ฉิงจี้เย่ทุ่มสุดตัวแล้ว เขารู้ดีว่าตัวเองต้องแสดงออกมา ขอแค่ทำให้หลี่โม่ประทับใจได้ เขาจะไม่ตายอย่างแน่นอน
ไม่เพียงแต่จะไม่ตาย อีกทั้งยังสามารถอยู่ในสายตาของหลี่โม่ และได้เป็นลูกน้องอยู่รอบตัวของหลี่โม่ นับว่าเป็นเรื่องที่ไม่มีปัญหาอะไร
ตอนนี้เขาหน้าตาฟกช้ำ เลือดไหลลงมาจากหน้าผากไม่หยุด เขาใช้แรงทั้งหมดทรงตัวตรงขึ้นมา ตอนนี้จะให้สู้คงสู้ไม่ไหว เขาสามารถทำได้เพียงวางมาดเท่านั้น
เหล่าคุณชายที่อยากรู้อยากเห็นต่างช็อกกับการวางมาดของฉิงจี้เย่ เขาโดนต่อยจนสภาพเป็นแบบนั้น ทำไมยังกล้ายืนขวางอีก
อย่าบอกนะว่าฉิงจี้เย่จะสู้จนตัวตายเพื่อปกป้องหลี่โม่อย่างนั้นเหรอ
งั้นหลี่โม่เป็นใคร ถึงทำให้ฉิงจี้เย่เป็นถึงขนาดนี้
“ฉิงจี้เย่จะมาไม้ไหน ถ้าเขาเป็นสุนัขรับใช้จริงๆ เขาโดนซัดจนถึงขนาดนี้ เจ้าของควรจะออกโรงแล้วนะ ทำไมหลี่โม่ยังนั่งนิ่งอยู่แบบนั้น เขาคงจะไม่นั่งมองฉิงจี้เย่ตายไปต่อหน้าต่อตาหรอกนะ”
“วันนี้มันเรื่องอะไรกันนี่ ฉิงจี้เย่บ้าไปแล้วเหรอ หลี่โม่เหมือนพวกไร้ค่า คุณชายสามหลินแสดงอำนาจออกมาขนาดนี้ เขายังไม่ทำอะไรสักอย่าง น่าสงสารฉิงจี้เย่จริงๆ”
“นายดูผู้หญิงข้างหลี่โม่สิ ข้างซ้ายก็สาวสวย ข้างหลังก็สาวสวย แถมข้างหน้ายังมีฉิงจี้เย่คอยปกป้องอีก พวกนายคิดว่าเขาเป็นคนมีความสามารถไหมล่ะ ฉันว่าเดี๋ยวคุณชายสามหลินต้องทำเหมือนเขาเป็นหมา แล้วก็ชิงตัวสาวสวยทั้งสองคนกลับไปเสวยสุข”
เหล่าคุณชายต่างรู้สึกว่าฉิงจี้เย่ไม่สมควรโดนแบบนี้ ส่วนอีกด้านก็คิดว่าหลี่โม่ไร้ประโยชน์มาก ตอนนี้คนที่มีความสามารถคือคนที่สู้อย่างสง่าผ่าเผย แต่ดูท่าหลี่โม่เหมือนไม่คิดจะลงไม้ลงมือ แถมยังไม่กล้าพูดขัดขืนออกมาสักคำ
คุณชายสามหลินปรายตามองฉิงจี้เย่ เขาแสยะยิ้มแล้วพูดว่า “ดื้อดึงจริงๆ เมื่อกี้แกตบชิงหลินใช่ไหม ไปจับตัวมันมาให้ชิงหลินกระทืบระบายความโกรธหน่อยสิ”
กู้ชิงหลินเชิดหน้าขึ้นอย่างได้ใจ เธอรู้สึกว่าวันนี้ตัดสินใจได้ฉลาดที่สุดในชีวิต มีคุณชายสามหลินคอยหนุนหลัง ความแค้นที่เคยมีกับกู้หยุนหลันและหลี่โม่จะต้องได้รับการชำระอย่างแน่นอน
เอาฉิงจี้เย่เป็นดอกเบี้ยก่อนก็ไม่เลว เดี๋ยวจะใช้ส้นสูงกระทืบหน้ามันให้เละ
ฉิงจี้เย่ยิ้มอย่างน่าเวทนา เขาตั้งท่าพร้อมสู้ “เข้ามาสิ ถ้าแกมีปัญญาก็ฆ่าฉันให้ตาย ถ้าวันนี้พวกแกไม่ฆ่าฉัน วันหน้าฉันจะฆ่าพวกแกเอง!”
“ไอ้ฉิบหาย! แกยังกล้าไม่เคารพคุณชายสามอีกเหรอ พวกเราเข้าไปจัดการไอ้เวรนี่ให้สาสม”
“กล้าพูดว่าจะฆ่าพวกเรา ฉันจะดูสิว่าคนกระจอกอย่างแกจะทำอะไรพวกเราได้! เดี๋ยวพวกฉันจะทำให้แกไม่สามารถสู้ได้เลย!”
เหล่าลูกน้องของคุณชายสามหลินพุ่งเข้ามาอย่างอวดดี จากนั้นจึงพากันรุมฉิงจี้เย่
ฉิงจี้เย่สู้ได้ไม่ถึงไหนก็โดนต่อยจนหงายหลัง
“เหอะๆ ก็แค่สวะ ดีแต่ปาก เดี๋ยวฉันจะจัดการแกให้ไม่สามารถสืบพันธุ์ได้เลย!”
ลูกน้องของคุณชายสามหลินคนหนึ่งพูดอย่างอวดดี เขายกขาจะเตะที่เป้าของฉิงจี้เย่
ถ้าครั้งนี้เตะโดน ฉิงจี้เย่จะต้องเป็นขันทีแน่นอน
เมื่อเห็นขาขนาดใหญ่ที่พุ่งเข้ามา ฉิงจี้เย่หลับตาอย่างสิ้นหวัง
แววตาของเฉินเสี่ยวถงวูบไหว เธอจ้องหลี่โม่เขม็ง อยากรู้ว่าหลี่โม่จะเข้าไปช่วยฉิงจี้เย่หรือเปล่า
กู้หยุนหลันหลับตาเหมือนไม่อยากเห็นจุดจบอันน่าเวทนาของฉิงจี้เย่
ดวงตาของกู้ชิงหลินฉายแววตื่นเต้น เธอคิดว่าถ้าเธอเป็นคนถีบเองจะดีแค่ไหน แต่เธอไม่ได้รีบร้อน เดี๋ยวลูกน้องของคุณชายสามหลินก็จับตัวหลี่โม่ เธอก็จะได้ทำเช่นนี้เหมือนกัน
คุณชายสามหลินยกยิ้มมุมปาก รอยยิ้มได้ใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา คิดว่าวันนี้ได้กกผู้หญิงสองคนก็ไม่เลว อีกเดี๋ยวเขาก็จะได้พาสองสาวสวยกลับไปเสวยสุขแล้ว
แต่ทว่าหลี่โม่แสยะยิ้มเย้ยหยันออกมา เขาเคาะนิ้วลงบนโต๊ะ หลอดที่อยู่บนโต๊ะลอยออกไปทันที
ขณะที่หลอดลอยออกไป ตาของลุงฝูถึงกับกระตุก แววตาของเขาฉายแววตกใจ
การที่จะทำให้หลอดพลาสติกลอยออกไปตรงๆ เป็นเรื่องยากมาก แถมมันยังเร็วจนแทบจะมองไม่เห็น นี่มันยากมากๆ
ฉึบ
หลอดแทงลงไปบนเข่าของคนที่กำลังจะยกเท้าถีบเป้าของฉิงจี้เย่ ตอนนี้หลอดที่อ่อนยวบเป็นเหมือนเหล็กเส้น มันแทงเข้าไปในกระดูกเข่า
“อ๊าก!”
ชายร่างกายกำยำส่งเสียงโอดครวญออกมา จากนั้นก็ล้มหงายหลัง เขาเอามือกุมเข่าและนอนกลิ้งอยู่บนพื้นอย่างเจ็บปวด
“เข่าฉัน!”
คุณชายสามหลินกับคนอื่นยังมึนงงว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อเห็นเสียงร้องของชายร่างกายกำยำ จึงสังเกตเห็นหลอดที่ปักอยู่บนเข่าของชายคนนั้น
ทุกคนพากันเบิกตาโพลง เพราะคิดไม่ออกว่าหลอดไปปักอยู่บนเข่าได้ยังไง ที่สำคัญไปกว่านั้นเขายังไม่เห็นเลยว่าหลอดมันมาจากไหน
ฉิงจี้เย่ถอนหายใจออกมา เขารู้ว่าหลี่โม่เป็นคนช่วยเขา
เหมือนถอนหายใจออกมา ฉิงจี้เย่รู้สึกเจ็บไปทั้งตัว ตอนนี้ความเจ็บที่โดนซ้อมเมื่อครู่ หลั่งไหลเข้าไปในหัวของฉิงจี้เย่ราวกับสายน้ำ
สมองของเขาไม่สามารถรับความเจ็บปวดได้ ตัวของเขากระตุกสองครั้งและสลบไปเพราะความเจ็บปวด
คุณชายสามหลินตกใจเล็กน้อย จากนั้นจึงตั้งสติได้ เขากวาดตามองหลี่โม่และคนอื่น
หลี่โม่ กู้หยุนหลันและเฉินเสี่ยวถงถูกตัดออกไป สุดท้ายสายตาของคุณชายสามหลินไปหยุดลงที่ลุงฝู
“ตาเฒ่า ฝีมือแกเหรอ มาขัดขวางเรื่องของฉัน อยากโดนใช่ไหม!”
คุณชายสามหลินมองลุงฝูด้วยแววตาดุร้าย
ลุงฝูยิ้มแต่ไม่พูดอะไร เขาทำเพียงส่ายหน้าเบาๆ
ลูกน้องของคุณชายสามหลินตกใจมาก จากนั้นจึงพากันมองลุงฝูด้วยสายตาเคียดแค้น
เรื่องเมื่อครู่เป็นเรื่องที่น่าอับอายมาก อีกทั้งไม่ได้อับอายเพียงคนเดียว แต่มันอับอายไปทั้งกลุ่ม ดังนั้นเหล่าลูกน้องของคุณชายสามหลินอยากจะจัดการลุงฝูจนอดใจไม่ไหวแล้ว
“ตาเฒ่า กล้าทำแต่ไม่กล้ารับเหรอ ใช้หลอดแล้วเจ๋งมากหรือไง ถ้ามีปัญญาก็มาสู้กับฉัน ดูสิว่าพวกเราจะฆ่าแกได้ไหม!”
“ถึงจะเก่งแค่ไหนถูกลูกปืนก็ตาย ฉันมีปืน ตาเฒ่าอย่างแกกลัวไหมล่ะ ถ้ากลัวก็รีบคุกเข่าลงซะ!”
เหล่าลูกน้องของคุณชายสามหลินควักปืนออกมาและเล็งไปที่ลุงฝู
“กรี๊ด!”
เฉินเสี่ยวถงกรีดร้องออกมา สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เธอยื่นมือออกมาจับไหล่หลี่โม่และโน้มตัวเข้าไปแนบหลังหลี่โม่
เมื่อกี้เฉินเสี่ยวถงเห็นว่าเป็นฝีมือของหลี่โม่อย่างชัดเจน เมื่อครู่เฉินเสี่ยวถงฟันธงเลยว่าหลี่โม่เป็นผู้ชายที่มีจิตใจมีคุณธรรม เธอคิดว่าถ้าตัวเองได้อยู่กับหลี่โม่ เธออาจจะหลุดพ้นจากความทุกข์ระทม
อีกอย่างหลี่โม่ยังเป็นเจ้านายของสำนักหลงเหมิน ถ้าช่วยหลี่โม่ตลบหลังราชินีของสำนักหลงเหมิน เฉินเสี่ยวถงคิดว่าเธอจะต้องได้ผลประโยชน์เยอะกว่านี้ ถึงขนาดที่สามารถใช้ชีวิตอย่างสดใส