จักรพรรดิมังกร – ตอนที่ 258 ตระกูลซู

บทที่ 258 ตระกูลซู

“แกมีภรรยา แกมีลูกสาว เพียงแค่ฉันพูดคำเดียว มีคนสามารถไปฆ่าพวกเขาได้ตลอดเวลา! ตระกูลซูของเรามีอำนาจและรากฐานที่มั่นคงทั่วทั้งเมืองเอก!”

“วันนี้แค่แกแตะฉันแม้แต่ปลายเล็บ ก็จะมีคนไปจัดการครอบครัวของแก ไม่ว่าจะเป็นคนที่ความสัมพันธ์ที่ดีหรือไม่ดีกับแก ใครก็ตามที่มีความสัมพันธ์กับแกจะต้องตาย!”

“ในอดีตเคยมีคดีฆ่าล้างสิบตระกูล แม่ง ฆ่าล้างสิบตระกูลกูก็ทำได้เช่นกัน! ตอนนี้ไม่ใช่ยุคแห่งความกล้าหาญและชอบการต่อสู้ แค่แกกล้าต่อกรกับฉัน ฉันจะทำให้ครอบครัวของแกตายจนหมดไม่เหลือสักคน!”

ซูเหวินปินคำรามอย่างบ้าคลั่ง ราวกับสิงโตที่กำลังบ้าคลั่ง พยายามใช้คำพูดที่ปลุกปั่น เพื่อทำให้หลี่โม่กลัว ให้หลี่โม่ล่าถอยไป

หลี่โม่ฟังอย่างเงียบ ๆ รอจนกระทั่งซูเหวินปินพูดจบ ถึงมีรอยยิ้มเย้ยหยันปรากฏบนใบหน้า

“ช่างไร้เดียงสาจริง ๆ ไอคิวของคุณน่ากังวลจริง ๆ”

ซูเหวินปินตะลึงไปชั่วขณะ จากนั้นมองไปที่หลี่โม่อย่างเหยียดหยาม ซูเหวินปินรู้สึกว่านี่เป็นสัญญาณที่หลี่โม่จะล่าถอย ตนเองข่มขู่จนหลี่โม่เริ่มกลัว ขอแค่ข่มขู่ให้หนักขึ้นไปอีกนิด ก็จะทำให้หลี่โม่ตกใจกลัวจนล่าถอยไปเอง!

“คนที่ไร้เดียงสาคือแก! แม่ง แกมันเป็นแค่ลูกเขยเศษสวะของตระกูลกู้ ยังจะกล้ามาต่อกรกับฉัน! หากตระกูลกู้รู้ว่าแกได้ล่วงเกินตระกูลซู จะต้องจับแกมาขอโทษที่ตระกูลซูของฉันแน่นอน!”

“ทางที่ดีแกลองใช้สมองคิด หากล่วงเกินตระกูลซูแล้วจะมีจุดจบยังไง! ถ้าแกคุกเข่าขอร้องฉันตอนนี้ ฉันอาจจะให้โอกาสแกมีชีวิตอยู่รอด และก็จะไม่จัดการลูกเมียแก”

ขณะที่ซูเหวินปินกำลังพูด หลี่โม่หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา

“ตระกูลซู ฮ่า ๆ ฉันสามารถกำจัดตระกูลซูให้มลายหายไปกลายเป็นผงขี้เถ้าได้”

หลังจากที่หลี่โม่พูดจบเขาก็กดปุ่มโทรออก เพื่อโทรหาเฉียนฝู

เฉียนฝูกำลังนั่งอยู่ ในขณะนี้สายตาของเขาจับจ้องไปที่โทรศัพท์ในมือ กำลังรอสายอยู่ เหมือนราวกับนักรบในสนามรบที่รอสู้รบอย่างเต็มที่

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เฉียนฝูรู้สึกกระวนกระวายใจ รีบกดปุ่มรับสายอย่างรวดเร็ว

“นายน้อย ทุกอย่างได้เตรียมพร้อมหมดแล้ว รอแต่คำสั่งนายน้อย”

“ลงมือได้”

หลี่โม่กล่าวเบา ๆ

“ได้ครับ ตระกูลซูจะต้องทนทุกข์เร็ว ๆ นี้!”

หลังจากที่หลี่โม่วางสาย ยิ้มและมองไปที่ซูเหวินปิน “สักครู่ ตระกูลซูจะถูกกำจัดมลายหายไปกลายเป็นผงขี้เถ้า”

ซูเหวินปินรอหลี่โม่ด้วยความรำคาญ เขารู้สึกว่าหลี่โม่กำลังเสแสร้ง

เป็นแค่ลูกเขยแต่งเข้าของตระกูลระดับสามของเมืองฮ่าน กล้าพูดจาโอหังว่าจะกำจัดตระกูลซูให้มลายหายไปกลายเป็นผงขี้เถ้า ช่างเป็นเรื่องตลกสิ้นดี

“โอ้อวดทำให้ตายได้น่ะ? แกคิดว่าฉันจะเชื่อที่แกโอ้อวดหรือ ถ้าเทียบกับแกตระกูลซูเป็นสิ่งที่ใหญ่ ตระกูลกู้สิบครอบครัวยังเทียบไม่ได้กับขี้เล็บของตระกูลซู ไม่รู้ว่าแกเอาความมั่นใจมาจากไหน”

“เจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ของไนต์คลับ KTV และบาร์ในเมืองเอกทั้งหมดเป็นของตระกูลซู ยังไม่นับสาขาในเมืองอื่น ๆ รวมทั้งดาราหญิงที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ครึ่งหนึ่งเป็นศิลปินภายใต้สังกัดของบริษัทตระกูลซู”

“ยังมีอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่กระจัดกระจาย เช่นอสังหาริมทรัพย์ การเงินการร่วมทุน ฯลฯ มันมีขนาดที่คุณไม่สามารถจินตนาการได้ แกคิดว่าตนเองจะสามารถกำจัดตระกูลซูให้มลายหายไปกลายเป็นผงขี้เถ้าได้หรือ? แม่ง สมองแกมีปัญหาหรือไง!”

ซูเหวินปินยิ่งพูดยิ่งได้ใจ รู้สึกว่าตระกูลซูเป็นตระกูลใหญ่ ที่จะสามารถทำให้หลี่โม่คุกเข่าให้ตนเองได้

หลี่โม่ยิ้มโดยไม่พูดอะไรสักคำ เขายกมือขึ้นและตบไปที่หน้าของซูเหวินปิน

“คนที่สมองมีปัญหาคือแกต่างหาก ตอนนี้แกเป็นนักโทษ ไม่ใช่ลูกท่านหลานเธอของตระกูลซู”

ซูเหวินปินนั่งจับหน้าขณะอยู่บนโซฟา มองไปที่หลี่โม่ด้วยสายตาโกรธแค้น ทันใดนั้นก็ระเบิดหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง

“ฮ่า ๆ ๆ แกกล้าตบฉัน แม่ง ตอนนี้แกตบฉันหนึ่งที ฉันจะตบคืนสิบเท่าร้อยเท่าในภายหลัง!”

“รอให้แกทำได้แล้วค่อยมาพูด”

เมื่อหลี่โม่พูดจบ เขาก็ใช้มือตบไปที่หน้าของซูเหวินปินอย่างแรง

ตบซ้าย ตบขวา ตบจนกระทั่งหน้าของซูเหวินปินบวมเหมือนหัวหมู เหมือนมีเสียงพึมพำอยู่ในสมอง ตอนนี้เขามีสภาพที่แย่มาก

“แกกล้าตบฉัน แกคอยดู ฉันจะทำให้แกไม่ตายดี”

ซูเหวินปินบ่นพึมพำ เคียดแค้นจนอยากจะฆ่าหลี่โม่ให้ตายตอนนี้

“ฮ่า ๆ”

หลี่โม่ใช้หมัดทุบลงบนไหล่ของซูเหวินปิน ทำให้ไหล่ของซูเหวินปินเกิดเป็นรอยบุ๋ม กระดูกทั้งไหล่ของเขาแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ

“แกส่งคนไปลักพาตัวหยุนหลัน กล้าลักพาตัวเมียฉัน แกมันรนหาที่ตาย!”

หลังจากหลี่โม่พูดจบ ก็ใช้เท้าเหยียบไปที่ต้นขาของซูเหวินปิน ทำให้กระดูกต้นขาของซูเหวินปินหักออกเป็นหลายท่อน

“กล้าทำชั่วต่อลูกสาวฉัน ดูเหมือนว่าฉันจะใจดีกับพวกแกมากเกินไปแล้ว”

ซูเหวินปินเจ็บปวดจนเหงื่อแตก ร้องไห้คร่ำครวญด้วยน้ำตา “ไอ้สารเลย คอยดู แกจะต้องได้รับผลกรรมที่ก่อเอาไว้!”

“ดูเหมือนว่าควรจะดำเนินต่อไป”

หลี่โม่หัวเราะเยาะ แล้วยกเท้าขึ้นเหยียบน่องและข้อเท้าของซูเหวินปิน ทำให้ซูเหวินปินร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด

……

คฤหาสน์ตระกูลซู

ซูเม่าเหวินกำลังดูเอกสาร ผู้ช่วยวิ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าของซูเม่าเหวิน ด้วยความลนลาน

“ลนลานทำไม”

ซูเม่าเหวินมองไปที่ผู้ช่วยด้วยสีหน้าไม่พอใจ

ผู้ช่วยยิ้มแต่น่าเกลียดยิ่งกว่าร้องไห้ “ผู้นำตระกูล เกิดเรื่องไม่ดีแล้ว เกิดเรื่องใหญ่แล้ว”

“ฮึ่ม!”

ซูเม่าเหวินฮัมคำหนึ่ง ตบโต๊ะแล้วกล่าวว่า “จะเกิดเรื่องใหญ่อะไรได้! ฉันยังไม่ตาย ตระกูลซูจะเกิดเรื่องใหญ่ได้อย่างไร!”

“ผู้นำตระกูล เกิดเรื่องใหญ่จริง ๆ โครงการลงทุนทั้งหมดของเราถูกระงับ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้อายัดอุตสาหกรรมบันเทิงของเราทั้งหมด รวมถึงศิลปินในสังกัดบริษัท ซูซื่อ อุตสาหกรรมภาพยนตร์ของเรา ทั้งหมดตรวจสอบเนื่องจากปัญหาด้านภาษี!”

ผู้ช่วยกล่าวอย่างกระวนกระวาย ทุกเรื่องเหมือนค้อนหนัก ทุบไปที่หัวใจของซูเม่าเหวิน

ซูเม่าเหวินจ้องไปที่ผู้ช่วยที่อยู่ตรงข้าม แล้วถามว่า “คุณ สิ่งที่คุณพูดเป็นความจริง?”

“จริงครับ จริงแท้แน่นอนครับ! นี่คือสถานการณ์ที่รายงานมาจากทุกสาขา และเนื่องจากผลกระทบของข่าวเหล่านี้ ทำให้ราคาหุ้นของบริษัทจึงลดลงอย่างรวดเร็ว และตอนนี้ลดลงถึง 95%!”

ร่างกายของซูเม่าเหวินสั่น เขาเอามือขวาจับหน้าอก หายใจถี่และเร็วขึ้น “ยา ยา!”

ผู้ช่วยรีบหยิบขวดยาออกมาจากกระเป๋าของซูเม่าเหวิน เปิดขวดยาเทยาสองเม็ดออกมา แล้วป้อนเข้าไปในปากของซูเม่าเหวิน

หลังจากที่ซูเม่าเหวินกลืนยาลงไป หลับตาพักผ่อนครู่ใหญ่จึงรู้สึกดีขึ้น

“ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ได้ เพราะอะไร!”

ซูเม่าเหวินกล่าวอย่างอ่อนแรง

เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ต้องมีใครบางคนคอยบงการอยู่ข้างหลังแน่นอน แต่ซูเม่าเหวินได้คิดไต่ตรองดูแล้วในช่วงนี้ไม่ได้ล่วงเกินตระกูลใหญ่ใด ๆ เขาถูกปราบปรามรอบด้านได้อย่างไร!

อีกอย่างสำหรับตระกูลใหญ่ธรรมดา พวกเขาไม่ได้มีความสามารถเช่นนี้ ตระกูลซูมีรากฐานที่มั่นคงในเมืองเอก คนที่สามารถทำเช่นนี้ได้ จะต้องเป็นตระกูลชั้นสูงอย่างแน่นอน!

ผู้ช่วยส่ายศีรษะ กล่าวอย่างอ่อนแรงว่า “กำลังตรวจสอบอยู่ ตอนนี้ยังไม่มีรายละเอียดอะไร แต่……”

“แต่อะไร!”

“แต่ผมตรวจพบว่าซูเหวินปินได้ล่วงเกินใครบางคน บางทีปัญหาอาจจะเกิดจากเขา”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset