กู้ซิงเว๋ยจ้องมองซีเหมินจื้อเผิงที่ออกไปอย่างงุนงง ทีแรกนึกว่าจะได้เกาะบุญ กลายเป็นคนสำคัญที่สุดของตระกูลกู้ แต่ความเป็นจริงกลับตบหน้ากู้ซิงเว๋ยอย่างแรง
หลังจากได้สติแล้ว กู้ซิงเว๋ยเก็บเอาความโกรธทั้งหมดโยนให้กับหลี่โม่ ถ้าไม่ใช่เพราะหลี่โม่ ซีเหมินจื้อเผิงมีหรือจะจากไป!
กู้ซิงเว๋ยโกรธเกรี้ยวเดินกลับเข้าไปในห้องประชุม จ้องมองหลี่โม่อย่างโกรธแล้วพูดว่า:“นายพอใจแล้วใช่ไหม นายให้คนพวกนี้มาก่อกวนใช่ไหม นายไม่อยากให้ตระกูลกู้เราขยายกิจการใช่ไหม!”
หลี่โม่ยิ้มบางๆ และไม่ได้สนใจกู้ซิงเว๋ย เขาโบกมือให้กู้หยุนหลันมานั่งข้างๆเขา
กู้หยุนหลันถึงแม้จะไม่เข้าใจ แต่ก็เดินไปหาหลี่โม่และนั่งลง
หลี่โม่มองไปที่ลู่เจี้ยนปิน ลู่เจี้ยนปินเข้าใจ ยิ้มแล้วพูดว่า:“พวกเราและคุณครัฟฟ์ไม่ได้มาก่อกวน แต่พวกเราตั้งใจมาเจรจาร่วมลงทุนกับตระกูลกู้ด้วยความจริงใจ”
“พวกเราสามารถร่วมลงทุนอะไรด้วยกันได้? คุณรู้ไหมว่าซีเหมินจื้อเผิงให้สวัสดิการเราได้ดีมากแค่ไหน!”
กู้ซิงเว๋ยยังคงไม่สามารถระงับอารมณ์โกรธของตัวเองลงได้
ผู้ช่วยของครัฟฟ์เดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าว:“การร่วมลงทุนของเหิงฮุยและตระกูลกู้นั้นมีดังนี้ เหิงฮุยอนุญาตให้ตระกูลกู้มีลิขสิทธิ์ในการผลิตยาและอาหารเสริมทั้งหมดในเครือเหิงฮุย ใน5ปีนี้จะไม่มีการเก็บค่าลิขสิทธิ์ใดๆ และทางเราจะคอยให้การสนับสนุนด้านการเทคโนโลยี และการสร้างสายผลิตต่างต่าง”
กู้ซิงเว๋ยอึ้งไปทันที เงื่อนไขและสวัสดิการที่เหิงฮุยเสนอมานั้น ดียิ่งกว่าของซีเหมินจื้อเผิงอีก
สีหน้าของกู้เจี้ยนกั๋วจากที่มืดขรึมกลับกลายเป็นอารมณ์ดีทันที ลุกขึ้นยืนแล้วรีบเดินไปทางคลัฟฟ์ ยื่นมือออกไปให้กับครัฟฟ์เพื่อเป็นการจับมือทักทาย
“สวัสดีครับคุณครัฟฟ์ เมื่อกี้ผมละเลยแขกกู้มีเกียรติขออภัยด้วย ไม่ทราบว่าคุณครัฟฟ์จะมาร่วมลงทุนกับเรา เชิญนั่ง การตัดสินใจทุกอย่างในตระกูลกู้มีผมเป็นคนรับชอบ เรามาเจรจาในเชิงลึกเกี่ยวการร่วมลงทุนกันเถอะ”
ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรที่ครัฟฟ์เสนอเงื่อนไขแบบนี้ กู้เจี้ยนกั๋วอยากใช้อำนาจในหน้าที่ของตัวเอง เพื่อที่จะได้เจรจาเซ็นสัญญากัน เมื่อเซ็นสัญญาสำเร็จแล้ว ความดีความชอบทั้งหมดก็จะตกเป็นของของคนเดียว
กู้เจี้ยนเจียงและคนอื่นๆก็มาล้อมครัฟฟ์ไว้ และเชิญครัฟฟ์มานั่งอย่างกระตือรือร้น
ครัฟฟ์ยอมรับคำเชิญ และนั่งลงที่ซีเหมินจื้อนั่งเมื่อกี้
ลู่เจี้ยนปินและคนอื่นๆมองหลี่โม่ เห็นหลี่โม่หลับตา ก็เลยยืนอยู่กับที่อย่างเงียบๆ
“คุณครัฟฟ์ สวัสดิการและเงื่อนไขการร่วมลงทุนของพวกคุณที่เสนอให้กับทางเราดีมากเกินไป ไม่ทราบว่าทางเราจะต้องเตรียมอะไรคืนให้บ้างหรือเปล่าครับ?”
“ไม่จำเป็นต้องให้หรอก แค่พวกคุณมีคนเซ็นสัญญาแล้วทำตามใบสัญญาก็พอ”
ครัฟฟ์พูด
กู้เจี้ยนกั๋วและคนอื่นๆตื่นเต้นจนแทบกระโดด นี่มันคือพายที่ตกจากฟ้าชัดๆ
“ฉันสามารถเซ็นสัญญาได้ หากสะดวก เราสามารถเซ็นสัญญาได้ตอนนี้เลย “
กู้เจี้ยนกั๋วรีบพูดอย่างรวดเร็ว
ครั้งนี้กู้เจี้ยนกั๋วเตรียมจะตัดหางตั้งแต่ต้นลม เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นมาอีก
ครัฟฟ์มองไปที่กู้เจี้ยนกั๋ว แล้วส่ายหัวช้าๆ:“คุณไม่มีสิทธิ์เซ็นสัญญา”
“ทำไมผมถึงไม่มีสิทธิ์ ? ฉันเป็นลูกคนโตของภรรยาเอกตระกูลกู้ ผมมีสิทธิ์ตัดสินใจทุกเรื่อง ถ้าผมยังไม่มีสิทธิ์ งั้นทั้งตระกูลกู้ของเราก็ไม่มีใครมีสิทธิ์เซ็นสัญญาแล้วแหละ!”
กู้เจี้ยกั๋วพูดอย่างไม่พอใจ
“นี่เป็นสัญญาเฉพาะที่ทำขึ้น ที่จะเซ็นกับคุณหนูกู้หยุนหลันเท่านั้น ดังนั้นขอโทษ คุณไม่มีสิทธิ์จริงๆ”
ครัฟฟ์พูดด้วยรอยยิ้ม
กู้เจี้ยนกั๋วและคนอื่นๆมองไปทางกู้หยุนหลันพร้อมกัน แววตาผสมเต็มไปด้วยความซับซ้อน อิจฉา งุนงง สงสัย ไม่เข้าใจฯลฯ
กู้หยุนหลันอ้าปากค้างเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ สายตามหันไปที่หลี่โม่
กู้หยุนหลันกระซิบข้างหูหลี่โม่ แล้วถามว่า:“นี่มันเรื่องอะไรกัน”
“คิดว่าน่าจะเป็นพวกนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์เมืองจินไห่เชิญมา อาจเป็นเพราะว่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับจางจงหยาง ทำให้พวกเขากลัว ดังนั้นจึงพยายามหาทางขอโทษทำดีกับเรา”
หลี่โม่อธิบาย ในใจก็รู้สึกสงสัยเล็กน้อย ถ้าจำไม่ผิดบริษัทผลิตยาเหิงฮุยก็น่าจะเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมของสำนักหลงเหมิน แต่น่าจะเป็นทรัพย์สินที่อยู่ในกรรมสิทธิ์ของราชินีของสำนักหลงเหมิน
ตอนนี้ซีอีโอของบริษัทผลิตยาเหิงฮุยได้ส่งพายถึงบ้าน ทำให้หลี่โม่รู้สึกว่ามันแปลกๆ
และเมื่อเอาไปรวมกับที่ข่าวที่เฉียนฝูส่งมา ว่าราชินีสำนักหลงเหมินกำลังเตรียมตัวจะเสด็จมาเมืองฮ่าน ไม่แน่ครัฟฟ์ผู้นี้ก็อาจจะเป็นการวางแผนของราชินีสำนักหลงเหมิน
หลี่โม่ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง และตัดสินใจที่จะไม่ทำให้งูแตกตื่น แล้วคอยดูว่าครัฟฟ์คิดอยากจะทำอะไร
กู้หยุนหลันมองเหอลี่หัวและคนอื่นๆ เหอลี่หัวและคนอื่นๆก้มตัวรับยิ้มอย่างเรียบร้อย
“งั้นทางตระกูลกู้ของพวกคุณเตรียมตัวพร้อมหรือยัง ให้คุณหนูหยุนหลันเซ็นสัญญากับผมได้หรือยัง?”
ครัฟฟ์มองไปที่กู้เจี้ยนกั๋วแล้วจี่ถาม
ในใจของกู้เจี้ยนกั๋วนั้นเหมือนมีตัวเงินตัวทองวิ่งไปมา อยากจะตะโกนใส่ครัฟฟ์ว่า MMP
แต่กู้เจี้ยนกั๋วไม่มีความกล้านั้น เพื่อการขยายกิจการตระกูลกู้ จำต้องฝืนใจเชิญกู้หยุนหลันมาเซ็นสัญญา
“หยุนหลัน รีบมาเซ็นสัญญากับคุณครัฟฟ์เร็ว”กู้เจี้ยนกั๋วพูดพร้อมฝืนยิ้ม
กู้หยุนหลันลังเลไปสักครู่ ก่อนจะหันไปมองหลี่โม่ที่อยู่ข้างๆ
หลี่โม่พยักหน้าเล็กน้อย และกระซิบว่า:“เซ็นเถอะ ไม่ต้องห่วง”
กู้หยุนหลันรู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ ภาพลักษณ์ของหลี่โม่ที่อยู่ในใจของกู้หยุนหลันได้ค่อยๆเปลี่ยนไป
ครัฟฟ์และกู้หยุนหลันเซ็นสัญญากันอย่างรวดเร็ว หลังเซ็นสัญญาเสร็จแล้วทั้งสองได้ยื่นมือจับมือกัน
ครัฟฟ์ยิ้มแล้วพูดว่า:“สัญญาได้เซ็นเสร็จสมบูรณ์แล้ว พอดีผมยังมีธุระ งั้นผมก็ขอตัวก่อน อีกสองวันถ้าผมว่าง ผมจะเชิญคุณหนูหยุนหลันไปรับประทานอาหารคํ่านะครับ หวังว่าคุณหนูหยุนหลันจะมาร่วมงานด้วยนะครับ”
“ได้ค่ะ”
กู้หยุนหลันพูดอย่างสุภาพ
“ถ้าอย่างนั้นพวกเราขอตัวก่อนนะครับ”
ครัฟฟ์และผู้ช่วยเดินออกไป กู้เจี้ยนกั๋วและคนอื่นๆเต็มไปด้วยความผิดหวัง
ลู่เจี้ยนปินเดินไปหาหลี่โม่แล้วพูดว่า:“คุณหลี่ ครั้งนี้เหอลี่หัวกับพวกได้แสดงความจริงใจที่จะขอโทษคุณ ลูกชายของพวกเขาต่างคุกเข่าอยู่ข้างล่าง ตอนแรกก็แค่อยากจะผลักดันให้เหิงฮุยมาร่วมลงทุนด้วย ไม่รู้ว่าเหิงฮุยได้เตรียมเงื่อนไขและสวัสดิการที่ดีเช่นนี้ไว้แล้ว”
ตอนนี้ลู่เจี้ยนปินผู้เป็นคนกลางไม่มีความมั่นใจเลย รู้สึกว่าเรื่องราวถ้าจัดการได้ไม่ดี หลี่โม่นั้นจะดูถูกเขา
หลี่โม่โบกๆมือ ใจนั้นยังครุ่นคิดเรื่องของครัฟฟ์และราชินีสำนักหลงเหมินอยู่ ยิ่งได้ยินคำเชิญของครัฟฟ์ หลี่โม่ก็ยิ่งรู้สึกแปลก
“คุณหลี่ พวกเรารู้ตัวว่าผิดแล้ว พวกเรามาขอโทษด้วยความตั้งใจและจริงใจ พวกเราติดต่อที่ดินอุตสาหกรรมไว้500หมู่เพื่อเป็นการขอโทษ ถ้าหากคุณหลี่ไม่พอใจ พวกเราก็สามารถชดใช้เป็นเงินสดได้”
เหอลี่หัวพูดด้วยความหวาดกลัว
กู้เจี้ยนกั๋วและคนอื่นๆที่ได้ยินคำพุดนั้น เปลือกตาจนกระตุกรัวๆไม่หยุด แม้ว่าที่ดินอุตสาหกรรมจะถูกกว่าที่ดินเชิงพาณิชย์แต่พื้นที่500
หมู่ก็ไม่น้อยนะ ราคาอย่างน้อยก็จะอยู่ในระดับ100ล้านหยวนขึ้นไป
คนพวกนี้นี่บ้าไปแล้วเหรอ ทำไมถึงใช้ที่ดินระดับ100ล้านหยวนมาขอโทษหลี่โม่ โลกทุกวันนี้นี่เป็นยังไงกันแน่ ตั้งแต่ผู้นำตระกูลซูของเมืองเอก มาจนถึงนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์เมืองจินไห่พวกนี้ อย่างกับบ้ากันไปหมด!