แมเนอร์จิงเฉิง
ราชินีของสำนักหลงเหมินนอนอย่างเกียจคร้านบนโซฟา “ไอ้ผีต่างชาติเหล่านั้นมีการเคลื่อนไหวอะไรไหม นี่กำลังรอดูพวกเขาจัดการหลี่โม่”
“ผู้อำนวยการบริหารของการแข่งมวยดำนานาชาติแคลตี้ ได้เซ็นสัญญากับฉู่จงเทียน และการแข่งมวยดำจะเริ่มอย่างเป็นทางการในสัปดาห์หน้า” จางเต๋ออู่โค้งคำนับเหมือนทาสและกล่าว
“ช้าจังเลย ฝั่งเจ้าแปดอาจพึ่งพาไม่ค่อยได้ ทางที่ดีส่งคนของเราไปอยู่รอบๆหลี่โม่จะดีกว่า”
ราชินีของสำนักหลงเหมินพูดอย่างช้าๆ
“ได้จัดเตรียมคนไปที่องค์กรของตระกูลกู้แล้ว สามารถรู้การเคลื่อนไหวโดยพื้นฐานของหลี่โม่ได้”
ราชินีของสำนักหลงเหมินเหลือบมองจางเต๋ออู่ด้วยท่าทางเหมือนดูคนโง่ และพูดอย่างเย็นชา “คุณนี่มันสมองควายหรือ สิ่งที่ฉันต้องการคือกุญแจลับ! ไม่ใช่การเคลื่อนไหวของหลี่โม่ คนที่คุณส่งไปจะหากุญแจลับให้ฉันได้ไหม!”
เหงื่อเย็นไหลออกมาที่หน้าผากของจางเต๋ออู่ เขาก้มศีรษะลงและไม่รู้ว่าจะตอบคำพูดของราชินีของสำนักหลงเหมินอย่างไร
“เป็นขยะที่ไร้ประโยชน์จริงๆ!”
ราชินีของสำนักหลงเหมินหยิบแก้วไวน์แดงในมือ และเทไวน์แดง Romani Conti มูลค่ากว่าหมื่นลงบนหน้าของจางเต๋ออู่
ไวน์สีแดงสดไหลอาบแก้มของจางเต๋ออู่ จางเต๋ออู่ที่ดูน่าสังเวช แขนสั่นเล็กน้อย แต่เขาไม่กล้ายกมือขึ้นเพื่อเช็ดไวน์ออกจากใบหน้า
“ฉันได้ยินมาว่าคุณเลี้ยงนางผู้หญิงคนนั้นไว้ คุณจะแอบแซบกับนางนั่นใช่ไหม”
ราชินีของสำนักหลงเหมินกล่าวอย่างเย็นชา
ร่างของจางเต๋ออู่สั่นสะท้านทันที จากนั้นเขาก็คุกเข่าลงและล้มหัวลงกับพื้น
“ไม่ ไม่ ผมไม่มีความคิดแบบนั้นกับเธอ ผมคิดว่าหลังจากที่ผมได้ฝึกเสี่ยวถง ผมจะอุทิศเธอให้กับคุณ เพื่อที่เธอจะสามารถรับใช้คุณอย่างดี”
“เหอะเหอะ ความคิดหรือแผนการในใจอันแยบยลของผู้ชาย คิดว่าฉันจะรู้ไม่ทันเหรอ เฉินเสี่ยวถงฉันได้ส่งเธอไปแล้ว พอดีหลี่โม่จะไปงานเลี้ยงในตอนกลางคืนของโรงกลั่นเหล้าองุ่นด้วย ให้นางจิ้งจอกของคุณไปพบหลี่โม่เถอะ ถ้าเธอสามารถได้กับหลี่โม่ แล้วสามารถเอากุญแจมาได้ ฉันจะถือซะว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น มิฉะนั้น…ฮิฮิฮิ”
เสียงหัวเราะของราชินีของสำนักหลงเหมินทำให้เลือดของจางเต๋ออู่แข็งตัว แม้ว่าราชินีของสำนักหลงเหมินจะไม่ได้พูดออกมา จางเต๋ออู่ก็รู้ว่ามันหมายถึงอะไร
เมื่อคิดถึงหุ่นที่เย้ายวนและใบหน้าที่มีเสน่ห์ของเฉินเสี่ยวถง จางเต๋ออู่รู้สึกเจ็บปวดในใจ นั่นคือสิ่งที่เขาวางแผนที่จะเก็บไว้สนุกเองอย่างลับๆ แต่ใครจะรู้ว่าถูกราชินีของสำนักหลงเหมินรู้ก่อน
“จางเต๋ออู่ คุณอย่าคิดว่าฉันรักและเอ็นดูคุณในช่วงนี้ คุณก็สามารถทำอะไรได้ตามใจชอบนะ คุณต้องเข้าใจว่า ทุกสิ่งที่คุณมี ฉันเป็นคนมอบให้คุณ และฉันสามารถนำทุกอย่างที่มอบให้คุณกลับคืนมาได้ตลอดเวลา”
“เข้าใจ เข้าใจ ต่อไปผมจะรับใช้คุณให้ดีกว่าเดิมแน่นอน”
จางเต๋ออู่ก้มกราบอย่างสุดแรง พยายามแสดงความจงรักภักดีของตนเองออกมา
“พอละ อย่าเป็นหนอนก้มกราบเลย ดูแล้วไม่ได้เรื่องเลย อุ้มฉันกลับไปพักผ่อนเถอะ”
จางเต๋ออู่ลุกขึ้นจากพื้น อุ้มราชินีของสำนักหลงขึ้นมาเบาๆ และกลับไปที่ห้องพร้อมกับความประหม่า
…
เมื่องานเลี้ยงในคืนโรงกลั่นเหล้าองุ่นมาถึง สวีอวิ๋นอวิ๋นได้ติดต่อกู้หยุนหลันแต่เนิ่นๆ รีบไปที่สำนักงานของกู้หยุน หลันเพื่อรอกู้หยุนหลันเลิกงาน
เมื่อเข้าไปในห้องทำงานของกู้หยุนหลัน เห็นหลี่โม่นั่งอยู่ในห้องทำงาน คิ้วของสวีอวิ๋นอวิ๋นก็ขมวด แต่คิ้วของสวีอวิ๋นอวิ๋นก็ผ่อนคลายลงในไม่ช้า
“หยุนหลัน ทำไมคุณยุ่งทั้งวันเลย คุณคิดว่าคุณเป็นซุปเปอร์แมนจริงๆเหรอ แต่สามีของคุณดูสบายมากเลยนะ”
สวีอวิ๋นอวิ๋นกล่าวอย่างแปลกใจ
กู้หยุนหลันยิ้ม “คุณไม่เข้าใจหลี่โม่ ความจริงแล้วเขาก็มีงานมากมาย”
“โธ่”
สวีอวิ๋นอวิ๋นส่งเสียงดูถูกเหยียดหยามและนั่งตรงข้ามกู้หยุนหลัน พูดว่า “เขาจะมีเรื่องอะไรล่ะ ตอนนี้ในเมืองฮ่านมีใครบ้างที่ไม่รู้ว่าเขาเป็นราชาเกาะผู้หญิงกิน”
“พอแล้วอวิ๋นอวิ๋น คุณรอฉันสักครู่ เดี๋ยวทำอันนี้เสร็จเราก็ไปกันได้แล้ว”
สวีอวิ๋นอวิ๋นเหลือบมองการแต่งตัวของกู้หยุนหลัน และไปมองดูการแต่งตัวของหลี่โม่ เธอแปลกใจเล็กน้อยและพูดว่า “พวกคุณไม่ได้จะใส่ไปแบบนี้ใช่ไหม คืนนี้เป็นงานเลี้ยงกลางคืนของโรงกลั่นเหล้าองุ่น ไม่ใช่แค่คนรวยรุ่นที่สองจากเมืองฮ่านเท่านั้น ได้ข่าวว่ามีกลุ่มธุรกิจต่างที่ด้วย หยุนหลัน ไม่ว่ายังไงคุณก็ควรใส่ชุดราตรีที่เซ็กซี่หน่อยมั้ง”
“ไหล่และหลังของคุณ หากไม่เปิดให้คนอื่นมองดู มันจะไม่น่าเสียดายไปหน่อยเหรอ หากคุณสวมชุดราตรีที่ลุกเป็นไฟ จะกลายเป็นจุดเด่นของงานเลี้ยงอย่างแน่นอน บางทีคุณอาจได้ธุรกิจใหญ่มาด้วยก็ได้”
หลังจากที่สวีอวิ๋นอวิ๋นพูดจบแล้วยืนขึ้น เธอถอดเสื้อคลุมที่สวมอยู่ เผยให้เห็นชุดราตรีคอ V ลึกเซ็กซี่ของเธอ
ชุดราตรีเน้นรูปร่างของสวีอวิ๋นอวิ๋น ทำให้หุ่นที่สมบูรณ์แบบของสวีอวิ๋นอวิ๋นเด่นชัด คอV ลึกที่ด้านหน้าและที่ด้านหลังยิ่งสะดุดตามากขึ้น
หมุนหนึ่งรอบตรงหน้ากู้หยุนหลัน สวีอวิ๋นอวิ๋นเอามือคาดเอวแล้วพูดว่า “เป็นไง ชุดนี้ของฉันไม่เลวใช่ไหม คุณก็ควรใส่แบบนี้ ไม่ก็เดี๋ยวเราไปซื้อชุดที่เหมาะสมให้คุณ”
เมื่อสวีอวิ๋นอวิ๋นพูดจบ เธอเหลือบมองไปที่หลี่โม่ เมื่อเห็นว่าหลี่โม่เพิกเฉยต่อรูปลักษณ์ของเธออย่างสมบูรณ์ ไฟในใจของสวีอวิ๋นอวิ๋นก็พุ่งออกมาทันที รู้สึกว่าหลี่โม่ตาบอดอย่างแน่นอน
“ฉันใส่เสื้อผ้าแบบนี้ไม่ได้ เปิดเผยเกินไป”
กู้หยุนหลันไม่มีความรู้สึกชอบเสื้อผ้าเซ็กซี่ที่เปิดเผยเช่นนี้ และรู้สึกว่าเสื้อผ้าดังกล่าวไม่สามารถสวมใส่ออกไปได้เลย
“นี่มีอะไรเปิดเผย แบบนี้ถึงจะเน้นรูปร่างที่สวยงามต่างหาก หลี่โม่ คุณบอกมาซิว่าฉันใส่ชุดนี้เป็นไง
บ้าง คุณมีความรู้สึกเหมือนว่าเลือดกำเดาจะไหลไหม บอกมาตามตรง”
สวีอวิ๋นอวิ๋นเงยศีรษะสูงราวกับหงส์ที่หยิ่งผยอง
“คุณอยากฟังความจริงจริงๆเหรอ?”
หลี่โม่พูดด้วยรอยยิ้ม
สวีอวิ๋นอวิ๋นเบิกตากว้างและพูดอย่างเย็นชา “บอกให้คุณพูดก็พูดสิ! คุณยังเป็นผู้ชายไหม!”
“ความจริงที่ผมอยากจะบอกก็คือ คนขี้เหร่มักทำอะไรบ้าๆบอๆ อืม ขี้เหร่จริงๆ”
หลี่โม่พูดอย่างจริงจัง
สวีอวิ๋นอวิ๋นตกตะลึงครู่หนึ่ง แล้วเกือบโมโหจนจะร้องไห้ในคำพูดของหลี่โม่
“คุณ! คุณตาบอดหรือ คุณกล้าบอกว่าฉันขี้เหร่! หยุนหลัน ช่วยฉันตัดสินหน่อย หลี่โม่ของคุณตาบอดใช่ไหม!”
กู้หยุนหลันนวดหน้าผากของเธอและพูดด้วยรอยยิ้มที่บิดเบี้ยว”อวิ๋นอวิ๋น ไม่ต้องสนใจหนี่โม่ หลี่โม่เหมือนฉัน ไม่สามารถชื่นชมความงามแบบนี้ได้”
“ห๊ะ! คุณมันรักผู้ชายมากกว่าเพื่อน ยังจะปกป้องเขาอีก พวกคุณใส่แบบนี้ไปงาน เดี๋ยวโดนหัวเราะเยาะแน่ อย่าหาว่าฉันไม่ได้เตือนพวกคุณนะ!”
สวีอวิ๋นอวิ๋นกล่าวอย่างโกรธเคือง
“รู้แล้ว เราจะไม่ไปทำความรู้จักกับใคร แค่ไปช่วยคุณดูว่าแฟนของคุณเป็นคนอย่างไร ใช่แล้ว คุณสามารถบอกฉันเกี่ยวกับข้อมูลพื้นฐานของแฟนของคุณได้ไหม ถึงเวลานั้น จะได้ไม่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่รู้อะไรเลย”
สวีอวิ๋นอวิ๋นหายใจเข้าลึกๆสองครั้ง ระงับความโกรธในใจของเธอ หยิบโทรศัพท์มือถือของเธอออกมาแล้วดึงรูปถ่ายให้กู้หยุนหลันดู
“หน้าตาหล่อเหลา ครอบครัวทำธุรกิจอสังหาฯ แต่ไม่ใช่เจ้าใหญ่อะไร ถือได้ว่ามีเงินเพียงเล็กน้อย ดูเหมือนว่าทรัพย์สินของบริษัทเขามีเพียงหลายร้อยล้านเท่านั้น และสามารถผ่านเส้นความคาดหวังของฉันได้อย่างงูๆปลาๆ”
“ทรัพย์สินหลายร้อยล้านยังบอกว่างูๆปลาๆ เงื่อนไขของคุณไม่ต่ำเลยนะ”
หลี่โม่อดไม่ได้ที่จะบ่น
“เหอะๆ คนรวยที่ตามจีบหยุนหลันในตอนนั้น ทรัพย์สินที่ต่ำที่สุดที่บ้านก็หนึ่งพันล้านขึ้นไป! ฉันไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงมาตกหลุมรักคนอย่างคุณ”