สำหรับคุณชายสามหลินเงินก็แค่ตัวเลข ถ้าเงินสามารถแก้ปัญหาได้ เขาทำได้อย่างแน่นอน
ถ้าใครสามารถฆ่าหลี่โม่เพื่อกู้หน้าคุณชายสามหลินกลับมาได้ คุณชายสามหลินยอมให้เช็คเปล่าไปเลย
“ลุงเป้า เงินไม่ใช่ปัญหา พูดมาเถอะว่าจะจัดการหลี่โม่ยังไง ห้าล้านหรือห้าสิบล้านไม่ใช่ปัญหา ถ้ายังไม่พอฉันให้ร้อยล้าน แลกกับชีวิตของมัน!”
คุณชายสามหลินพูดออกมาอย่างเคียดแค้น
ว่าด้วยเรื่องการสืบทอดตำแหน่งในตระกูลหลิน คุณชายหลินทุ่มสุดตัว ไม่ว่ายังไงเขาต้องกู้หน้ากลับมาให้ได้ เขาต้องเอาเมืองฮ่านและฉู่โจวมาให้ได้!
ลุงเป้าหรี่ตาลง เขาครุ่นคิดและพูดว่า “ผมมีรุ่นน้องอยู่คนหนึ่ง เขาเห็นเงินแล้วตาโต เราเรียกเขาว่าเฉียนเปิดตา ความสามารถของลูกน้องคนนี้เก่งกว่าผมมาก อีกทั้งเขายังทำทุกอย่างได้เพื่อเงิน เขาสร้างอำนาจให้ตัวเองและทำธุรกิจหลายอย่าง”
“ลุงอย่าพูดอะไรไร้สาระได้ไหม เอาสาระเลย รุ่นน้องของลุงฆ่าหลี่โม่ได้ไหม! ถ้าเขาฆ่าหลี่โม่ได้ ก็เรียกเขามา จะต้องจ่ายเท่าไรฉันยอม”
ลุงเป้าหัวเราะแล้วพูดว่า “อีกอย่างตอนที่เฉียนเปิดตาเคยสู้กับพวกเรา เขาสามารถต่อกรกับคนสามสี่คนโดยที่พลังเขายังเหลือ ผมคิดว่าเขาน่าจะสู้กับหลี่โม่ได้ อย่างน้อยก็พอฟัดพอเหวี่ยงกันได้”
“พอฟัดพอเหวี่ยงเหรอ มีที่ดีกว่านี้ไหม เรียกมาอีกสักสองสามคนก็ได้ ครั้งนี้ฉันทุ่มเงินส่วนตัวเลย ขอแค่ฆ่าหลี่โม่ได้เป็นพอ!”
คุณชายสามหลินแทบจะโปรยเช็คเรียกคนมีฝีมือมา แต่น่าเสียดายที่เขาไม่รู้จักคนพวกนั้น จึงทำได้เพียงให้ลุงเป้าติดต่อให้
ลุงเป้ายิ้มแหย “คุณชายสามเห็นพวกคนมีฝีมือเป็นคนง่ายๆ เพราะเฉียนเปิดตามีพรสวรรค์ที่แตกต่าง เขาจึงประสบความสำเร็จเช่นนี้ ผมยังไม่เคยเห็นคนที่เก่งกว่าเฉียนเปิดตา นอกจากไอ้หลี่โม่นะครับ”
“โอเค คนเดียวก็ได้ ลุงรีบติดต่อเลยนะ ถามเฉียนเปิดตาด้วยว่ารู้จักผู้มีฝีมือคนอื่นไหม ถ้าเชิญมามากเท่าไรยิ่งดี ไอ้เวรเอ๊ย ฉันไม่เชื่อหรอกว่าทุ่มเงินขนาดนี้ไอ้เวรหลี่โม่จะยังรอดไปได้อีก!”
ขณะที่คุณชายสามหลินกำลังกลุ้มใจ ลูกน้องคนหนึ่งวิ่งเข้ามากระซิบข้างหูเขา “คุณชายสามครับ ข่าวล่าสุดแจ้งมาว่าการแข่งมวยดำจะจัดขึ้นที่เมืองฮ่าน หลี่โม่เป็นตัวแทนเมืองฮ่านเข้าแข่งขันในรอบไวด์การ์ดครับ”
“ว้าว!”
คุณชายสามหลินตกใจจนเบิกตาโพลง แข่งมวยดำเป็นการแข่งขันที่คุณชายสามหลินชื่นชอบมาก เขาเดิมพันหนักทุกครั้งเมื่อมีการแข่งมวยดำ
สำหรับผู้เข้าแข่งขันมวยดำ คุณชายสามหลินรู้จักเป็นอย่างดี เขารู้ว่าคนพวกนั้นเป็นผู้แข็งแกร่งในโลก แต่คุณชายสามหลินไม่รู้ว่ายังมีผู้แข็งแกร่งกว่านี้หรือเปล่า ถึงมีผู้ที่แข็งแกร่งกว่านี้ ก็ใช่ว่าคุณชายสามหลินจะสามารถเจอได้
“คิดไม่ถึงว่าไอ้หลี่โม่จะเข้าแข่งขันมวยดำ ไอ้กระจอกนั่นรนหาที่ตายชัดๆ ไอ้เวรเอ๊ย ต้องทำเซอร์ไพรส์ให้มันก่อนแข่งถึงจะถูก! ถ้าให้มันตายบนเวทีมวย ฉันก็ขายขี้หน้าน่ะสิ!”
คุณชายสามหลินตัดสินใจที่จะเชิญเฉียนเปิดตามาให้ได้ ต้องฆ่าหลี่โม่ก่อนขึ้นเวทีมวย!
“ลุงเป้ารีบติดต่อรุ่นน้องของลุง ให้เขารีบมาที่นี่ ต้องฆ่าหลี่โม่ก่อนการแข่งมวยดำจะเริ่ม ความอับอายของฉันจะให้คนอื่นมาจัดการไม่ได้!”
ลุงเป้าพยักหน้า เขาหยิบมือถือขึ้นมาคุยพักใหญ่ ลุงเป้าจึงทำให้เฉียนเปิดตามาจัดการหลี่โม่ได้
“คุณชายสาม รุ่นน้องผมตกลงแล้ว เขาต้องการยี่สิบล้านและต้องจ่ายมัดจำก่อนครึ่งหนึ่ง ต้องโอนเงินไปก่อนเขาจึงจะพาคนมา”
“ก็แค่ยี่สิบล้าน รีบเอาบัญชีของเขามา ฉันจะโอนให้เดี๋ยวนี้เลย บอกให้เขามาที่นี่ให้เร็วที่สุด!”
คุณชายสามหลินหยิบมือถือขึ้นมา การกระทำของเขาดุดันมาก เพียงครู่เดียวเงินก็โอนเข้าบัญชีของเฉียนเปิดตา
ลุงเป้าโทรไปเร่งอีกครั้ง จากนั้นจึงทำมือโอเคให้คุณชายสามหลิน
“เขาออกมาแล้วครับ น่าจะถึงค่ำๆ พรุ่งนี้ก็จัดการหลี่โม่ได้เลยครับ”
“ฮ่าๆๆ ดี งั้นคืนนี้ฉันขอพักผ่อนก่อน พรุ่งนี้ฉันจะไปดูความตายของหลี่โม่อย่างสดใส ถึงตอนนั้นฉันจะจัดการกับศพมันอย่างโหดเหี้ยม!”
คุณชายสามหลินเดินกลับห้องอย่างพออกพอใจ เขารอคอยให้ถึงวันพรุ่งนี้
หลี่โม่มาถึงร้านกาแฟตรงข้ามโรงพยาบาล เมื่อเข้ามาก็ได้ยินเสียงด่ากัน ในบรรดาเสียงนั้นเป็นน้ำเสียงอันคุ้นเคย เหมือนเป็นเสียงของหวังจงเสวียน
เขาเดินตามเสียงไป หลี่โม่เห็นหวังจงเสวียนยืนเถียงกับชายร่างกำยำหน้าตาน่ากลัวอยู่หน้าประตูห้อง
“ไอ้เวรเอ๊ย ฉันอุตส่าห์ไว้หน้าแก พี่เท่าชอบผู้หญิงสองคนนั้น ให้พวกเธอไปนั่งเป็นเพื่อน แกจะมายืนขวางทำไม ถ้าแกกล้าขวางอีก ฉันจะหั่นศพแกไปให้หมากิน”
“ไปพูดกับมันทำไม จัดการให้มันสลบแล้วพาผู้หญิงสองคนนั้นไปก็จบแล้ว อย่าให้พี่เท่ารอนาน ไม่งั้นพวกเราจะซวยเอง”
ชายร่างกำยำทนไม่ไหวกับการต่อล้อต่อเถียง เขาง้างตบไปที่หน้าของหวังจงเสวียน
เพียะ!
หวังจงเสวียนถูกจบจนเซไปอีกทาง เลือดกำเดาไหลออกมาทันที
“แค่นี้ก็จบ ถ้าเข้ามาอีก ก็ทำให้มันลงไปนอนร้องบนพื้น จากนั้นเราค่อยพาสาวสวยไปหาพี่เท่า เรื่องง่ายแค่นี้ แกจำเป็นต้องมาพูดอะไรไร้สาระแบบนี้ไหม”
เมื่อชายร่างกำยำพูดจบ ก็ใช้เท้าถีบหวังจงเสวียนจนกระแทกกับกำแพง เขารู้สึกเหมือนกระดูกร้าวและเจ็บไปทั้งตัว
“พี่!”
กู้หยุนหลันนั่งยองข้างๆ หวังจงเสวียน เธอเห็นสภาพอันน่าเวทนาของหวังจงเสวียน จึงจะหยิบมือถือขึ้นมาเรียกรถพยาบาล
“คนสวย พี่เธอช่วยอะไรไม่ได้หรอก พี่เท่าสามารถทำให้เธอมีชื่อเสียงเงินทอง ขอแค่เธอปรนนิบัติให้พี่เท่าพอใจ เธอจะเอา Chanel หรือ Prada ก็ได้ทั้งนั้น”
“ไสหัวไปเลยนะ ถ้าพวกนายไม่ออกไปฉันจะเรียกคนมา ฉันรู้จักฉู่จงเทียนนะ!”
กู้หยุนหลันพูดอย่างจริงจัง
เฉินเสี่ยงถงหลบอยู่ข้างหลังกู้หยุนหลัน ในหัวของเธอกำลังคิดถึงหลี่โม่ ถ้าหลี่โม่อยู่ คงไม่เกิดเรื่องขนาดนี้
“เหอะๆ ฉู่จงเทียนจะทำอะไรได้ ถ้าพี่เท่าอยากจัดการมัน แค่กระดิกนิ้วมันก็ตายแล้ว อย่าหวังว่าฉู่จงเทียนจะช่วยพวกเธอได้เลย ไปปรนนิบัติพี่เท่าเถอะ”
แววตาของเหล่าชายร่างกำยำเป็นประกาย พวกมันยื่นมือออกมา หวังที่จะแต๊ะอั๋งกู้หยุนหลันกับเฉินเสี่ยวถงระหว่างที่ดึงพวกเธอมา อีกอย่างสาวสวยแบบนี้ไม่ได้เจอง่ายๆ ขอแค่ได้แต๊ะอั๋งก็พอใจแล้ว
“ถ้าใครกล้าแตะต้องผู้หญิงของฉัน ฉันจะทำให้มันเสียใจที่เกิดมาบนโลกนี้”
หลี่โม่พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
เมื่อได้ยินเสียงของหลี่โม่ กู้หยุนหลันกับเฉินเสี่ยวถงมีสีหน้าดีใจขึ้นมาทันที