บทที่ 31 คุณชายร่ำรวยของตระกูลหลี่ผู้ลึกลับ
บ้านใหญ่ของตระกูลกู้ งานเลี้ยงของตระกูล
บ้านพี่ใหญ่ตระกูลกู้(ลูกคนโตของตระกูล) และคนของบ้านน้องสามตระกูลกู้(ลูกคนที่สามของตระกูล)ล้วนอยู่ที่นี่ นั่งที่โต๊ะใหญ่
เมื่อกู้หยุนหลันพาหลี่โม่เข้ามา ญาติหลายคนในตระกูลกู้จึงเริ่มเยาะเย้ย
“หยุนหลัน ทำไมเธอถึงพาของเสียน่าสมเพชมาที่นี่ล่ะ”
“โชคร้ายจริงๆ เวลากินก็ต้องเห็นของเน่าเสียไร้ประโยชน์”
“ทำไมรู้สึกว่าบางคนเหมือนสุนัข หยุนหลันไปที่ไหนเขาก็ตามไปทุกที่”
ทุกคนหัวเราะครืนด้วยใบหน้าแดกดันที่เข้มข้นมาก
กู้เจี้ยนหมิงกับหวังฟางเข้ามาก่อนหน้านี้แล้วและนั่งอยู่ตรงนั้น สีหน้าทั้งอับอายทั้งโกรธจัด จ้องหลี่โม่ตาขวางอยู่นาน
ช่างเป็นคนที่เสาะแสะและไร้ความสามารถจริงๆ!
คนแบบนี้ไม่คู่ควรกับหยุนหลันเลย!
ในใจหวังฟางแอบตัดสินใจ ไม่ว่าอย่างไรพวกเขาทั้งคู่ต้องเลิกรากัน
ลูกสาวของตน ต้องแต่งงานเข้าตระกูลเศรษฐี ต้องเป็นคุณนายเท่านั้น!
คิ้วสวยของกู้หยุนหลันขมวดยุ่ง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ดึงหลี่โม่ไปนั่งตรงที่ว่าง
ที่นั่งข้างๆ คือกู้ชิงหลินกำลังศึกษาการถ่ายทอดสดรีวิวเครื่องสำอางอยู่ ยังส่งเสียงร้องออกมาอย่างตื่นเต้นด้วยว่า “OMG ซื้อมันซื้อมันเลย!”
จากนั้นเธอก็สั่งซื้อโดยไม่ลังเล
หลังจากชำระเงินแล้ว เธอถึงได้เหล่มองกู้หยุนหลันกับหลี่โม่ด้วยสายตาเย่อหยิ่ง แล้วเยาะเย้ยว่า “นี่ มากินข้าวเหรอ น่าเสียดายนะกู้หยุนหลัน ที่จริงแล้วเธอไม่ควรมาเลย เพราะว่าอีกเดี๋ยวเธอจะต้องทำตัวเองอับอาย”
กู้ชิงหลินรู้เรื่องนั้นแล้ว กู้ซิงเว๋ยเป็นคนบอกเธอ
สดชื่นจัง!
ได้เห็นกู้หยุนหลันถูกทุกคนเพ่งเล็ง มันยอดเยี่ยมมาก!
กู้หยุนหลันขมวดคิ้วไม่พูดอะไร
ไม่นานคุณท่านใหญ่กู้ก็เข้ามาในห้องโถงด้วยการช่วยเหลือของกู้ซิงเว๋ย
และทุกคนก็ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว พากันขานเรียกคุณปู่ด้วยความเคารพ
“ดี ทุกคนนั่งลงเถอะ ในเมื่อเป็นงานเลี้ยงของตระกูล ก็ไม่ต้องพิธีรีตองมากนัก” ปู่กู้ใช้ไม้เท้าค้ำยัน กดฝ่ามือลงกลางอากาศด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ส่งสัญญาณให้ทุกคนนั่งลง
กู้ซิงเว๋ยนั่งอยู่ข้างคุณท่านใหญ่ เหลือบมองกู้หยุนหลันกับหลี่โม่ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม มุมปากปรากฏรอยยิ้มเยาะ
กู้หยุนหลัน รอก่อนเถอะ เธอจบเห่แน่!
ความร่วมมือของบริษัทรุงคาง ในที่สุดก็เป็นของฉัน!
ระหว่างมื้ออาหารที่คึกคัก หลังจากดื่มไปสามรอบ จู่ๆ คุณปู่กู้ก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ถามออกมาว่า “จริงสิ ครั้งก่อนที่พวกเธอสอบถามเกี่ยวกับเรื่องของตระกูลหลี่น่ะได้เรื่องหรือยัง ถ้าฉันจำไม่ผิด เมืองฮ่านไม่น่าจะมีตระกูลใหญ่แซ่หลี่นะ”
เมื่อคิดถึงเรื่องในโรงพยาบาลครั้งก่อน กู้หงไท่ก็ยังพะวงอยู่ตลอด รู้สึกค่อนข้างตกใจ
พวกเหล่าของขวัญและอุปกรณ์ทางการแพทย์ กู้หงไท่จึงให้คนตรวจสอบ มันเป็นของที่หายากและแพงที่สุด!
ขนาดที่ว่าไม่มีเงินพอจะซื้อมันได้
หรือว่าจะเป็นอีกฝ่ายจะตกหลุมรักกู่หยุนหลันจริงๆ
บนโต๊ะอาหาร สมาชิกครอบครัวตระกูลกู้ทั้งเด็กและโตล้วนส่ายหน้าบ่งบอกว่าไม่รู้
ตระกูลหลี่อย่างนั้นหรือ
ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย หรือว่าอยู่นอกเมือง
บุคคลเช่นนี้ พวกเขาไม่ได้อยู่ในระดับที่สามารถเข้าถึงได้
“หลี่โม่ไม่ใช่ว่าแซ่หลี่หรอกเหรอ หรือว่าเขาเป็นคนจัดการส่งคนมาเพื่อช่วยลูกสาวตัวเอง”
กู้ซิงเว๋ยพูดเยาะเย้ยในที่ประชุม และมันทำให้ทุกคนหัวเราะเยาะเหยียดหยามขึ้นมาทันที
ใครจะไม่รู้ว่าหลี่โม่มีชื่อเสียงว่าเป็นเศษสวะไร้ความสามารถ ทุกเดือนได้เงินเดือนจำกัดจำเขี่ยไม่กี่พันหยวน แถมยังต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากตระกูลกู้เพื่อรักษาแม่ที่รอวันตาย
“กู้ซิงเว๋ย เธออย่ามาล้อเล่น จะเป็นคนธรรมดาอย่างเขาไปได้ยังไงกัน ถ้าเป็นเขา ฉันกู้ชิงหลินจะคุกเข่าคำนับหัวโขกพื้นขอขมาให้เขาตอนนี้เลย”
กู้ชิงหลินหัวเราะเยาะตามอำเภอใจอย่างไม่เกรงกลัวใคร เลิกคิ้วขึ้นสีหน้าทะนงตัวหยิ่งผยอง
“ฮ่าฮ่า ก็หลี่โม่มีแซ่เดียวกับเขานี่ อาจจะมีโอกาสเป็นไปได้ก็ได้”
รุ่นเด็กไม่กี่คนที่อยู่ตรงนี้ก็หัวเราะเยาะตาม
กู้หยุนหลันที่นั่งข้างหลี่โม่นั้นร่างกายบอบบางสั่นเล็กน้อย เธอฟังคำพูดที่รุนแรงเหล่านี้แล้วอึดอัดในหัวใจเป็นอย่างมาก เลิกคิ้วแล้วตะคอกออกมาอย่างโกรธจัด “พอได้แล้ว! พวกเธอต้องการจะพูดอะไรกันแน่! จะดีร้ายหลี่โม่ก็เป็นสามีของฉัน เป็นลูกเขยตระกูลกู้!”
ฮ่าฮ่า
ทุกคนต่างเลิกคิ้วหยิ่งผยองและไม่ได้พูดอะไรอีก
ทว่ากู้ซิงเหวยกลับหัวเราะเยาะและพูดว่า “กู้หยุนหลัน นี่มันเป็นความผิดของเธอเอง พวกเราไม่ได้ยอมรับว่าเขาเป็นลูกเขยตระกูลกู้สักหน่อย ขยะนี่น่ะ มีคุณสมบัติอะไรมานั่งตรงนี้! นี่เป็นงานเลี้ยงตระกูลของตระกูลกู้ เขาควรจะไปกินร่วมกับสุนัขโน่น!”
เมื่อพูดจบ เขาก็โยนกระดูกไปให้สุนัขบนพื้น
ดูถูกอย่างโจ่งแจ้ง
กู้ยุนหลันกำลังจะลุกขึ้นยืนด้วยความโกรธ แต่มือใหญ่ที่อบอุ่นกลับมาทาบวางลงบนมือเล็กของตัวเอง
เมื่อเธอหันไปก็เห็นใบหน้ายิ้มแย้มของหลี่โม่ จากนั้นก็ส่ายหน้าเล็กน้อยและพูดเสียงเบาว่า “ช่างเถอะ”
กู้หยุนหลันรู้สึกคับข้องใจ จ้องมองหลี่โม่ด้วยความขุ่นเคือง ดวงตาเต็มไปด้วยน้ำตาใส
เขาต้องการจะเป็นคนขี้แพ้ไปถึงเมื่อไรกันแน่!
ทุกคนพูดแบบนั้น แต่ไม่อยากเชื่อว่าเขายังใจเย็นอยู่ได้!
ช่างเถอะ กู้หยุนหลันก็ไม่สนใจแล้วเหมือนกัน หันหน้าหนีไม่มองหลี่โม่อีกและก็ชักมือกลับมาด้วย
แล้วคุณท่านใหญ่กู้ก็พูดสองสามคำว่าให้ทุกคนอย่าส่งเสียงดังอีก
เพราะถึงอย่างไรการคุยเรื่องนี้ก็ไม่น่ารื่นรมย์
แต่ว่าเด็กสาวไม่กี่คนในตระกูลกู้รุ่นเด็กกำลังเริ่มคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้
คุณชายร่ำรวยที่กระเป๋าหนักขนาดนั้นจะมาชอบผู้หญิงรองเท้าขาดสำส่อนอย่างกู้หยุนหลันนี่น่ะหรือ
เป็นไปไม่ได้!
ไม่ได้ ต้องแย่งมาให้ได้!
และตอนนี้กู้ชิงหลินที่กำลังเล่นโทรศัพท์ในมือ จู่ๆ ก็ตะโกนเสียงสูงขึ้นมาว่า “คุณปู่คะ ฉันรู้แล้วว่าคุณชายร่ำรวยตระกูลหลี่ที่ส่งของมาเป็นใคร”
เมื่อพูดอย่างนั้นแล้วเธอก็ย่ำรองเท้าส้นสูงลุกขึ้นยืนอย่างภาคภูมิใจ แสดงหน้าจอโทรศัพท์มือถือให้ทุกคนดูและพูดว่า “พวกคุณต่างอุปทานไปเอง สิ่งของพวกนี้ ที่จริงเป็นเพราะคุณชายร่ำรวยตระกูลหลี่เห็นหน้าฉันแล้วจึงส่งมันมา! ฉันได้ยินว่าล่าสุดคุณชายร่ำรวยที่กำลังจะมาเมืองฮ่านเราก็แซ่หลี่ หลายบริษัทจดทะเบียนในชื่อของพวกเขา ตระกูลหลี่นี้มีชื่อเสียงมากในเมืองหลวง มีสถานะสูง ที่อีกฝ่ายมาก็เพราะฉัน!”
กู้ชิงหลินมีความสุขมาก ชายหนุ่มตระกูลเศรษฐีเช่นนี้ เป็นไปได้อย่างไรที่จะชอบผู้หญิงแต่งงานแล้วและเป็นรองเท้าขาดสำส่อนอย่างกู้หยุนหลัน (ตามภาษาจีน รองเท้าขาดหมายถึงผู้หญิงที่เคยมีอะไรกันกับแฟนหรือผัวแล้วถูกทิ้ง)
แน่นอนว่าต้องมาที่นี่เพราะตน!
เพราะในรุ่นเด็กตระกูลกู้นี้ตนนับว่างดงามเหนือใคร
เมื่อคุณท่านใหญ่กู้ได้ยิน ความตื่นเต้นก็เต็มใบหน้า แล้วเอ่ยถามว่า “แกพูดจริงเหรอ คุณชายหลี่ผู้ร่ำรวยนั่นมาเพราะแกเหรอ”
เวลานี้กู้ชิงหลินดูภาคภูมิใจมาก พูดว่า “นั่นแน่นอนค่ะ ฉันเพิ่งถามเพื่อนในแวดวงโซเชียลมา พวกเขาบอกว่าคุณชายร่ำรวยของตระกูลหลี่ผู้ลึกลับมาถึงเมื่อสองวันก่อนแบบไม่เปิดเผย แต่ว่าครั้งล่าสุดที่เขาปรากฏตัวอยู่ที่ไนท์คลับส่วนตัวหวงถิง แม้แต่ประธานอาวุโสที่คอยกุมบังเหียนอยู่เบื้องหลังทั้งหมดก็ยังออกมาต้อนรับด้วยตัวเอง อย่างที่พวกคุณรู้ ไนท์คลับส่วนตัวหวงถิงคนธรรมดาจะสามารถเข้าไปได้งั้นเหรอ”
เมื่อคำพูดเหล่านี้ออกมา ทุกคนก็ต่างตัวสั่น!
ไนท์คลับส่วนตัวหวงถิง คลับที่หรูหราที่สุดในเมืองฮ่าน!
ข้างในมีคนทั้งดีเลวปะปน ทว่าไม่มีใครกล้าสร้างปัญหาที่นั่นเลย
ข่าวลือบอกว่า ประธานอาวุโสที่อยู่เบื้องหลังไนต์คลับส่วนตัวหวงถิง เป็นบุคคลยิ่งใหญ่ที่มีมือและตาอยู่ทั่วฟ้า!
เมื่อได้ยินอย่างนั้น กู้เจี้ยนเจียงกับเฉาซูเฟินพ่อแม่ของกู้ชิงหลินก็รีบเดินเข้ามาอย่างตื่นเต้น ดึงลูกสาวตัวเองแล้วพูดว่า “อุ๊ย ชิงหลิน แกพูดจริงเหรอ คุณชายร่ำรวยตระกูลหลี่คนนี้ชอบแกเหรอ”
กู้ซิงเว๋ยที่ยืนอยู่ข้างๆ แสดงสีหน้าไม่แน่ใจ จงใจพูดดูถูกว่า “ในเมื่อเขาไม่ได้ปรากฏตัว แล้วเธอจะรู้จักกันได้ยังไง”
ไร้สาระอะไร
แย่งซีนงั้นเหรอ
คิดว่าแบบนี้คุณปู่จะคิดว่าเป็นเธอเหรอ
น่าขำ!
กู้ซิงเว๋ยอารมณ์เสีย!
กู้ชิงหลินมองกู้ซิงเว๋ยอย่างเย็นชา และพูดอย่างเย่อหยิ่งว่า “เธอไม่ได้ดูเหรอว่าฉันกู้ชิงหลินเป็นใคร หนึ่งในสี่ดอกไม้ทองของเมืองฮ่านนะ”
ในจุดนี้ ไม่มีใครกล้าสงสัยในคำพูดของกู้ชิงหลินอีก
ที่จริงแล้วกู้ชิงหลินมีการติดต่อกับพวกคุณชายร่ำรวยมากกว่าพวกเขา และในเมืองฮ่านก็มีชื่อเสียงโด่งดัง
“ใช่ๆ คุณชายร่ำรวยตระกูลหลี่ชอบกู้ชิงหลินของเรา บ้านเรากำลังจะรวยแล้ว ชิงหลินจะกลายเป็นคุณนายผู้ร่ำรวย!”
เฉาซูเฟินตื่นเต้นมาก หัวเราะจนปากกว้าง
คุณท่านใหญ่กู้เองก็พยักหน้าอย่างชื่นใจและพูดว่า “ดี! คุณชายร่ำรวยตระกูลหลี่ ชิงหลินแกต้องรักษาความสัมพันธ์อันดีนี้เอาไว้นะ ในเมื่อเขาชอบแก งั้นตระกูลกู้เราก็ได้เชิดหน้าชูตาแล้ว หาโอกาสพาคุณชายร่ำรวยตระกูลหลี่มาที่บ้านให้ปู่เจอหน่อยล่ะ”
ดี
ในที่สุดตระกูลกู้ก็ได้มีวันผงาดเสียที!
กู้หงไท่หัวเราะลั่นสองสามครั้งอย่างมีความสุข
“หยุนหลัน เป็นไงล่ะ แซ่กู้เหมือนกัน ฉันกำลังจะแต่งงานกับเศรษฐี ส่วนเธอ ใช้ชีวิตอยู่กับขยะนั่นไปตลอดชีวิต”
กู้ชิงหลินเดินไปตรงหน้ากู้หยุนหลันแล้วทำหน้าทำตาเยาะเย้ยถากถาง
คำพูดนี้ของเธอ เหมือนหนามแทงตรงเข้าไปในอกของกู้หยุนหลัน
กู้หยุนหลันกำมือด้วยความโกรธ กำลังจะลุกขึ้นเพื่อเอาคืน
ทว่าเวลานี้หลี่โม่กลับดึงกู้หยุนหลันไว้พร้อมกับสายตาโง่ๆ แล้วมองไปยังกู้ชิงหลินและถามยิ้มๆ ว่า “คุณแน่ใจเหรอว่าคุณชายร่ำรวยตระกูลหลี่คนนั้นชอบคุณ คุณแน่ใจเหรอว่าสิ่งของพวกนั้นส่งมาเพราะคุณ”