เห็นรถเบนซ์ครอสคันทรีพุ่งแซงหน้าไปอย่างรวดเร็ว เศรษฐีหนุ่มตกใจขึ้นในทันที รีบหักพวงมาลัยหลบ
แต่ว่าหักพวงมาลัยกะทันหันเกินไป ทำให้รถสปอร์ตเฟอร์รารี เสียการควบคุม จนพุ่งไปชนข้างทาง
โครม!
รถสปอร์ตเฟอร์รารี ชนกับแผงกั้นข้างทาง ด้านหน้ารถบุบเข้าไปเสียหายมาก
แอร์แบครถยนต์ฝั่งคนขับระเบิดออกมา หนุ่มเศรษฐีรู้สึกตรงเป้ากางเกงเย็นเล็กน้อย เมื่อครู่ในช่วงที่ตกใจกลัวจึงฉี่ราดโดยไม่ได้ตั้งใจ
“เชี่ยแม่งเอ้ย! กล้าแซงรถของกู กูจะเรียกพรรคพวกเล่นงานมันให้ตาย!”
เศรษฐีหนุ่มสบถด่าด้วยท่าทีอ่อนแรง ควานหาเครื่องรับส่งวิทยุเพื่อร้องเรียกให้คนมาช่วย
“พี่คาง! ผมเอ้อเล่อเอง เมื่อครู่ผมถูกรถเบนซ์ครอสคันทรี่ปาดหน้า รถสปอร์ตเฟอร์รารีของผมชนกับแผงกั้นข้างทาง ตอนนี้รถยนต์เสียหายหมดแล้ว พวกพี่ต้องแก้แค้นให้ผมด้วยนะ”
เสียงตอบรับในวิทยุรับส่งเงียบไป จากนั้นก็มีเสียงหัวเราะดังออกมา
เศรษฐีหนุ่มจำนวนหนึ่งที่ชื่นชอบการแข่งแดร็กเรซซิ่ง ได้ยินคำพูดของเอ้อเล่อ ต่างก็หัวเราะเยาะกัน
“เอ้อเล่อ แกควรจะเปลี่ยนชื่อเป็นเอ้อต้านดีกว่าไหม คลับซูเปอร์คาร์ของพวกเรา ทำไมถึงมีคนใช้ไม่ได้อย่างแก ขับรถสปอร์ตดันถูกรถเบนซ์ปาดหน้า ไม่เคยเห็นคนที่ไม่ได้เรื่องอย่างแกจริง ๆ”
“อย่าไปต่อว่าเอ้อเล่อเลย ยังไงเขาก็เป็นน้องเล็กในคลับของพวกเรา ในเมื่อน้องเล็กถูกคนอื่นรังแก พวกเราที่เป็นพี่ใหญ่ ก็ต้องช่วยน้องเล็กแก้แค้นถึงจะถูกต้อง เอ้อเล่อ แกคอยดูฉากต่อไปให้ดี ๆแล้วกัน อีกเดี๋ยวพวกเราจะช่วยแกจัดการไอ้คนขับรถเบนซ์ครอสคันทรีคันนั้น”
“เอ้อเล่อ แล้วตัวแกเองเป็นอะไรมากไหม?”
รอจนถึงช่วงสุดท้ายพี่คางจึงเอ่ยปากถาม
“ผมทางนี้ คิดว่าไม่เป็นอะไรมาก ตรงเป้ากางเกงรู้สึกเย็นนิดหน่อย เมื่อครู่คงตกใจจนฉี่ราด”
สีหน้าพี่คางถมึงทึงอย่างมาก ยังดีที่เอ้อเล่อไม่ได้ยืนอยู่ต่อหน้า หากเอ้อเล่อยืนอยู่ต่อหน้าเขาในตอนนี้ พี่คางคงจะต้องถีบเอ้อเล่อแน่นอน ช่างเป็นคนไร้ค่าที่ทำอับอายขายหน้าอย่างมาก
“แค๊กแค๊ก แกก็นั่งเย็นตรงนั้นไปก่อนเถอะ พวกเราจะไปจัดการกับไอ้สารเลวคนนั้น จับตัวมันกลับมาขอโทษแก”
“ขอบคุณมากพี่คาง”
เอ้อเล่อพูดอ้ำอึ้งด้วยท่าที่เศร้าสร้อย สายตาจ้องมองไปบนถนนอันกว้างใหญ่ รถเบนซ์ครอสคันทรี วิ่งหายลับไปไม่เห็นแม้กระทั่งไฟท้ายแล้ว
“บ้าฉิบ ด้านหลังของฉันมี รถเบนซ์ครอสคันทรีพุ่งเข้ามา คำนวณด้วยสายตาความเร็วน่าจะเกินสองร้อยสี่สิบไมล์ ไอ้ฉิบหาย ขับรถออฟโรดที่มีน้ำหนักมาก เร็วถึงขนาดนี้ ไอ้คนนี้มันต้องบ้าไปแล้ว หากเกิดอุบัติเหตุจะเหยียบเบรกควบคุมรถไม่ได้”
หลี่เทียนซินที่ขับรถLamborghini ประหลาดใจยิ่งนัก รถยนต์มีน้ำหนักตัวมาก สมควรวิ่งให้ช้าลง
เพราะว่ารถยนต์ที่มีน้ำหนักมากยิ่งมีแรงเฉื่อยมาก หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นจริง ๆ ภายใต้สภาพความเร็วของรถที่สูง ถึงแม้จะเหยียบเบรกแค่ไหนก็ถูกแรงเฉื่อยของรถที่อยู่ในความเร็วสูง ผลักตัวรถพุ่งไปข้างหน้า
ดังนั้นขณะที่เกิดอุบัติเหตุ รถยนต์ขนาดใหญ่มักจะเหยียบเบรกไม่อยู่ นอกเสียจากเว้นพื้นที่ระยะห่างระหว่างรถยนต์ให้เพียงพอ
แต่ว่ารถเบนซ์ครอสคันทรี่ที่ไล่ตามหลังมา วิ่งมาด้วยความเร็วสองร้อยกว่าไมล์ หลี่เทียนซินเห็นแล้วเป็นกังวลมาก คิดลังเลว่าต้อง หาวิธียับยั้งดีหรือไม่
หากรถคันข้างหลังเป็นพวกบ้าหรือคนดื่มสุราจนเมามาย พุ่งเข้ามาชน รถเบนซ์ครอสคันทรี่คงไม่เสียหายมาก แต่รถสปอร์ตของตนเองถูกชน อาจจะถูกชนจนแยกเป็นชิ้นส่วนก็ได้ ดีไม่ดีชีวิตตนเองก็คงจะรักษาไว้ไม่ได้
“พี่ พี่คาง ความเร็วรถเบนซ์ด้านหลังวิ่งมาเร็วมาก ผมไม่กล้าที่จะเข้าไปขวางทางเขา ผมสงสัยว่าคนขับคงจะเมาเหล้าแน่ ๆ”
หลี่เทียนซิน ห้อข้อแก้ตัวเพื่อปกปิดความขี้ขลาดของตนเอง
พี่คางขับรถ Bugatti Veyron แสดงสีหน้าเคร่งขรึม พูดว่า “ดูให้ชัด รถเบนซ์คันนั้นรุ่นอะไร”
“น่าจะเป็นรถเบนซ์ รุ่น G65!”
หลี่เทียนซิน บอกรุ่นรถเบนซ์ครอสคันทรี่ด้วยน้ำเสียงอึกอัก
“เฮ้ย! แกไม่ได้ดูผิดใช่ไหม? G65 ทำความเร็วสูงสุดได้แค่220ไมล์เท่านั้น! เขาทำความเร็วจนทะลุขีดจำกัดเลยเหรอ?”
“สงสัยคงจะปรับแต่งเครื่องมา แต่ยังไงความเร็วของเขาก็ยังเพิ่มขึ้นอีก ความเร็วของผมตอนนี้สองร้อยสี่สิบแล้ว เขาใกล้จะไล่ตามผมทันแล้วละ!”
หลี่เทียนซินพูดพลาง ค่อย ๆหมุนพวงมาลัยหลบไปด้านข้าง คนที่ขับรถเกินลิมิตความเร็วของรถยนต์ ไม่ใช่เป็นคนบ้า ก็คงต้องเป็นปีศาจแล้วล่ะ หลี่เทียนซินไม่อยากจะเป็นเหมือนกับเอ้อเล่อ
ฟู้วว!
รถเบนซ์ครอสคันทรี่พุ่งผ่านรถLamborghini เหมือนอย่างลูกศร แรงปะทะของลมปะทะเข้าใส่รถLamborghini จนกระเพื่อม เหมือนดั่งใบไม้ที่ถูกลมพัดผ่าน
“เชี่ยเอ้ย! เขาวิ่งเร็วกว่าผมมาก! ความเร็วต้องมากกว่าสองร้อยสี่สิบไมล์แน่นอน ฉันคิดว่าความเร็วของเขาคงจะอยู่ที่สองร้อยหกสิบไมล์ขึ้นไป!”
หลี่เทียนซิน ตะโกนออกมาด้วยความตกใจ
ความเร็วรถยนต์สองร้อยหกสิบไมล์ หลี่เทียนซินเองพบเห็นไม่บ่อยนัก ไม่รวมถึงไปดูการแข่งรถ F1 ก็คงมีแต่รถ Bugatti Veyron ของพี่คางเท่านั้น ถึงจะทำความเร็วได้ถึงสองร้อยแปดสิบหรือสามร้อยไมล์ ได้อย่างสบาย ๆ
แต่ว่ารถออฟโรดคันหนึ่ง สามารถทำความเร็วได้ถึงสองร้อยหกสิบไมล์ เป็นสิ่งที่หลี่เทียนซิน ไม่เคยพบเห็นมาก่อน รถยนต์ออฟโรดส่วนใหญ่แล้ว จะเข้าแข่งขันแรลลี่เท่านั้น จะแข่งขันเกี่ยวกับทักษะการขับขี่ ผ่านถนนวิบาก ไม่ใช่การแข่งขันที่ความเร็ว
ได้ยินหลี่เทียนซิน รายงานความเร็วของรถเบนซ์ครอสคันทรี่แล้ว เศรษฐีหนุ่มแต่ละคนในกลุ่มแข่งขันรถแดร็กเรซซิ่งถึงกับนิ่งเงียบ
รถสปอร์ตปอร์เช่ที่กำลังอยู่ด้านหน้าหลี่เทียนซินไม่ไกลนัก ก็เห็นรถเบนซ์ครอสคันทรี่พุ่งผ่านไปด้วยความเร็วอย่างดุดัน
“ผมก็เห็นเหมือนกัน เขากำลังขับแซงผมไป ความเร็วของผมในตอนนี้อยู่ที่สองร้อยหกสิบห้าไมล์”
เอ้อเล่อ นั่งฟังอยู่นาน ได้ยินข้อมูลทุกอย่างไม่ใช่การล้างแค้นให้ตน จนทำให้เอ้อเล่อร้อนใจอย่างมาก “พี่คาง พวกคุณต้องแก้แค้นให้ผมด้วยนะ เมื่อครู่เสียงหัวเราะของพวกคุณ ผมก็ยอมรับ แต่หากพวกคุณไม่ล้างแค้นให้กับผม ผมก็จะหัวเราะเยาะกลับพวกคุณ!”
“เชี่ยแม่ง! เอ้อเล่อ แกพูดบ้าอะไร ใครที่ไม่ยอมแก้แค้นให้กับแก พวกเขาเหมือนไอ้ขี้ขลาด ไม่กล้าที่จะแก้แค้นให้แก พี่คางของแกจะแก้แค้นให้แก่เอง!”
จิตใจที่ฮึกเหิมของพี่คางได้เริ่มปะทุขึ้น หลังจากที่พี่คางได้ขับรถBugatti Veyron ก็ไม่มีใครที่เป็นคู่ต่อสู้ของเขาเลย แต่ในเวลานี้ได้รู้สึกว่า ตนเองได้ถูกคู่ต่อสู้ท้าทายแล้ว
จะต้องจัดการรถเบนซ์คันนั้นให้ได้!
พวกคุณไม่ยอมรับฉันไม่ใช่เหรอ คิดมาตลอดใช่ไหมว่าฉันอาศัยรถยนต์คันนี้ถึงได้มาเป็นลูกพี่ใหญ่ วันนี้จะให้แก่ได้เห็นว่าฉันจัดการคนที่พวกแกไม่กล้าที่จะรับมือให้หมอบราบคาบ ฉันก็จะได้เป็นลูกพี่ใหญ่อย่างเต็มตัวเสียที!
“โอเค ทุกคนคอยดูก็แล้วกัน ว่าฉันจะจัดการรถเบนซ์คันนี้ให้หมอบราบคาบได้ยังไง!”
พี่คางคุยโวออกมาคำโต
“พี่คางยิ่งใหญ่ หากพี่เอาชนะรถเบนซ์ครอสคันทรี่คันนี้ พี่ก็จะเป็นลูกพี่ใหญ่ของพวกเราอย่างเต็มตัว!”
หลี่เทียนซินพูดไปโดยไม่คำนึงถึงผลลัพธ์ที่จะตามมา
ท่าทีของเศรษฐีหนุ่มในกลุ่มแต่ละคนล้วนคิดว่าพี่คางจะต้องชนะอย่างแน่นอน จึงสนับสนุนอย่างเต็มที่ ให้พี่คางเป็นลูกพี่ใหญ่
พี่คางรวบรวมสติ สายตาจ้องมองไปที่กระจกมองหลัง มองเห็นรถด้านหลังกะพริบไฟให้ พี่คางควบคุมพวงมาลัย วิ่งเป็นรูปตัวSบนถนน จากนั้นเปิดหน้าต่างออกไป ยกนิ้วกลางให้
“ฮึ! ไอ้พวกไม่รู้จักที่ตาย ขับรถเบนซ์ครอสคันทรี่วิ่งเร็วขนาดนี้ วันนี้กูจะขอสั่งสอนแกได้รู้ว่าความปลอดภัยต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง!”
พี่คางพูดจบก็เปิดไฟกะพริบ เริ่มก่อกวนรถเบนซ์ครอสคันทรี่ที่ขับตามมาด้านหลัง
หลี่โม่ขมวดคิ้ว พูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจว่า “ไอ้พวกรนหาที่ตาย”