คำพูดของหลี่โม่ทำให้กู้เจี้ยนกั๋วสำลักจนแทบหายใจไม่ออก หากจะทำการตรวจสอบเรื่องนี้จริง ๆ จะทำให้กู้ซิงเว๋ยลำบากแน่นอน และหลี่โม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้เลย
“คุณมันบ้าไปแล้ว ต่อไปคุณจะต้องทนทุกข์ กู้หยุนหลันคุณควรดูแลสามีไร้ไร้ประโยชน์ของคุณให้ดี ๆ มิเช่นนั้นในอนาคตมันจะทำให้เกิดเรื่องหายนะอย่างแน่นอน!”
กู้เจี้ยนกั๋วด่าไปสองประโยค ก้มศีรษะและเดินออกไปอย่างหัวเสีย ในสมองคิดว่าจะล้างแค้นให้ลูกชายตนเองอย่างไรดี
กลับมาถึงห้องทำงาน ขณะที่กู้เจี้ยนกั๋วอับจนหนทางคิดอะไรไม่ออก เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
เมื่อดูหมายเลข 5 หลักที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์ กู้เจี้ยนกั๋วคิดว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นโทรมา ดังนั้นเขาจึงกดปุ่มวางสายทันที
หลังจากกดวางสายไม่กี่วินาที หมายเลขนั้นก็โทรมาอีก
กู้เจี้ยนกั๋วยังคงกดวางสายอีก แต่หมายเลขนั้นยังคงโทรมาอีก ดูเหมือนว่าถ้ากู้เจี้ยนกั๋วไม่รับสาย เขาก็จะโทรมาเรื่อย ๆ
กู้เจี้ยนกั๋วลูบหน้าผาก แล้วกดรับโทรศัพท์อย่างหงุดหงิด “ฮาโหล? ไม่ทำประกัน ไม่ต้องการสินค้า และไม่ต้องการซื้อของทุกประเภท!”
“ผมไม่ได้โทรมาขายของ รบกวนถามว่า คุณคือกู้เจี้ยนกั๋วใช่ไหม”
เสียงที่ดังออกมาจากโทรศัพท์เป็นเสียงชายที่สุขุม ฟังแล้วให้ความรู้สึกเหมือนสนิทชิดเชื้อกัน
กู้เจี้ยนกั๋วตะลึงสักครู่ และกล่าวด้วยเสียงเยาะเย้ยว่า “ยังมีหน้ามาบอกว่าไม่ได้ขายของ คุณซื้อข้อมูลของฉันมาจากที่ไหน คุณไปหลอกคนอื่นเถอะ”
“คุณกู้ ถ้าหากผมเป็นคุณ จะสงบสติอารมณ์และฟังสายนี้ให้จบ เพราะโทรศัพท์ครั้งนี้อาจเกี่ยวข้องกับความสุขในอนาคตของคุณและตระกูลของคุณ”
“คุณหมายความว่ายังไง? คุณเป็นใคร? ถ้าคุณยังไม่บอกจุดประสงค์ผมจะวางสายล่ะ”
กู้เจี้ยนกั๋วเกิดความหวาดกลัวอยู่ในใจอย่างอธิบายไม่ถูก
“คุณจะรู้ว่าผมเป็นใครในไม่ช้านี้ ผมเป็นคนที่ต้องการจัดการกับหลี่โม่ ผมอยากจะร่วมมือกับคุณกู้จริง ๆ”
ดวงตาของกู้เจี้ยนกั๋วเป็นประกาย ศัตรูของศัตรูก็คือเพื่อน คนที่โทรศัพท์มาต้องการจัดการหลี่โม่ งั้นก็เป็นพันธมิตรของตนเองโดยปริยาย
“เอ่อ เป็นอย่างนี้นี่เอง ถ้าอย่างนั้นผมอยากเจอหน้าคุณ พวกเรามานั่งคุยกันดี ๆ”
กู้เจี้ยนกั๋วส่งคำเชิญ
“ผมมีความตั้งใจเช่นนี้เหมือนกัน เจอกันคืนนี้เวลา 20.00 น.ที่ห้องหมายเลขหนึ่ง ของคลับชายหาดทอง ”
“ไม่มีปัญหา คืนนี้เจอกันเวลา 20.00 น.”
กู้เจี้ยนกั๋ววางสาย เคาะนิ้วลงบนโต๊ะ สงสัยว่าอีกฝ่ายจะเป็นใคร กู้เจี้ยนกั๋วครุ่นคิดอยู่นาน แต่ก็ไม่สามารถรู้ตัวตนของอีกฝ่ายได้
“ดูเหมือนว่าจะรู้ได้ก็ต่อเมื่อได้เจอกัน หวังว่าอีกฝ่ายจะมีกำลังเพียงพอที่จะจัดการหลี่โม่ เพราะฉันอดทนหลี่โม่มามากพอแล้ว!”
……
ในโรงพยาบาลเอกชนที่ดีที่สุดในเมืองฮ่าน ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ชั้นนำของเมืองฮ่านหลายคน กำลังทำการวินิจฉัยรักษาท่านแปด
หลังจากกินยาเม็ดตามจิตวิญญาณทำให้ท่านแปดรู้สึกตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก และหลังจากออกจากโรงงานร้าง เขาก็ตรงไปที่โรงพยาบาลที่ดีที่สุดทันที
โดยได้รับการตรวจร่างกายทุกอย่าง ขณะนี้ท่านแปดกำลังรอผลการตรวจอย่างใจจดใจจ่อ
ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์สามคนนั่งตรงข้ามกับท่านแปด ทุกคนต่างยิ้มแย้มเพื่อบรรเทาอารมณ์ของท่านแปด
“ท่านแปด คุณไม่จำเป็นต้องกังวล ตอนนี้เทคโนโลยีก้าวหน้ามาก ปัญหาส่วนใหญ่สามารถแก้ไขได้ และจากการตรวจร่างกาย สภาพร่างกายในปัจจุบันของคุณดีมาก ยกเว้นอาการบาดเจ็บที่ขาของคุณ ก็ไม่พบปัญหาอะไรอีก”
“นั่นมันยาพิษเรื้อรัง มันไม่ออกฤทธิ์ทันที พวกคุณไม่เข้าใจสิ่งนี้”
ท่านแปดกล่าวอย่างขมขื่น
ตำนานเรื่องยาเม็ดตามจิตวิญญาณท่านแปดเคยได้มาไม่น้อย ยานี้เป็นของสำนักหลงเหมินที่ใครได้ยินก็จะกลัวจนหน้าเปลี่ยนสีทันที แต่ท่านแปดไม่เคยคิดฝันว่า ตนเองจะได้สัมผัสใกล้ชิดกับสิ่งที่น่ากลัวเช่นนี้
ถ้าไม่ใช่เพราะความอยากรู้อยากเห็น คงไม่เป็นเช่นนี้ ท่านแปดรู้สึกหดหู่ใจเป็นอย่างยิ่ง และหันไปมองผู้คุ้มกันที่อยู่ข้าง ๆอย่างเฉื่อยชา“ เหลียงยู่เป็นยังไงบ้าง? ”
“กำลังอยู่ในระหว่างการผ่าตัด อาการบาดเจ็บภายในรุนแรงมาก ม้ามและตับแตก มีอาการช็อกเพราะเสียเลือดมาก และตอนนี้แพทย์ได้ทำการถ่ายเลือดไปมากกว่า3,000 มิลลิลิตรแล้ว”
ทั้งม้ามและตับเป็นอวัยวะภายในที่มีการไหลเวียนโลหิต เมื่อได้รับความเสียหายจะมีเลือดออกภายในเป็นจำนวนมาก หากม้ามและตับแตก เลือดออกภายในจะรุนแรงมากยิ่งขึ้น
เหลียงยู่เป็นยอดฝีมือที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี ถูกหลี่โม่เตะแค่ครั้งเดียวแต่ทำให้อวัยวะภายในแตก ท่านแปดอดคิดไม่ได้ที่ตนเองโชคดีแค่ไหนที่ไม่ถูกหลี่โม่ทำร้าย
ถ้าตนเองถูกหลี่โม่เตะ ท่านแปดคิดว่าตนเองอาจจะเสียชีวิตก่อนมาถึงโรงพยาบาล
“แม่งฉิบหาย ความอยากรู้อยากเห็นทำให้คนหายนะได้”
ท่านแปดกล่าวอย่างหงุดหงิด
“ผลตรวจออกมาแล้ว”
พยาบาลกลับมาพร้อมกับผลตรวจมากมาย นอกจากการทดสอบในห้องปฏิบัติการต่าง ๆ แล้ว ยังมีภาพ MRI และ CT อีกด้วย
ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์สามคน เริ่มดูผลตรวจของท่านแปดอย่างละเอียด
มองค่าตัวเลขบนแผ่นตรวจ ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ทั้งสามก็ขมวดคิ้วจนแน่น หลังจากพึมพำสองสามประโยค ทั้งสามก็ส่ายศีรษะพร้อมกัน
ท่านแปดมองดูการแสดงออกของผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ทั้งสาม ทำให้หัวใจของเขาก็ตกลงสู่ก้นบึ้งทันที
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่ พวกคุณช่วยอธิบายอย่างละเอียดหน่อย”
ท่านแปดถามด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม
“คือพวกเรายังไม่เห็นผลการตรวจที่ประหลาดอย่างนี้มาก่อน จากค่าตัวเลขบนแผ่นตรวจก็อาจจะเป็นพิษเรื้อรังอย่างที่คุณบอก แต่เราไม่รู้ว่ามันคือพิษชนิดใด ผลที่ได้มันแตกต่างจากผลการทดสอบพิษทุกชนิด”
ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ทั้งสามคนมีประสบการณ์และความรู้ที่กว้างขวาง แต่เคสของท่านแปดพวกเขาเพิ่งเจอเป็นครั้งแรก และพวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะต้องรักษาอย่างไร
“มีวิธีรักษาไหม? หรือว่าวิธีชะลอไม่ให้พิษกำเริบได้”
“เรื่องนี้ พวกเราต้องทดลอง พวกเราจะทำการทดลองค้นคว้าวิธีการรักษา เรื่องผลลัพธ์มันพูดยากจริง ๆ ถ้าคุณมีเวลา ทางที่ดีไปตรวจที่ต่างประเทศจะดีกว่า”
ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์สามคนต่างแนะนำให้ท่าแปดเดินทางไปตรวจรักษาที่ต่างประเทศโดยตรง ถ้าพวกเขารักษาให้ท่านแปดแล้วผลที่ได้ไม่เป็นที่พอใจ พวกเขาเกรงว่าหัวอาจหลุดจากบ่าได้ตลอดเวลา
ท่านแปดมีสีหน้าขมขื่น โบกมือแล้วกล่าวว่า “ช่างมันเถอะ พวกคุณไม่จำเป็นต้องรักษาผมแล้ว พวกคุณไปเถอะ”
ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ทั้งสามรู้สึกโล่งอก รีบเดินออกไปอย่างตื่นตระหนก
ผู้ช่วยเดินมาหาท่านแปดและกระซิบว่า “ท่านแปด เพิ่งได้รับข่าวว่าจางเต๋ออู่ เป็นพ่อบ้านที่ราชินีของสำนักหลงเหมินโปรดปรานที่สุดมาถึงเมืองฮ่านแล้ว”
“จางเต๋ออู่? ไอ้หมดนี้มันร้ายกาจมาก ถ้าเขาจะขอพบฉัน ก็บอกเขาจะว่าฉันป่วย ขาเดินไม่สะดวกยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล”
“ครับ หรือคุณพักอยู่ในห้องผู้ป่วยในโรงพยาบาลก่อนดีไหมครับ? ถ้าจะเล่นละครก็เล่นให้ครบชุดไปเลย”
ผู้ช่วยได้เสนอแนะ
ท่านแปดลังเลอยู่ครู่หนึ่ง พยักหน้าและกล่าวว่า “งั้นก็จัดการตามนั้น ฝั่งเหลียงยู่จะต้องทำทุกวิถีทางที่จะช่วยชีวิตเธอไว้ แล้วช่วงนี้สามารถระดมยอดฝีมือมาได้ไหม?”
“ตอนนี้ยังไม่สามารถระดมยอดฝีมือได้ เนื่องจากราชินีของสำนักหลงเหมินมาเมืองฮ่าน จึงได้ระดมกำลังคนไปจำนวนมาก อีกด้านหนึ่งคือช่วงนี้สถานการณ์ข้างนอกไม่สงบ ปู่ใหญ่กับปู่รองก็ได้ระดมคนไปแล้ว”
“ปีที่เกิดเรื่องมากมาย เกรงว่าเมืองฮ่านจะเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยอันตราย”