กู้หยุนหลันติดตามอยู่ด้านข้างซินแสจาง อยู่ภายใต้การห้อมล้อมของลูกศิษย์กลุ่มหนึ่งไปทางสถานที่ก่อสร้าง
หมิงเต๋อพาลูกศิษย์หกคนรั้งอยู่ จ้องเขม็งมองหลี่โม่อย่างดุร้าย มองหลี่โม่เป็นปัจจัยความไม่แน่นอน
กู้เจี้ยนกั๋วและกู้เจี้ยนเจียงกับคนอื่นๆเห็นซินแสจางไม่ได้โกรธ ถึงได้ถอนหายใจครั้งหนึ่ง
“แกคนไร้ประโยชน์คนนี้ เมื่อครู่เอ็นเส้นไหนกระตุกกัน? นั่นคือซินแสจาง นายยังกล้าพูดจาหยาบคาย คิดจะทำให้ซินแสจางโกรธแล้วทำลายฮวงจุ้ยของตระกูลของพวกเราหรือไง!”
กู้เจี้ยนกั๋วตำหนิหลี่โม่อย่างโมโห
หลี่โม่ไม่ได้สนใจกู้เจี้ยนกั๋ว แต่ว่าหนี่ตาลงมองไปทางซินแสจากและคนอื่นๆที่จากไปไกล มักจะรู้สึกว่าในใจไม่สงบเล็กน้อย ราวกับว่ากำลังจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น
เห็นว่าหลี่โม่ไม่สนใจตนเอง กู้เจี้ยนกั๋วก็อับอายจนกลายเป็นโกรธ คิดว่านี่หลี่โม่กำลังให้ตนเองเสียหน้าต่อผู้คนมากมาย ดังนั้นจึงผลักหลี่โม่แรงๆครั้งหนึ่ง
“พูดกับนายอยู่นะ! แกล้งทำเป็นหูหนวกอะไร! ซินแสจางจิตใจกว้างขวางปล่อยนายไป แต่ว่าในใจนายก็ไม่มีขอบเขตสักนิดหรือไง รีบขอโทษอาจารย์หมิงเต๋อเร็วเข้า”
หมิงเต๋อทั้งสองมือกุมอยู่ด้านหน้าลำตัว มองหลี่โม่คล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “เหอะๆ เจ้าเด็กนี่ดูไปแล้วเป็นคนหัวแข็ง แต่ว่าตอนนี้ไม่จำเป็นต้องจัดการเขา รอให้อาจารย์มีความสุขแล้ว แน่นอนว่าก็ต้องกลับมาจัดการกับเข้าขยะนี่แน่นอน”
“ที่นายพูดหมายความว่ายังไง?”
หลี่โม่มองไปทางหมิงเต๋อ ในสายตาปรากฏแรงสังหาร
“เหอๆ หมายความว่าอะไรพูดให้นายฟังนายก็ไม่เข้าใจ รอจนถึงพรุ่งนี้นายก็ได้รู้แล้ว คาดว่าสามารถทำให้นายแปลกใจมากแน่ ฮ่าๆ”
หมิงเต๋อหัวเราะอย่างบ้าคลั่งขึ้นมา
กู้หยุนหลันและซินแสจางยังเดินข้างกัน ทั้งสองคนเว้นระยะห่างอยู่สองเมตร
สายตาของซินแสจางล่องลอยไปยังร่างของกู้หยุนหลันไม่หยุด เกาะติดอยู่ที่ร่างของกู้หยุนหลันไม่ห่าง ระยะห่างระหว่างทั้งสองคนในไม่ช้าก็เปลี่ยนมาเป็นหนึ่งเมตร จากหนึ่งเมตรเปลี่ยนมาเป็นครึ่งเมตร
ติดตามซินแสจางใกล้ชิดมากขึ้น จิตใจของกู้หยุนหลันยิ่งเคร่งเครียด
“ซินแสจาง คุณไม่ใช่ดูฮวงจุ้ยหรือ ทำไมไม่ใช้เข็มทิศดูสักหน่อยล่ะ?”
กู้หยุนหลันเอ่ยอย่างเคร่งเครียด
“เหอๆ ชายชรามาถึงระดับที่นับนิ้วคำนวณดวงอาทิตย์แล้ว ไม่ต้องการของแปลกปลอมอย่างเข็มทิศนั้นแม้แต่น้อย ไม่ทราบว่าคุณกู้มีความคิดอะไรกับการคงความอ่อนเยาว์? ชายชรามีการฝึกกำลังชุดหนึ่ง หลังจากฝึกฝนแล้วสามารถรักษาความอ่อนเยาว์ของคุณใบหน้าไม่แก่”
ซินแสจางใช้คำพูดที่ใช้ประจำในการพูดคุยกับหญิงสาว ไม่มีผู้หญิงคนไหนอยากแก่ ใบหน้าอ่อนเยาว์เป็นสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนใฝ่ฝันหา
ในอดีตพอพูดถึงหัวข้อนี้ ล้วนสามารถกระตุ้นความสนใจของผู้หญิงอย่างมาก ซินแสจางโยนเอาคำโบราณประโยคหนึ่งมาโบกไหวเล็กน้อย ก็สามารถสั่นไหวความกระตือรือร้นของผู้หญิงได้ ถึงตอนท้ายที่สุดสามารถสั่นไหวจนพวกผู้หญิงร้องไห้ไปตะโกนไปว่าต้องการฝึกบำเพ็ญคู่
“ใบหน้าคงความอ่อนเยาว์? นั่นเป็นไปไม่ได้ ไม่มีใครที่จะไม่แก่ลง”
กู้หยุนหลันส่ายหน้าตอบ
“ใบหน้าคงความอ่อนเยาว์เป็นเพียงแค่การเปรียบเทียบ ความหมายคือขอเพียงหลังจากเธอบำเพ็ญร่วมกับฉันแล้ว รับรองได้ว่าความเร็วในการแก่ตัวลงของเธอจะช้ามาก จนถึงตอนเธออายุหกสิบปี รูปโฉมมองดูแล้วก็เพียงแค่ดูมากกว่าตอนนี้สิบกว่าปีเท่านั้น”
กู้หยุนหลันครั้งนี้กลับมีความเชื่อถือขึ้นมาเล็กน้อย เรื่องเล่าประเภทนี้นั้นพอจะเคยได้ยินมาบ้าง
“ไม่ทราบว่าวิธีการฝึกฝนที่ซินแสจางพูดมานั้นเป็นอย่างไร? ต้องทำอย่างไรถึงจะสามารถเรียนได้หรือ?”
เห็นว่ากู้หยุนหลันใจสั่น ซินแสจางในใจแอบยินดี “วิธีการฝึกเป็นวิธีลับที่ถ่ายทอดในสำนักของฉัน เพียงแค่คุณกลายมาเป็นลูกศิษย์ของฉัน ติดตามอยู่ข้างกายฉันอย่างยินยอมพร้อมใจ ฉันก็สามารถถ่ายทอดให้กับคุณได้ อีกทั้งยังสามารถชี้แนะคุณได้”
“แบบนั้นคงไม่ได้ ฉันยังต้องยุ่งเรื่องในครอบครัวอีก”
กู้หยุนหลันส่ายหัวเอ่ยตอบ
ซินแสจางขมวดคิ้วเล็กน้อย ถ้าเป็นเมื่อก่อนพูดมาถึงขั้นนี้ ผู้หญิงทั่วไปล้วนจะต้องร้องขอที่จะเป็นศิษย์ในนาม
“ไม่มีทางทำให้เรื่องของคุณเสียเวลา กลายเป็นลูกศิษย์ในนามของฉัน คืนนี้ฉันก็สามารถถ่ายทอดวิชาลับให้คุณได้ หลังจากนั้นต่อไปคุณก็สามารถฝึกฝนอยู่ในบ้านได้”
ซินแสจางเอ่ยด้วยสายตาพราวระยับ
กู้หยุนหลันครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากธรรมชาติที่รักความงามของผู้หญิง สำหรับวิธีการพูดของซินแสจางทำให้เกิดความสนใจเล็กน้อย
“การฝึกคงไม่มีอันตรายหรอกนะ? ได้ยินว่ามีคนมากมายฝึกจนมีปัญหา”
กู้หยุนหลันเอ่ยอย่างยุ่งเหยิง
“ฮ่าๆ นั่นคือคนที่ไม่ได้ฝึกฝนตามอาจารย์ที่มีชื่อ ฝึกฝนกับฉันไม่มีทางมีเหตุการณ์แบบนั้นแน่ หลังจากอาหารเย็นคุณตามฉันไปที่ห้องฝึกก็พอแล้ว ก็นับว่าเป็นวาสนาระหว่างฉันกับคุณ”
ซินแสจางเห็นว่ากู้หยุนหลันค่อนข้างระมัดระวัง ดังนั้นจึงลดเงื่อนไขลง ขอเพียงล่อลวงกู้หยุนหลันมาที่ห้องของตนเองก็พอแล้ว หลังจากเข้าไปในห้อง ทุกอย่างก็ไม่ขึ้นอยู่กับกู้หยุนหลันแล้ว
ฉันหยุนหลันเงียบงันไปครู่หนึ่ง เอ่ยเสียงเบาว่า “รอสักพักถามความคิดเห็นของสามีฉันเถอะ ดูว่าเขาจะว่ายังไง”
ซินแสจางมองกู้หยุนหลันอย่างประหลาดใจแวบหนึ่ง คิดถึงท่าทีเมื่อครู่ของหลี่โม่ ในดวงตาเผยประกายชั่วร้ายออกมา
“เหอๆ นี่เป็นโอกาสที่ฉันยื่นให้กับเธอ ขอให้คุณกู้คิดดูให้ดี ถ้าเกิดว่าสามีของคุณห้ามไว้ นั่นเป็นเรื่องที่ทำให้คนเสียดายจริงๆนะ”
กู้หยุนหลันหายใจเข้าลึก ส่ายหัวเอ่ยตอบ “ขอให้ซินแสจางดูฮวงจุ้ยให้ดีเถอะ”
“ก็ดี”
ซินแสจางลืมตาแล้วมองไปรอบๆ นิ้วหัวแม่มือขยับนับนิ้วกับสี่นิ้วที่เหลือไม่หยุด เหมือนกับกำลังอนุมานอะไรบางอย่าง
จากนั้นครู่หนึ่งซินแสจางหยุดการนับนิ้วคำนวณ สีหน้าเคร่งขรึมเอ่ยว่า “ที่นี่เป็นสถานที่ที่อันตรายและมืดมนอย่างยิ่ง หากคุณพังทลายที่นี่ดำเนินการก่อสร้าง เกรงว่าจะทำให้เกิดภัยพิบัติและความตายตามมา”
“หา?”
กู้หยุนหลันอุทานด้วยเสียงตกในเสียงหนึ่ง ถูกเรื่องที่ซินแสจางพูดทำให้ตกใจแล้ว
“นี่ ไม่ใช่มั้ง ซินแสจางคูณดูผิดหรือเปล่า”
กู้หยุนหลันเอ่ยถามอย่างเคร่งเครียด
“ฉันไม่มีทางผิดพลาด ไม่เชื่อล่ะก็พวกคุณก็ดำเนินการก่อสร้าง เริ่มการก่อนสร้างสามวันจะต้องมีคนตาย”
ซินแสจางเอ่ยจริงจัง
กู้หยุนหลันไม่รู้ว่าควรเชื่อหรือไม่ อิงจากชื่อเสียงของซินแสจาง ควรจะต้องเชื่อถือ””
“มีวิธีแก้ไขหรือไม่?”
“วิธีแก้ไขนับว่ามี แต่การสูญเสียนั้นใหญ่เกินไปสำหรับฉัน”
ซินแสจางส่ายหัว ในใจแอบลำพองใจเงียบๆ
นี่คือการทำลายการป้องกันทางจิตใจของกู้หยุนหลันของซินแสจาง ทำให้กู้หยุนหลันกำจัดความระมัดระวังลง
หันกลับมาเลื่อมใสตนเอง ขอเพียงแค่กู้หยุนหลันเอาตนเองเป็นเทวรูปแล้ว เช่นนั้นหลังจากนั้นก็จะสามารถร้องขออะไรกู้หยุนหลันก็ได้
สำหรับหลี่โม่ ซินแสจางวางแผนไว้ว่าหลังจากเอากู้หยุนหลันมาไว้ในมือได้แล้ว ให้พวกลูกศิษย์ต่อยตีหลี่โม่ให้เละแล้วโยนไปที่ชายแดนให้เกิดเองตายเอง
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็เชิญให้ซินแสจางไปพูดคุยสถานการณ์กับพวกคุณลุงใหญ่ของฉันเถอะ เรื่องใหญ่ในตระกูลล้วนเป็นคุณลุงใหญ่ตัดสินใจ”
ซินแสจางพยักหน้ายิ้ม “ได้ เช่นนั้นก็ไปพูดคุยกับคุณกู้เจี้ยนกั๋วเถอะ แต่ว่าถ้าอยากจะแก้ไขฮวงจุ้ยของสถานที่นี้จริงๆ ยังคงต้องให้คุณกู้ช่วยเหลือฉันสักเล็กน้อย”
“ฉัน? ฉันจะช่วยอะไรคุณได้?”
กู้หยุนหลันสงสัยไม่หาย
“ตอนนี้ยังพูดไม่ได้ ความลับสวรรค์ไม่อาจแพร่งพราย แต่ว่าเป็นปัญหาเล็กน้อยที่คุณกู้สามารถช่วยได้”
ซินแสจางทำสีหน้าสูงส่งน่านับถือเอ่ยตอบ
กู้หยุนหลันพยักหน้า “ขอเพียงแค่ฉันสามารถจัดการได้ จะต้องพยายามเต็มที่แน่”
“คุณกู้ยินดีช่วยเหลือก็ดีแล้ว ถึงตอนนั้นก็ง่ายขึ้นเยอะเลย”
