เสียงจากปลายสายทำให้ทุกคนในห้องจัดเลี้ยงตกตะลึง
คนที่ควรต้องตายคือหลี่โม่ไม่ใช่หรือ ทำไมถึงได้กลายเป็นมีคนตายถึงหกคนไปได้?
“เช็กอีกที ทำไมถึงเป็นหกศพไปได้” กู้เจี้ยนกั๋วถามด้วยความสงสัย
“พวกเราเช็กอย่างละเอียดแล้วครับ มีหกศพจริง ๆ ทุกคนเบิกตากว้าง ตายตาไม่หลับกัน พวกเราไม่ทำแล้ว พวกคุณหาคนอื่นมาทำเถอะ มันน่ากลัวเกินไป!”
คนงานเฝ้ายามตัดสายและพากันหนีกระเจิดกระเจิง
กู้เจี้ยนกั๋วหันไปมองซินแสจางก่อนจะถามขึ้นอย่างตื่นตระหนก “ซินแสจาง นี่มันอะไรกัน ทำไมถึงมีคนตายถึงหกคน!”
ไม่จำเป็นต้องพูดถึงเรื่องอื่น เรื่องที่มีคนตายถึงหกศพในไซต์ก่อสร้างเพียงพอที่จะทำให้กู้เจี้ยนกั๋วยกไวน์ซดได้ทั้งขวด เรื่องนี้จำเป็นต้องแจ้งสายตรวจให้มาตรวจสอบเรื่องนี้ หลังจากนั้นก็ต้องปิดสถานที่ก่อสร้างอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง ไม่รู้ว่าเมื่อไรที่จะสามารถเปิดได้อีกครั้ง หรือต่อให้เปิดสถานที่ก่อสร้างได้อีกครั้ง ทว่าการมีเรื่องเช่นนี้เกินขึ้น ยังรวมถึงตำพูดก่อนหน้านี้ของซินแสจาง เกรงว่าคงไม่มีโรงงานใดรับก่อสร้างต่ออย่างแน่นอน
กู้เจี้ยนกั๋วอยากร้องไห้ตายอยู่ตรงนี้ เดิมทีเขาคิดจะใช้ประโยชน์จากการตายของหลี่โม่ ไหนเลยจะคิดว่ามีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น ซินแสจางเองก็อยู่ไม่สุข เขาสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับกลุ่มคนที่เขาส่งไป มิฉะนั้นจะไม่มีคนตายในที่เกิดเหตุถึงหกคน!
นัยน์ตาของกู้หยุนหลันฉายแววของความหวัง เธอรีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทรหาหลี่โม่ทันที ไม่นานนักปลายสายก็กดรับพร้อมกับเสียงของหลี่โม่ดังขึ้น
“ไงที่รัก คิดถึงฉันหรือ”
“คะ คุณไม่เป็นไรใช่ไหม ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน”
“ฉันใกล้จะถึงห้องจัดเลี้ยงแล้ว ที่จริงอยู่ที่ประตูแล้วล่ะ”
กู้หยุนหลันเงยหน้าขึ้นและมองไปยังประตูห้องจัดเลี้ยง เป็นจังหวะเดียวกับที่หลี่โม่เดินเข้ามาพร้อมหมิงเต๋อ เมื่อเห็นว่าหลี่โม่ปลอดภัย กู้หยุนหลันก็โล่งอก
สีหน้าของซินแสจางบิดเบี้ยวน่าเกลียด สิ่งที่เกิดขึ้นกับศพชายฉกรรจ์ทั้งหกได้กระจ่างขึ้นมาแล้ว กู้เจี้ยนกั๋วแอบมองตา ซินแสจางและเห็นสีหน้าย่ำแย่ของอีกฝ่าย เขาก็ได้แต่ถอนหายใจในใจอย่างช่วยไม่ได้
ดูเหมือนว่าซินแสจางจะกำจัดหลี่โม่ไม่ได้!
หลี่โม่พาหมิงเต๋อเดินมาหยุดอยู่ข้างกายกู้หยุนหลัน “คุณเป็นห่วงฉันเหรอ ฉันไปกำจัดความชั่วมา หรือที่เรียกว่าพลังหยินสิ่งอัปมงคลที่ไอ้นักต้มตุ๋นนี่กุขึ้นมา”
“หลี่โม่ แกควรเคารพซินแสจางหน่อยนะ นายหาว่าซินแสจางเป็นนักต้มตุ๋นได้อย่างไร!”
กู้เจี้ยนกั๋วดุเสียงเย็นเยียบ
หลี่โม่กระตุกยิ้มพลางตบบ่า หมิงเต๋อ: “มาเถอะ แฉเรื่องของมันให้ทุกคนรู้ทีสิ”
ซินแสจางรู้สึกถึงเลือดที่ไหลเวียนอยู่ทั่วกายของเขาเย็นเยียบหมิงเต๋อ เป็นศิษย์ที่อยู่กับเขามานานกว่าสิบปี ดังนั้นเป็นคนรู้กุลอุบายต่าง ๆ ของซินแสจางอย่างละเอียด
“หมิงเต๋อ!” ซินแสจางตวาดเสียงดัง
“อย่าโทษฉันเลยซินแสจางฉันไม่มีทางเลือกจริง ๆ เราทำเรื่องแย่ ๆ มามาก มันถึงเวลาแล้วที่ต้องชดใช้ ตอนนี้ฉันอยู่ใต้คำสั่งของคุณหลี่ ฉันโพสต์หลักฐานหลอกลวงของคุณทั้งหมดบนอินเทอร์เน็ตพร้อมชื่อจริงของคุณ ตอนนี้สายตรวจกำลังมา”
หมิงเต๋อ พูดด้วยสีหน้าสลด
ซินแสจางหมดแรงทันที ร่างกายของเขาเป็นอัมพาตบนเก้าอี้
กู้เจี้ยนกั๋ว กู้เจี้ยนเจียงและแขกที่มาร่วมงานคนอื่น ๆ พากันตกตะลึง หลังจากได้สติทุกคนก็หยิบโทรศัพท์มือถือของตนขึ้นมากดเข้าอินเทอร์เน็ตพื่อค้นหาข่าวเกี่ยวกับซินแสจาง
ในไม่ช้าทุกคนก็เห็นคลิปวิดีโอรวมถึงเสียงบันทึก ซึ่งสามารถพิสูจน์ได้ว่าซินแสจางเป็นนักต้มตุ๋นจริงๆ
“ให้ตายเถอะ นี่คือสิ่งที่ซินแสจางผู้โด่งดังทำ เขาเป็นคนโกหกจริง ๆ ทำไมเมื่อก่อนฉันถึงได้เชื่อคนลวงโลกแบบนี้นะ”
“ให้ฉันแล้วไง ตอนนี้เป็นยุคของเทคโนโลยี จะไปมีปรมาจารย์ฟ้าดินได้อย่างไร พวกเขาต้มตุ๋นทั้งนั้น”
“เหล่ากู้ คราวนี้คุณตัดสินใจผิด คุณพานักต้มตุ๋นมาสร้างปัญหาให้ตัวเองแล้วล่ะ”
กลุ่มคนเริ่มวิพากษ์วิจารณ์ไปต่าง ๆ นานา ใบหน้าสูงวัยของกู้เจี้ยนกั๋วแดงขึ้น เรื่องที่เขาหานักต้มตุ๋นมาเพื่อดูฮวงจุ้ยต้องแพร่กระจายออกไป และกู้เจี้ยนกั๋วจะกลายเป็นตัวตลกในอนาคต
กู้เจี้ยนกั๋วที่อับอายมองที่หลี่โม่ด้วยแววตาดุดัน เขาไม่ได้รู้สึกขอบคุณที่หลี่โม่ทลายแผนการของนักต้มตุ๋นและกู้คืนความสูญเสีย แต่รู้สึกว่าหลี่โม่ทำให้เขาเสียหน้า
ซินแสจางยื่นมือออกมาและพยักหน้าหลี่โม่และพูดอย่างโกรธเคือง “แกคิดว่าจะล้มฉันได้เหรอ ฉันยังมีผู้สนับสนุน อื่นอีก หากมีวันที่พบกันอีก แกระวังไว้ให้ดีเถอะ!”
ในเมื่อถูกแฉซินแสจางก็ไม่คิดจะอยู่ที่นี่ต่อ ตอนนี้ต้องใช้กลยุทธ์หลบหนี
ลูกศิษย์ลุกขึ้นจากโต๊ะข้าง ๆ และพากันมายืนล้อม ซินแสจางเพื่อคุ้มกันให้เขาหนีไป หลี่โม่ทำให้หมิงเต๋อสลบ จากนั้นกเข้าไปขวางทางซินแสจางและพรรคพวก
“มาหลอกคนอื่นเข้าแบบนี้ เกรงว่าคงไม่ได้ออกไปง่าย ๆ หรอกนะ” หลี่โม่พูดเสียงเย็น
“แกคิดจะทำอะไรอีก คิดจะต่อกรกับฉันอย่างนั้นเหรอ ภูมิหลังตระกูลซินแสจางเเป็นอะไรที่แกคิดไม่ถึงด้วยซ้ำ!”
ซินแสจางตวาดอย่างโกรธเคือง
“ฮ่า ๆ ภูมิหลัง? แกมีค่าพอจะพูดถึงภูมิหลังด้วยเหรอ” หลี่ส่ายหน้า แววตาเต็มไปด้วยการดูถูก
ซินแสจางขบฟันแน่น “แกต้องการอะไร!”
“คุณหลอกลวงผู้คนมากมาย แกต้องจ่ายคืน แต่ฉันจะคิดดอกเบี้ยเล็กน้อยแทนพวกเขาก่อน!”
หลี่โม่โบกสะบัดตบหน้า ซินแสจางอย่างแรง
ผัวะ!
ซินแสจางถูกหลี่โม่ตบจนล้มลงไปบนพื้น เขาบ้วนน้ำลายปนไปด้วยเลือดพร้อมฟันกรามหลังที่หลุดออกมาสองซี่ เมื่อกลุ่มลูกศิษย์เห็นซินแสจางถูกตบก็รีบพุ่งตัวไปหาหลี่โม่ทันที
“กล้าดีอย่างไรมาลงมือกับอาจารย์ของพวกเรา รนหาที่ตายชัดๆ!”
“เล่นมันให้ยับ! ตีพ่อเขาโดยที่ไม่รู้จักเขาด้วยซ้ำ!”
หลี่โม่แสยะยิ้มเย็นชาก่อนจะพุ่งตัวเข้าไปในกลุ่มของ ซินแสจางราวกับเสือโคร่งเข้าไปในฝูงแกะ สองแขนของเขาขยับไปมาพร้อมกับร่างของกลุ่มลูกศิษย์ของ ซินแสจาง ที่ล้มลงพร้อมด้วยใบหน้าฟกช้ำดำเขียว
หนังตาของกู้เจี้ยนกั๋วและคนอื่น ๆ กระตุก หัวใจและตัวก็สั่นไหว ทุกคนต่างหวาดกลัวต่อพลังของหลี่โม่ เมื่อหลี่โม่ล้มลูกศิษย์คนสุดท้ายได้ กลุ่มของสายตรวจติดอาวุธหนักก็พุ่งเข้ามา หัวหน้าสายตรวจเดินไปหาหลี่โม่ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ก่อนจะยื่นมือมาจับมือหลี่โม่อย่างเคารพ
“ขอบคุณคุณหลี่ที่ช่วยจับขบวนการต้มตุ๋นนี้ ตอนนี้มีคนมากมายมาแจ้งความกับพวกเราแล้ว”
“เป็นเรื่องที่ฉันควรทำอยู่แล้ว มันคือหน้าที่ของพลเมืองดี”
หลี่โม่พูดพร้อมรอยยิ้ม
เขาสะบัดมือให้กลุ่มสายตรวจพร้อมสั่งเสียงดัง “จับพวกต้มตุ๋นนี่ออกไปซะ!”
สายตรวจรีบพุ่งไปใส่กุญแจมือซินแสจางและกลุ่มลูกศิษย์ของเขาและพาพวกเขาออกไป
ขณะที่ซินแสจางถูกพาตัวออกไปนั้น เขาก็หันกลับมามองหลี่โม่อย่างเคียดแค้น “เตรียมรอฉันได้เลย ฉันจะแก้แค้นแกให้สาสม”
“เออ ฉันจะรอ แต่อย่าทำให้ฉันผิดหวังล่ะ”
หลี่โม่พูดเบาๆ
กู้หยุนหลันยืนขึ้นและคว้าแขนของหลี่โม่พร้อมกับพูดขึ้นด้วยโทนเสียงต่ำ “มันจะไม่เป็นไรใช่ไหม”