จักรพรรดิมังกร – ตอนที่ 447 โปรดยกโทษให้ฉันด้วย

บุรุษผู้แข็งแกร่งทั้งหลายที่อยู่ข้างหลังเฉียนเปิดตาพับแขนเสื้อขึ้น พวกเขาจ้องมองไปที่หลี่โม่ซึ่งเพิ่งจะชกหม่างจือจนบินออกไปไกลด้วยสายตาอาฆาต

ในสายตาของพวกเขาหลี่โม่เป็นศัตรูที่ต้องถูกกำจัดอย่างรวดเร็ว

เฉียนเปิดตาชำเลืองมองหลี่โม่เป็นครั้งคราว และพูดอย่างเย็นชาว่า “แกเล่นละครตบตาคนอื่นเก่งดีนี่ แกกล้าใช้ไม้หมาป่าสวมหนังแกะกับฉันเหรอ!”

“ฮ่าฮ่า ฉันไม่ได้แกล้งทำเป็นแกะ และนายก็ไม่ใช่เสือด้วย อย่ามาพูดเหลวไหลหน่อยเลย พาคนของนายเข้ามาได้เลย แล้วฉันจะสอนให้นายรู้ว่าการถ่อมตัวนั้นมันเป็นอย่างไร”

หลี่โม่เหยียดนิ้วเรียกเฉียนเปิดตาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรังเกียจ

เฉียนเปิดตาหงุดหงิดกับสายตาที่เต็มไปด้วยความรังเกียจของหลี่โม่อย่างมาก และสะบัดมือขวาอย่างแผ่วเบา “กำจัดแก แค่ลูกน้องของฉันก็เพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องให้ฉันลงมือเองหรอก คนหนุ่มสาวควรรู้จากเคารพผู้อื่น พวกเราไปอัดมันให้เละเลย!”

ชายกำยำในชุดกังฟูสีดำพุ่งเข้าไปพร้อมกันราวกับเสือโคร่งที่ลงมายังภูเขา พุ่งเข้าหาหลี่โม่พร้อมเสียงคำราม

ลุงเป้าจับเอวและลุกขึ้นจากพื้นอย่างเชื่องช้า จากนั้นก็วิ่งไปหลบข้างๆคุณชายสามหลินด้วยความตื่นตระหนก “คูณชายสาม คุณอย่ามัวแต่ยืนบื้ออยู่ตรงนี้สิ จะดูก็ต้องหาที่ที่มันปลอดภัยกว่านี้สิ ตอนนี้หัวใจฉันเต้นแรงมาก ฉันกลัวแทบตายอยู่แล้ว”

“นายหมายความว่ายังไง นายจะบอกว่าเฉียนเปิดตาคนนี้ไม่ได้เรื่องอย่างนั้นเหรอ?”

คูณชายสามกล่าวอย่างขมขื่น

“ฉันไม่รู้ว่าศิษย์น้องเฉียนจะทำได้หรือไม่ แต่เราก็ควรที่จะเตรียมแผนสองไว้ล่วงหน้าไม่ใช่เหรอ เรารีบไปซ่อนตัวที่สวนหลังบ้านกันเถอะ หากมีอะไรเกิดขึ้น คุณสามารถออกจากสวนหลังบ้านแล้วขับรถออกไปได้เลย!”

คุณชายสามหลินลังเลเล็กน้อยและเหลือบมองลูกน้องบุบสลายที่เหลือเพียงสี่รายข้างเขา “พวกแกรีบพกปืนและตามฉันไปที่สวนหลังบ้านส่วนพวกแกก็ปิดกั้นทางผ่านให้ดี หากหลี่โม่ชนะ พวกแกก็ปิดกั้นเขาไว้อย่างสุดความพยายามอย่าปล่อยให้เขาตามเราไปเด็ดขาด!”

ลูกน้องพยักหน้าทีละคน สะบัดแขนที่เข้าเฝือกไปมา และทำท่าทางสกัดกั้นอย่างเต็มกำลัง

ลุงเป้าเดินตามคุณชายสามหลินไปที่สวนหลังบ้านอย่างกะโผลกกะเผลก และเฝ้าดูการต่อสู้ที่ลานด้านหน้าผ่านทางเดินยาว

ชายกำยำสิบกว่ารายล้อมตัวหลี่โม่ และหลงเทาได้วิ่งไปหลบที่มุมสวนด้วยความเจียมเนื้อเจียมตัวแล้ว เขายังคงเฝ้าดูการต่อสู้ด้วยท่าทางเอามือวางบนศีรษะและนั่งยองเพื่อปกป้องตัวเองดั่งเช่นเคย

การเคลื่อนไหวของหลี่โม่ว่องไวราวกับวิญญาณ และเงาสายฟ้าเคลื่อนไหวไปมาในกลุ่มชายกำยำทั้งหลาย และทุกครั้งที่หมัดของชายกำยำชกไปที่หลี่โม่ สุดท้ายหมัดของพวกเขาก็ชกโดนเพียงเงาของหลี่โม่เท่านั้น

“ระวัง! ไอ้หมอนี้มีฝีเท้าที่ไม่เหมือนใคร และความเร็วของเขาก็ไม่มีขีดจำกัดเลย!”

“ฉันจับมุมเสื้อของเขาไม่ได้เลยด้วยซ้ำ พวกเราอย่ารีบร้อน บังคับเขาไปที่มุมห้องก่อนแล้วค่อยลงมือพร้อมกัน!”

เหล่าชายกำยำตะโกนเสียงดัง ต้องการที่จะลดพื้นที่สำหรับการเคลื่อนไหวของหลี่โม่ก่อน หากปล่อยให้หลี่โม่รักษาความเร็วที่รวดเร็วเช่นนี้ต่อไป มันคงเป็นปัญหาใหญ่แน่

“คิดจะผลักฉันให้เข้ามุมเหรอ ไอ้กระจอกอย่างพวกแกทำไม่ได้หรอก”

ทันทีที่เสียงของหลี่โม่หายไป เงาหมัดก็ปรากฏขึ้นในอากาศ ชายกำยำสิบกว่าคนตื่นตระหนกมาก มันสายเกินไปแล้วที่พวกเขาต้องการจะหนี ระดับความเร็วของพวกเขาสู้ความเร็วของหมัดหลี่โม่ไม่ได้เลย

ปัง ปัง ปัง

เสียงของหมัดกระทบกับหน้าดังขึ้นอย่างต่อเนื่องราวกับว่าดังขึ้นในเวลาเดียวกัน ตั้งแต่ชายกำยำคนแรกที่ถูกชกจนบินกลับหัว ไปจนถึงชายกำยำคนสุดท้ายที่ถูกชกจนบินหงายหลัง ใช้เวลาเพียงไม่เกินสามวินาทีเท่านั้น

ภายในสามวินาทีหลี่โม่ชกมากกว่าสิบครั้ง และชายกำยำทั้งสิบคนก็เกือบจะบินออกไปพร้อมๆกัน

ชายกำยำสิบคนหงายหลังบินออกไปจากมุมต่างๆ ด้วยท่าเดียวกัน ราวกับเทพธิดาโปรยช่อดอกไม้

ปัง ปัง ปัง

ชายกำยำกว่าสิบคนล้มลงกับพื้น แต่ละคนรู้สึกว่าอวัยวะภายในของพวกเขาดูเหมือนจะเคลื่อนที่ไปหมด และเลือดก็พุ่งออกมาจากปากของพวกเขาทันที

ดวงตาของเฉียนเปิดตาเบิกกว้างขึ้นในทันที และเขามีการประเมินหลี่โม่ใหม่ในใจโดยคิดว่าระดับของหลี่โม่ไม่ได้อ่อนไปกว่าตัวเขาเองเลย

บัดซบเอ๊ย หนุ่มคนนี้โตมาด้วยอะไรเนี่ย อายุยังน้อยก็เก่งขนาดนี้แล้ว นี่มันไร้เหตุผลโดยสิ้นเชิง!

เฉียนเปิดตาไม่เพียงแต่กังวลเกี่ยวกับทักษะของหลี่โม่เท่านั้น แต่ยังรวมถึงอาจารย์ของหลี่โม่อีกด้วย ว่ากันว่าอาจารย์ที่เก่งถึงจะมีลูกศิษย์ที่เก่งได้ อาจารย์ที่สามารถสอนรุ่นเยาว์เช่นอย่างหลี่โม่ให้เก่งขนาดนี้ได้ เขาจะต้องเป็นผู้อาวุโสที่มีชื่อเสียงในด้านศิลปะการต่อสู้อย่างแน่นอน เฉียนเปิดตาไม่ต้องการที่จะมีเรื่องกับผู้ยอดฝีมืออย่างเขาอยู่แล้ว

เมื่อเห็นหลี่โม่เดินมาหาตัวเอง เฉียนเปิดตาโบกมือแล้วพูดว่า “เดี๋ยวก่อน! ฉันมีบางอย่างอยากจะบอกแกแต่ไม่รู้ว่าควรพูดหรือเปล่า!”

“ไม่รู้ว่าควรพูดหรือไม่ก็ไม่ต้องพูด มันเทียบเท่ากับการถอดกางเกงเสร็จและกำลังจะมีอะไรกันอยู่แล้ว แต่คุณกลับจะไปอึและตด มันทำให้อารมณ์เสียโดยไม่รู้สาเหตุ”

เฉียนเปิดตาถูกหลี่โม่สวนกลับจนแทบจะอกแตกตาย เขาทำได้แค่เปลี่ยนวิธีการตั้งคำถามด้วยความโกรธ “แกเป็นลูกศิษย์ของใคร แล้วอาจารย์ของแกไม่ได้สอนมารยาทให้กับแกหรือ!”

“มารยาทไม่ได้มีไว้สอน มันมาจากการต่อสู้ต่างหาก หยุดพูดไร้สาระได้แล้ว และก็ฉันไม่เคยมีอาจารย์ด้วย ไม่ต้องกังวลไปว่ามีเทพผู้ยิ่งใหญ่อยู่ข้างหลังฉัน ฉันไม่เคยทำเรื่องสู้ไม่ไหวก็กลับบ้านไปฟ้องผู้ใหญ่ และจะไม่มีวันทำด้วย!”

หลังจากที่หลี่โม่พูดจบ หมัดของเขาก็ถูกสะบัดไปมาแล้ว และแรงแห่งหมัดหนึ่งนิ้วก็พุ่งขึ้นอย่างสมบูรณ์ และหมัดของเขาก็ต่อยเข้าที่ดวงตาของเฉียนเปิดตาอย่างแรง

ตาของเฉียนเปิดตากระโดดอย่างดุเดือดทันที เขายกแขนขึ้นเพื่อเตรียมการรับน้ำหนักของหมัดหลี่โม่ เพราะเขาต้องการที่จะทดสอบระดับของหลี่โม่

บูม!

หมัดของเขาชกลงที่แขนของเฉียนเปิดตาอย่างดุเดือด และเฉียนเปิดตารู้สึกว่ามีแรงมหาศาลพุ่งใส่เขาราวกับน้ำท่วม และตัวเขาก็เหมือนกับเรือลำเล็ก ๆ ที่ลอยอยู่บนน้ำ ร่างของเขาปลิวออกไปข้างหลังด้วยแรงกระแทกที่รุนแรง

ช่างเป็นหมัดที่ทรงพลังจริงๆ! เฉียนเปิดตาปลิวไปด้านหลังด้วยพลังของหลี่โม่ และรู้สึกว่าบริเวณแขนของเขาเจ็บปวดอย่างมาก และเกรงว่าแขนขวาที่ป้องกันหมัดของหลี่โม่ในเมื่อสักครู่นี้ของเขาน่าจะแตกหักไปหมดแล้ว

ก่อนเริ่มการต่อสู้อย่างจริงจัง เฉียนเปิดตาก็โดนไปหมัดแล้ว และทำให้เฉียนเปิดตาตระหนักว่าทักษะของหลี่โม่ดีกว่าเขา

เฉียนเปิดตาสูญเสียจิตวิญญาณการต่อสู้โดยสิ้นเชิง และไม่ต้องการต่อสู้กับหลี่โม่อีกต่อไป

แต่ลูกน้องของเขาแต่ละคนถูกหลี่โม่ทุบตีจนลงไปกองกับพื้นแล้ว เฉียนเปิดตาจะเพิกเฉยต่อลูกน้องของเขาโดยหนีไปคนเดียวก็ไม่ได้ เฉียนเปิดตาก็ตกอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกทันที

“คุณหลี่ครับ เราหยุดชั่วคราวได้ไหม เราสองคนไม่มีความเกลียดชังกันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว มีเรื่องอะไรก็พูดกันดีๆก็ได้”

เฉียนเปิดตาพูดอย่างขมขื่นใจ

ลูกน้องของคุณชายสามหลินมองไปที่เฉียนเปิดตาด้วยความประหลาดใจ พวกเขาไม่คาดคิดว่าศิษย์รักของลุงเป้าอย่างเฉียนเปิดตาจะหน้าด้านได้ขนาดนี้ นี่มันเป็นการยอมแพ้ชัดๆ

“ไอ้แซ่เฉียน คุณหมายความว่าไง! นี่คุณคิดจะยอมแพ้เหรอ รู้ไว้ด้วยนะถ้าคุณไม่สู้กับหลี่โม่ต่อไป คุณได้ตายคามือฉันแน่!”

“คุณอย่ารับเงินคนอื่นแล้วไม่ยอมทำงานให้กับคนอื่นสิ เงินของคูณชายสามของเราไม่ได้ให้คุณไปฟรีๆสักหน่อย ถ้าคุณรับเงินแล้ว คุณก็ต้องทุ่มเทสุดความสามารถเพื่อคุณชายสามสิ”

เฉียนเปิดตาร้องทุกข์มิรู้วาย เขาเสียใจที่ทำธุรกิจในครั้งนี้มาก บางทีเขาอาจจะต้องเสียชีวิตเพราะธุรกิจในครั้งนี้ก็เป็นได้ ถ้าเป็นเช่นนั้นมันก็ได้ไม่คุ้มเสียจริงๆ

“พวกแกหุบปากเดี๋ยวนี้ ขนาดคุณชายสามหลินยังหนีไปแล้วเลย นับประสาอะไรกับกูล่ะ อีกอย่างกูได้รับแค่เงินมัดจำเท่านั้น ตอนนี้กูไม่ทำแล้วและเงินที่เหลือฉันก็ไม่เอาแล้ว!”

พูดจบเฉียนเปิดตาก็ยกมือคารวะหลี่โม่และพูดด้วยรอยยิ้มที่ข่มขืนว่า “คุณหลี่ครับ ไม่ว่าจะเป็นเมื่อก่อนหรือปัจจุบันเราก็ไม่เคยมีความขัดแย้งต่อกัน มันเป็นเพราะความเห็นแก่เงินของฉันเองถึงทำให้ฉันตัดสินใจผิดไป ฉันผิดไปแล้ว โปรดยกโทษให้ฉันด้วย!”

 

Comment

Options

not work with dark mode
Reset