บทที่ 236 บอกให้เขาขอโทษ!
เมื่อเห็นคุณปู่หวังเดินมาด้วยความโมโห เสียงที่ดังก็เงียบสงบลงทันที ทุกคนมองไปที่หลี่โม่ด้วยสายตารู้สึกยินดีปรีดาในความโชคร้ายของคนอื่น จากนั้นพวกเขาก็เริ่มพูดกระซิบ
“สมัยนี้เวรกรรมมันตามทันเร็วเหมือนจรวด เมื่อสักครู่ทำร้ายหลานชายคนที่สองของตระกูลหวัง ตอนนี้กำลังจะถูกเอาคืนแล้ว”
“วันนี้เป็นงานวันเกิดครบรอบอายุ 70 ปีของคุณปูหวัง ตอนนี้เขาโกรธจนหน้าเขียวแล้ว เกรงว่าจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น”
“ตอนนี้มีเรื่องสนุกให้ดูแล้ว คนของตระกูลหวังอาจจะรุมทำร้ายไอ้หมอนั้น ดูสิคนของตระกูลหวังออกมากันหมดแล้ว ยังมีแขกผู้มีเกียรติมากมายเดินตามมา ล้วนเป็นบุคคลสำคัญทั้งนั้น”
ผู้คนจำนวนมากที่สอดรู้สอดเห็นรอดูเหตุการณ์ เมื่อหวังซูหยุนกับกู้หยุนหลันเห็นคุณปู่หวังเดินมา ก็รีบลุกขึ้นทันที
“คุณปู่ มาได้ยังไง คุณปู่นั่งก่อน อย่าโมโหเลยค่ะ”
หวังซูหยุนกล่าวอย่างประหม่า
“ซูหยุนมานี่! คุณจะมานั่งกับคนที่มีจิตใจโหดเหี้ยมและอกตัญญูเลี้ยงไม่เชื่องทำไม! ไม่เห็นหรือว่าคุณปู่ถูกทำให้โกรธขนาดนี้แล้ว”
หวังจินไห่ตะคอกใส่หวังซูหยุน แล้วก็ดึงตัวหวังซูหยุนมาอยู่ข้างกายตนเอง
“คุณตา คุณฟังฉันอธิบายก่อน เรื่องนี้คือ……”
กู้หยุนหลันอยากจะอธิบายแทนหลี่โม่ แต่คุณปู่หวังไม่ฟังคำพูดของกู้หยุนหลันเลย เขาจ้องมองไปที่หลี่โม่ด้วยด้วยความโกรธ คุณปู่หวังยกไม้เท้าหัวมังกรในมือ แล้วฟาดลงไปที่ตัวของหลี่โม
ปัง!
ได้ยินเสียงดังขึ้น ไม้เท้าหัวมังกรตีไปที่ไหล่ของหลี่โม่อย่างแรง
จนร่างกายของหลี่โม่ขยับเล็กน้อย แต่เขากัดฟันแน่น ไม่ส่งเสียงอะไรออกมา
“แกมันเลวยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน กล้าดียังไงมาตีหลานฉัน แกตีหลานฉันยังไง ฉันก็จะตีคืนไปสิบเท่า!”
“มาก่อเรื่องในงานวันเกิดของฉัน! ในสายตาแกยังมีฉันอยู่ไหม ในใจของแกยังจะมีกฎของตระกูลหวังอยู่หรือไม่! สั่งสอนแกไปไม่กี่คำก็เคียดแค้นแล้ว แกอยากทำให้ฉันตายใช่หรือเปล่า!”
“คนไร้ประโยชน์อย่างแก นอกจากเกาะผู้หญิงกินแล้วก็สร้างแต่ปัญหา ทำไมตระกูลหวังของฉันถึงได้มีขยะอย่างแก แกไม่คู่ควรเข้ามาตระกูลหวังของเรา!”
คุณปู่หวังคำรามอย่างรุนแรง และทุกครั้งที่คำรามเขาก็จะใช้ไม้เท้าหัวมังกรฟาดไปที่ตัวหลี่โม่อย่างแรง
ปัง ๆ ๆ !
มีเสียงฟากดังขึ้นหลายครั้ง หลี่โม่กัดฟันอดทน เวลานี้หลี่โม่ไม่สามารถอธิบายหรือขัดขืนได้ เพราะนี่คือคุณตาของกู้หยุนหลัน
ถ้าหากอธิบายข้อเท็จจริง หรือขัดขืน มันจะทำให้กู้หยุนหลันลำบากใจ หลี่โม่ยอมทนทั้งหมดนี้ก็เพื่อกู้หยุนหลัน
ผู้คนที่สอดรู้สอดเห็นดูด้วยความสะใจ ที่สามารถเห็นภาพรุนแรงเช่นนี้ในวันเกิดของคุณปู่หวัง ทุกคนรู้สึกว่ามันสนุกตื่นเต้นกว่าดูหนังบู๊เสียอีก
“แรงฟาดของคุณปู่หวังค่อนข้างแรง แต่ไอ้หมอนี่ช่างอดทน ไม่ส่งเสียงสักแอะ”
“หมาที่กัดคนมันจะไม่เห่า ฉันคิดว่าไอ้หมอนี่ใช่ว่าจะล่วงเกินได้ง่าย ๆ ไม่แน่บางทีอาจเก็บความเคียดแค้นอยู่ในใจ แล้วแก้แค้นคืนทวีคูณภายหลัง”
“ได้ยินว่าคนนี้เป็นหลานเขยของคุณปู่หวัง ตอนนี้ถือว่าได้นำไฟออกนอกบ้านแล้ว แต่การที่รังแกหลานเขยแบบนี้ รู้สึกว่ามันเกินไปหน่อยแล้ว”
เมื่อเห็นว่าหลี่โม่ถูกตี สีหน้าของหวังจงเหิงก็แสดงรอยยิ้มแห่งชัยชนะ เขาอดไม่ได้อยากจะเอาหัวเท้าไม้มังกรตีหลี่โม่อย่างแรงแทนคุณปู่หวัง
หวังฟางและกู้เจี้ยนหมินยืนอยู่ข้างหลังสุด พวกเขาก้มศีรษะลงพร้อมกัน พวกเขารู้สึกว่าทุกครั้งที่คุณปู่หวังตีหลี่โม่ มันเหมือนกับการตบหน้าพวกเขา ครั้งนี้พวกเขารู้สึกอับอายขายหน้าไปจนถึงครอบครัวคุณยายแล้ว
“พวกคุณเห็นไหมว่าตอนนี้ทำให้พ่อโกรธแล้ว พวกคุณจำไว้ให้ดีน่ะ ถึงจะมีลูกเขยเศษสวะมันก็ไม่เท่าไหร่ กลัวแต่มันยังทำเป็นปัญญาอ่อน ไม่รู้จักคิด ไม่มีสมอง”
หวังเหมยกล่าวอย่างโหดร้าย
คุณปู่หวังตีหลี่โม่ไปหลายครั้ง รู้สึกเหนื่อยหอบ แล้วกล่าวว่า “ไอ้คนไร้ประโยชน์ แกจงคุกเข่าขอโทษหลานคนที่สองของฉัน วันนี้ฉันจะสอนวิธี ว่าเป็นคนต้องมีความเคารพ ศีลธรรม ยุติธรรม และเกียรติยศให้กับแก! รีบคุกเข่าลง!”
หลี่โม่มองไปที่คุณปู่หวังด้วยสีหน้าราบเรียบ ไม่ได้แสดงเจตจำนงที่จะคุกเข่าแต่อย่างไร
จะตีจะด่ายังไงก็ได้ แต่ถ้าคุกเข่าให้หวังจงเหิง หลี่โม่ในฐานะเจ้านายของสำนักหลงเหมินจะไม่ทำเช่นนั้นเด็ดขาด
เมื่อคุณปู่หวังเห็นว่าหลี่โม่ไม่ขยับ จึงยกไม้เท้าหัวมังกรขึ้นมา
“แกฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องใช่ไหม! อยากจะให้ฉันตีหัวแกให้แตกใช่ไหม!”
คุณปู่หวังคำรามด้วยความโกรธ
กู้หยุนหลันทนไม่ได้อีกต่อไป เธอเดินไปขวางอยู่ข้างหน้าหลี่โม่ แล้วกล่าวว่า “คุณตา คุณตาเข้าใจหลี่โม่ผิด ตอนที่พี่รองดูถูกเหยียดหยามหลี่โม่ หลี่โม่ไม่ตอบโต้ แต่เป็นเพราะว่าพี่รองด่าฉัน หลี่โม่ถึงได้ลงมือทำร้ายเขา”
“รู้ว่าเรื่องนี้ยังไงก็เป็นความผิดของพวกเรา แต่พี่รองก็ผิดด้วย คุณปู่ควรจะแยกแยะผิดถูก พวกเราสามารถขอโทษได้ แต่ไม่จำเป็นต้องถึงกับคุกเข่าขอโทษ”
“แก! แกปกป้องไอ้เศษขยะ!”
คุณปู่หวังรู้สึกโกรธมาก คำรามอย่างดุเดือด “แกมันไม่ใช่หลานสาวของฉัน ไสหัวออกไป วันนี้ฉันจะตีไอ้เศษสวะคนนี้ให้ตายเลย!”
“คุณตา คุณทำแบบนี้ไม่ได้……..”
กู้หยุนหลันรู้สึกกระวนกระวายใจ
หวังจงเหิงก้าวไปข้างหน้าแล้วผลักกู้หยุนหลันออกไป แล้วพูดอย่างเหยียดหยามว่า “กู้หยุนหลัน คุณจะช่วยไอ้เศษสวะหลี่โม่เพื่อทำให้คุณปู่โกรธใช่ไหม พวกคุณอยากให้คุณปู่เป็นอะไรไปใช่ไหม!”
“จงเหิง คุณอยู่ข้าง ๆ คุณปู่ คอยดูว่าคุณปู่จะจัดการกับเศษขยะนี้ยังไง ความแค้นที่คุณถูกทำร้ายในวันนี้ ปู่ต้องเอาคืนให้อย่างแน่นอน!”
คุณปู่หวังมองไปที่หลี่โม่ด้วยความโกรธ ชี้ไปตรงพื้นที่อยู่ข้างหน้าของหวังจงเหิงแล้วกล่าวว่า “คุกเข่าลง! แล้วขอโทษจงเหิง!”
หลี่โม่สงบนิ่งไม่พูดอะไร
เมื่อหวังฟางเห็นว่าหลี่โม่ยังคงขัดขืน เธอโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ รีบเดินไปอยู่ตรงหน้าหลี่โม่ ดึงคอเสื้อของหลี่โม่ แล้วตะคอกว่า “หลี่โม่! ทำไมแกยังไม่คุกเข่าลง แกหูหนวก หรือสมองฝ่อ รีบคุกเข่าขอโทษซะ!”
หลี่โม่ยังคงก้มหน้าเงียบ ปล่อยให้หวังฟางคำรามต่อไป
หวังจินซานกล่าวด้วยเสียงเยือกเย็นว่า “ไอ้คนไร้ประโยชน์ยังมีนิสัยแข็งกร้าวอีก หยุนหลันของพวกคุณเลือกลูกเขยเช่นนี้ คืออยากจะทำให้ตระกูลหวังของพวกเราต้องโมโหตายใช่ไหม!”
“ไม่เพียงแค่จะทำให้เราโมโหจนตาย พวกคุณดูสายตามันสิ แสดงอย่างชัดเจนว่าต้องการจะฆ่าคนตระกูลหวังให้หมด กู้หยุนหลันคุณทำไมถึงได้เลือกคนไร้ประโยชน์ที่ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีเช่นนี้ได้ เป็นการหาเหาใส่หัวแท้ ๆ!”
หวังจินซานจ้องเขม็งไปที่กู้หยุนหลัน
หวังจงเหิงลูบแก้มที่บวมแดง แล้วพูดด้วยความเกลียดชัง แล้วกล่าวว่า “ต้องโทษกู้หยุนหลัน จะแต่งงานกับใครก็ไม่แต่ง ดันไปแต่งงานกับคนไร้ประโยชน์ที่เลวยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน ไม่รู้ว่าไอ้คนไร้ประโยชน์อยู่ในตระกูลกู้จะเป็นอย่างไร จะเป็นคนที่ไม่มีเหตุผลเช่นนี้หรือเปล่า?”
“เดิมคิดว่าหยุนหลันจะสามารถแต่งงานกับครอบครัวที่ดี และช่วยทำให้ตระกูลหวังเจริญรุ่งเรืองขึ้น แต่ใครจะไปรู้ว่าหยุนหลันดันเลือกแต่งงานกับคนเช่นนี้ ไม่เพียงแต่จะไม่สามารถช่วยให้ตระกูลหวังเจริญรุ่งเรือง แต่มาเพิ่มความวุ่นวายให้กับตระกูลหวังของพวกเราอีก”
หวังจงเฉิงและคนอื่น ๆต่างพูดขึ้นมา ตอนนี้ความผิดทั้งหมดถูกโยนไปที่ตัวกู้หยุนหลันแล้ว
ยิ่งได้ยินมากเท่าไหร่ใบหน้าของคุณปู่หวังก็ยิ่งดูแย่ลง เขาจึงใช้ไม้เท้าหัวมังกรยันตนเองไว้ แล้วตะคอกว่า “หยุนหลัน! คุณบอกให้ไอ้เศษสวะขอโทษเดี๋ยวนี้!”