ซินแสจางยังคงแสร้งทำท่าทางมองไปทั่วทั้งสถานที่ก่อสร้างรอบหนึ่ง สีหน้าเคร่งขรึมกลับไปที่ประตูทางเข้าสถานที่ก่อสร้าง
หลี่โม่เห็นกู้หยุนหลันไม่เกิดเรื่อง ถึงวางใจลง
กู้เจี้ยนกั๋วและคนอื่นๆรีบเข้าไปโอบล้อมซินแสจาง เริ่มต้นสอบถามเหตุการณ์ที่ซินแสจางไปตรวจฮวงจุ้ย
“ซินแสจาง ฮวงจุ้ยของสถานที่ก่อสร้างที่นี่เป็นเช่นไร ต้องแก้ไขเปลี่ยนแปลงอะไรหรือไม่?”
ซินแสจางส่ายหน้าด้วยสีหน้าเงียบขรึม ถอนหายใจหนักๆ “ที่นี่คือดินแดนแห่งวิญญาณร้าย ถ้าสร้างโรงงานที่นี่ ในอนาคตทุกปีจะมีคนตาย”
สีหน้าของกู้เจี้ยนกั๋ว กู้เจี้ยนเจียงเปลี่ยนไปทันที เปิดโรงงานที่ต้องการคือความมั่นคง ถ้าเกิดทุกปีมีคนตาย เพียงแค่ปัญหาค่าชดเชยอย่างเดียวก็มากมายแล้ว
“นี่ ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ ทำไมถึงได้เป็นดินแดนแห่งวิญญาณร้าย ซินแสจางคุณจะต้องช่วยพวกเราแก้ไขนะ”
กู้เจี้ยนเจียงร้อนรนจนแทบไม่ไหว
ประธานหวางและคนอื่นๆล้วนขมวดคิ้วขึ้นมา ถ้าเกิดมีคนตายตอนพวกเขาอยู่ในที่ก่อสร้าง ก็เป็นเรื่องที่ทำให้คนเจอปัญหาใหญ่ ถึงขั้นในใจของประธานหวางก็ตีกลองถอยทัพแล้ว ถ้าเกิดซินแสจางไม่ลงมือแก้ไขล่ะก็ เช่นนั้นก็ต้องปล่อยธุรกิจนี้ไป
หลี่โม่ดึงกู้หยุนหลันออกมาจากกลุ่มคน เอ่ยถามเสียงต่ำ “คนหลอกลวงคนนี้เมื่อครู่ไม่ได้หลอกคุณหรอกนะ?”
“คนหลอกลวง? นายทำไมถึงได้ตัดสินว่าซินแสจางเป็นคนหลอกลวง?”
กู้หยุนหลันมองหลี่โม่ด้วยความประหลาดใจ ไม่เข้าใจว่าทำไมหลี่โม่ถึงกัดไม่ปล่อยว่าซินแสจางเป็นคนหลอกลวง
คนมากมายขนาดนั้นโอบล้อมซินแสจางด้วยความเคารพ ถ้าจะพูดว่าซินแสจางเป็นคนหลอกลวง เช่นนั้นเขาต้องหลอกมามากเท่าไหร่แล้ว
หลี่โม่เอ่ยเสียงเรียบ “เรื่องความเชื่องมงายประเภทนี้เดิมก็เป็นเรื่องหลอกลวงอยู่แล้ว ถ้าเป็นซินแสที่มีความสามารถมากจริงๆ ก็ไม่มีทางที่กู้เจี้ยนกั๋วจะสามารถเชิญมาได้ พูดให้ง่ายหน่อย ก็คือคนที่กู้เจี้ยนกั๋วสามารถใกล้ชิดด้วยได้ ก็มีแค่นักต้มตุ๋นหลอกลวง”
กู้หยุนหลันหมดคำพูดไปชั่วขณะ ครุ่นคิดเล็กน้อยถึงคำพูดที่ซินแสจางพูดเมื่อครู่ ดูเหมือนว่าไม่มีอะไรที่หลอกตนเอง มากที่สุดก็คือมีวิชาที่สามารถทำให้ชะลอการแก่ชรา
วิชาดูแลสุขภาพอะไรพวกนั้น คนส่วนมากยังคงเชื่อถือ กู้หยุนหลันก็มีความเชื่อถือคำพูดซินแสจางอยู่เล็กน้อย คิดว่าซินแสจางเพียงแค่อยากจะขายวิธีดูแลสุขภาพหาเงินเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ใช่คนหลอกลวงอะไร
“ไม่มีอะไรนะ ฉันรู้สึกว่าซินแสจางไม่เหมือนคนหลอกลวง เมื่อครู่เขาพูดว่ามีวิธีแก้ไขวิญญาณร้าย แต่ว่าต้องการให้ฉันช่วยเขาเล็กน้อย ไม่รู้เหมือนกันว่าจะให้ฉันทำอะไร ในใจมักจะกระวนกระวายตลอด”
หลี่โม่ขมวดคิ้ว แอบคิดว่าตนเองเดาผิดแล้ว? แต่ว่าไม่น่าใช่สิ การกระทำของซินแสจางนั่น เห็นได้ชัดว่าเป็นพวกหลอกลวง นี่คือคนหลอกลวงที่ภายนอกค่อนข้างดูดีเท่านั้น
กู้หยุนหลันเห็นหลี่โม่ขมวดคิ้ว ยื่นนิ้วออกไปลูบหัวคิ้วของหลี่โม่ให้เรียบเบาๆ “อย่าคิดมากเลย เขาอยากหลอกก็หลอกเอาเงิน รอให้ตอนปากสิงโตของเขาเปิดออก ไม่ใช่ก็มองออกแล้วหรือ”
“อืม ได้ ก็รอตอนเขาเปิดเผยออกมา”
หลี่โม่พึมพำตอบ
ซินแสจางแสดงท่าทางออกมา ทำทีละอายเอ่ยว่า “รูปแบบชั่วร้ายที่นี่ไม่ง่าย แม้ว่าฉันจะกำจัดมันได้ แต่สิ่งที่ต้องจ่ายไปสำหรับฉันนั้นมากเกินไป เป็นเรื่องที่ไม่คุ้มกับการสูญเสีย ดังนั้นฉันจึงยังไม่ได้คิดให้ดีว่าควรลงมือช่วยหรือไม่”
กู้เจี้ยนกั๋วและกู้เจี้ยนเจียงสบตากัน ทั้งสองคนเข้าใจแล้วว่าซินแสจางจะดูว่าผลประโยชน์พอหรือไม่ การค้าที่เสียประโยชน์แน่นอนว่าไม่มีใครยินดีทำ
แต่ซินแสจางก็พูดแล้วว่าราคาที่ต้องสูญเสียมากเกินกว่าผลประโยชน์ที่ได้รับ นี่ก็คือสิ่งที่ในใจของกู้เจี้ยนกั๋วและกู้เจี้ยนเจียงเดาไม่ได้ ไม่รู้ว่าซินแสจางต้องการเงินเท่าไหร่ถึงจะจัดการเรื่องนี้ได้
“ซินแสจาง พวกเราก็ไม่เข้าใจว่าราคาที่ต้องสูญเสียของคุณมีมากแค่ไหน คุณพูดมาตามตรง ต้องการให้พวกเราจ่ายเท่าไหร่”
กู้เจี้ยนกั๋วเตรียมที่จะลุยออกไปแล้ว ตราบใดที่ราคาที่ซินแสจางขอไม่ไร้เหตุผลจนเกินไป เช่นนั้นก็จ่ายเงินจำนวนนั้น
เรื่องการก่อสร้างโรงงานอยู่บนเกาทัณฑ์ที่ขึ้นสายแล้ว และหากต้องเปลี่ยนที่ดินใหม่ ไม่เพียงแต่ต้องใช้เวลาเท่านั้น แต่ยังต้องเสียเงินมากขึ้นอีกด้วย คิดอย่างไรก็ไม่คุ้มเลย
ซินแสจางยื่นมือออกมาทำท่าทางนับนิ้วรอบหนึ่ง จากนั้นเอ่ยเสียงเรียบว่า “ยี่สิบล้าน”
กู้เจี้ยนกั๋วถอนหายใจด้วยความโล่งอก ยี่สิบล้านถึงแม้จะไม่นับว่าเยอะเกินไป แต่ว่าก็ไม่น้อยสักนิด อีกทั้งราคานี้ติดอยู่ในเส้นขอบของจิตใจค่อนขึ้นมาด้านบนของกู้เจี้ยนกั๋ว มันเป็นราคาประเภทที่พอหัวใจถูกกระตุ้นก็สามารถควักจ่ายออกไปได้
“ยี่สิบล้านไม่ใช่จำนวนเล็กน้อย ฉันคนเดียวพูดก็นับไม่ได้ จะต้องให้คนในตระกูลมาหารือด้วยกันถึงจะได้”
กู้เจี้ยนกั๋วหาคำแก้ตัว ต้องการยืดเวลาออกไปเล็กน้อย
ซินแสจางพบเจอเหตุการณ์เช่นนี้มามาก ยิ้มอย่างสงบเอ่ยว่า “ไม่เป็นไร ฉันสามารถรอพวกคุณได้สามวัน”
“ขอบคุณซินแสจางมาก เช่นนั้นพวกเราส่งคุณกลับโรงแรมไปพักผ่อนก่อน รอสักพักจัดอาหารค่ำมื้อใหญ่รับรองคุณ”
ซินแสจางยิ้มรับเล็กน้อย “ฉันและพวกลูกศิษย์กลับไปก่อนก็ได้แล้ว พวกคุณค่อยๆคุยกันเถอะ ใช่แล้ว น้องชายที่พูดว่าฉันเป็นนักต้มตุ๋นคนนั้นล่ะ?”
สายตาของทุกคนหันไปทางหลี่โม่พร้อมเพรียงกัน คนไม่น้อยในดวงตาปรากฏแววดีใจที่คนอื่นเกิดความโชคร้าย รู้สึกว่าซินแสจางต้องการจะหาเรื่องหลี่โม่แล้ว
หลี่โม่มองไปทางซินแสจาง สายตาของทั้งสองคนประสานกัน “ไม่ทราบว่าซินแสจางมีอะไรจะสั่งสอน”
“ไม่มีอะไรให้ต้องสอนหรอก คนที่กล้าบอกว่าฉันเป็นพวกต้มตุ๋น น้องชายนายนับว่าเป็นคนแรก ฉันเพียงแค่อยากจะบอกนายว่า ไม่ยอมก้มหัวให้คนที่สูงส่งนั้นมีความผิด พูดเรื่อยเปื่อยนั้นต้องได้รับการตอบโต้ ต่อไประวังตัวไว้หน่อย”
“นี่นายกำลังข่มขู่ฉันอยู่สินะ?”
หลี่โม่ยิ้มกริ่มเอ่ยตอบ
“แกมันรนหาที่ตายขนาดนี้เลยหรือ กล้าพูดกับอาจารย์แบบนี้!”
“อาจารย์ ใจกล้าบ้าบิ่นแบบนี้ก็ควรสอนบทเรียนให้เขาที่นี่ ขอให้อาจารย์อนุญาตให้พวกเราลงมือ”
หมิงเต๋อและคนอื่นๆ ต่างก็ตะโกนขึ้นมา กำหมัดเตรียมพร้อมต่อกรกับหลี่โม่
ซินแสจางมองหลี่โม่อย่างลึกล้ำครั้งหนึ่ง ยิ้มแล้วส่ายหัวเอ่ยว่า “คนหนุ่มนั้นมีความกล้ามาก แต่ว่าอีกไม่นานนายจะมีหายนะนองเลือด หวังว่านายจะระวังตัวให้ดี”
หลังจากพูดจบซินแสจางพาพวกลูกศิษย์ขึ้นรถจากไป ส่วนกู้เจี้ยนกั๋วและคนอื่นๆต่างก็ถลึงตามองหลี่โม่ด้วยความโมโห
“แกนี่มันคนไร้ประโยชน์ นอกจากสร้างเรื่องวุ่นวายได้แล้วยังทำอะไรได้อีก นี่คือซินแสจาง! หยุนหลัน พาสามีของเธอกลับไปพิจารณาตัวเองให้ดี งานเลี้ยงอาหารค่ำให้เขาตั้งใจขอโทษซินแสจาง!”
กู้เจี้ยนกั๋วเอ่ยเสียงเย็น
“เขาเป็นพวกหลอกลวงจริงๆ พวกคุณไม่เชื่อก็ไม่ต้องเชื่อ ต้องควักเงินยี่สิบล้านออกมาจริงๆ ที่มีก็คือตอนที่พวกคุณตกตะลึง”
หลี่โม่เอ่ยอย่างตรงไปตรงมา
กู้หยุนหลันลากแขนของหลี่โม่เล็กน้อย เอ่ยเสียงเบา “เลิกพูดได้แล้ว”
“คุณลุงใหญ่ ฉันพาเขากลับไปก่อน พวกคุณอย่าเอาคำพูดของเขามาเป็นจริงเป็นจัง”
กู้หยุนหลันพูดจนก็ดึงหลี่โม่จากไป
กู้เจี้ยนเจียงลูบหน้าผาก ถอนหายใจเอ่ยว่า “พี่ใหญ่ ที่ซินแสจางเพิ่งพูดเมื่อครู่หมายถึงอะไร เขาจะต้องมีอคติกับหลี่โม่ไปแล้ว”
“นายถูกคนพูดว่าเป็นพวกต้นตุ๋นหลอกลวงในใจจะเป็นอย่างไร? หลี่โม่ไอ้สารเลวนี่สมควรตายจริงๆ! จำเป็นต้องคิดวิธีทำให้ซินแสจางมีความสุขถึงจะได้!”