ไม่ต้องคิดเยอะ เฉินเสี่ยวถงตัดสินใจได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นผลประโยชน์หรือความสุขในอนาคต เธอพนันได้เลยว่าหลี่โม่พึ่งพาได้กว่าราชินีของสำนักหลงเหมินเยอะ
หลี่โม่รู้สึกสัมผัสอันน่าขนลุกจากข้างหลัง เขาขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ถ้าเธอกลัวก็ไปอยู่กับภรรยาของผมสิ”
กู้หยุนหลันยื่นมือออกมาวางบนแขนของเฉินเสี่ยวถง จากนั้นจึงพูดอย่างอ่อนโยนว่า “เธอไม่ต้องกลัวนะ ถ้ากลัวก็จับมือฉันได้”
“ไม่ เขาทำให้ฉันรู้สึกปลอดภัยกว่า”
เฉินเสี่ยวถงพูดอย่างน่าสงสาร
หลี่โม่ส่ายหน้ายิ้มแหย “เธอไม่ต้องจับตัวผมก็ปลอดภัยเหมือนกัน ถ้าเธอเอาแต่จับตัวผม จะยิ่งรู้สึกไม่ปลอดภัยนะ”
“ทำไมล่ะ”
“เพราะผมกลัวภรรยา ผมไม่ทำเรื่องที่ทำให้ภรรยาไม่มีความสุข เช่น ที่คุณกำลังทำกับผมตอนนี้ มันจะทำให้ภรรยาของผมไม่พอใจได้”
หลี่โม่พูดอย่างจริงจัง
กู้หยุนหลันมองหลี่โม่ตาขวาง เธออดเอามือป้องปากหัวเราะไม่ได้
เฉินเสี่ยวถงรู้สึกหดหู่ แต่ก่อนเมื่อผู้ชายเห็นเธอ เหมือนวิญญาณหลุดออกจากร่าง แต่ตอนนี้เธอเป็นฝ่ายเริ่มก่อน คิดไม่ถึงว่าหลี่โม่จะไม่สนใจแม้แต่น้อย
ถึงกู้หยุนหลันจะสวยมาก แต่เธอก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากู้หยุนหลัน พวกผู้ชายก็แค่คนเจ้าชู้หลายใจไม่ใช่หรือไง!
ต้องเป็นเพราะกู้หยุนหลันอยู่ที่นี่ด้วย หลี่โม่จึงไม่กล้าแสดงอะไรออกมา รอให้กู้หยุนหลันไม่อยู่ก่อนเถอะ ดูสิว่าหลี่โม่จะเป็นยังไง!
เฉินเสี่ยวถงเอามือออกจากไหล่ของหลี่โม่อย่างไม่พอใจ จากนั้นเธอจึงกอดแขนของกู้หยุนหลันเอาไว้ และทำเป็นซบหลังกู้หยุนหลันด้วยท่าทางอ่อนแอ
“สามีพี่ดุจัง”
“เขาดุเหรอ หลี่โม่ไม่ดุสักนิด อ้อ เธอชื่ออะไรเหรอ ฉันชื่อกู้หยุนหลัน”
กู้หยุนหลันยิ้มแล้วพูดออกมา
“ฉันชื่อเฉินเสี่ยวถง”
“น้องเสี่ยวถงไม่ต้องกลัวนะ มีหลี่โม่อยู่ ไม่มีทางเกิดเรื่องอะไรแน่นอน”
ไม่รู้กู้หยุนหลันมีความเชื่อใจในตัวของหลี่โม่ตั้งแต่เมื่อไร ถึงแม้จะเจอเรื่องที่อยู่ตรงหน้า กู้หยุนหลันรู้สึกว่าหลี่โม่จะต้องจัดการได้อย่างแน่นอน
หลี่โม่ไม่สนใจเฉินเสี่ยวถงอีก เขาหันไปมองลุงฝู
ลุงฝูมองลูกน้องของคุณชายสามหลินที่ถือปืนอย่างแน่วแน่ เขาเดินเข้าไปแล้วพูดว่า “คิดว่ามีปืนก็พอเหรอ ในสายตาของคนมีฝีมือ ปืนมันก็แค่ของเล่นชิ้นหนึ่งเท่านั้น”
“โอ้อวดจริงๆ ใกล้จะตายยังกล้าพูดแบบนี้ ถ้ามีปัญญาก็รับลูกปืนของพวกเราสิ! ฮ่าๆๆๆ”
“จะไปพูดกับตาเฒ่านี่ทำไม จัดการมันให้ตายก็พอ คุณชายของเราต้องรอพาสาวสวยกลับไปเสวยสุขอีกนะ อย่าทำให้คุณชายต้องเสียเวลาทำเรื่องใหญ่”
ลูกน้องของคุณชายสามหลินพูดอย่างอวดดี พวกมันยกปืนขึ้น เตรียมที่จะยิงลุงฝู
ลุงฝูหัวเราะ จู่ๆ เขาก็กระโดดไปข้างหน้า มันรวดเร็วจนเห็นเป็นเงาอยู่ในอากาศ
ลูกน้องของคุณชายสามหลินไม่เคยเจอความเร็วขนาดนี้ ไม่รอให้พวกเขาได้ลั่นไกปืน ลุงฝูก็พุ่งมาตรงหน้าพวกเขาแล้ว
เพียะ เพียะ เพียะ
มือทั้งสองข้างของลุงฝูเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เมื่อเขาสะบัดมือกระบอกปืนก็ตกลงมา เมื่อลุงฝูจัดการเรียบร้อย ลูกน้องของคุณชายสามหลินแขนหักทั้งสองข้าง ปืนในมือของพวกเขาหล่นลงพื้น
คุณชายสามหลินมองอย่างตกตะลึง ตอนนี้เขาเพิ่งรู้ว่าคนที่ดูเหมือนพ่อบ้านจะเป็นคนมีฝีมือ
กู้ชิงหลินตกใจจนหลบอยู่ในอ้อมกอดของคุณชายสามหลิน เธอถามอย่างสยองว่า “คุณชายสาม นี่มันเกิดอะไรขึ้นคะ เราจะทำยังไงดี”
“หึหึ ไม่ต้องกังวล ก็แค่คนมีฝีมือด้านการต่อสู้ ฉันมีผู้มีฝีมืออยู่ข้างกาย!”
เมื่อคุณชายสามหลินพูดจบ ชายวัยกลางคนในชุดฝึกสีขาวปรากฏตัวขึ้นข้างหลังคุณชายสามหลิน
ชายวัยกลางคนคิ้วรูปดาบดวงตาสดใส ดวงตาทั้งสองข้างเป็นประกาย ขมับทั้งสองข้างของเขายกขึ้น ดูแล้วมีชีวิตชีวาเป็นอย่างมาก
“ฝากด้วยนะลุงเป้า”
คุณชายสามหลินพูดเสียงทุ้ม
ลุงเป้าพยักหน้าเบาๆ เขายืนข้างหน้าคุณชายสามหลินและมองลุงฝูอย่างประเมิน
ลุงฝูชะงักฝีเท้าลง เขามองลุงเป้าอย่างจริงจัง สีหน้าของเขาชะงักไป
หลี่โม่หันไปมองเฉินเสี่ยวถงแล้วพูดว่า “พ่อบ้านของเธอเก่งมาก แต่ทำไมผมยังไม่เคยได้ยินชื่อเสียงของตระกูลเฉินเลยล่ะ”
“ตระกูลของเราไม่ได้อยู่ที่นี่ อยู่ในบ้านฝีมือของลุงฝูก็แค่ธรรมดาทั่วไป มีคนที่เก่งกว่าเขาเยอะ ฉันหลบหนีการแต่งงานมาที่นี่ เพราะฉะนั้นเป็นเรื่องปกติที่นายไม่ได้ยินชื่อของตระกูลฉัน”
เฉินเสี่ยวถงพูดโกหกออกมา หลี่โม่หัวเราะและไม่ได้คิดอะไรกับคำพูดของเฉินเสี่ยวถง
แต่ทว่ากู้หยุนหลันสนใจคำพูดของเฉินเสี่ยวถงมาก เธอจับมือของเฉินเสี่ยวถงแล้วถามว่า “ทำไมเธอถึงหลบหนีการแต่งงานล่ะ เพราะเธอไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานที่ครอบครัวจัดให้ใช่ไหม”
“ใช่สิ พี่กับหลี่โม่รักกันอย่างอิสระใช่ไหมล่ะ ฉันอิจฉามากที่เห็นพวกพี่สวีทกัน คนในบ้านให้ฉันแต่งงานเพื่อสร้างสัมพันธ์ ฉันหนีออกมาเพราะต้องการอิสระ ถ้าฉันหาความรักที่อิสระได้ก็คงดี”
เฉินเสี่ยวถงพูดอย่างเศร้าใจ สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยการโหยหาความรักที่อิสระ
กู้หยุนหลันอดสงสารเฉินเสี่ยวถงไม่ได้ นึกถึงความเด็ดเดี่ยวของตัวเองในตอนนั้น
“ต้องต่อต้านสิ ต้องสู้นะ ฉันเชื่อว่าเธอจะต้องเจอคนที่ทำให้มีความสุข”
“ขอบคุณนะพี่ ฉันจะพยายามอย่างแน่นอน”
เฉินเสี่ยวถงเปิดหัวข้อสนทนากับกู้หยุนหลัน ทั้งสองคนคุยกันพึมพำ ไม่นานทั้งสองก็กลายเป็นเหมือนเพื่อนสนิท
ลุงเป้ามองหลี่โม่ หลังจากที่แน่ใจแล้วว่าหลี่โม่ไม่ได้มีพิษมีภัยอะไร เขาจึงตั้งสมาธิกับลุงฝู
เมื่อกี้ที่หลี่โม่โยนหลอดออกมา ลุงเป้าอยู่ไกลจึงมองไม่เห็น พอลุงฝูลงมือจัดการ ลุงเป้าจึงวิ่งกุลีกุจอเข้ามา
ลูกน้องของคุณชายสามหลินที่แขนหัก ต่างพากันสะกดกลั้นความเจ็บปวดและมองลุงฝูด้วยแววตาเคียดแค้น และบอกให้ลุงเป้าแก้แค้นให้พวกเขา
ลุงเป้าหรี่ตาลง จู่ๆ เขาก็พุ่งตัวไปข้างหน้า
พลั่ก
เท้าของลุงเป้าเหยียบลงบนพื้นอย่างแรง พื้นหินอ่อนแตกกระจายและกลายเป็นยุบเป็นหลุมขนาดใหญ่
เหล่าคุณชายที่อยู่ไม่ไกลเห็นภาพที่เกิดขึ้นต่างพากันตกใจ เห็นฝีมือของลุงฝูเหมือนได้ดูหนังกำลังภายในในชีวิตจริง นี่มาเห็นการกระทืบเท้าของลุงเป้าอีก นี่มันเปิดโลกของเหล่าคุณชายชัดๆ
“พวกเขาเป็นใครกันเนี่ย เดี๋ยวนี้ตระกูลเจ๋งๆ เก่งถึงขนาดนี้เลยเหรอ ลูกน้องที่ตามมาเป็นยอดฝีมือในยุทธจักรเหรอ ขนาดปืนยังใช้กับพวกเขาไม่ได้เลย!”
“รอดูเรื่องสนุกเถอะ เราอย่าเข้าไปเด็ดขาด นี่มันการต่อสู้ที่เหนือชั้นแล้ว เราเหมือนกับคนทั่วไปไม่มีผิด ไม่สามารถเข้าไปหาเรื่องใครได้เลย”