บทที่ 254 บุก
เมื่อกู้หยุนหลันเห็นว่ากู้เจี้ยนกั๋วและคนอื่น ๆได้เดินจากไปแล้ว เธอจูงมือและมองหลี่โม่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรัก
“คุณสามารถแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้จริงหรือ?”
“ได้แน่นอน” หลี่โม่กล่าวด้วยรอยยิ้ม
“งั้นคุณต้องระวังตัวให้ดี ตอนนี้บริษัทเป็นแบบนี้ พวกลุงใหญ่ก็ไปกันหมดแล้ว ฉันจะจัดการปัญหาที่จะเกิดขึ้นในภายหลัง อย่างน้อยที่สุดเพื่อให้บริษัทสามารถกลับมาดำเนินกิจการได้ตามปกติ”
กู้หยุนหลันยังคงกังวลเกี่ยวกับธุรกิจของบริษัท หากเวลานี้กู้หยุนหลันปล่อยไปไม่สนใจ ธุรกิจของบริษัทก็จะต้องหยุดชะงักลง ซึ่งจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อธุรกิจของบริษัทเป็นอย่างมาก
กู้หยุนหลันได้ทุ่มเทกำลังกายกำลังสมองเป็นอย่างมาก ในการนำพาให้บริษัทพ้นจากภาวะล้มละลายจนที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน มันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่เธอไม่ต้องการให้ความทุ่มเทกำลังกายกำลังสมองของตนเองต้องสูญเปล่า หลี่โม่พยักหน้าเบา ๆ “งั้นผมไปก่อน บริษัทค่อย ๆทำความสะอาดไป”
“โอเค ฉันเข้าใจแล้ว ฉันจะรอคุณกลับมา”
กู้หยุนหลันผลักหลี่โม่เบา ๆ จากนั้นหลี่โม่หันหลังแล้วเดินออกไป
เมื่อเห็นหลี่โม่เดินออกไป กู้หยุนหลันพนมมือ แล้วกล่าวคำอธิษฐานต่อเทพเจ้าบนท้องฟ้าอย่างเงียบ ๆ อธิษฐานต่อเทพเจ้าและอวยพรให้หลี่โม่ปลอดภัย
การไปคราวนี้ กู้หยุนหลันไม่รู้ว่าหลี่โม่จะต้องทนทุกข์แค่ไหน แต่กู้หยุนหลันรู้ดีว่าที่หลี่โม่ไปคราวนี้ ก็เพื่อตนเองดังนั้นจะได้ยอมแพ้ยืนหยัดต่อไป
กู้หยุนหลันเช็ดน้ำตา จากนั้นก็จัดเจ้าหน้าที่มาทำความสะอาด แล้วเธอก็ออกไปซื้อคืนเครื่องใช้สำนักงานที่เสียหายต่าง ๆ
หลังจากที่หลี่โม่เดินออกไปจากบริษัท ก็หยิบโทรศัพท์มือถือโทรหาเฉียนฝู
“นายน้อย ทางผมได้เริ่มการเตรียมการแล้ว ราชินีของสำนักหลงเหมินเธอ…….”
เฉียนฝูกำลังจะพูดรายงานเรื่องราชินีของสำนักหลงเหมิน แต่ว่าถูกหลี่โม่ขัดจังหวะเสียก่อน “ตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดของตระกูลซูที่เมืองเอก และตรวจสอบว่าตอนนี้ซูเหวินปินอยู่ที่ไหน”
เมื่อได้ยินเสียงที่เยือกเย็นของหลี่โม่ หัวใจของเฉียนฝูก็เต้นเร็วด้วยความตื่นเต้น
“โปรดรอสักครู ผมจะรีบตรวจสอบข้อมูลทันที”
เฉียนฝูสั่งกับผู้ช่วยที่อยู่ข้าง ๆ จากนั้นผู้ช่วยก็ถือคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คแล้วยืนอยู่ข้างๆเฉียนฝู
“นายน้อย ตระกูลซูมีอำนาจไม่น้อย ธุรกิจส่วนใหญ่เป็นธุรกิจมืด และธุรกิจส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในอุตสาหกรรมบันเทิง เป็นเจ้าของบริษัทผลิตรายการโทรทัศน์ที่เข้าตลาดหลักทรัพย์ และตอนนี้ผู้นำตระกูลคือซูเม่าเหวิน……”
เฉียนฝูรายงานข้อมูลของตระกูลซูอย่างละเอียด หลี่โม่ฟังอย่างเงียบ ๆ
หลังจากที่เฉียนฝูรายงานจบ และรู้ตำแหน่งที่อยู่ปัจจุบันของซูเหวินปิน
“นายน้อย ตอนนี้ซูเหวินปินอยู่ที่คลับเฮาส์หลงถิงห้องจินหลงที่เมืองเอก คุณต้องการให้ผมส่งคนไปจับเขาหรือไม่”
“ไม่ต้อง ผมจะไปจัดการเขาด้วยตนเอง”
หลังจากที่หลี่โม่วางสาย ก็โบกรถแท็กซี่ข้างทางมุ่งหน้าไปเมืองเอก
กล้าลงมือกับกู้หยุนหลัน เป็นเรื่องที่หลี่โม่ไม่สามารถทนได้ ความแค้นนี้จะต้องชำระทันที
รถแท็กซี่แล่นไปด้วยความเร็วตลอดทาง และสองชั่วโมงต่อมาหลี่โม่ก็มาถึงประตูคลับเฮาส์หลงถิงแล้ว
ประตูคลับเฮาส์หลงถิง ที่สวยงามหรูหรา มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหน้าตาดุร้ายยืนอยู่สองแถว
ในมือของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยถือไม้ตะบองที่ทำมาจากยางไว้ ท่าทางราวกับว่าพวกเขากำลังเผชิญหน้ากับศัตรู
หลี่โม่ลงจากรถแล้วเดินมุ่งหน้าเข้าไปที่คลับเฮาส์หลงถิง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ยืนอยู่สองแถวมองหลี่โม่ หากเป็นคนอื่นอาจจะตกใจกลัวจนหันหลังถอยหนีไปแล้ว แต่หลี่โม่กลับเพิกเฉยต่อสายตาของพวกเขา
เมื่อเห็นว่าหลี่โม่เดินตรงเข้ามา เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนหนึ่งได้ก้าวเดินมา โบกมือให้หลี่โม่
“หยุดก่อน วันนี้คลับเฮาส์หลงถิงถูกแขกเหมาสถานที่ ตอนนี้ไม่อนุญาตให้บุคคลอื่นเข้า”
“ถ้าผมจะเข้าไปให้ได้ล่ะ?”
หลี่โม่กล่าวด้วยเสียงราบเรียบ
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ยืนอยู่ทั้งสองแถวหัวเราะขึ้นมา ทุกคนรู้ว่าหลี่โม่มาหาเรื่อง แต่ว่าหลี่โม่คนเดียวกล้าไม่สนใจมองข้ามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมากกว่าสิบคนหรือ เป็นเรื่องที่น่าตลกสิ้นดี
“แกหูหนวกหรือ หรือว่าสมองมีปัญหา ไม่เข้าใจที่กูพูดใช่ไหม!”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนที่เดินมาหาหลี่โม่แสดงรอยยิ้มเย้ยหยัน สะบัดไม้ตะบองในมือ เพื่อจะขับไล่หลี่โม่
หลี่โม่ยิ้มเยือกเย็น ยื่นมือไปจับมือของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่จับไม้ตะบองอยู่ จากนั้นก็ออกแรงบิด ทำให้ข้อมือของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหัก
“โอ๊ย!”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยร้องเหมือนหมูที่โดนเฉียด หลี่โม่จึงปล่อยมือออก และถอยห่างออกไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเห็นว่าสถานการณ์ไม่ดี ทุกคนก้าวไปล้อมหลี่โม่ไว้
“เหี้ย กล้ามาหาเรื่องที่คลับเฮาส์หลงถิง แม่งแกอยากตายใช่ไหม! ไม่มองเลยว่าสถานที่นี่ใครเป็นคนคุม!”
“เจ้านายที่อยู่เบื้องหลังคลับเฮาส์หลงถิงของพวกเราคือตระกูลซู! แกกล้ามาหยิ่งผยองในเขตอิทธิพลของตระกูลซู แกอยากตายทั้งครอบครัวใช่ไหม!”
“รีบเอามือประสานไว้ที่ท้ายทอยแล้วคุกเข่าลง มิเช่นนั้นพวกเราจะไม่เกรงใจแก!”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสิบกว่าคนตะคอก ไม้ตะบองในมือชี้ไปที่หลี่โม่ เตรียมตัวไว้ถ้าคุยกันไม่เข้าใจก็จะทำร้ายหลี่โม่
หลี่โม่มองไปที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ล้อมรอบเขาไว้ด้วยความเหยียดหยาม “ถ้าไม่อยากตาย ก็หลีกไป”
“เหี้ย! แม่งกล้าหยิ่งผยอง! ลุย ตีมันให้ตาย!”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยลงมือพร้อมกัน แขนทั้งสองข้างของหลี่โม่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ทำให้ปรากฏภาพซ้อนออกมานับไม่ถ้วนอยู่ในอากาศ ดูราวกับว่าหลี่โม่มีแขนนับไม่ถ้วน
ได้ยินเสียงของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยร้องด้วยความเจ็บปวด และไม้ตะบองยางในมือก็ตกลงไปที่พื้น ไม้ตะบองยางของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตีไม่ถูกหลี่โม่สักคน ในสายตาของพวกเขาหลี่โม่เหมือนวิญญาณ เพราะพวกเขาไม่สามารถมองตำแหน่งที่เฉพาะเจาะจงของหลี่โม่ได้
หลี่โม่หักมือทั้งสองข้างของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งหมด ถึงได้หยุดลง จากนั้นใช้สายตาเย็นชามองไปที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ร้องด้วยความเจ็บปวด
“ไสหัวไป”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งหมดแตกตื่นหนีไปด้วยความกลัว ตอนนี้ข้อมือของทุกคนหัก ไม่ความสามารถแม้แต่จะโทรออกได้ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทุกคนที่หนีไปมีเพียงความคิดเดียวในใจ นั่นคือต้องรีบไปโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด
หลี่โม่เดินเข้าไปในคลับเฮาส์หลงถิง พนักงานยืนต้อนรับแขกที่อยู่ตรงประตูทางเข้าคลับเฮาส์ มองหลี่โม่ด้วยใบหน้าขาวซีดเผือด
หัวหน้าคนงานคนหนึ่งถือวิทยุสื่อสารอยู่ในมือ นั่งตัวสั่นอยู่ที่มุมในเคาน์เตอร์ และกระซิบว่า “มีคนบุกเข้ามา มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไม่สามารถขวางเขาได้”
หลี่โม่มองไปที่หัวหน้าคนงาน หัวหน้าคนงานตัวสั่นด้วยความกลัว แล้วเครื่องวิทยุสื่อสารในมือของเขาก็ถูกโยนออกไป
“พี่ใหญ่ ผม ผม ผมเป็นแค่……”
ยังไม่ทันที่หัวหน้าคนงานจะพูดจบ หลี่โม่ก็เดินไปถึงที่ทางเดินของคลับเฮาส์แล้ว
คลับเฮาส์ที่ปกติคึกคักทุกวัน แต่วันนี้เงียบสงบเพราะซูเหวินปิน เพราะวันนี้คลับเฮาส์หลงถิงที่ใหญ่โตมีเพียงซูเหวินปิน และคนของเขาเท่านั้น
เดิมทีซูเหวินปินกำลังรอการมาถึงของเหล่าไป๋ แต่ถึงรอนานเท่าไหร่เหล่าไป๋ก็ไม่มีวันมาได้
มีบอดี้การ์ดคนหนึ่งเดินไปด้านข้างซูเหวินปินอย่างรวดเร็วและกล่าวว่า “ท่านซู มีคนบุกเข้ามา เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไม่สามารถขวางเขาไว้ได้”
“อึ่ม? ใครที่ใจกล้าเช่นนี้”
ซูเหวินปินกล่าวด้วยเสียงเยือกเย็น
บอดี้การ์ดเปิดจอมมอนิเตอร์ในคลับเฮาส์ ไม่ช้าก็มีภาพปรากฏอยู่ในจอมอนิเตอร์จากกล้องวงจรปิด
ร่างของหลี่โม่ปรากฏอยู่บนจอมมอนิเตอร์ของกล้องวงจรปิด ซูเหวินปินเบิกตากว้าง
“เหี้ย! มันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง!”
ความคิดแรกที่เกิดขึ้นในใจของซูเหวินปิน คือเหล่าไป๋ล้มเหลว แต่เมื่อนึกถึงฝีมือของเหล่าไป๋ ซูเหวินปินก็ปฏิเสธความคิดนั้น
แต่ถ้าเหล่าไป๋ไม่ล้มเหลว ทำไมหลี่โม่จึงมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ได้?
หรือว่าเหล่าไป๋หักหลังตนเอง?
ซูเหวินปินคิดเป็นพัน ๆ ครั้ง และในที่สุดซูเหวินปินก็กล่าวด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึมว่า “บอดี้การ์ดลงมือ! ฆ่ามันให้ตาย!”