“ฉี่ราดเหี้ยอะไร! พวกเราไม่กลัว แกรีบเล่าให้ชัดเจนว่ามันเกิดอะไรขึ้น!”
กู้เจี้ยนกั๋วกล่าวอย่างไม่พอใจ
หลี่โม่มองไปที่ครัฟฟ์ ครัฟฟ์ยิ้มอย่างขมขื่นแล้วกล่าวว่า “เรื่องราวมันเป็นแบบนี้ เรื่องนี้ต้นเหตุเกิดจากตัวผมเอง”
ขณะนี้กู้เจี้ยนกั๋วและคนอื่น ๆตะลึงพร้อมเพรียงกัน หลี่โม่เป็นคนก่อเรื่องไม่ใช่หรือ ทำไมไปเกี่ยวข้องกับครัฟฟ์ได้อย่างไร!
“คุณครัฟฟ์ คุณกำลังปกปิดแทนหลี่โม่ใช่ไหม? นี่มันเกี่ยวข้องกับการพัฒนาของตระกูลกู้ คุณควรจะเล่าเรื่องราวให้พวกเราทราบอย่างชัดเจน!”
ครัฟฟ์ยักไหล่ กางมือแล้วกล่าวว่า “เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากผมจริงๆ เมื่อวานถ้าไม่ใช่เพราะคุณหลี่ช่วยเหลือโดยยึดหลักคุณธรรม พวกเราคงต้องแยกจากกันตลอดไปแล้ว พวกคุณไม่จำเป็นต้องถามถึงสถานการณ์ แค่ปฏิบัติตามคำแนะนำของคุณหลี่ก็พอ”
เมื่อเผชิญกับคำพูดของครัฟฟ์ กู้เจี้ยนกั๋วและคนอื่น ๆ ทำได้เพียงแค่ยอมจำนนชั่วคราว คิดว่ารอให้ครัฟฟ์ออกไปก่อนแล้วค่อยหาวิธีสอบถาม หากพวกเขาไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น กู้เจี้ยนกั๋วและคนอื่น ๆ ยากที่จะสงบจิตสงบใจได้
“เอาล่ะ ถ้าพวกคุณไม่มีปัญหาอะไรแล้ว พวกเรามาเริ่มการประชุมกันต่อ แล้วทีมผู้เชี่ยวชาญของเราจะวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับพวกคุณ เพื่ออธิบายประเด็นที่ต้องระมัดระวังในแผนงานก่อสร้าง”
ครัฟฟ์ทำสัญญาลักษณ์มือ ผู้ช่วยเริ่มเชื่อมต่อวิดีโอ และทุกคนในตระกูลกู้ก็เข้าสู่โหมดการทำงาน
ขณะเดียวกัน ฉินเจี้ยนจังโทรศัพท์ให้หม่าเต๋อฝูในขณะนั่งอยู่บนรถ และรายงานหม่าเต๋อฝูเกี่ยวกับสถานการณ์เมื่อสักครู่
สีหน้าหม่าเต๋อฝูเคร่งขรึม หลังจากคุยโทรศัพท์จบก็เขวี้ยงโทรศัพท์ลงบนพื้น
“ทนายชั้นยอดเหี้ยอะไร! ไอ้เศษสวะพูดประโยคเดียวมันก็พ่ายแพ้ราบคาบ! แม่งฉิบหาย ไอ้เศษสวะสารเลวนั่น มันอยู่คงกระพันฟันแทงไม่เข้าหรือ!”
ความพ่ายแพ้ของฉินเจี้ยนจัง ทำให้กลยุทธ์การโจมตีเชิงพาณิชย์ของหม่าเต๋อฝูล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง การโต้กลับที่เพิ่งเตรียมได้พังทลายลงไปแล้ว
พ่อบ้านชราเก็บเศษโทรศัพท์มือถือ โค้งคำนับและกล่าวว่า “คุณท่าน เมื่อวานนี้ตอนที่ผมสอบถามข่าว ผมได้ยินท่านหม่าพูดถึงสถาบันบู๊เทียนหนานที่เพิ่งเปิดใหม่ในเมืองเอก ว่ากันว่าเจ้าของสถาบันบู๊ชื่อหลงเทียนสิงเป็นคนที่เก่งมาก และเบื้องหลังนั้นไม่ธรรมดา บางทีเราอาจขอให้หลงเทียนสิงจัดการหลี่โม่ได้”
“หลงเทียนสิง? คุณมีรายละเอียดของเขาไหม”
หม่าเต๋อฝูขมวดคิ้วและกล่าวถาม
“ผมได้รวบรวมข้อมูลของเขาคร่าว ๆแล้ว ว่ากันว่าหลงเทียนสิงได้เข้าสู่ธรณีประตูบูโดแล้ว และได้ฝึกแรงภายในสำเร็จ ระดับของทักษะความสามารถนั้นสูงมาก และมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับสำนักหลงเหมินที่ลึกลับในตำนาน”
หม่าเต๋อฝูยิ้มอย่างเหยียดหยาม “ขี้หมา! ถ้ามีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับสำนักหลงเหมิน ก็ไม่จำเป็นต้องมาเปิดสถาบันบู๊แล้ว อย่างมากที่สุดก็เป็นได้แค่ลูกศิษย์เล็กๆของลูกน้องที่ไม่เอาถ่านของสำนักหลงเหมิน ไม่รู้ว่าตำนานสำนักหลงเหมินเป็นเรื่องจริงไหม”
แม้ว่าระดับของหม่าเต๋อฝูจะสูงกว่าคนทั่วไปมาก แต่ถ้ามองจากมุมของสำนักหลงเหมิน ระดับของหม่าเต๋อฝูเป็นเหมือนมด ไม่มีอะไรที่จะเกี่ยวข้องกับสำนักหลงเหมินได้ และหม่าเต๋อฝูเชื่อเสมอว่าสำนักหลงเหมินเป็นเรื่องราวที่แต่งขึ้นมา
หลังจากพูดเยาะเย้ยเสร็จ หม่าเต๋อฝูก็ถอนหายใจอย่างเงียบ ๆ ยืนขึ้นและกล่าวว่า “งั้นก็ไปพบเขา หวังว่าเขาจะมีความสามารถจริงๆ ขอแค่สามารถล้างแค้นแทนลูกชายของฉันได้ ไม่ต้องคำนึงถึงฐานะตัวตนของเขา”
พ่อบ้านชรารีบจัดบอดี้การ์ดและคนขับรถ ไม่นานหม่าเต๋อฝูก็ขึ้นรถและตรงไปที่สถาบันบู๊
เมื่อเขาลงจากรถตรงบริเวณทางเข้าสถาบันบู๊ หม่าเต๋อฝูมองสถาบันบู๊ที่ตกแต่งแบบคลาสสิก เอามือไพล่หลังแล้วเดินเข้าไป
มีชายหนุ่มสองคนสวมใส่ชุดจีนสั้น ๆยืนอยู่ที่ทางเข้าของสถาบันบู๊ เมื่อชายหนุ่มสองเห็นหม่าเต๋อฝูมากับกลุ่มผู้ติดตาม ชายหนุ่มทั้งสองก็ประเมินฐานะตัวตนของหม่าเต๋อฝูได้
“แขกผู้มีเกียรติมาสถาบันบู๊เพื่อเยี่ยมเพื่อนใช่หรือไม่?”
ชายหนุ่มคนหนึ่งใช้สองมือคารวะแล้วกล่าวถามว่า
“คุณท่านของเรามาพบหลงเทียนสิง”
พ่อบ้านชรากล่าว
“เจ้าของ ของพวกเราอยู่ที่ชั้นสอง เชิญตามผมมา”
ชายหนุ่มพาหม่าเต๋อฝูกับพรรคพวกขึ้นไปที่ชั้นสอง แล้วพาหม่าเต๋อฝูกับพ่อบ้านชราไปที่ประตูห้องของหลงเทียนสิง “โปรดรอสักครู่ ผมจะเข้าไปแจ้งเจ้าของก่อน”
หลงเทียนสิงกำลังนั่งสมาธิอยู่บนฟูก หลังจากที่ชายหนุ่มเข้ามาในห้อง เขาก็เดินเบา ๆ ไปที่ด้านข้างของหลงเทียนสิง และกล่าวว่า “เจ้าของ มีคนมาเยี่ยมเยียน มีผู้ติดตามมากมาย ไม่ทราบจุดหมายที่มา”
ค่อยๆลืมตาขึ้น หลงเทียนสิงขยับคอไปมา ทำให้ได้ยินเสียงกระดูกส่วนคอ
“พาเข้ามาเถอะ”
“ครับ”
ชายหนุ่มรีบออกจากห้อง พาหม่าเต๋อฝูกับพ่อบ้านชราเข้ามาในห้อง
หลังจากที่หม่าเต๋อฝูเข้ามาข้างในเขาเริ่มมองหลงเทียนสิง เห็นดวงตาที่เปล่งประกายของหลงเทียนสิง เห็นกล้ามเนื้อทั่วร่างกาย บุคลิกดูน่ากลัว ทันใดนั้นคาดหวังบางอย่างก็เกิดขึ้นในใจ
“ได้ยินมาว่าคุณหลงเป็นปรมาจารย์แห่งบู๊ ดังนั้นผมจึงอยากมาดูความสามารถที่แท้จริงคุณหลง”
หม่าเต๋อฝูกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ไม่ใช่ว่าจะแสดงความสามารถให้ใครได้เห็นง่าย ๆ”
หลงเทียนสิงกล่าวด้วยเสียงราบเรียบ
“ถ้าคุณหลงมีความสามารถจริง และสามารถช่วยผมฆ่าคนคนหนึ่ง เงินไม่ใช่ปัญหาแน่นอน”
หม่าเต๋อฝูกล่าวด้วยความโกรธแค้น
หลงเทียนสิงเริ่มสนใจทันที และกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง ไม่มีใครในโลกนี้ที่ผมหลงเทียนสิงไม่สามารถฆ่าได้ ดังนั้นผมจะแสดงให้คุณเห็นถึงความสามารถที่แท้จริงของผม”
การลืมตาพูดโกหกไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับหลงเทียนสิง ขอแค่สามารถหาเงินได้ หลงเทียนสิงยินดีที่จะพูดโกหกไปตลอดชีวิต
หลงเทียนสิงชี้ไปที่ก้อนหินข้างผนังห้องด้วยรอยยิ้ม “พวกคุณดูพื้นผิวของหินก้อนนี้ สักครู่ผมจะใช้พลังหนึ่งฝ่ามือก็สามารถบดหินก้อนนี้ให้ละเอียดได้”
หม่าเต๋อฝูและพ่อบ้านชราตะลึงไปชั่วครู่ ชั่วพริบตาเดียวในสมองก็ปรากฏภาพนักตุ้มตุ๋นในยุทธจักร การใช้หน้าอกกระแทกให้ก้อนหินแตก และการแทงที่คอหอยด้วยหอกเหล็ก ล้วนเป็นกลอุบายทั่วไปที่นักต้มตุ๋นมักใช้หลอกคน
ทั้งสองมองหน้ากัน เดินไปที่ข้างก้อนหินด้วยกัน มองดูหินแล้วเคาะ รู้สึกว่าเป็นก้อนหินที่แข็งจริงๆ
“หนึ่งฝ่ามือ ก้อนหินแตกละเอียด?”
หม่าเต๋อฝูถามอีกครั้ง
หลงเทียนสิงยิ้มและพยักหน้า “รับรองว่าหินละเอียดด้วยฝ่ามือเดียว คุณสามารถให้คนของคุณมาทดสอบดูว่าหินมีปัญหาหรือไม่”
หม่าเต๋อฝูขยิบตาให้พ่อบ้านชรา จากนั้นพ่อบ้านชราก็พาบอดี้การ์ดที่แข็งแกร่งที่สุด ให้บอดี้การ์ดเตะต่อยก้อนหิน
บอดี้การ์ดรวบรวมพละกำลัง กระแทกหินอย่างแรงแล้วเตะมันสองสามครั้ง จากนั้นจับแขนแล้วสูดลมหายใจแล้วกล่าวว่า “นี่เป็นหินจริงๆ มันแข็งมาก ๆ”
หม่าเต๋อฝูพยักหน้า “ดูเหมือนว่ามันจะเป็นก้อนหินที่แข็งจริงๆ งั้นรบกวนคุณหลงแสดงให้ดู”
หลงเทียนสิงก็ไม่โอ้อวด ก้าวเดินไปที่ก้อนหิน กดฝ่ามือลงบนก้อนหินเบา ๆ
ก้อนหินมีเสียงแตก ชั่วพริบตาก้อนหินก็เต็มไปด้วยรอยร้าวเล็กๆ จากนั้นก็เกิดเสียงดัง และแตกออกเป็นชิ้นๆ นับไม่ถ้วน
หม่าเต๋อฝูและคนอื่น ๆ จ้องมองจนลูกตาแทบถลนออกมา
“เป็นยังไงบ้าง กังฟูของผมสามารถพูดได้ว่าดีที่สุดในโลก ไม่รู้ว่าพวกคุณต้องการฆ่าใคร แค่มีที่อยู่ที่ชัดเจน ผมจะทำให้เขาไม่มีโอกาสเห็นดวงอาทิตย์ในวันพรุ่งนี้”
หลงเทียนสิงกล่าวด้วยท่าทางที่มั่นใจ
หม่าเต๋อฝูเชื่ออย่างสมบูรณ์ว่าหลงเทียนสิงเป็นยอดฝีมือ ใช้สองมือคารวะและกล่าวว่า “คุณหลงเก่งมาก พวกเรามานั่งคุยรายละเอียดกันดีกว่า”