บทที่ 239 ของขวัญวันเกิดสุดหรู
คำพูดของหวังจินไห่ ทำให้ทุกคนนึกถึงหลี่โม่และกู้หยุนหลันที่ถูกลืมไว้ที่มุมห้อง
หวังจงเหิงมองหลี่โม่ด้วยสายตาขุ่นเคือง และกล่าวเย้ยหยันว่า “ทำไมพวกคุณถึงไม่มีจิตสำนึก ไม่รู้จักมาอวยพรคุณปู่ด้วยตนเอง หรือเป็นเพราะว่าความเกลียดชังในใจได้กลายเป็นความแค้นที่ฝังลึกแล้ว”
กู้หยุนหลันรู้สึกสับสนวุ่นวายจนทำอะไรไม่ถูก ไม่ใช่ว่าไม่อยากอวยพรและมอบของขวัญ แต่ว่าไม่ได้เตรียมของขวัญมาจริง ๆ
ถึงแม้ว่าตอนแรกหลี่โม่บอกว่าได้เตรียมของขวัญไว้แล้ว แต่ว่ากู้หยุนหลันไม่เชื่อแม้แต่สักนิด
ตอนนี้คนของตระกูลหวังบอกให้ไปอวยพรวันเกิด กู้หยุนหลันไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี
เมื่อเห็นท่าทางงุ่มง่ามของกู้หยุนหลัน หวังจงเหิงก็หัวเราะ “ฮ่า ๆ ๆ พวกคุณสองคนไม่ได้เตรียมของขวัญมาใช่ไหม?”
กู้หยุนหลันก้มหน้าลงด้วยความลำบากใจ ไม่รู้จะตอบอย่างไร ริมฝีปากของเธอขยับสักครู่ ในที่สุดก็กัดฟันกล่าวว่า “ฉันลืมเอาของขวัญมา ต้องขอโทษจริง ๆ”
เมื่อได้ยินคำพูดของกู้หยุนหลัน ห้องโถงเงียบลงทันที สายตาของทุกคนมองไปที่กู้หยุนหลันกับหลี่โม่
หวังฟางกับกู้เจี้ยนหมินทั้งสองคนตกตะลึงทันที
วันสำคัญขนาดนี้ ของขวัญวันเกิดที่สำคัญขนาดนี้ มาพูดว่าลืมเตรียมมา!
พูดเช่นนี้ใครจะเชื่อ ต่อไปญาติและเพื่อนที่อยู่ที่นี่จะคิดอย่างไรกับครอบครัวตนเอง!
กู้เจี้ยนหมินคำรามอย่างบ้าคลั่งอยู่ในใจ
ในสมองของหวังฟางรู้สึกว่างเปล่า คิดอะไรไม่ออกสักอย่าง
“ฮ่า ๆ ๆ”
หวังจงเหิงหัวเราะเสียงดังขึ้นมา “พวกคุณมาเล่นตลกใช่ไหม วันเกิดครบรอบอายุ 70 ปีของคุณปู่แต่พวกคุณบอกว่าลืมนำของขวัญมา พูดแบบนี้ใครจะเชื่อ พวกคุณคิดว่าตระกูลหวังปัญญาอ่อนหรือยังไง!”
“ไอ้หลี่โม่คนไร้ประโยชน์ไม่ใส่ใจก็ช่างเถอะ หยุนหลัน คุณเป็นหลานสาวของคุณปู่ เมื่อก่อนคุณปู่รักและเอ็นดูคุณมากแค่ไหน แต่คุณกลับลืมของขวัญวันเกิดของคุณปู่ เป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง”
หวังจงเฉิงก็ราดน้ำมันบนกองไฟ
หวังจงเหิงอยากทำให้กู้หยุนหลันและหลี่โม่รู้สึกอับอาย ส่วนหวังจงเฉิงช่วยพ่อตนเองกวนน้ำให้ขุ่น จะไม่ปล่อยให้หวังจงเสวียนอวดเก่งต่อไป
ทั้งสองคนมีเป้าหมายที่แตกต่างกัน แต่ทั้งคู่หันทิศทางการโจมตีไปที่หลี่โม่กับกู้หยุนหลัน
โจวชุ่ยหัวหัวเราะ แล้วเหลือบไปมองกู้หยุนหลัน และกล่าวอย่างเหยียดหยามว่า “หยุนหลัน พวกเราเป็นหลานสาวของตาเหมือนกัน ในอดีตคุณตามีสิ่งดี ๆ ก็จะให้คุณก่อน คุณกินอิ่มและเล่นจนพอใจแล้ว ถึงจะตกถึงฉัน ตามหลักแล้วคุณควรจะมอบขวัญวันเกิดที่ดีกว่าของฉัน แต่ไม่คิดว่าคุณไม่ได้เตรียมของขวัญอะไรมาเลย”
“บางคนเป็นคนอกตัญญูที่เลี้ยงไม่เชื่อง เกรงว่าพวกเขาสองผัวเมียวางแผนไว้ตั้งแต่แรกแล้ว คงเตรียมตัวที่จะมาสร้างความวุ่นวายในงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ คนปกติไม่สามารถทำสิ่งที่ไร้ยางอายเช่นนี้ได้หรอก”
หานจื้อเต๋อกล่าวสนับสนุน
หวังเหมยกล่าวด้วยความโมโหว่า “คุณทำเกินไปแล้ว หยุนหลันคุณทำให้พวกเราผิดหวังจริง ๆ คุณรู้ไหมว่าคุณทำเช่นนี้จะทำให้คุณตาของคุณเสียใจมากแค่ไหน! นี่ไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์ทำ! ถ้ารู้อย่างนี้ตั้งแต่แรก ฉันก็จะไม่ขับรถไปรับครอบครัวของคุณมาด้วย!”
หวังจินไห่แอบดีใจ ที่ตนเองสามารถเปลี่ยนประเด็นได้ ทำให้ตอนนี้บ้านพี่ใหญ่ไม่สามารถอวดเก่งได้อีกต่อไป เพราะว่าตอนนี้ความสนใจทั้งหมดถูกดึงดูดไปอยู่ที่หลี่โม่กับกู้หยุนหลันแล้ว
ปัง!
หวังจินไห่ตบโต๊ะอย่างตื่นเต้นและตะคอกว่า “กู้หยุนหลัน หลี่โม่! พวกคุณจะทำอะไรกัน! เรื่องที่ก่อเรื่องเมื่อสักครู่ก็ช่างมันได้ แต่ตอนนี้ไม่มีแม้แต่ของขวัญวันเกิด พวกคุณยังเป็นคนอยู่หรือเปล่า? พวกคุณยากจนถึงขนาดไม่สามารถซื้อของขวัญอะไรได้เลยหรือ!”
“ถ้าพวกคุณไม่มีเงินซื้อของขวัญ พวกเราที่เป็นผู้อาวุโสสามารถช่วยเหลือพวกคุณได้? แต่พวกคุณดูสิสิ่งที่พวกคุณทำ มันเป็นการเหยียดหยามตระกูลหวัง!”
หวังจินซานขมวดคิ้วและกล่าว
หวังจงเสวียนมองดูด้วยความสับสน ไม่รู้ว่าเหตุการณ์มันเป็นมายังไง ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถพูดอะไรได้
คุณปู่หวังหน้าดำคร่ำเครียด รู้สึกโมโหจนอยากจะใช้ไม้เท้าตีหลี่โม่ให้ตาย
แต่ว่างานเลี้ยงวันเกิดได้เริ่มขึ้นแล้ว คุณปู่หวังก็ไม่อยากอารมณ์เสียต่อหน้าผู้คนมากมาย อีกอย่างถ้าทำให้เป็นเรื่องใหญ่ ดันแต่จะทำให้ตระกูลหวังเป็นตัวตลกเท่านั้น ดังนั้นคุณปู่หวังจึงคิดจะระงับเรื่องนี้ไว้ชั่วคราว แล้วค่อยจัดการทีหลัง
ขณะที่คุณปู่หวังกำลังจะพูดเพื่อให้เหตุการณ์สงบลง พ่อบ้านที่อยู่ข้างนอกได้วิ่งเข้ามา
“ขอแสดงความยินดีกับคุณปู่ ขอแสดงความยินดีกับคุณปู่”
มีรอยยิ้มที่ตื่นเต้นบนใบหน้าของพ่อบ้าน
คุณปู่หวังมองไปที่พ่อบ้านด้วยความฉงน คิดในใจว่าฉันมีเรื่องยินดีอะไร ถ้าไอ้เบื๊อกสองคนนี้มาทำให้งานเลี้ยงวันเกิดที่ยิ่งใหญ่ยุ่งเหยิง ถ้าเรื่องนี้แพร่กระจายออกไป จะต้องกลายเป็นเรื่องตลกที่พูดไปไกลถึงสามบ้านแปดบ้าน
พ่อบ้านรู้สึกตื่นเต้น และไม่ได้สังเกตว่าท่าทางผิดปกติของคุณปู่หวังและทุกคน เขาหยิบรายการของขวัญออกมา
“คุณปู่ มีแขกผู้มีเกียรติส่งของขวัญมาแสดงความยินดีให้คุณปู่ ฉันจะแจ้งรายการของขวัญให้ทราบ”
พ่อบ้านกระแอมเสียง แล้วก็กล่าวรายการด้วยเสียงที่ค่อนข้างดัง
“รูปปั้นเทพเซียนฝูลู่โซ่วซี้ทั้งสี่ 1 ชุด”
“ของประดับปะการังแดง 1 คู่”
“หยกเหอเถียนวี่หรูอี้ 1คู่”
“ของประดับหยกเขียวทอง 1 คู่……”
รายการของขวัญยาวเหยียด พ่อบ้านใช้เวลาอ่านเกือบสิบนาที เมื่อได้ยินพ่อบ้านแจ้งรายการของขวัญที่มีมูลค่าสูง ทำให้ทุกคนรู้สึกตกตะลึง
ต้องมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกัน และต้องเป็นคนที่ร่ำรวยมาก ถึงจะสามารถมอบของขวัญวันเกิดเช่นนี้ได้!
ของขวัญที่หลานชายกับหลานสาวและญาติใกล้ชิดคนอื่น ๆมอบให้คุณปู่หวัง ยังไม่ถึงหนึ่งเปอร์เซ็นต์ของของขวัญนี้เหล่านี้เลย
ผู้คนรู้สึกว่าภาพที่อยู่ตรงหน้านี้เป็นเหมือนละคร พวกเขารู้สึกราวกับว่ากำลังดูขุนนางใหญ่สมัยโบราณรับของขวัญในงานวันเกิด
หวังจินซาน หวังจินไห่และคนอื่น ๆ ต่างประหลาดใจจนอ้าปากค้าง คิดไม่ถึงว่าจะมีใครที่ใจกว้างส่งมอบของขวัญเช่นนี้ให้บ้านตนเอง
ถ้ารวมมูลค่าของขวัญในรายการทั้งหมดแล้ว อย่างน้อยก็หลายล้าน คนที่สามารถมอบของขวัญวันเกิดมูลค่าหลายล้านให้กับคุณปู่หวังได้ หวังจินซานคิดยังไงก็คิดไม่ออก
ใบหน้าของหวังจินไห่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ กวาดมองแขกในห้องโถง เขารู้สึกว่าเจ้าหน้าที่และแขกสำคัญที่มีความสัมพันธ์อันดีกับตระกูลหวังส่วนใหญ่จะมาอยู่ที่นี่แล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะใครส่งมอบของขวัญที่มีค่าเช่นนี้ได้
หวังจงเหิงและคนอื่น ๆ ตกใจจนอ้าปากค้าง พวกเขาต่างเดาว่าใครเป็นคนมอบของขวัญวันเกิดที่มีมูลค่ามากเช่นนี้
แขกในงานมองหน้ากันด้วยความประหลาดใจ และกระซิบถาม ทุกคนอยากรู้ว่าใครเป็นคนมอบของขวัญวันเกิดนี้
คุณปู่หวังตกใจอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็รู้สึกว่าเรื่องที่ทำให้ตนเองเสียหน้าเมื่อสักครู่ ตอนนี้ตนเองได้กู้หน้ากลับคืนมาแล้ว
ด้วยของขวัญล้ำค่ามากมายขนาดนี้ คุณปู่หวังรู้สึกว่างานเลี้ยงวันเกิดของเขาในวันนี้ เป็นงานเลี้ยงใหญ่อันดับต้น ๆ ของเมืองห้านเฉิง ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่นจัดงานวันเกิด เขาจะไม่ได้รับของขวัญวันเกิดล้ำค่ามากมายเช่นนี้แน่นอน
คุณปู่หวังยืนขึ้นด้วยความตื่นเต้น จ้องมองไปที่พ่อบ้านและถามว่า “ใครเป็นคนส่งของขวัญวันเกิดนี้มา แขกผู้มีเกียรติคนนั้นอยู่ที่ไหน ยังไม่รีบเชิญเขาเข้ามาข้างในอีก ฉันจะได้ขอบคุณแขกผู้มีเกียรติท่านนั้นได้”
พ่อบ้านโค้งคำนับแล้วกล่าว “คุณหลี่สั่งคนส่งมาให้ครับ”