“ตี! ทุบตีให้หนัก ทุบตีให้ตาย!”
ฉิงจี้เย่กล่าวอย่างดุเดือด
“พี่ใหญ่ คุณมันบ้าไปแล้ว ทำไมให้พวกเขาตีพวกเรา!”
คุณชายรองฉิงถามด้วยความตื่นตระหนก
“ยังกล้าถามว่าทำไม? พวกคุณกล้าทำให้คุณหลี่ขุ่นเคืองคือการหาที่ตาย! หักกระดูกบนร่างกายทุกซี่บนตัวของพวกเขาให้หมด!”
หลังจากพูดจบ ฉิงจี้เย่ได้ทำเป็นตัวอย่างก่อน โดยเหวี่ยงกำปั้นของเขาไปที่ไหล่ของสองพี่น้องที่โง่เง่า
ด้วยการชกสองครั้งอย่างดุเดือด คุณชายรองฉิงและคุณชายสามฉิงกรีดร้อง
“ชกแบบนี้ เร็ว”
หลังจากทำการการสาธิตเสร็จ ฉิงจี้เย่ก็จ้องไปที่บอดี้การ์ดและพูด
บอดี้การ์ดกัดฟันและขยับมือ ทุบตีคุณชายรองฉิงและคุณชายสามฉิงอย่างรุนแรง
ผู้คนที่ดูอยู่ข้างๆหวาดกลัว โหดร้ายกับพี่น้องของเขามาก หากไม่มีเหตุผลเพียงพอ นั่นก็ทำเกินไปแล้วจริงๆ
ภายใต้ความสนใจของผู้ชม ฉิงจี้เย่เดินไปหาหลี่โม่ โค้งคำนับให้หลี่โม่หนึ่งร้อยสิบองศา อีกนิดหัวของเขาก็จะแตะนิ้วเท้าของเขาแล้ว
“คุณหลี่ ผมขอโทษคุณแทนลูกพี่ลูกน้องสองคนนี้ของผมด้วย พวกเขามีตาแต่ไม่มีแวว ขอให้คุณหลี่ให้อภัยพวกเขาด้วย ผมจะจัดการกับพวกเขาอย่างเหมาะสมและจะไม่ปล่อยให้พวกเขากลับไปในประเทศอีกแน่นอน”
หลี่โม่พยักหน้าเล็กน้อยและกล่าวจางๆ “งั้นก็แบบนี้เถอะ อย่างอื่นไม่ไปถือสาแล้ว”
“ขอบคุณคุณหลี่ ในนามของตระกูลฉิง ผมขอขอบคุณสำหรับความเอื้ออาทรของคุณ”
ฉิงจี้เย่โค้งคำนับและขอโทษหลังจากพูดจบ สีหน้าท่าทีดูเคารพมาก
ผู้คนที่มุมดูต่างตกตะลึง มองมาที่หลี่โม่ด้วยสายตาทุกรูปแบบ ราวกับจะมองเห็นผ่านตัวตนของหลี่โม่
แต่เสื้อผ้าธรรมดาของหลี่โม่นั้นดูสับสนเกินไป และมันก็ดูไม่ออกว่าตัวตนที่แท้จริงของหลี่โม่เป็นใคร
“คุณหลี่คนนี้เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์จากไหนกัน?ฉิงจี้เย่จึงได้เกรงกลัวเขาเช่นนี้ มันเป็นไอ้หนุ่มซินตึ๊งบุกกรุงโรมใช่ไหม”
“มังกรตัวนี้ ก็ดุร้ายเกินไปไหม ถึงขั้นที่คุณชายรองฉิงและคุณชายสามฉิงจะถูกส่งไปต่างประเทศ บางทีพวกเขาอาจถูกส่งไปที่ใดที่หนึ่งเพื่อทำไร่ทำนา น่าสงสารมาก”
“ใครรู้จักคุณหลี่คนนี้ โปรดช่วยเล่ารายละเอียดของคุณหลี่ให้ฟังหน่อย ฉันเตรียมพร้อมที่จะไปทำความรู้จักคุณหลี่ กอดต้นขาทองของเขา”
เมื่อฟังความคิดเห็นต่างๆนาๆของผู้คนรอบตัว คนทั้งคนของสวีอวิ๋นอวิ๋นก็เริ่มไม่ดี คนที่น่ากลัวอย่างฉิงจี้เย่จะไปขอโทษหลี่โม่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งได้ล้มล้างมุมมองเดิมของสวีอวิ๋นอวิ๋น
สีหน้าของกู้ชิงหลินมืดลง และเธอก็หงุดหงิดเล็กน้อยที่เห็นฉิงจี้เย่ไม่มีศักดิ์ศรี อยู่ดีๆทำไมต้องไปขอโทษหลี่โม่ด้วย!
“อยากรู้รายละเอียดของคุณหลี่เหรอ? ฉันรู้”
กู้ชิงหลินกัดฟันและพูดว่า
สายตาของผู้คนมากมายรอบๆมองมา ชายหนุ่มร่ำรวยที่ไม่ใช่คนเมืองฮ่านเหล่านี้ไม่รู้จักกู้ชิงหลิน ดังนั้น เมื่อได้ยินว่าเธอรู้รายละเอียดของหลี่โม่ ดังนั้นพวกเขาจึงตั้งคำถามด้วยความสงสัย
“ถ้าคนสวยรู้ก็รีบบอกมา เราจะชวนคนสวยมาดื่มทีหลัง”
กู้ชิงหลินก็ไม่ได้ลีลา เธอเงยหน้าขึ้นแล้วพูดเสียงดังว่า “หลี่โม่ เป็นลูกเขยแต่งเข้าไปในบ้านฝ่ายหญิงของตระกูลกู้ในเมืองฮ่าน เป็นไอ้ขยะที่ไร้ประโยชน์! เขาจะเป็นไอ้หนุ่มซินตึ๊ง บุกกรุงโรมได้ไง เขาก็แค่ไอ้ขยะไร้ประโยชน์ของเมืองฮ่าน!”
ทันทีที่เสียงของกู้ชิงหลินลดลง ฝูงชนรอบๆก็ถอยกลังทันที ราวกับว่ากู้ชิงหลินเป็นพวกงูแมงป่อง ทุกคนหลบเลี่ยง
มีเพียงเพื่อนสนิท สวีอวิ๋นอวิ๋นของกู้ชิงหลินเพียงไม่กี่คนที่ยังอยู่กับเธอ
เมื่อเห็นชายหนุ่มร่ำรวยรอบตัวผลักออกไป กู้ชิงหลินก็ยิ่งโกรธมากขึ้น ชี้ไปที่หลี่โม่แล้วตะโกนว่า “หลี่โม่ ไอ้ขยะ คุณยังกล้าที่จะหยิ่งผยองที่นี่อีกเหรอ!”
“กู้ชิงหลิน?” หลี่โม่เหลือบไปที่กู้ชิงหลินด้วยความประหลาดใจ จากนั้นเห็นสวีอวิ๋นอวิ๋นอยู่กับกู้ชิงหลิน ในใจของเขาก็เข้าใจในทันที
กู้หยุนหลันก็เห็นกู้ชิงหลินกับสวีอวิ๋นอวิ๋นอยู่ด้วยกัน มองสวีอวิ๋นอวิ๋นอย่างผิดหวังแล้วถอนหายใจ
สวีอวิ๋นอวิ๋นตกใจในทันที รู้ว่าตนเองเปิดเผยแล้ว และหลังจากลังเลสักพัก สวีอวิ๋นอวิ๋นก็วิ่งหนีจากกู้ชิงหลิน
วิ่งไปด้านข้างของกู้หยุนหลัน สวีอวิ๋นอวิ๋นจับแขนของกู้หยุนหลันและกล่าวว่า “หยุนหลัน คุณเข้าใจผิดแล้ว เราเพิ่งพบกันเมื่อตอนที่เกิดเรื่อง มีคนเบียดเราจึงทำให้เรายืนอยู่ที่เดียวกัน”
“เหอะๆ” กู้หยุนหลันหัวเราะอย่างเย็นชา ดึงแขนของเธอกลับจากมือของสวีอวิ๋นอวิ๋น
สวีอวิ๋นอวิ๋นรู้สึกโมโหเล็กน้อย แต่เมื่อเธอเห็นหลี่โม่ สวีอวิ๋นอวิ๋นก็ระงับความโกรธของเธอ
“หยุนหลัน คุณต้องเชื่อฉันนะ ฉันรู้ว่าเมื่อกี้ฉันวิ่งไปเองไม่ถูกต้อง นี่ก็เพราะฉันกลัวไม่ใช่เหรอ ถ้าฉันรู้ว่าหลี่โม่เก่งขนาดนี้ ฉันจะไม่วิ่งหนีไปแน่นอน”
เมื่อกู้ชิงหลินเห็นสวีอวิ๋นอวิ๋นขอโทษกู้หยุนหลัน ความโกรธของเธอก็พุ่งไปที่หน้าผากของเธอและเธอรีบเดินไปหาสวีอวิ๋นอวิ๋น เตรียมที่จะดึงสวีอวิ๋นอวิ๋นกลับมา
ฉิงจี้เย่ห้ามกู้ชิงหลินไว้ พูดอย่างเย็นชาว่า “เดินหน้าอีก ผมจะไม่เกรงใจละนะ”
“คุณมีสิทธิ์อะไรมาขวางทางฉัน อย่าคิดว่าคุณเป็นคุณชายคนโตของตระกูลฉิงแล้ว ฉันจะกลัวคุณ! แม้แต่ขยะอย่างหลี่โม่ก็กลัว ชื่อเสียงและศักดิ์ศรีของลูกชายคนโตของคุณในตระกูลฉิง แค่คุยอวดออกมาเท่านั้น!”
กู้ชิงหลินเป็นเพราะโมโห บวกกับความมั่นใจที่มีคุณชายสามหลิน เธอไม่ได้เห็นฉิงจี้เย่อยู่ในสายตาของเธอ
“ผมจะมียศศักดิ์ขนาดนั้นได้ไง ผมฉิงจี้เย่เป็นแค่หมาของคุณหลี่เท่านั้น คุณหลี่กัดใครผมก็กัดคนนั้น คนที่ไม่เคารพคุณหลี่ผมก็จะกัด ไม่ว่าใครก็ตาม ชายหญิงเด็กหรือคนชรา”
ฉิงจี้เย่กล่าวอย่างไร้ความรู้สึก
หลายคนที่ชมดูอยู่ข้างๆเคยพูดคุยกับฉิงจี้เย่ และเคยเห็นด้านที่ดุร้ายของฉิงจี้เย่มาก่อน ในขณะนี้ เมื่อ ฉิงจี้เย่เรียกตัวเองว่าเป็นหมาของหลี่โม่ มุมมองของทุกคนก็พังทลายลง
“ฉินจี้เย่กำลังจะบ้าใช่ไหม เขาพูดแบบนี้คือไม่มีหน้าเลยนะ และเขาก็ยอมรับว่าเขาเป็นสุนัข”
“นี่เป็นเพราะจะประจบจึงปล่อยใช่ไหม หลี่โม่คนนี้ไม่ใช่ขยะไร้ประโยชน์อย่างแน่นอน ถ้าเป็นขยะไร้ประโชชน์ ฉิงจี้เย่ไม่ใช่หมาอย่างแน่นอน”
กู้ชิงหลินถูกฉิงจี้เย่พูดจนแทบหายใจไม่ออก ฉิงจี้เย่ยอมรับว่าตนเองเป็นหมาของหลี่โม่ กู้ชิงหลินจะพูดอะไรเพิ่มก็สูญเปล่า
กู้ชิงหลินโกรธเนื่องจากความละอายและขุ่นเคือง เหวี่ยงมือไปที่ใบหน้าของฉิงจี้เย่ด้วยความโกรธและเริ่มลงมือ “หลี่โม่เป็นลูกเขยแต่งเข้ามาในตระกูลของฉัน ถ้าคุณเป็นหมารับใช้ของหลี่โม่ ก็เป็นสุนัขของตระกูลกู้ด้วย วันนี้ฉันจะตีหมาหัวเน่าตัวนี้!”
ฉิงจี้เย่ก้าวถอยหลังและหลบมือของกู้ชิงหลิน ขมวดคิ้วแน่นและมองไปที่หลี่โม่ด้วยสีหน้าที่สอบถาม
หลี่โม่มองไปที่กู้ชิงหลินอย่างเย็นชาและกล่าวว่า “ตี”
ฉิงจี้เย่พยักหน้า จับผมของกู้ชิงหลิน ยกแขนของเขาและตบไปที่ใบหน้าของกู้ชิงหลิน
หลังจากตบไปไม่กี่ครั้ง ใบหน้าที่เต็มไปด้วยโบท็อกของกู้ชิงหลินเกือบพัง
“ฮือๆๆ! “
กู้ชิงหลินถูกทุบตีและร้องไห้อย่างหนัก ปาดน้ำตาและคำราม “หลี่โม่ คุณกล้าให้คนอื่นตบฉัน คอยดู รอให้ฉันหาคนมาจัดการพวกคุณ!”
“จะหาคนก็รีบไปหา อย่าปล่อยให้เรารอนานเกินไป”
หลี่โม่พูดจางๆ
“เดี๋ยวก่อน วันนี้เป็นวันตายของคุณ!”
หลังจากที่กู้ชิงหลินพูดจบ เธอก็รีบไปหาคุณชายสามหลิน