บทที่ 4 หลี่โม่ คุณกลับเป็น
ตระกูลหลี่?
ทุกคนในตระกูลกู้ต่างสงสัยและคิดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะ
ตระกูลหลี่อะไร?
“คุณซ่ง ตระกูลหลี่นี้ … ” คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้โน้มตัวเล็กน้อยและยิ้ม เขาเข้าใจจากคำพูดของลูกหลานจากตระกูลกู้ในตอนนี้
ตระกูลหลี่ส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์และยาราคาแพงจำนวนมาก ซึ่งเพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่า สถานะและความแข็งแกร่งของตระกูลกู้นั้นเทียบไม่ได้กับตระกูลหลี่
จากนั้น คุณซ่งก็ยิ้มและมองไปที่หลี่โม่และพูดว่า “ผมมาที่นี่เพื่อส่งของเท่านั้น นอกจากนั้นผมไม่รู้อะไรอีก”
หลังจากนั้นก็ออกจากห้องคนไข้
สักพัก ทุกคนในห้องคนไข้ก็เงียบ
“ตระกูลหลี่นี้เก่งกาจมาจากไหนกัน ทำไมถึงได้ส่งสิ่งเหล่านี้มา?ในพวกคุณใครรู้จักคนในตระกูลหลี่” คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ถาม
ลูกหลานของตระกูลกู้ต่างก็ส่ายหัว
“คุณปู่ คงไม่ใช่หลี่โม่มั้ง” กู้ซิงเว๋ยหัวเราะอย่างไม่ไยดีในขณะนี้ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเยาะเย้ย
หลี่โม่?
ทุกคนหันมามองหลี่โม่ที่ยืนอยู่ด้านข้าง
ฮ่าๆ
จะเป็นเขาได้ไง คนไร้ประโยชน์อย่างเขาที่ทำให้ตระกูลกู้เสียหน้าในเมืองฮ่าน จะมีความสามารถช่นนี้?
“ซิงเว๋ย อย่ามาล้อเล่นเลยนะ พวกเราทุกคนรู้ดีว่าหลี่โม่คืออะไร มันเป็นขี้ดินไร้ประโยชน์เท่านั้น” หวังฟางผู้เป็นแม่ยิ้มเยาะ
เธอดูถูกและไม่ชอบขี้หน้าหลี่โม่มาก เธอไม่รู้ว่าลูกสาวของเธอชอบเขาจุดไหน
“อืม ช่วงนี้พวกคุณไปตรวจสอบดูว่าในเมืองฮ่านมีตระกูลหลี่เพิ่มมาตั้งแต่เมื่อไหร่”คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้กล่าว
“ กู้หยุนหลัน คุณคงไม่ได้เกาะคนรวยจากข้างนอกมาใช่ไหม?”
ในขณะนี้ กู้ชิงหลินลูกสาวของบ้านน้องสามตระกูลกู้ที่อยู่ข้างๆ พูดเหมือนยิ้มไม่ยิ้ม
เธอดูหมิ่นลูกพี่ลูกน้องของเธอคนนี้ เมื่อก่อนตอนที่เคยอยู่ในตระกูลกู้ กู้หยุนหลันเป็นที่ชื่นชอบ
มากกว่าตัวเธอ
เมื่อเติบโตขึ้น กู้หยุนหลันมีชื่อเสียงที่ดีในเมืองฮ่าน ยังได้รับการขนานนามว่าเป็นเทพธิดาที่สวย
ที่สุดในเมืองฮ่าน มีชื่อเสียงในฐานะสวยที่สุดในสี่สาวงาม
อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้จบลงหลังจากที่เธอแต่งงานกับไอ่ขยะไร้ประโยชน์
เมื่อพูดคำเหล่านี้ของกู้ชิงหลินออกมา ทุกคนในตระกูลกู้ก็มองไปที่กู้หยุนหลันกับหลี่โม่อย่าง
ล้อเลียน
มีชู้เหรอ?
สายตาแปลกๆนี้ ทำให้กู้หยุนหลันรู้สึกอึดอัดมาก พูดด้วยใบหน้าเย็นชาทันที “กู้ชิงหลิน คุณอย่าพูดไปเรื่อยนะ ฉันไม่รู้จักตระกูลหลี่อะไรนั่น!”
เมื่อเธอพูดเช่นนี้ เธอก็เหลือบไปที่หลี่โม่ที่อยู่ด้านข้าง
จะเป็นเขาหรือเปล่า?
ถ้าเป็นเขา ทำไมเขาต้องทนทุกข์ทรมานมาสี่ปีด้วย
“เอาล่ะ ไม่ต้องพูดแล้ว” คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ขัดจังหวะการสนทนาของทุกคน สายตาของเขาหยุดลงที่หลี่โม่ เขาพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “สัญญาหย่า ลงนามหรือไม่ลง?”
“ไม่ลง”
หลี่โม่ปฏิเสธทันที “ผมยืมเงินมาแล้วและไขกระดูกที่ใช้รักษาซีซีก็สามารถใช้ของผมได้เช่นกัน”
ฮ่าๆ
คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้หัวเราะเยาะอย่างเย็นชาสองครั้งและดุว่า “แม้ว่าคุณจะยืมเงินมาได้แล้วจะ
ยังไง?ผู้อำนวยการของโรงพยาบาลนี้เป็นเพื่อนของผม ผมบอกว่าไม่อนุญาตให้การรักษาแก่คุณ คุณก็จะไม่ได้รับการรักษา!”
ไอ่คนไร้ประโยชน์เช่นนี้ ต้องการใช้ไขกระดูกที่ต่ำต้อยของเขาเพื่อรักษาหลานสาวของเขาหรือ?
อย่าได้หวัง!
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หัวใจของหลี่โม่ก็จมลงและพูดว่า “คุณปู่ ซีซีเป็นลูกสาวของผม ทำไมคุณถึงไม่ใช้ของผม?”
“ทำไมไม่ใช่?ก็เพราะคุณเป็นขยะไร้ค่าที่ไม่ได้เรื่องไง ทำให้ตระกูลกู้ของพวกเราเสียหน้าหมด!”
หวังฟางผู้เป็นแม่เอามือกอดอกของเธอไว้ ด่าว่าประชดประชัน
ถ้าไม่ใช่เพราะเขา สถานะของเธอในตระกูลกู้คงไม่ดิ่งลงขนาดนี้
“ฮ่าฮ่า นั่นสิ หลี่โม่ คุณคิดว่าคุณเป็นใคร คุณเป็นแค่สุนัขตัวหนึ่งเท่านั้น ยังอยากให้ไขกระดูกแก่ซีซี ถ้าคุณมีความสามารถก็เรียกผู้อำนวยการมาสิ!”
กู้ซิงเว๋ยเยาะเย้ยอย่างไม่สนใจอะไร“ เพียงแค่ผู้อำนวยการบอกว่าจะใช้ไขกระดูกของคุณตระกูลกู้
ของเราก็ไม่คัดค้าน ใช่ไหม คุณปู่?
คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้พยักหน้าแล้วพูดว่า “ใช่ เพียงแค่ผู้อำนวยการของโรงพยาบาลนี้บอกว่าจะใช้ไขกระดูกของคุณ ผมกู้หงไท่ก็ไม่มีความเห็นใดๆ”
นั่นเป็นไปได้หรือ?
กู้หงไท่ได้ตกลงและคุยกับเขาก่อนหน้านี้แล้ว
ผู้อำนวยการหลิวซินหมินเป็นเพื่อนที่ดีของเขาอีก
หลี่โม่อยากเอาไขกระดูกของตนเองให้ซีซี มันยากกว่าการปีนขึ้นไปบนฟ้าเสียอีก!
กู้หยุนหลันเห็นสิ่งนี้ ในดวงตาเต็มไปด้วยน้ำตา จ้องไปที่หลี่โม่อย่างไม่พอใจ ขึ้นไปตบหน้าและด่าว่า “หลี่โม่ ทำไมคุณถึงไร้ประโยชน์เช่นนี้!”
หลังจากนั้น เธอก็ร้องไห้ด้วยความโกรธ หันหลังโดยปิดหน้าของเธอไว้และวิ่งออกไป
หลี่โม่โดนตบ แก้มของเขาแดงระเรื่อ มองไปที่กู้หยุนหลันที่วิ่งออกไป เขาอยากตามเธอไป
อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ มีหมอสองคนในเสื้อคลุมสีขาวเดินเข้ามาที่ห้องผู้ป่วย
“เอ๋ ผู้อำนวยการหลิว ทำไมคุณถึงมาที่นี่ เพื่อมาดูหลานสาวของผมเป็นพิเศษหรือ?”
คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้เห็นคนที่ยืนอยู่ที่ประตู ก็ยื่นมือออกมาทันทีและเรียกด้วยความเคารพ
บอกว่าเป็นเพื่อน แต่ กู้หงไท่ยังคงให้ความเคารพแก่หลิวซินหมินอยู่
อย่างไรก็ตาม หลิวซินหมินมีชื่อเสียงอย่างมากในเมืองฮ่าน
ผู้ประกอบการรายใหญ่และผู้ร่ำรวยหลายคนในเมืองฮ่าน ได้มารักษาในโรงพยาบาลของหลิวซินหมิน พวกเขาก็ได้มีโอกาสพบปะกับหลิวซินหมินบ้าง
นี่คือนามบัตรเพื่อการเข้าสังคม
นอกจากนี้ หลิวซินหมินยังมีชื่อเสียงที่ดีในประเทศอีกด้วย ในด้านการแพทย์ เขาเชี่ยวชาญในการรักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว ได้รับการยกย่องให้เป็นผู้นำทางการแพทย์
ในเมืองฮ่าน มีแปดในสิบที่ให้ความเคารพและให้หน้าแก่หลิวซินหมิน
ต่อหน้าบุคคลเช่นนี้ กู้หงไท่ก็ยังต้องเคารพเจ็ดส่วน ประจบสามส่วน
หลิวซินหมินอายุประมาณ 50 หรือ 60 ปี โดยมีแผ่นป้ายของผู้อำนวยการแขวนอยู่บนหน้าอกของเขา เขามองไปที่สถานการณ์ในห้องคนไข้ ดูเหมือนว่าจะมองหาใครบางคน จากนั้นเขาก็ยิ้มให้คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้และพูดว่า “คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้เกรงใจเกินไปแล้ว ผมมาที่นี่เพื่อบอกเรื่องๆหนึ่งให้แก่ท่าน”
“ผู้อำนวยการหลิว ถ้าคุณมีอะไรให้พยาบาลมาแจ้งให้ผมทราบก็พอแล้ว คุณไม่จำเป็นต้องมาด้วยตัวเอง” คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้พูดอย่างประจบ
หลิวซินหมินยิ้มและจ้องมองหลี่โม่ เดินไปข้างหน้าไม่กี่ก้าวแล้วสะบัดมือของกู้หงไท่ทิ้ง กล่าวกับหลี่โม่อย่างเคารพ “คุณหลี่ใช่ไหม สวัสดี ผมชื่อ หลิวซินหมินผู้อำนวยการของโรงพยาบาลแห่งนี้”
หลังจากนั้น เขาก็ยื่นมือทั้งสองออกไป
หลี่โม่ไม่ธรรมดา
ห้านาทีที่แล้ว เขาได้รับโทรศัพท์ในห้องทำงานของผู้อำนวยการ
นั่นคือเบอร์โทรของสมาคมใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังของโรงพยาบาล!
แค่พูดว่า มีคุณชายผู้ที่สำคัญอยู่ในโรงพยาบาล ดังนั้น หลิวซินหมินจึงต้องปฏิบัติตามคำสั่งของเขา !
และคุณชายคนสำคัญคนนี้ ก็คือลูกเขยขยะของตระกูลกู้ หลี่โม่!
และสุภาพบุรุษคนนี้คือลูกเขยของตระกูลกู้ หลี่โม่!
สามารถทำให้ผู้สนับสนุนรายใหญ่ของโรงพยาบาลโทรมาแจ้งให้ตัวเขา เห็นได้ชัดว่าหลี่โม่ไม่ได้เป็นไอ่ขยะไร้ค่าดั่งคนในเมืองฮ่านได้กล่าวไว้
ฉากนี้ทำให้คนในตระกูลกู้ที่อยู่ในห้องคนไข้ตกตะลึง!
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ เขาแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเลย
สถานการณ์ตอนนี้คืออะไร?
หลิวซินหมินกลับสุภาพกับคนไร้ประโยชน์ ยิ่งไปกว่านั้นเขายังยื่นมันออกไปด้วยมือทั้งสองข้าง!
“ ผู้อำนวยการหลิว คุณกำลังทำอะไร?ทำไมคุณถึงสุภาพกับคนขี้ขลาดคนนั้นขนาดนี้?”
คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ขมวดคิ้ว ถามอย่างสงสัย
กู้ซิงเว๋ยที่อยู่ด้านข้างก็พูดตาม “ใช่ๆ ผู้อำนวยการหลิว หลี่โม่เป็นเพียงลูกเขยแต่งเข้ามาในตระกูลของเรา ไม่มีทักษะความสามารถอะไร คุณไม่จำเป็นต้องเป็นสุภาพกับเขาหรอก”
“นั่นสิ ผู้อำนวยการหลิว ลูกเขยของฉันคนนี้ ก็แค่เด็กยากจนคนหนึ่ง ทำไมคุณถึงสุภาพกับเขาขนาดนี้?”
หวังฟางก็ประชดประชัน ชี้ไปที่หลี่โม่ทันทีและดุว่า “หลี่โม่ คุณกำลังทำอะไรอยู่ เห็นผู้อำนวยการหลิว ทำไมยังไม่รีบกล่าวทักทาย ทำไม ให้หน้าคุณแล้วยังจะรอให้คนอื่นจับมือทักทายกับไอ่ขยะอย่างคุณเหรอ?”
แต่ว่า
ทันใดนั้น ใบหน้าของหลิวซินหมินก็จมลงและเขาก็ตะโกนว่า “บังอาจ! คุณคุยกับคุณหลี่ยังไง?อะไรขยะไม่ขยะ พวกคุณรู้ไหมว่าคุณหลี่คือ … “
แค๊กๆ!
หลี่โม่ก็ไอและขัดจังหวะหลิวซินหมินทันที เขายื่นมือออกไปและจับหลิวซินหมินด้วยรอยยิ้มบน
ใบหน้าของเขา กล่าวอย่างถ่อมตัว “สวัสดี ผู้อำนวยการหลิว อาการลูกสาวของผมเป็นอย่างไรบ้าง?”
หลิวซินหมินตกใจ หันหน้าไปอ่านบางอย่างในดวงตาของหลี่โม่แล้วกล่าวว่า “คุณหลี่ ไม่ต้องกังวล ลูกสาวคุณ ทางโรงพยาบาลของเราจะรักษาอย่างเต็มที่”
ดูเหมือนว่าคุณหลี่ไม่ต้องการเปิดเผยตัวตนต่อหน้าคนเหล่านี้
ผัวะ!
ทันใดนั้น หวังฟางก็ตบมือหลี่โม่ที่จับมือของหลิวซินหมินไว้และด่าว่า”ทำอะไร มือของ
ผู้อำนวยการหลิวคุณมีสิทธิ์จับเหรอ ไอ่ขยะ!”
หลิวซินหมินโกรธมาก ดวงตาของเขาเบิกกว้าง จ้องมองไปที่หวังฟาง หญิงวัยกลางคนที่ไม่มีเหตุผล!
เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่คุณหลี่จับมือกับเขา!
ผู้หญิงโง่คนนี้ อาจจะยังไม่รู้จักตัวตนของคุณหลี่!
เหอะๆ
เมื่อหวังฟางเห็นความโกรธของหลิวซินหมิน เธอก็คิดว่าเขาโกรธหลี่โม่และรีบพูดว่า “ผู้อำนวยการหลิว ท่านอย่าโมโห เขาเป็นแค่ขี้โคลน อย่าถือสาเขาเลย”
หลิวซินหมินทำเสียงเย็นชา หันศีรษะและพูดกับคุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ว่า “คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ ผมมาที่นี่ครั้งนี้ เพื่อแจ้งให้ทราบว่า การใช้ไขกระดูกของกู้ซีซี ควรใช้ของญาติสนิทที่สุด “
ทันทีที่พูดคำเหล่านี้ คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ ก็ไม่สงบ
“ผู้อำนวยการหลิว นี่ … เราได้คุยกันก่อนหน้านี้แล้วไม่ใช่เหรอ ว่าให้ใช้ไขกระดูกที่ผมซื้อมาไม่ใช่เหรอ?” คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้เป็นกังวล
หากใช้ของญาติที่สายเลือดใกล้ชิดที่สุด ก็ต้องใช้ของไอ่ขยะหลี่โม่คนนั้นละสิ!
ไม่ได้ ไม่ไดอย่างแน่นอน!
ผู้อำนวยการหลิวมองไปที่คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้อย่างเย็นชาและกล่าวว่า “นี่เป็นข้อบังคับของโรงพยาบาล ก็เพื่อประโยชน์ของผู้ป่วย ความเป็นไปได้ที่จะมีการปฏิเสธไขกระดูกของคนที่เป็นญาตินั้นต่ำมาก!”
ทันใดนั้น ใบหน้าของคุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ก็ดูแย่มาก
เขาขมวดคิ้วและมองไปที่หลี่โม่ด้วยความสงสัย ทำไมผู้อำนวยการถึงเปลี่ยนใจ
“ คผู้อำนวยการ เราคุยกันหน่อยได้ไหม?” คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้อยากจะพูดอะไรบางอย่าง
อย่างไรก็ตาม หลิวซินหมินก็ปฏิเสธและกล่าวว่า “ไม่ต้องแล้ว เรื่องนี้เอาแบบนี้แหละ ไขกระดูก ใช้ของคุณหลี่คนนี้ เนื่องจากเป็นพ่อของเด็ก คุณไม่ควรขัดขวาง”
เมื่อกู้ซิงเว๋ยเห็นหลิวซินหมินไม่ไว้หน้าคุณปู่ของเขา เขากระซิบทันทีว่า “แม่ง! อวดดีอะไร อย่างมาก พวกเราก็แค่เปลี่ยนโรงพยาบาลอื่น”
สักพัก บรรยากาศในห้องคนไข้ก็เย็นลงอย่างรวดเร็ว
ดวงตาที่เย็นชาของหลิวซินหมินจ้องมองไปที่กู้ซิงเว๋ยที่อยู่ในฝูงชน
หัวใจของ กู้หงไท่กระตุก หันกลับไปตบปากและก็ด่าว่า “ไอ้สารเลว! ใครให้คุณพูดดูหมิ่นผู้อำนวยการเช่นนี้!”
หลังจากนั้น เขาก็รีบขอโทษหลิวซินหมินและกล่าวว่า “ผู้อำนวยการหลิว ผมขอโทษแทนหลานชายของผม เขายังเด็กและเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เขาจะวู่วามไปบ้าง เขาทำให้ผู้อำนวยการหลิวขุ่นเคือง โปรดยกโทษให้เขาด้วย”
คนโง่คนนี้ ทำให้หลิวซินหมินขุ่นเคือง ในเมืองฮ่าน โรงพยาบาลไหนจะรับซีซี?
หลิวซินหมินสะบัดมือ ส่งเสียงเย็นชาแล้วพูดกับหลี่โม่ด้วยรอยยิ้ม ภายใต้ดวงตาที่ตกตะลึงของทุกคน “คุณหลี่ ผมขอตัวก่อนนะ”
หลี่โม่พยักหน้าอย่างทำอะไรไม่ถูก
จนกระทั่งหลิวซินหมินจากไป คนในตระกูลกู้จ้องมองหลี่โม่อย่างไร้จุดหมาย
“หลี่โม่ คุณทำอะไรไปกันแน่ ผู้อำนวยการหลิวจึงได้ช่วยคุณ!” กู้ซิงเว๋ยนวดใบหน้าของเขาในใจ
รู้สึกโกรธมาก
เขาไม่กล้าที่จะเกลียดหลิวซินหมิน ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงแค่กระจายความคับแค้นใจไปที่หลี่โม่
อย่างไรก็ตาม หลี่โม่พูดแค่ว่า “กู้ซิงเว๋ยไม่มีประโยชน์ที่คุณจะทะเลาะกับผม ถ้าคุณมี
ความสามารถ คุณก็ไปหาผู้อำนวยการเลย”
“คุณ!” กู้ซิงเว๋ยร้อนใจ
คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้หึอย่างเย็นชาว่า “พอแล้ว!”
จากนั้น เขาจ้องไปที่หลี่โม่ด้วยสายตาที่ไม่พอใจและกล่าวว่า”เนื่องจากเป็นความตั้งใจของ
ผู้อำนวยการหลิว แน่นอนว่าผมจะไม่ขัดขวางมันอยู่แล้ว แต่อย่าคิดว่าถ้าคุณทำเช่นนี้ ผมจะยอมให้ซีซีเรียกคุณว่าพ่อ! “
หลังจากพูดจบ คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ก็นำคนเหล่านั้นออกจากห้องคนไข้
หลังจากรอคนเหล่านั้นจากไป หลี่โม่มองไปที่ลูกสาวที่นอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลอย่างอ่อนแอ ยิ้มและเดินไปแตะหัวของเธอเบาๆ พูดว่า “พ่อจะรักษาคุณให้หายอย่างแน่นอน”
ซีซีเป็นเด็กดี เมื่อกี้ไม่ร้องไห้โวยวายเลย
ในขณะนี้ เธอมุดตัวเข้าไปในอ้อมแขนของหลี่โม่ เริ่มร้องไห้และตะโกนอย่างอ่อนแรงว่า “พ่อ พ่อ … “
หัวใจของหลี่โม่แตกสลาย เมื่อได้ยินเสียงนี้และดวงตาของเขาก็เป็นสีแดง
ไม่นานหลังจากนั้น หลี่โม่ได้รับข้อความสั้นๆ จากนั้นออกจากห้องคนไข้
อุปกรณ์ทางการแพทย์และยาของเมื่อสักครู่ ได้รับการเก็บกวาดแล้ว
เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ระดับผู้เชี่ยวชาญเหล่านั้น ก็ถูกหลิวซินหมินจัดอยู่ในโรงพยาบาลเช่นกัน
หลี่โม่เดินออกจากโรงพยาบาล ในอีกด้านของทางเดิน เขาเห็นเฉียนฝูที่รอคอยมานานและรถโรลส์-รอยซ์คันนั้นที่ดูเท่
เขากำลังจะเข้าไปในรถ เสียงที่คุ้นเคยและน่าสงสัยดังขึ้นจากด้านข้าง “หลี่โม่?ทำไมคุณถึงอยู่ที่นี่?”
หลี่โม่ก้าวไปข้างหน้าโดยไม่รู้ตัวและเห็นกู้หยุนหลันจ้องมองตัวเขาและเฉียนฝูกับรถโรลส์-รอยซ์ที่อยู่ข้างๆด้วยท่าทีที่สงสัย
ข้างๆเธอ ยังมีเพื่อนสาวของเธออีกสองคน ดูตกใจเช่นกัน
หลี่โม่ตกใจมาก ตายละ กู้หยุนหลันคงจะเดาตัวตนของเขาได้ละ!