บทที่ 241 ท่านเหวินมาแล้ว
หวังฟางกับกู้เจี้ยนหมินได้แต่ก้มหน้าและไม่กล้าพูดอะไรอีก
ทั้งสองรู้สึกอับอายขายหน้ามาก เพราะหลี่โม่คนเดียวที่ไม่เอาไหนจึงทำให้หวังฟางกับกู้เจี้ยนหมินไม่สามารถปฏิเสธคำพูดเหล่านี้ได้
หวางจงเสวียนยิ้มอย่างมีชัยและไม่ได้พูดอะไรต่อ จากนั้นเขาหันไปหยิบแก้วไวน์แล้วเริ่มสร้างบรรยากาศของงานเลี้ยงนี้
ภายใต้การนำของหวางจงเสวียนบรรยากาศของงานเลี้ยงก็เริ่มอบอุ่นขึ้น แขกและญาติๆ ทุกคนต่างก็สนุกสนานและมีหลายๆ คนเดินเข้าไปอวยพรคุณปู่หวาง
หลังจากดื่มไปสักพัก หวางจงเหิงกับหวางจงเฉิงก็เริ่มมึนเมา จากนั้นทั้งสองมองหน้ากันแล้วเดินเข้าไปหาหลี่โม่กับกู้หยุนหลัน
เมื่อแอลกอฮอล์ขึ้นสมองบวกกับบรรยากาศที่ครึกครื้น ทั้งสองก็เกิดความคิดที่แย่ๆ ขึ้นมา
หวางจงเหิงหยิบแก้วเหล้าและขวดเหล้าขึ้นแล้วเดินโซเซไปหาหลี่โม่ จากนั้นหวางจงเฉิงก็รีบเดินตามมาด้วยรอยยิ้มอันเย้ยหยัน
“ไอ้คนไร้ค่า มารยาทนายแย่จริงๆ เลยนะ เป็นน้องเขยของพวกเราไม่รู้จักขอชนแก้วกับพี่ๆ เลยเหรอ? นายต้องให้พี่ๆ มาขอชนแก้วถึงที่เลยใช่ไหม”
“หยุนหลัน สามีเธอไม่รู้จักเคารพคนอื่นจริงๆ เลยนะ ก่อเรื่องมากมายแบบนี้คงต้องทำโทษกันหน่อยแล้วล่ะ เอาเหล้าให้มันดื่มหมดสามขวดสิ๊”
หลี่โม่มองดูทั้งสองที่มึนเมาและไม่อยากจะสนใจพวกเขามากนัก
แต่เมื่อเห็นทีท่าของหลี่โม่ไม่อยากคุยด้วย หวางจงเหิงกับหวางจงเฉิงก็หัวร้อนขึ้นมาทันที
“บ้าจริง อุตส่าห์ให้เกียรติกันแล้วยังทำหน้าเมินใส่พวกเราอีก นายหาเรื่องใช่ไหม ดื่มให้หมดเลยนะ ไม่งั้นคืนนี้นายไม่ต้องไปไหนแล้วล่ะ”
หวางจงเหิงยื่นขวดเหล้าในมือให้กับหลี่โม่แล้วมองเขาด้วยสายตาดุร้ายและยืนกรานว่าจะให้หลี่โม่ดื่มหมดขวดให้ได้
หวางจงเฉิงตบหลังศีรษะของหลี่โม่แล้วพูดอย่างไม่พอใจ “ยังไม่รีบดื่มอีก จะให้พวกเรารออีกนานไหม นายคิดว่านายเป็นใครกันแน่ ไอ้คนกระจอก”
“ผมดื่มไม่ได้”
หลี่โม่พูดอย่างเย็นชา
“ฮ่า ๆ ๆ บ้าเอ๊ย นายมันผู้ชายหรือเปล่าวะ ไม่ดื่มเหล้าจริงเหรอ มันจะตลกเกินไปแล้ว ไม่เป็นไรเดี๋ยวพวกพี่สอนนายดื่มเอง อ้าปากแล้วกรอกเหล้าใส่ปากแค่นี้”
หวางจงเฉิงยื่นมือออกไปเพื่อจะจับคางของหลี่โม่และจะเปิดปากของเขา แต่หลี่โม่กลับหันหนีมือของหวางจงเฉิงไป
ป๊าง!
หวางจงเฉิงทุบโต๊ะแรงๆ แล้วตะโกนพูด “ไอ้ขยะ นายอยากเจ็บตัวใช่ไหม! อุตส่าห์จะสอนนายดื่มแล้วยังกล้าหันหน้าหนีอีก อ้าปากดีๆ แล้วดื่มเข้าไปซะ!”
กู้หยุนหลันทนไม่ไหวอีกต่อไปและขมวดคิ้วพูด “พวกพี่พอกันหรือยัง จะกลั่นแกล้งหลี่โม่ไปถึงไหนกัน!”
“กลั่นแกล้งตรงไหน เราแค่จะทำโทษมันเท่านั้น ยัยหยุนหลัน เธอจะปกป้องคนกระจอกแบบนี้ทำไม มันมีดีตรงไหน หรือว่ามันเก่งเรื่องบนเตียงถึงได้มัดใจเธอได้ขนาดนี้!”
“ไอ้คนกระจอกแบบนี้จะเก่งเรื่องบนเตียงได้ไง ดูก็รู้ว่าเป็นพวกอ่อน พี่ว่าเธอคงมีงานอดิเรกอื่นๆ มากกว่านะหยุนหลัน อย่างเช่นหาสามีกระจอกๆ แล้วแอบมีชู้กับคนอื่นเพื่อความสะใจประมาณนี้”
คำพูดของหวางจงเหิงกับหวางจงเฉิงแย่ลงเรื่อย ๆ ดวงตาที่โกรธเกรี้ยวของกู้หยุนหลันกลายเป็นสีแดงและจ้องไปที่พวกเขาอย่างโกรธแค้น
หัวใจของหลี่โม่ลุกเป็นไฟ เขามองไปที่ทั้งสองด้วยสายตาเย็นชา สองมือของเขากำหมัดแน่นๆ และพร้อมที่จะให้บทเรียนกับเขาทั้งสอง
เมื่อหวางจงเหิงเห็นสีหน้าของหลี่โม่ก็รู้สึกกังวลเล็กน้อย แต่เขาก็ยังฝืนพูดออกมา “ไอ้กระจอก อย่ามองพี่ด้วยสายตาแบบนี้ นายคิดว่านายสามารถฆ่าคนด้วยสายตางั้นเหรอ!”
“พี่แนะนำให้นายทำตัวดีๆ หน่อยนะ ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่นายจะทำตัวอันธพาลได้ สั่งให้นายดื่มก็ดื่มซะโดยดี หาดิ้นหาเรื่องเข้าใจไหม”
หวางจงเฉิงพูดข่มขู่
หลี่โม่หมดความอดทนอีกต่อไป แต่ก่อนที่เขาจะลงมือสั่งสอนทั้งสองคนนี้ก็มีสาวใช้ที่บ้านวิ่งเข้ามาอย่างเร่งรีบ
“คุณท่านคะ ท่านเหวินมาค่ะ! อู๋เต้าเหวินเจ้าของกวนเหลินกังมาที่นี่ค่ะ ท่านเหวินยังนำต้นไม้มงคลมาเพื่อแสดงความยินดีให้กับคุณท่านในวันเกิดด้วยค่ะ”
บรรยากาศที่ครึกครื้นก็เงียบลงทันที!
แต่หลังจากเงียบไปสามวิเสียงก็ดังขึ้นอีกครั้งเหมือนถูกกดปุ่มหยุดชั่วคราว
แขกทุกคนต่างตกตะลึงกับการมาถึงของอู๋เต้าเหวิน และพวกเขาก็เริ่มพูดคุยกันอย่างตื่นเต้น
“อู๋เต้าเหวินเป็นถึงเจ้าของธุรกิจร้านอาหารที่โด่งดังที่สุดในเมืองฮ่านเชียวนะ เขาสุดยอดมากจริงๆ”
“ได้ข่าวว่าท่านเหวินไม่เพียงแต่ธุรกิจจะใหญ่โต เขายังเป็นผู้กว้างขวางและยังมีฉายาว่าเป็นหนึ่งในสี่ของราชาใต้ดินของเมืองฮ่านด้วยนะ”
“พวกคนชนชั้นสูงและเหล่าเศรษฐีมักจะไปจัดงานเลี้ยงที่กวนเหลินกัง ก็เพราะท่านเหวินเป็นเจ้าของที่นั่น และหลายๆ คนยังคุยธุรกิจได้สำเร็จก็เพราะพึ่งพาบารมีของท่านเหวินด้วย”
“ครั้งนี้ตระกูลหวางได้รับเกียรติมากเลยนะ ก่อนหน้านี้มีคุณหลี่ผู้ลึกลับมอบของขวัญวันเกิดสุดพิเศษให้ แล้วตอนนี้ยังมีผู้สูงส่งอย่างท่านเหวินมาถึงที่ด้วย งานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่หวางครั้งนี้คงเป็นงานเลี้ยงที่เซอร์ไพรซ์ที่สุดเท่าที่เคยเจอเลยสินะ”
แขกผู้มาเยือนต่างก็ประหลาดใจ และทุกคนในบ้านตระกูลหวังต่างก็ประหลาดใจเช่นกัน ที่ผ่านมาตระกูลหวังไม่ได้มีความสัมพันธ์ใดๆ กับอู๋เต้าเหวินเลย ไม่คิดเลยว่าอู๋เต้าเหวินจะร่วมฉลองวันเกิดในวันนี้
“แล้วใครเชิญคุณอู๋เต้าเหวินมาเหรอ?”
คุณปู่หวางมองไปที่หวางจินซานลูกชายคนโตของเขาแล้วถาม
เป็นไปไม่ได้ว่าคนระดับอย่างอู๋เต้าเหวินจะมาถึงที่โดยที่ไม่ได้รับเชิญ ซึ่งคุณปู่หวางเข้าใจสถานะของเขาเป็นอย่างดี เขารู้ตัวว่าเขาไม่คู่ควรกับการที่อู๋เต้าเหวินจะให้เกียรติมาถึงที่ได้
แต่อู๋เต้าเหวินมาแล้ว คุณปู่หวางยังสงสัยว่าเป็นการเซอร์ไพรซ์ของลูกชายคนโตหรือไหม เช่นเดียวกับของขวัญที่เซอร์ไพรซ์จากหวางจงเสวียนก่อนหน้านี้
หวางจินซานและคนอื่นๆ ได้แต่ส่ายหัว จากนั้นสายตาของคุณปู่หวางมองไปที่หวางจงเสวียนและถามว่า “จงเสวียน เป็นการเซอร์ไพรซ์ของนายเหรอ”
“เปล่าครับ ผมไม่ได้เชิญคุณท่านเหวินมานะครับ เป็นไปไม่ได้หรอกครับ เพราะผมกับแกอยู่คนละระดับกันเลยนะครับ”
หวางจงเสวียนยิ้มพูดอย่างขมขื่น
คุณปู่หวางคิดไม่ออก และเขาทำได้เพียงลุกขึ้นแล้วเดินออกไปต้อนรับอย่างเร่งรีบ ในเมื่อแขกสำคัญให้เกียรติมาถึงที่เขาก็ต้องมีท่าทีที่จริงใจ นอกจากนี้เขายังใช้โอกาสนี้เพื่อผูกมิตรกับอู๋เต้าเหวินได้ด้วย ซึ่งทุกอย่างนี้ก็ล้วนเป็นผลดีต่อครอบครัวตระกูลหวังทั้งนั้น
หวางจินซาน หวางจินไห่และหวางจงเสวียนต่างก็ออกไปต้อนรับการมาเยือนของอู๋เต้าเหวิน
แต่ทุกคนในตระกูลหวังยังเดินไม่ถึงไหน อู๋เต้าเหวินก็เดินเข้ามาในงานแล้วรีบกล่าวทักทายอย่างร่าเริง “สุขสันต์วันคล้ายวันเกิดนะครับคุณปู่หวาง ขอให้ท่านอายุมั่นขวัญยืน ขอให้มีสุขภาพที่แข็งแรงนะครับ”
“ขอบพระคุณมากครับท่านเหวิน ขอบคุณที่ให้เกียรติมาถึงที่ด้วยนะครับ เชิญท่านนั่งตรงกลางเลยนะครับ”
คุณปู่หวางกล่าวต้อนรับอย่างกระตือรือร้น
แต่อู๋เต้าเหวินกลับยืนอยู่กับที่แล้วมองไปรอบๆ
คุณปู่หวางถามอย่างลำบากใจ “ท่านเหวินครับ ไม่ทราบว่าท่านรู้วันเกิดของผมได้ยังไงครับ?”