บทที่ 232 โจมตีเป็นกลุ่ม
หลี่โม่กับกู้หยุนหลัน เดินตามหวังจงเหิงเข้าไปในสวน สักครู่ก็เดินไปถึงห้องของคุณปู่หวัง
คุณปู่หวังใส่เสื้อคลุมสีแดงสด นั่งอยู่บนเก้าอี้นวม
มีหวังจินซานบ้านพี่ใหญ่ตระกูลหวัง กับหวังจินไห่บ้านน้องสามตระกูลหวัง นั่งอยู่ระหว่างซ้ายขวางของคุณปู่หวัง หวังเหมยยกถ้วยชายื่นให้คุณปู่หวังด้วยรอยยิ้ม
คุณปู่หวังจิบชาแล้วพยักหน้าเล็กน้อย และกล่าวว่า “เสี่ยวเหมยไม่เลว ดูแลจัดการงานภายในบ้านตระกูลโจวได้เป็นอย่างดี ฉันได้ยินคุณโจวชมคุณหลายครั้งแล้ว”
“นั่นเป็นเพราะว่าคุณพ่ออบรมสั่งสอนดี มิเช่นนั้นลูกก็ทำไม่เป็นอะไรสักอย่าง”
หวังเหมยกล่าวอย่างมีความสุข
“อึม ลูกจงพยายามพัฒนาต่อไป”
หวังเหมยถอยไปข้าง ๆ ยิ้มหน้าบานมองไปที่หวังฟาง
หวังฟางรู้สึกกังวล กล้ำกลืนฝืนทนยกถ้วยชาเดินเข้าไปหาคุณปูหวัง จากนั้นก็ยืนถ้วยชาให้คุณปู่หวัง
หลังจากที่คุณปู่หวังรับถ้วยชามาแล้ว ก็นำถ้วยชาวางไว้บนโต๊ะ ไม่ดื่มสักอึก
“เสี่ยวฟาง ลูกต้องเรียนรู้จากพี่สาว ดูสิว่าพี่สาวทำอย่างไร หยุนหลัน…. เฮ้อ ช่างมันเถอะ เมื่อพูดถึงไอ้เศษสวะของครอบครัวเธอทีไร มันก็ทำให้ฉันรู้สึกโมโหทุกที”
เป็นเพราะหลี่โม่ ทำให้สถานะของหวังฟางในครอบครัวตกลงไปอย่างรวดเร็ว เดิมทีเธอเป็นลูกสาวคนเล็กที่คนครอบครัวรักใคร่เอ็นดู แต่ตอนนี้เธอไม่ได้เป็นที่รักของพ่อและพี่ชายอีกแล้ว เหมือนเป็นแค่ที่ระบายอารมณ์
ใบหน้าของหวังฟางเปลี่ยนเป็นขาวซีดเผือด ตอนนี้เธอตกอยู่ในภวังค์ไร้ความรู้สึก
หวังจินซานยิ้มแล้วกล่าวว่า “พ่อ วันนี้เป็นวันเกิดแซยิดของพ่อ ขอให้พ่ออย่าโมโหไปเลย ถ้าโกรธไอ้เศษสวะจนทำให้เสียสุขภาพมันจะไม่คุ้ม คุณพ่อนั่งอยู่เงียบ ๆ เดี๋ยวให้พวกเราจัดการสั่งสอนไอ้เศษสวะแทนคุณพ่อเอง”
“ฮึ่ม!”
คุณปู่หวังตบที่เท้าแขนเก้าอี้อย่างแรง แล้วกล่าวอย่างเผ็ดร้อนว่า “พวกคุณที่เป็นลุงและป้าของหยุนหลัน เมื่อเห็นว่าหยุนหลันแต่งงานกับไอ้เศษสวะ ทำไมพวกคุณถึงไม่ห้ามปราม ไอ้เศษสวะหลี่โม่ล่ะอยู่ไหน!”
หวังจงเหิงและคนอื่นๆรู้สึกยินดีปรีดาในความโชคร้ายของคนอื่น ตอนนี้คุณปู่หวังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟแล้ว หลี่โม่จะต้องถูกด่าเละเลย
“อยู่ที่นี่ครับคุณปู่ เมื่อสักครู่พวกเราสั่งสอนไอ้เศษสวะแล้ว คุณปู่อย่าโมโหเลยครับ”
ขณะที่หวังจงเฉิงพูด ก็ใช้มือผลักหลี่โม่ออกมา
“สวัสดีครับคุณตา ผมขอให้คุณตา…….”
หลี่โม่เพิ่งจะพูดคำอวยพรได้เพียงสองคำ ก็ถูกคุณปู่หวังโบกมือขัดจังหวะ
“ไอ้เศษสวะอย่างคุณไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับฉัน วันนี้เป็นวันเกิดของฉัน ฉันไม่อยากโมโห จินซาน จินไห่ และเสี่ยวเหมย พวกคุณสั่งสอนมันดี ๆหน่อย ให้มันรู้จักการพึ่งพาตนเอง อย่าเป็นเศษสวะเช่นนี้ต่อไปอีก!”
เมื่อคุณปู่หวังให้ท้าย หวังจินซาน หวังจินไห่ และหวังเหมย พวกเขาจ้องมองไปที่หลี่โม่ แล้วก็พูดสั่งสอนหลี่โม่
“หลี่โม่ คุณดูสิว่าคุณทำให้คุณปู่หวังอารมณ์เสีย ไม่ใช่ว่าพวกเราว่าคุณ มันเป็นเพราะว่าคุณไม่เอาถ่าน คนทั่วเมืองฮ่านก็รู้ว่าคุณเป็นคนไร้ประโยชน์ แล้วยังทำให้ตระกูลหวังของพวกเราต้องอับอายขายหน้าด้วย!”
“เมื่อก่อนหยุนหลันเป็นคนเรียนเก่ง นิสัยดี หน้าตาสะสวย มีคนมากมายจีบเธอ ทำไมสุดท้ายถึงได้แต่งงานกับคนไร้ประโยชน์อย่างคุณ เราไม่ได้ว่าคุณเกิดมาในครอบครัวที่ยากจน แต่ว่าคุณเคยพยายามหรือยัง? หลังจากแต่งงานก็เกาะเมียกิน คุณรู้สึกผิดต่อหยุนหลันบ้างไหม?”
“จะไปพูดเหตุผลกับคนไร้ประโยชน์อย่างมันทำไม พวกคุณดูท่าทางที่มันก้มหัวนิ่งเงียบไม่พูดอะไร มันทำให้ฉันรู้สึกโกรธจนอยากจะเอารองเท้าตบมัน แบบนี้มันเหมือนลูกผู้ชายเสียที่ไหน มันเป็นขยะที่ไร้ประโยชน์ที่สุด”
หวังจินไห่และคนอื่น ๆ ทุกคนเริ่มด่าว่าโจมตีหลี่โม่ เมื่อหวังฟางกับกู้เจี้ยนหมินได้ยินประโยคนี้ก็กัดฟันอดทนจนแก้มกระตุก
นี่ไม่ใช่เรื่องที่หลี่โม่เสียหน้าอย่างเดียว มันยังทำให้หวังฟางกับกู้เจี้ยนหมินเสียหน้าอีกด้วย ทั้งสองคนจ้องมองไปที่หลี่โม่ด้วยความโกรธ จนอยากจะฉีกเนื้อหลี่โม่ให้เป็นชิ้น ๆ
กู้หยุนหลันถอนหายใจอย่างเงียบ ๆ มองไปที่คุณปู่หวัง ริมฝีปากของเธอขยับ แต่เธอก็ยังไม่ได้พูดอะไรที่แสดงถึงการปกป้องหลี่โม่
เป็นเรื่องง่ายที่จะพูดปกป้องหลี่โม่ แต่ถ้าพูดแล้วมันทำให้คุณปู่หวังโกรธจะเป็นเรื่องใหญ่ กู้หยุนหลันที่อยู่ตรงกลางรู้สึกลำบากใจ ก้มหน้าด้วยความรู้สึกคับแค้นใจ
หวังจงเหิงชี้ไปที่หลี่โม่ แล้วกล่าวอย่างเหยียดหยามว่า “ไอ้คนไร้ประโยชน์ ดูสิว่าคุณทำให้คุณปู่โกรธขนาดไหน นี่เป็นวันเกิดครบรอบ 70 ปีของคุณปู่ แล้วคุณจะมาสร้างความวุ่นวายที่นี่ทำไม”
“เป็นแค่คนไร้ประโยชน์ที่เกาะผู้หญิงกิน ถ้าฉันเป็นคนไร้ประโยชน์อย่างแก ฉันผูกคอตายไปตั้งนานแล้ว ไม่มีหน้าจะมีชีวิตอยู่อีกต่อไป เพราะมันเป็นความอัปยศอดสูและสิ้นเปลืองทรัพยากร”
เมื่อเห็นว่าหวังจงเหิงกับหวังจงเฉิงพูดเกินไปแล้ว กู้หยุนหลันโกรธจนตัวสั่น และไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไป
“พวกคุณไม่สามารถว่าหลี่โม่เช่นนี้ได้ ถึงแม้…ถึงแม้ว่าตอนนี้การงานของหลี่โม่จะธรรมดา แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเขาเป็นเศษสวะ ฉันก็ไม่ได้หวังว่าเขาจะมีอนาคตอันสดใส ขอแค่เขาดูแลบ้านให้ดีก็พอแล้ว”
หวังจงเหิงเหลือบมองกู้หยุนหลัน แล้วกล่าวด้วยเสียงเยือกเย็นว่า “หยุนหลัน คุณนึกว่าคุณเป็นผู้หญิงแกร่งหรือ คิดจะเลี้ยงดูเขา หรือว่าคุณคิดจะเลี้ยงดูไอ้เศษสวะไปทั้งชาติ ไม่รู้ว่าในสมองของคุณคิดอะไรอยู่?”
“เห็นคนเคยพูดไว้ว่าถ้าเจอความรักสติปัญญาก็จะหายไป คิดไม่ถึงว่าคุณกับไอ้เศษสวะจะเป็นรักแท้ คุณทำให้พวกเรารู้สึกตกใจ คนที่ดีพร้อมอย่างคุณ มีลูกคนรวยตั้งมากมายคุณไม่ถูกใจ ทำไมถึงไปรักเศษสวะได้!”
หวังจงเฉิงยังโจมตีกู้หยุนหลัน เป็นเพราะลูกหลานของตระกูลหวังไม่พอใจเป็นอย่างมาก ที่กู้หยุนหลันแต่งงานกับหลี่โม่
เดิมคนของตระกูลหวังคิดว่า กู้หยุนหลันที่สวยเพียบพร้อมจะต้องแต่งงานกับลูกคนรวย จะได้เป็นหน้าเป็นตาให้แก่ตระกูล
แต่สุดท้ายผลลัพธ์ที่ได้มันน่าตกใจ เพราะกู้หยุนหลันแต่งงานกับหลี่โม่ที่ไม่มีอะไรสักอย่าง แล้วคนอย่างหลี่โม่ยิ่งอยู่ก็ยิ่งไร้ประโยชน์มากขึ้นเรื่อย ๆ
เมื่อใดก็ตามที่คิดเรื่องนี้ ทำให้คนของตระกูลหวังรู้สึกว่าพวกเขาเหมือนพลาดเงินไปหนึ่งร้อยล้าน รู้สึกเสียใจที่ไม่ได้ทำให้พวกเขาเลิกกันในเวลานั้น ถ้าสามารถทำให้กู้หยุนหลันแต่งงานกับครอบครัวที่ร่ำรวยได้ ตอนนี้ตระกูลหวังก็คงเจริญรุ่งเรืองไปแล้ว
หวังจินซานฮึ่มประโยคหนึ่ง แล้วกล่าวอย่างไม่พอใจว่า “หยุนหลัน คุณพูดอย่างนี้ก็ไม่ถูก คุณให้ท้ายไอ้เศษสวะแบบนี้? การกระทำของเช่นนี้ของคุณ สร้างความอับอายให้กับตระกูลหวังของเรา!”
“ฉันคิดว่าหยุนหลันตกอยู่ในความหลงผิดแล้ว เสี่ยวฟางคุณทำเช่นนี้มันไม่ถูกต้อง คุณต้องคุยกับหยุนหลันดี ๆ อย่าปล่อยให้หยุนหลันกับไอ้เศษสวะเป็นเช่นนี้ต่อไป ทำให้พวกเขาหย่ากัน พวกเราจะหาคนที่ดีกว่าให้หยุนหลันเอง”
หวังฟางรู้สึกอึดอัด แต่ก็ยิ้มด้วยความขมขื่น ตอนนี้ในใจอยากจะตัดหัวหลี่โม่เสีย
“ค่ะ ฉันจะคุยกับหยุนหลันดี ๆ ลูกคนนี้มีนิสัยดื้อรั้น ฉันจะต้องคุยกับเธอให้ดี ๆอย่างแน่นอน”
หวังฟางระงับความโกรธและตอบตระกูลหวัง ตอนนี้เธอทำได้แค่เพียงก้มหน้ายอมรับความผิด รอหลังจากงานเลี้ยงวันเกิดสิ้นสุดลง แล้วกลับไปจัดการหลี่โม่