป็นคนเชิญมันมาครับ”
“ท่านว่ามันน่ารำคาญไหมครับ ไม่กลัวใครเลยจริงๆ กล้าใช้ชื่อของท่านมาแอบอ้างแบบนี้ ผมว่ามันคงหิวแล้วพยายามเข้ามาแอบกินของว่างที่นี่หรือพยายามจะขโมยอย่างอื่นก็ได้นะครับ”
ฮั่วเจี้ยนเฟิงพูดในสิ่งที่เขาเตรียมไว้แล้วชี้ไปที่หลี่โม่
นัยน์ตาของคุณชายฉินกับคุณชายจางเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ทั้งสองคิดว่านี่เป็นโอกาสที่จะได้ตีสนิทกับเฉียวเจิ้งหลง ดังนั้นจึงเออออไปด้วย
“แต่งตัวผ้าขี้ริ้วก็แย่พอแล้ว ยังพูดจาเกินเหตุแถมยังใช้ชื่อของท่านมาแอบอ้างแบบนี้ พวกผมเพิ่งได้ยินแล้วกำลังจะสั่งสอนมันอยู่พอดีเลยครับ”
“เหลือขอจริงๆ ไม่รู้จักเจียมตัวไม่พอยังทำตัวแย่ๆ กับคนอื่นอีก คนแบบนี้สมควรลากไปทุบตีสั่งสอนมันสักตั้ง ดูว่ามันจะกล้าเอาชื่อของผู้ใหญ่มาแอบอ้างอีกไหม”
ทั้งสองพูดอย่างเมามัน เมื่อเห็นสีหน้าของเฉียวเจิ้งหลงเคร่งเครียด ทั้งสองก็รู้สึกดีใจ เพราะคิดว่ามีผลงานต่อหน้าเฉียวเจิ้งหลงแล้ว ไม่แน่อาจจะเป็นช่องทางที่จะสร้างความสัมพันธ์กับเฉียวเจิ้งหลงได้
ส่วนเฉียวเจิ้งหลงรู้สึกโกรธมาก ไม่ง่ายเลยที่หลี่โม่จะให้เกียรติมาร่วมงานของเขา เพราะนี่คือโอกาสที่เขาจะได้เข้าหาหลี่โม่ แต่สุดท้ายดันถูกพวกไม่เอาไหนก่อเรื่องให้เขาอีก ถ้าหลี่โม่โกรธขึ้นมาแล้วใครจะรับผิดชอบได้
อย่าว่าแต่เฉียวเจิ้งหลงเป็นหนึ่งในราชาใต้ดินทั้งสี่ของเมืองฮ่านเลย ต่อให้เป็นราชาใต้ดินของทั้งประเทศก็ทนรับต่อความโกรธของหลี่โม่ไม่ได้อย่างแน่นอน!
ดังนั้นเฉียวเจิ้งหลงจึงมองฮั่วเจี้ยนเฟิงด้วยความโกรธเกรี้ยวแล้วถามเขาว่า “คุณเป็นผู้นำเหรอ?”
ฮั่วเจี้ยนเฟิงเห็นความโกรธของเฉียวเจิ้งหลงก็รู้สึกดีใจแล้วเหลือบมองไปที่หลี่โม่และพยักหน้าตอบ “ใช่ครับ ผมเห็นมันก่อน แล้วเราก็รีบเข้ามาจับผิดมันครับ”
ผั๊วะ!
เฉียวเจิ้งหลงตบหน้าฮั่วเจี้ยนเฟิงด้วยความแรงจนหน้าของฮั่วเจี้ยนเฟิงถึงกับสั่นไปทั้งใบ จากนั้นเขากุมใบหน้าแล้วมองไปที่เฉียวเจิ้งหลง
คุณชายจางกับคุณชายฉินและคนรอบข้างถึงกับอึ้งไป พวกเขาต่างก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเฉียวเจิ้งหลงถึงต้องตบหน้าฮั่วเจี้ยนเฟิง
“พวกคุณสองคนก็ร่วมด้วยใช่ไหม?”
เฉียวเจิ้งหลงถามคุณชายจางกับคุณชายฉินด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
คุณชายจางและคุณชายฉินถึงกับหน้าซีดทันที แม้พวกเขาจะไม่รู้สาเหตุ แต่ทั้งสองต่างก็รู้ว่ามาผิดทางกันแล้ว
“พวกผมก็ถูก……ถูกฮั่วเจี้ยนเฟิงหลอกเหมือนกันครับ เพราะเขาเป็นคนชักชวน อันที่จริงพวกผมก็ไม่มีเจตนานี้เลยครับ”
“ใช่ครับ พวกเราไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ครับ เรารู้ว่าทุกคนย่อมมีสิทธิ์เท่าเทียมกัน เราไม่ควรดูถูกผู้อื่น เราไม่เห็นด้วยกับฮั่วเจี้ยนเฟิงเป็นอย่างยิ่งเลยครับ”
คุณชายจางกับคุณชายฉินต่างก็รีบเอาตัวรอด แต่เฉียวเจิ้งหลงยิ้มอย่างเย็นชาแล้วหลังมือให้กับทั้งสอง
“คิดว่าผมเป็นคนหลอกง่ายนักใช่ไหม”
เฉียวเจิ้งหลงพูดอย่างเย็นชา
“เปล่า เปล่าเลยครับ พวกเราผิดไปแล้วครับ ผิดไปแล้วจริงๆ”
คุณชายจางกับคุณชายฉินแทบจะร้องไห้ออกมา เดิมทีคิดว่าอยู่ข้างเดียวกับฮั่วเจี้ยนเฟิงแล้วจะได้มีโอกาสดังสักหน่อย แต่ที่ไหนได้ทุกอย่างมันกลับกัน
ฮั่วเจี้ยนเฟิงเอามือกุมหน้าแล้วมองไปที่หลี่โม่อย่างไม่พอใจ
“ท่านประธานเฉียวครับ ที่ท่านตบผม ผมไม่ว่าอะไรนะครับ แต่ท่านควรอธิบายหน่อยนะครับว่าทำไมท่านถึงตบพวกเราแต่ไม่ใช่ไอ้คนจนกระจอกคนนี้”
ผั๊วะ ๆ ๆ!
เฉียวเจิ้งหลงตบฮั่วเจี้ยนเฟิงอย่างดุเดือดแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาอีกครั้ง “คุณควรพูดจายังไงกับผม? สงสัยไม่รู้คำว่าตายเขียนยังไงแล้วสินะ?”
ฮั่วเจี้ยนเฟิงเหงื่อแตกไปทั่วร่างกาย เมื่อนึกถึงสถานะตำแหน่งของเฉียวเจิ้งหลงแล้ว เขาก็รู้สึกผิดทันทีที่พูดจาไม่ให้เกียรติกันและรู้ว่าตัวเองดิ้นหาที่ตายชัดๆ
“ผะ ผมผิดไปแล้วครับ”
ฮั่วเจี้ยนเฟิงพูดอย่างข้องใจ
“คุณผิดยังไง?”
เฉียวเจิ้งหลงมองฮั่วเจี้ยนเฟิงด้วยความดุเดือด
ฮั่วเจี้ยนเฟิงกลัวจนฉี่เกือบราดกางเกง “ผมไม่ควรดูหมิ่นท่านเลยครับ”
“ไอ้เหลือขอ! ไม่ให้เกียรติผมไม่เป็นไรหรอกนะ คนด่าผมก็เยอะแยะไป แต่สิ่งที่คุณทำผิดอย่างมหันต์คือคุณไม่ให้เกียรติคุณหลี่เขา!”
ทันทีที่พูดจบ เฉียวเจิ้งหลงก็หันกลับไปพูดกับหลี่โม่ด้วยความเคารพ “คุณหลี่ครับ ผมผิดพลาดเองที่ไม่ได้ต้อนรับคุณเป็นอย่างดี ผมไม่ได้มอบหมายคนให้ดูแลคุณเป็นพิเศษ ผมผิดเองที่ทำให้เกิดเรื่องแย่ๆ กับคุณ ผมขอรบกวนคุณหลี่ช่วยสั่งสอนผมทีนะครับ”
“หือ!”
ทุกสายตาถึงกับผงะไปทันที ไม่มีใครเชื่อว่าเฉียวเจิ้งหลงจะวางท่าทีแบบนี้ในขณะนี้
แก้มของฮั่วเจี้ยนเฟิงถึงกับกระตุกอย่างรุนแรง เขาคิดว่าตัวเองนั้นฝันไป
เกิดอะไรขึ้น ทำไมเฉียวเจิ้งหลงถึงให้เกียรติหลี่โม่ขนาดนี้!
หลี่โม่ก็แค่ไอ้กระจอกคนหนึ่ง เรื่องอะไรเฉียวเจิ้งหลงถึงวางท่าทีกับเช่นนี้!
ฮั่วเจี้ยนเฟิงรู้สึกสับสนและโกรธอยู่ในใจ เขาไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เห็นจริงๆ
“ทำไม ทำไมถึงเป็นแบบนี้! ท่านประธานเฉียวจำคนผิดหรือเปล่า!”