หินปักเข้าไปในขาทั้งสองข้างของลุงเป้า เลือดสดทะลักออกมาจากบาดแผลทันที กางเกงของลุงเป้าเปื้อนไปด้วยเลือด
ลุงเป้าสะกดกลั้นความเจ็บปวดและวิ่งไปข้างหน้าด้วยท่าทางประหลาด
หลี่โม่ไม่ได้ทำอะไรลุงเป้าต่อ เขาเอามือไพล่หลังและหันหลังมามองกู้ชิงหลิน
กู้ชิงหลินยืนขึ้นมา เธอก้มหน้าไม่กล้ามองหลี่โม่
“ฉันสำนึกผิดแล้ว นาย นายไว้ชีวิตฉันเถอะ ฉันไม่กล้าทำอีกแล้ว ถ้านายยังไม่หายโกรธ คืนนี้ฉัน ฉัน……”
เธอเม้มปากไม่กล้าพูดประโยคสุดท้ายออกมา ตอนนี้กู้ชิงหลินไม่มีไพ่ใบสุดท้ายอีกแล้ว เธอใช้ร่างกายของตัวเองมาเป็นข้อต่อรอง ตามสัญชาตญาณและความเคยชิน
“เหอะๆ”
หลี่โม่หัวเราะอย่างเย็นชา จากนั้นจึงพูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “เก็บมันเอาไว้เถอะ”
กู้ชิงหลินหน้าซีดเผือด ถึงแววตาของเธอจะฉายแววเขินอายและหงุดหงิด แต่เมื่อโดนหลี่โม่พูดดูถูกอย่างนั้น เธอก็รู้สึกเจ็บปวด
หลี่โม่ปล่อยกู้ชิงหลินไป จากนั้นจึงเดินไปหากู้หยุนหลัน
สวีอวิ๋นอวิ๋นที่อยู่ในมุมเพิ่งจะตั้งสติได้ เมื่อคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ เธอรู้สึกว่าหลี่โม่ไม่ใช่คนธรรมดา
หลี่โม่ใช้แรงของคนคนเดียวสู้กับคุณชายสามหลิน!
แถมฉิงจี้เย่ยังเต็มใจเป็นสุนัขรับใช้ของหลี่โม่อีก!
ทั้งหมดนี่มันหมายความว่าอะไร
หมายความว่าหลี่โม่เป็นคนจริงยังไงล่ะ!
ในใจของสวีอวิ๋นอวิ๋นเต็มไปด้วยความเศร้าสลด เศร้าที่ตัวเองดูไม่ออกว่าหลี่โม่เป็นคนแข็งแกร่ง ถ้าตัวเองมีผู้ชายที่แข็งแกร่งแบบนี้ก็ดีสิ!
ทำไมกู้หยุนหลันถึงโชคดีขนาดนั้น เมื่อก่อนหลี่โม่ซ่อนความแข็งแกร่งของตัวเองเอาไว้ กู้หยุนหลันจะต้องรู้ตัวตนที่แท้จริงของหลี่โม่แน่ๆ เธอถึงไม่สนใจทุกอย่างเพื่อหลี่โม่!
สวีอวิ๋นอวิ๋นรู้สึกเหมือนโดนหลอก เธอพึมพำว่า “ถุย! กู้หยุนหลันก็แค่คนต่ำตม สงสัยกลัวว่าฉันจะหวั่นไหวกับหลี่โม่ ถึงไม่ยอมบอกเรื่องทั้งหมดกับฉัน และให้ฉันเข้าใจว่าหลี่โม่เป็นสวะ!”
“ถ้ารู้ว่าหลี่โม่เก่งขนาดนี้ ฉันคงไม่ทำเรื่องไม่ดีมากมาย! ไม่แน่อาจจะยั่วจนพาหลี่โม่ขึ้นเตียงแล้วก็ได้! ถ้าเป็นอย่างนั้นจะมีกู้หยุนหลันไปทำไมอีก!”
สวีอวิ๋นอวิ๋นที่กำลังโมโหมองหลี่โม่ แววตาของเธอฉายแววแปลกประหลาด สวีอวิ๋นอวิ๋นคิดว่าหลี่โม่ต้องเป็นของเธอถึงจะถูก!
หลี่โม่เดินกลับมายืนข้างกู้หยุนหลัน เขายิ้มแล้วพูดว่า “อยู่ที่นี่น่าเบื่อมาก เรากลับกันดีกว่า”
“อืมๆ ฉันก็อยากกลับเหมือนกัน แต่ว่าจะทำยังไงกับฉิงจี้เย่และลุงฝู”
กู้หยุนหลันมองฉิงจี้เย่กับลุงฝูที่สลบอยู่ เธอรู้สึกกังวลขึ้นมาเล็กน้อย
“บอดี้การ์ดของฉิงจี้เย่ยังอยู่ไม่ใช่เหรอ ให้พวกเขาพาไปโรงพยาบาลสิ ไม่ได้เป็นอันตรายถึงชีวิต ไม่ต้องกังวลหรอก”
“พี่หลี่โม่ พี่หยุนหลัน แล้วฉันจะทำยังไง”
เฉินเสี่ยวถงยืนขึ้นและจับแขนของกู้หยุนหลันเอาไว้ เธอมองทั้งสองคนด้วยท่าทางน่าสงสาร
“เธอหาโรงแรมพักก็จบแล้ว”
หลี่โม่พูดออกมาโดยไม่คิดอะไร
“ไม่ได้ ฉันกลัวโดนคนที่บ้านหาเจอแล้วพากลับไป ฉันหนีงานแต่งออกมา จะให้คนที่บ้านพากลับไปไม่ได้”
เฉินเสี่ยวถงทำท่าน่าสงสารเข้าไปอีก กู้หยุนหลันอดสงสารไม่ได้
แต่กู้หยุนหลันไม่ได้มีวิธีแก้ปัญหาอะไร เธอจึงมองหลี่โม่แล้วพูดว่า “หลี่โม่ นายหาวิธีช่วยเธอดีไหม”
“จะช่วยยังไงล่ะ ไม่ใช่ว่าจะพาเธอกลับไปอยู่ที่บ้านนะ บ้านเราไม่มีที่แล้ว”
หลี่โม่ยักไหล่ เขาไม่คิดจะช่วยเฉินเสี่ยวถง
ไอ้เลวเอ๊ย คิดไม่ถึงว่าจะไม่หวั่นไหวกับฉัน ไม่รู้จักปกป้องฉันเลย! เฉินเสี่ยวถงก่นด่าในใจ
“นี่พี่ ฉันทำกับข้าว ซักผ้าเป็นนะ พี่ช่วยฉันด้วยนะ พาฉันกลับไปอยู่ด้วยเถอะนะ งานบ้านทั้งหมดยกให้เป็นหน้าที่ฉันได้เลย ฉันจะไม่สร้างความวุ่นวายพวกพี่แน่นอน”
กู้หยุนหลันเกาหัวอย่างกลุ้มใจ เธอจับมือหลี่โม่แล้วพูดว่า “ให้เธอพักอยู่สักคืนได้ไหม”
“เหอะๆ แล้วพรุ่งนี้ล่ะ”
“พรุ่งนี้ ไม่แน่พรุ่งนี้ลุงฝูอาจจะฟื้นขึ้นมา ถึงตอนนั้นลุงฝูก็จะดูแลเธอเอง ไม่เกี่ยวกับเราแล้ว”
เมื่อเห็นความมีเมตตาของกู้หยุนหลัน หลี่โม่จึงพูดอย่างเหนื่อยใจว่า “ให้ผมบอกให้ฉู่จงเทียนมาดูแลเธอไหม พากลับบ้านมันวุ่นวายจริงๆ นะ”
“ไม่เอาๆ ฉันอยากอยู่กับพวกพี่ ถ้าคนอื่นพาฉันไปขายจะทำยังไง ได้ยินว่าข้างนอกมีพวกหลอกลวงเยอะมาก”
เฉินเสี่ยวถงจับแขนกู้หยุนหลันด้วยท่าทางออดอ้อน กู้หยุนหลันตบหลังมือของเธอแล้วพูดว่า “ไม่ต้องกังวล เธอไม่ถูกเอาไปขายแน่นอน คืนนี้เธอนอนกับฉัน ให้หลี่โม่นอนที่ห้องรับแขก”
“ได้เลยค่ะ ขอบคุณนะคะพี่ แต่ให้พี่หลี่โม่นอนที่ห้องรับแขกดูจะไม่ดี งั้นฉันนอนที่ห้องรับแขกก็ได้”
เฉินเสี่ยวถงพูดอย่างว่าง่าย
“เธอนอนโซฟาไม่ได้หรอก หลี่โม่หนังหนา นอนห้องรับแขกน่ะดีแล้ว”
หลี่โม่มองกู้หยุนหลันด้วยสีหน้าเศร้าสลด เมื่อเห็นกู้หยุนหลันตัดสินใจดังนั้น เขาจึงไม่เถียงอะไร ขอแค่ภรรยามีความสุขก็พอแล้ว
หลี่โม่เรียกบอดี้การ์ดของฉิงจี้เย่เข้ามา เขาบอกให้บอดี้การ์ดพาฉิงจี้เย่กับลุงฝูไปโรงพยาบาล จากนั้นจึงหันไปมองลูกน้องของคุณชายสามหลินที่หลบอยู่ตรงมุม
เหล่าลูกน้องของคุณชายสามหลินคุกเข่าลงบนพื้น พวกเขามองหลี่โม่อย่างตัวสั่นงันงก แต่ละคนพากันยิ้มและสำนึกผิดกับหลี่โม่
“คุณหลี่น่าเกรงขามจริงๆ พวกเรามีตาหามีแววไม่จึงล่วงเกินคุณ คุณเห็นเราเป็นอากาศเถอะนะ”
“ใช่ครับ พวกเราสำนึกผิดแล้ว เรื่องทั้งหมดต้องโทษผู้หญิงต่ำตมอย่างกู้ชิงหลิน ถ้าเธอไม่คอยใส่ไฟ พวกเราคงไม่มาล่วงเกินคุณ”
“คุณหลี่เป็นคนใจกว้าง พวกเราจะเอาหัวโขกพื้นเป็นการสำนึกผิด คุณไว้ชีวิตพวกเราเถอะนะครับ”
หลี่โม่ส่ายหน้า เขาไม่อยากจัดการพวกกระจอก จึงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ไสหัวกลับไปบอกคุณชายสามหลินด้วยนะ ถ้าครั้งหน้ายังกล้ามาหาเรื่องฉันอีก ฉันไม่ไว้ชีวิตมันแน่ ทางที่ดีอย่าเข้ามาเหยียบเมืองฮ่านอีก”
“ได้ครับ ได้ครับ พวกเราจะกลับไปบอกคุณชายให้ครับ”
“ไสหัวไป”
หลี่โม่โบกมือไปมา พวกลูกน้องของคุณชายสามหลินรีบวิ่งออกไปทันที ตอนนี้พวกเขาเกลียดที่พ่อแม่ให้ขามาเพียงสองข้าง
เมื่อคนของคุณชายสามหลินออกไปหมดแล้ว หลี่โม่พากู้หยุนหลันกับเฉินเสี่ยวถงออกไปท่ามกลางแววตาอิจฉาของเหล่าคุณชาย
แค่มีกู้หยุนหลันก็ทำให้ผู้ชายอิจฉาพอแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้หลี่โม่ควงสาวถึงสองคน เหล่าคุณชายเพ้อฝันว่าตัวเองเป็นหลี่โม่ ถ้าเป็นอย่างนั้นจะได้ควงทั้งกู้หยุนหลันและเฉินเสี่ยวถงเสวยสุขด้วยกัน
แต่น่าเสียดายที่พวกเขาไม่รู้ว่าคืนนี้หลี่โม่นอนที่ห้องรับแขก ถ้าเกิดพวกเขารู้คงจะตกใจจนอ้าปากค้าง
ห่างไปไม่ไกล กู้ชิงหลินนั่งอย่างโดดเดี่ยวอยู่ที่โต๊ะ เธอมองทั้งสามคนเดินออกไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย สวีอวิ๋นอวิ๋นเดินเข้ามานั่งข้างเธอ เธอบ่นออกมาว่า “เธอคิดอะไรอยู่ เธอคงไม่รู้สินะว่ากู้หยุนหลันจะแอบหลี่โม่ไว้ลึกขนาดนี้ หลี่โม่ใช้ได้เลยนะ เขายอมเป็นสวะเพื่อกู้หยุนหลันมาตลอด เยี่ยมจริงๆ”