บทที่ 33 มีเซอร์ไพรส์
อาคารฮ่านซิน!
อาคารสูงสามร้อยเมตรในเมืองฮ่าน เป็นอาคารบริษัทที่สูงที่สุด!
สามารถเห็นทิวทัศน์มุมสูงทั่วเมืองฮ่านได้ แม้แต่แม่น้ำฮ่านก็ยังเห็น
ฮ่านซินกรุ๊ปถือครองกรรมสิทธิ์อาคารแห่งนี้
อาคารนี้รวมถึงฮ่านซินกรุ๊ป เป็นกลุ่มธุรกิจการลงทุนที่ก่อตั้งโดยผู้ที่ร่ำรวยที่สุดฉู่โจว
ในเมืองฮ่าน ฮ่านซินกรุ๊ปเป็นกลุ่มบริษัทชั้นนำที่ไม่เป็นสองรองใคร นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำห้าร้อยแห่งของโลก โดยอยู่ในร้อยอันดับแรก มีพื้นฐานมั่นคงและแข็งแกร่ง!
ทั่วทั้งเมืองฮ่าน ไม่มีใครไม่อยากดิ้นรนเข้าบริษัทนี้
ตอนนี้ฮ่านซินกรุ๊ปอยู่ที่ชั้นบนสุดภายในอาคารโบราณงดงามแปลกตา นอกจากนี้ยังเป็นสำนักงานของประธานฮ่านซินกรุ๊ปด้วย ทั้งหมดเป็นรูปแบบของสถาปัตยกรรมสวนเมืองริมน้ำเจียงหนาน
สะพานเล็กข้ามสายธารและธารน้ำไหล ศาลาพลับพลา มูลค่าร้อยล้าน!
หลี่โม่มือไพล่หลัง ยืนอยู่ตรงหน้าต่างบานใหญ่ มองดูทิวทัศน์และแสงนีออนยามค่ำคืนของเมืองฮ่าน มือหยิบเหรียญทองเหรียญหนึ่งออกมา บนนั้นสลักมังกรทอง และยังมีตัวอักษรที่เข้าใจยาก โยนมันลงไปบนโต๊ะ และพูดกับเฉียนฝูที่ยืนอยู่ด้านหลังด้วยความเคารพนอบน้อมว่า “ใช้สิทธิ์ทายาทของสำนักหลงเหมิน สร้างบริษัทวิจัยทางการแพทย์ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองฮ่าน”
เหรียญหลง!
เมื่อเหรียญนี้ปรากฏ ฟ้าพลันยอมสยบ!
เหรียญหลงนี้ เป็นตัวแทนสำนักหลงเหมิน คนที่เป็นเจ้าของเหรียญนี้ สามารถทำให้ใครหรืออำนาจใดก็ได้ในโลกนี้ ช่วยทำเรื่องอะไรก็ได้ให้เขาได้ทุกอย่าง
เช่นเดียวกัน คนที่ได้เหรียญนี้ สามารถให้สำนักหลงเหมินช่วยเขาได้หนึ่งเรื่อง
มันเป็นบัตรผ่านชนิดหนึ่ง เป็นสัญลักษณ์ ซึ่งเหรียญมีกี่มากน้อย ไม่มีใครรู้ได้
เฉียนฝูผงกศีรษะ รับเหรียญหลงไป และตอบด้วยความเคารพ “สิ่งที่นายน้อยต้องการ แน่นอนว่าไม่มีปัญหา ผมจะจัดการมันทันที”
“ต้องเร็ว ผมไม่อยากล่าช้า” หลี่โม่เอ่ยบางเบา
เฉียนฝูผงกศีรษะ “ไม่มีปัญหาครับ แต่ว่า ข้าเก่าอยากจะปากมากสักคำ ทำไมจู่ๆ นายน้อยต้องการจะสร้างบริษัทวิจัยทางการแพทย์ล่ะครับ”
“ตระกูลกู้ทำธุรกิจเภสัชกรรม ยาที่พัฒนาโดยสถาบันการแพทย์ ผมจะส่งให้ตระกูลกู้จำหน่าย ดังนั้นต้องพัฒนายาชุดแรกออกมาให้เร็วที่สุด”
หลี่โม่เอ่ยบางเบา ดวงตาเกิดประกายเล็กน้อย
เฉียนฝูชะงักไป เอ่ยถามด้วยสีหน้าสงสัย “ตระกูลกู้เหรอ นายน้อย แต่ไหนแต่ไรมาคุณไม่เคยได้รับความสนใจจากตระกูลกู้ ถูกพวกเขารังแกมาสี่ปี ทำไมต้องทำแบบนี้”
ตระกูลกู้ ไม่ช้าก็เร็วจะเข้าใจความโง่เขลาของพวกเขา!
หลี่โม่ยิ้มมุมปากเล็กน้อยและพูดว่า “ไม่ใช่เพื่อกู้หงไท่ ผมทำเพื่อหยุนหลัน สถาบันการแพทย์แห่งนี้ โดยธรรมชาติแล้วมอบให้หยุนหลันมีหน้าที่รับผิดชอบต่อความร่วมมือ คนอื่นๆ ห้ามยื่นมือเข้ามายุ่ง!”
เฉียนฝูได้ยินก็คลายคิ้วที่ขมวด เข้าใจความหมายของนายน้อย
“นายน้อย ท่านอยากให้นายหญิงน้อยโดดเด่นในตระกูลกู้ ได้รับการยอมรับจากคุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ แล้วเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมในตำแหน่งเจ้าตระกูลของตระกูลกู้ในอนาคตเหรอครับ” เฉียนฝูเอ่ยถาม
หลี่โม่พยักหน้าและพูดว่า “ไม่ผิด สี่ปีแล้ว เป็นเพราะผมหยุนหลันถึงได้ถูกคนของตระกูลกู้ทั้งแก่ทั้งเด็กดูถูกมาโดยตลอด กลายเป็นความอัปยศของตระกูลกู้และเมืองฮ่าน ผมหลี่โม่ไม่ได้มีความสามารถอะไร ทำได้แค่ทำเรื่องพวกนี้เพื่อเธอ”
“นี่คือสิ่งที่ผมสัญญากับเธอ เป็นสัญญาของเธอกับผม”
“ผมจะลบภาพความอัปยศและคำปรามาสว่าสวยแต่รูปให้เธอ”
เฉียนฝูได้ยินคำพูดเหล่านี้ของหลี่โม่แล้วน้ำตาซึมหางตา
นายน้อยดีกับนายหญิงน้อยมากจริงๆ
หลี่โม่ออกจากอาคารฮ่านซินไปแล้ว เฉียนฟู่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา โทรออกไปยังสายในของสำนักหลงเหมิน
“นายน้อยต้องการลงทุนสร้างบริษัทวิจัยทางการแพทย์ในเมืองฮ่าน งบประมาณเบื้องต้นสองพันล้าน”
ที่ปลายสายเป็นเสียงไพเราะของผู้หญิงที่ตอบด้วยความเคารพ “ได้ค่ะ เงินทุนสองพันล้าน พรุ่งนี้เก้าโมงเช้าค่ะ”
“อืม”
เฉียนฝูส่งเสียงอืมแล้ววางสายไป ในมือถือเหรียญหลงสีทองอร่าม เงยหน้าขึ้นมองออกไปนอกหน้าต่างพลางพึมพำกับตัวเอง “เมืองฮ่าน ท้องฟ้ากำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลง”
เช้าวันรุ่งขึ้น ข่าวใหญ่ข่าวหนึ่งแพร่สะพัดไปทั่วเมืองฮ่าน กระจายไปดั่งคลื่นพายุโหมกระหน่ำ
คุณชายร่ำรวยของตระกูลหลี่ผู้ลึกลับ เงินทุนสองพันล้าน ลงทุนในธุรกิจวิจัยทางเภสัชกรรมในเมืองฮ่าน เพื่อสร้างบริษัทวิจัยทางการแพทย์ที่ใหญ่ที่สุดในเมือง ส่งเสริมการพัฒนาการแพทย์ในเมืองฮ่าน
เมื่อข่าวถูกปล่อยออกมา ทั่วทั้งเมืองฮ่านก็เกิดความโกลาหล!
สถานประกอบการที่เกี่ยวข้องทุกขนาดในเมืองฮ่าน ดวงตานับไม่ถ้วน ล้วนมุ่งเป้าไปที่คุณชายร่ำรวยตระกูลหลี่ผู้ลึกลับ!
ร้ายกาจเกินไปแล้ว!
บริษัทวิจัยทางการแพทย์ที่ใหญ่ที่สุดในเมือง ลงทุนสองพันล้าน!
ครู่เดียว ตามท้องถนนและตรอกซอกซอยล้วนมีข่าวลือแพร่สั่นเกี่ยวกับคุณชายร่ำรวยตระกูลหลี่ผู้ลึกลับ
แน่นอนว่าพื้นหลังตัวตนของคุณชายร่ำรวยตระกูลหลี่ผู้ลึกลับนั้นไม่มีใครล่วงรู้
รู้แค่ว่ามาจากต่างเมือง
บ่ายวันนั้น คุณชายร่ำรวยตระกูลหลี่ผู้ลึกลับได้จัดตั้งหยุนจงหลันกรุ๊ปขึ้น จดทะเบียนอย่างเป็นทางการ
พวกเขายังเชิญบุคคลระดับสูงที่เกี่ยวข้องของเมืองฮ่าน เข้าร่วมพิธีตัดริบบิ้นเปิดของกลุ่มด้วย
สื่อแย่งกันรายงาน หยุนจงหลันกรุ๊ปก่อให้เกิดแรงสั่นสะเทือนไปทั่วเมืองชั่วระยะเวลาหนึ่ง กลายเป็นจุดสนใจของทุกคน
ผู้คนนับไม่ถ้วนกำลังคุยกันอย่างบ้าคลั่งเกี่ยวกับคุณชายร่ำรวยตระกูลหลี่ผู้ลึกลับและหยุนจงหลันกรุ๊ป ผลก็คือไม่นานข่าวก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง
หยุนจงหลันกรุ๊ปซื้อที่ดินรกร้างที่เขตใต้ของเมืองฮ่าน และกำหนดเป็นสถานที่ตั้งของบริษัทวิจัยทางการแพทย์
ทันทีที่ข่าวออกมา ฉับพลัน ราคาบ้านในย่านเขตใต้ของเมืองฮ่านพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว
บุคคลนอกวงการ ต่างแสดงความเห็นว่าเขตใต้ของเมืองฮ่านจะเป็นศูนย์กลางของเมืองฮ่านแห่งต่อไป!
และเพราะแบบนี้ ผู้ประกอบการเภสัชกรรมทุกขนาดในเมืองต่างมาเยี่ยมเยือนหยุนจงหลันกรุ๊ปเพราะอยากจะร่วมมือด้วย
การลงทุนมากขนาดนี้ พวกเขาต้องการเพียงส่วนแบ่งนิดเดียวเท่านั้นก็เพียงพอที่จะทำให้บริษัทดำเนินต่อไปได้อีกหลายปี
ที่บ้าน หวังฟางกับกู้เจี้ยนหมิน เพราะเรื่องการเปลี่ยนแปลงผู้รับผิดชอบบริษัทรุงคาง จึงทะเลาะกันไม่หยุด กู้หยุนหลันที่นั่งฝั่งตรงข้ามใบหน้าเศร้าหมอง
หลี่โม่ถูพื้นอย่างเหนื่อยล้า และบางครั้งก็ฟังไม่กี่คำ
“หยุนหลัน เรื่องที่คุณชายร่ำรวยตระกูลหลี่ลงทุนในสถาบันวิจัยทางการแพทย์ มันเป็นโอกาสของครอบครัวเรา ถ้าแกสามารถได้รับความร่วมมือ ต่อไปคุณปู่ต้องอยู่ข้างเรา และประทับใจในตัวแก ส่วนความร่วมมือกับบริษัทรุงคางนั่น เราก็ไม่เอาแล้ว ให้กู้ซิงเว๋ยไป”
หวังฟางตื่นเต้นมาก เธอเองก็มีความคิดไม่เลว
ตราบใดที่กู้หยุนหลานไปคุยเรื่องความร่วมมือ แม้ว่าจะไม่ใช่ทั้งหมด แค่ได้ร่วมมือนิดหน่อย มันก็เพียงพอให้ครอบครัวพวกเขากินดีอยู่ดีไปหลายปี
การลงทุนสองพันล้าน!
คุณชายร่ำรวยของตระกูลหลี่ร่ำรวยเกินไปแล้ว!
ไม่รู้ว่าชอบจิ้งจอกกู้ชิงหลินจริงๆ หรือชอบลูกสาวตนกันแน่
หวังฟางมีความสุขมาก กำลังคาดหวังปรารถนา
กู้เจี้ยนหมินนั่งอยู่บนโซฟา จิบชาและพูดว่า “มันไม่ได้ง่าย ตอนนี้หยุนจงหลันกรุ๊ปปิดประตูรับคนเข้าหา แม้แต่บริษัทยาชื่อดังหลายแห่งในเมืองฮ่านก็ถูกปิดรับ ครอบครัวเรายิ่งไม่มีทาง”
หวังฟางฟังแล้วรำคาญ จึงไปเตะขากู้เจี้ยนหมินและด่าว่า “ฉันจะบอกอะไรให้นะกู้เจี้ยนหมิน ถ้าคุณไม่ราดน้ำเย็นก็ต้องตาย นี่ไม่ใช่ว่าฉันคิดเพื่อครอบครัวเราอยู่หรือไง ลูกสาวเราต้องมีหน้ามีตา มีความสามารถและความสามารถ ทำไมจะไปคุยเรื่องความร่วมมือไม่ได้”
กู้เจี้ยนหมินพยักหน้าอย่างขมขื่นและไม่พูดอีก
หวังฟางตาขวางใส่เขาแต่ยังคงยิ้มให้กู้หยุนหลันต่อและพูดว่า “หลุนหลัน แกคิดว่ายังไงบ้าง”
กู้หยุนหลันหมดหนทาง เงยหน้าขึ้นมาพูดว่า “ฉันก็คิดเหมือนกัน แต่คุณปู่กับกู้ซิงเว๋ยไม่ปล่อยให้ฉันไปแน่ ฉันอยู่ในสายตาเขา ทำอะไรไม่ได้เลย”
เมื่อหวังฟางได้ฟังอารมณ์ก็หด
นั่นสิ อยู่ในสายตาของคุณปู่ กู้หยุนหลานทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น
การที่หยุนจงหลันกรุ๊ปลงทุนในบริษัทวิจัยทางการแพทย์เป็นเรื่องใหญ่ คุณปู่จะให้กู้หยุนหลันไปติดต่อได้ยังไง
แล้วฉับพลันหวังฟางก็โกรธจนท้องปะทุไฟ มองไปยังหลี่โม่ที่ก้มลงถูพื้นแล้วด่าระบายความโกรธ “ทั้งหมดก็เพราะไอ้ขยะนี่! วันทั้งวันรู้จักแต่ถูพื้นๆ ไร้ประโยชน์!”
กู้หยันหลันมองหลี่โม่แล้วพูดกับหวังฟางอย่างอ่อนใจ “คุณแม่คะ คุณเลิกฟาดงวงฟาดงาสักที หลี่โม่เกี่ยวอะไรด้วย”
“ทำไมจะไม่เกี่ยว เป็นเพราะเขา บ้านเราถึงได้ถูกคนตระกูลกู้ดูถูก ถูกคุณปู่ไม่ชอบ แกดูยัยปีศาจน้อยกู้ชิงหลินสิ ถ้าเกิดมีความสัมพันธ์อันดีกับคุณชายร่ำรวยตระกูลหลี่ขึ้นมาจริงๆ แกรอเสียใจภายหลังได้เลย!”
หวังฟางโกรธมาก ยิ่งคิดยิ่งโกรธ
ลูกเขยคนนี้เป็นขยะที่ไร้ประโยน์!
หลี่โม่ยืดตัวตรงแล้วพูดน้ำเสียงบางเบา “หยุนหลัน คุณไปลองดูสิ ไม่แน่อาจมีเซอร์ไพรส์ สำหรับเรื่องร่วมมือกับบริษัทรุงคาง คุณวางใจ มันยังเป็นของคุณ”