กู้ซิงเว๋ยเดินไปอย่างรวดเร็ว โดยพาพี่ซานและนักมวยของเขาไปที่บริษัท
“พี่ซาน เสร็จงานแล้วผมจะเลี้ยงอาหารมื้อดึก พวกเราไปกินบาร์บีคิวซีฟู้ดให้สนุกเต็มที่กันไปเลย”
กู้ซิงเว๋ยกล่าวอย่างตื่นเต้น
ขอแค่สามารถบดขยี้ไอ้เศษสวะหลี่โม่ลงบนพื้นได้ มันก็คุ้มค่าสำหรับการดื่มฉลองตลอดทั้งคืน เพื่อปลดปล่อยอารมณ์อัดอั้นตันใจในช่วงที่ผ่านมา
คราวที่แล้วพ่ายแพ้ให้หลี่โม่ ทำให้กู้ซิงเว๋ยรู้สึกอัดอั้นตันใจเป็นอย่างมาก แม้แต่ในความฝันก็อยากจะเหยียบหลี่โม่ไว้ใต้ฝ่าเท้าของตนเอง
“โอเค คุณวางใจเถอะ จะทุบตีจนมันไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้อีก ต้องนอนอยู่บนเตียงตลอดเหมือนสุนัขที่ตายไปแล้ว”
พี่ซานรู้สึกดูถูกหลี่โม่ รู้สึกว่าอย่างมากสุดเขาก็เป็นแค่นักต่อสู้คนปลายแถว น่าจะเป็นคนที่เก่งแต่โม้เท่านั้น
กู้ซิงเว๋ยพาพี่ซานและพรรคพวกไปที่ประตูห้องทำงานของกู้หยุนหลันและกระซิบว่า “พี่ซาน คือที่นี่แหละ ผมไม่สะดวกจะปรากฏตัว ผมจะรออยู่ข้าง ๆ”
หลังจากกล่าวจบกู้ซิงเว๋ยก็ไปแอบอยู่ที่สำนักงานข้าง ๆ เพื่อรอดูผลงาน
พี่ซานทำสัญญาลักษณ์มือให้ลูกน้อง จากนั้นลูกน้องก็ใช้เท้าถีบประตูสำนักงาน
“โอ้ พี่ซาน ยังมีสวัสดิการยามดึกอีก ที่นี่มีสาวสวยอยู่คนหนึ่ง”
ลูกน้องจ้องมองไปที่กู้หยุนหลัน จนน้ำลายเกือบจะไหลออกมา
พี่ซานเดินเข้าไปในห้องทำงาน เหลือบมองหลี่โม่ซึ่งนั่งอยู่ตรงมุมห้อง แล้วมองสำรวจกู้หยุนหลันตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าอย่างเร่าร้อน
“เชี่ย! สุดยอดจริง ๆ คนสวยคุณสนใจที่จะไปเที่ยวกับพวกพี่ไหม พี่สัญญาว่าจะทำให้น้องสนุกสุดเหวี่ยง ซึ่งไอ้ขยะไร้ประโยชน์นั้นไม่สามารถเทียบได้อย่างแน่นอน”
กู้หยุนหลันขมวดคิ้วจนเป็นปม มองพี่ซานที่บุกรุกเข้ามาด้วยสายตาที่เย็นชา
“คุณเป็นใคร? เชิญพวกคุณออกไป มิเช่นนั้น ฉันจะแจ้งตำรวจสายตรวจ”
ลูกน้องของพี่ซานต่างหัวเราะ ราวกับว่าพวกเขากำลังฟังเรื่องตลกขบขัน
“ฮ่า ๆ แม่งฉิบหายจะแจ้งตำรวนสายตรวจหรือ คืนนี้คุณต้องไปกับพี่ซานของเรา จะเรียกราชาสวรรค์มาก็ไม่มีประโยชน์”
“พวกเราจะไม่ออกไปไหน หากคุณไม่ให้ความร่วมมือ พี่ซานของเราจะจัดการคุณตรงนี้ทันที ให้คุณได้รู้ว่าเล่นสนุกอยู่ในสำนักงานมันตื่นเต้นแค่ไหน”
“คนสวย ขอแนะนำว่าให้คุณไปอยู่กับพี่ซานเถอะ มันจะทำให้คุณอยู่ดีกินดี มีชีวิตสุขสบายอย่างแน่นอน”
ลูกน้องของพี่ซานพูดพล่ามไม่หยุด สายตาพวกเขาจ้องมองกู้หยุนหลันอยู่ตลอดเวลา โดยไม่เห็นหลี่โม่อยู่ในสายตาเลย
สีหน้าของกู้หยุนหลันซีดด้วยความโกรธ จนแทบอยากจะโยนพี่ซานและคนอื่น ๆ ออกไป
หลี่โม่ลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวว่า “ไสหัวออกไป”
“เชี่ยแม่งเอ๊ย ไอ้สารเลวในที่สุดก็เปิดเผยตัวตนออกมาแล้ว”
“กล้าบอกให้พวกเราไสหัวออกไป แม่งฉิบหายแกอยากรนหาที่ตายใช่ไหม วันนี้พวกกูจะสั่งสอนให้มึงเป็นคนดี”
“พี่ซาน ให้พวกเราสั่งสอนไอ้คนไร้ประโยชน์นี่ก่อน ส่วนพี่ก็คุยกับสาวสวยไปก่อน”
ลูกน้องนักมวยของพี่ซานหลายคนสะบัดข้อมือ ยิ้มด้วยใบหน้าที่แสดงความชั่วร้าย ค่อย ๆ เดินเข้าไปหาหลี่โม่
หลี่โม่สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และเดินไปหานักมวยอย่างรวดเร็ว “ในเมื่อพวกแกอยากรนหาที่ตาย ผมก็ไม่รังเกียจที่จะส่งพวกแกไปลงนรก”
“เชี่ย! คิดว่าตนเองเป็นคนเก่งจริง ๆ เหรอ พวกกูล้วนเป็นยอดฝีมือ แค่หมัดเดียวก็ทำสามารถทำให้แกร้องไห้เรียกหาพ่อแม่แล้ว”
ขณะที่นักมวยที่ยืนอยู่ข้างหน้ากำลังพูดโอ้อวด หลี่โม่ก็ชกไปที่ใบหน้าของเขาแล้ว
ผลัวะ!
หมัดกระทบโหนกแก้มของนักมวย ได้ยินเสียงแตกหักดังมาจากโหนกแก้ม จากนั้นใบหน้าของนักมวยก็ยุบ ดูแล้วน่าอนาถทีเดียว
“โอ๊ย!”
นักมวยส่งเสียงร้องอย่างอนาถ จากนั้นก็หงายหลังล้มลงบนพื้น
นักมวยคนอื่น ๆ มองดูสภาพที่น่าสังเวชของนักมวยที่ล้มลง พวกเขาทั้งหมดสั่นสะท้าน รู้ว่าคราวนี้เจอตอ จะประมาทไม่ได้แล้ว
“ไอ้หมอนี่มันลงมือโหดเหี้ยมจริง ๆ พวกเราทุกคนต้องระวังให้ดี”
นักมวยคนหนึ่งตะโกน เริ่มถอยฝีเท้า มือทั้งสองตั้งท่าป้องกันไว้ข้างหน้าอย่างระมัดระวัง
นักมวยที่อารมณ์ร้อน ตะโกนแล้วพุ่งเข้าไปหาหลี่โม่ จากนั้นหมุนตัวทะยานใช้เท้าถีบไปที่ลำคอของหลี่โม่
เนื่องจากความเร็ว และกำลังมหาศาล ลูกเตะที่เตะออกนี้ ทำให้เกิดเสียงระเบิดขึ้นในอากาศเกิด
บูม!
หลี่โม่ใช้มือขวาตั้งรับลูกเตะที่ทะยานมา จากนั้นใช้ฝ่ามือจับไปที่น่องของนักมวยไว้แน่น
นักมวยรู้สึกตกใจ พยายามดึงขากลับอย่างสุดแรง แต่มันสายเกินไปเสียแล้ว
หลี่โม่จับน่องนักมวยที่คว้าได้เมื่อสักครู่ ออกแรงเหวี่ยงนักมวยขึ้นไปในอากาศเหมือนไม้สวิง จากนั้นใช้ร่างของนักมวยคนนี้เหวี่ยงสวิงไปที่นักมวยคนอื่น ๆ
นักมวยที่เหลือทั้งหมดตื่นตระหนกและหวาดกลัวจนสุดขีด มุมมองที่มีต่อหลี่โม่เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
นี่ไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน คนธรรมดาไม่มีทางเก่งได้ขนาดนี้ ในสมองของพวกเขาคิดว่าหลี่โม่สามารถฆ่าพวกเขาได้ในไม่กี่วินาที
พี่ซานหรี่มองการเคลื่อนไหวของหลี่โม่ คิดวิเคราะห์ความเร็ว พลังระเบิด และระดับความสามารถของหลี่โม่
ขณะนี้ สมองของพี่ซานเปรียบเสมือนคอมพิวเตอร์ความเร็วสูง ที่ทำการคำนวณอย่างบ้าคลั่ง
ด้วยประสบการณ์ในการต่อสู้มามากมาย ทำให้พี่ซานสามารถเข้าใจความสามารถของหลี่โม่ได้อย่างรวดเร็ว
ตามความเข้าใจ พี่ซานได้สร้างแบบจำลองที่เรียบง่ายในใจ รู้สึกว่าโดยพื้นฐานหรือว่าความ เร็วตนเองอยู่ในระดับเดียวกับหลี่โม่
แต่ว่าพี่ซานรู้สึกว่าเขามีประสบการณ์การต่อสู้มากกว่าหลี่โม่ ด้วยประสบการณ์เหล่านี้ทำให้เขามั่นใจว่าจะสามารถชนะหลี่โม่ได้แน่
“น่าสนใจนะ ทุกคนหลีกไป ฉันจะลงมือจัดการเอง”
พี่ซานหรี่ตาแล้วกล่าว
เมื่อได้ยินคำพูดของพี่ซาน นักมวยที่หลบอยู่รอบ ๆถึงรู้สึกมีที่พึ่ง จากนั้นพวกเขาก็เดินออกจากออฟฟิศไปทีละคน แล้วไปยืนอยู่นอกประตูมองหลี่โม่ด้วยความกลัว
ใครจะคิดว่าไอ้สัตว์ประหลาดนี้จะดุร้ายขนาดนี้ พวกนักมวยยิ่งคิดก็รู้ยิ่งรู้สึกหวาดกลัวมากยิ่งขึ้น ทุกคนรู้สึกว่าถ้าไม่มีพี่ซานก้าวออกมา พวกเขาเกรงว่าตนเองจะยืนหยัดได้ไม่เกิน 30 วินาที
หลี่โม่เหวี่ยงนักมวยที่อยู่ในมือออกไป มองพี่ซานที่อยู่ไม่ไกลด้วยรอยยิ้ม
“แกเป็นหัวหน้าของพวกเขา? ใครให้พวกแกมาก่อกวนที่นี่”
“ฮา ๆ อยากรู้เหรอ? อยากรู้ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของแก ถ้าแกสามารถเอาชนะฉันได้ แกถามอะไรฉันก็จะตอบหมด”
นักมวยที่ยืนอยู่นอกประตูรู้สึกว่าการกระทำเมื่อสักครู่ของพวกเขาน่าขายหน้ามาก ตอนนี้พวกเขาจึงเชียร์พี่ซาน หวังว่าพี่ซานจะสามารถเอาชนะหลี่โม่ได้
“พี่ซาน ฆ่ามันซะ ไอ้หมอนี่มันหยิ่งยโสมาก จัดการแล้วให้มันเรียกพวกเราว่าปู่”
“คราวนี้มันทำให้พวกเราเสียหน้า ต้องพึ่งพี่ซานล้างแค้นให้พวกเราด้วย”
พี่ซานมองพวกลูกน้องแวบหนึ่ง ใบหน้าเต็มไปด้วยความหงุดหงิด “คนไร้ประโยชน์อย่างพวกแกยังมีหน้ามาพูดอีก สู้ไม่ไหวก็ต้องยอมรับ อย่ามาส่งเสียงเอะอะมะเทิ่งที่นี่ มิเช่นนั้น ฉันจะจัดการพวกแกก่อน”
พวกนักมวยหุบปากทันที รู้ว่าพี่ซานอารมณ์ไม่ดี ถ้ายังพูดพล่ามต่อไป คงจะถูกพี่ซานจัดการจริง ๆ
พี่ซานโบกมือ และอุ่นร่างกายสักครู่ “เข้ามาเลย!”