จักรพรรดิมังกร – ตอนที่ 454 ฉันอยากฝึกงาน

เฉินเสี่ยวถงไม่อยากถูกโยนทิ้ง ถ้าหลังจากถูกส่งที่โรงพยาบาล หลี่โม่กับกู้หยุนหลันไม่สนใจตนเอง นั่นเท่ากับว่าความพยายามก่อนหน้านี้ทั้งหมดสูญสิ้น

หลี่โม่เดินออกจากห้องครัวพร้อมกับนมและแซนด์วิชหนึ่งจาน นั่งลงข้างๆ กู้หยุนหลันแล้วพูด “ตอนบ่ายผมอาจมีธุระนิดหน่อย ถึงเวลาต้องออกไป”

“ธุระอะไร?”

กู้หยุนหลันถามด้วยความสงสัย

“ไอ้ฉู่ หรือก็คือฉู่จงเทียนทางนั้นมีเรื่องนิดหน่อย ผมไปช่วยดูสักหน่อย อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้เขาก็ช่วยผมไว้ไม่น้อย”

หลี่โม่พูดอย่างคลุมเครือ

เรื่องที่ไปต่อสู้งานแข่งขันมวยดำสากลแน่นอนว่าไม่สามารถให้กู้หยุนหลันรู้ได้ ดังนั้นหลี่โม่จึงสร้างข้อแก้ตัวพิเศษขึ้นมา

เฉินเสี่ยวถงเอียงศีรษะมองไปที่หลี่โม่ รู้สึกว่านี่น่าจะเป็นโอกาสหนึ่ง

ดูเหมือนว่าตอนบ่ายต้องแอบตามหลี่โม่ออกไป จากนั้นก็จะมีเวลามากมายที่จะอยู่ตามลำพังกับหลี่โม่ ถึงเวลานั้นดูว่าหลี่โม่ยังแสร้งเป็นชายที่มีคุณธรรมและมีจิตใจแน่วแน่ยังไง

ฮึ!

ไม่เชื่อหรอกว่าจะมีชายที่ตัวฉันคนนี้คบคิดไม่ได้!

เฉินเสี่ยวถงกำหมัดมือขวาแน่น ในใจแอบให้กำลังใจตัวเอง

กู้หยุนหลันไม่ได้ถามอะไรต่ออีก ท้ายที่สุดหลี่โม่ก็อยากมีเวลาของตัวเอง ไม่สามารถผูกหลี่โม่ไว้ข้างกายตลอดเวลาได้

“อืม เดินทางดีๆนะ เรื่องที่อันตรายเกินไปคุณก็อย่าไปเข้าร่วม”

“วางใจได้ เรื่องอันตรายผมก็จะไม่ไปทำ ไม่ได้เพื่อผมแต่เพื่อคุณด้วย”

หลี่โม่โกหกอย่างตั้งใจ หน้าไม่แดงแต่ใจสั่น

ทานอาหารมื้อเช้าเสร็จ หลี่โม่กับพวกสามคนออกจากบ้าน

พึ่งออกจากประตูตึก ก็เห็นร่างหนึ่งวิ่งห้อตะบึงมา กู้หยุนหลันและเฉินเสี่ยวถงต่างตกอกตกใจกันหมด

คางเหวินซิงที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความมันเยิ้มลักษณะท่าทางหน้าซีดเผือดวิ่งมาหยุดด้านหน้าหลี่โม่ กวาดสายตามองกู้หยุนหลันและเฉินเสี่ยวถง ทันใดนั้นก็ถูกความสวยของทั้งสองคนดึงดูด ท่าทางเปลี่ยนเป็นแข็งทื่อทันที

“คุณมาทำอะไร อย่ามาขวางทาง”

หลี่โม่พูดอย่างไม่พอใจ

คางเหวินซิงกลับมามีสติอีกครั้งโค้งคำนับแล้วพูด “คุณหลี่สวัสดีครับ พี่สะใภ้ทั้งสองสวัสดีครับ ผม ผมมีเรื่อง”

ประโยคพี่สะใภ้ทั้งสองประโยคเดียว ทำให้ในใจของกู้หยุนหลันและเฉินเสี่ยวถงต่างเกิดคลื่นขึ้น

ในใจเฉินเสี่ยวถงมีความอ่อนหวาน แทบอดไม่ได้ที่จะตะโกนดังๆ พูดได้ดี มีรางวัล!

แต่ในใจกู้หยุนหลันระวังเฉินเสี่ยวถงมากขึ้น ครุ่นคิดกับตนเองถึงวิธีทิ้งเฉินเสี่ยวถงไว้ที่บ้าน จะเป็นการทำผิดจริงไหม

ถ้าหากหลี่โม่กับเฉินเสี่ยวถงเกิดประกายไฟขึ้นมาจริงๆ อย่างนั้นตนเองควรทำอย่างไรดี?

หลี่โม่จ้องไปที่คางเหวินซิงอย่างดุเดือด “พูดส่งเดชอะไร นี้คือพี่สะใภ้คุณ นี้คือ……นี้คือหญิงสาวที่เก็บมา ถ้าคุณสนใจสามารถเอาไปได้”

คางเหวินซิงฟังตาตั้ง ในใจชื่นชมหลี่โม่อย่างจริงใจ สามารถเก็บหญิงงามที่หาที่เทียบไม่ได้ดั่งเอลฟ์ได้ นั่นแน่นอนว่าเป็นคนที่โชคดีเหนือฟ้า สำหรับประโยคสุดท้ายที่หลี่โม่พูดว่าสามารถเอาไปได้ ถูกคางเหวินซิงละเลยไปโดยตรง

ล้อเล่นอะไร สาวสวยเป็นเทพรถหลี่โชคดีเหนือฟ้าที่เก็บมา นั่นไม่ใช่การรนหาที่ตายอย่างนั้นหรือ คนที่ไม่มีโชคไม่มีทางได้แน่นอน เพียงแค่เอาไป เกรงว่าจุดจบจะเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โดยตรง

หลังจากที่คางเหวินซิงทำเรื่องต่างๆ เมื่อคืน ก็อยู่ในสถานะคนโง่งม

เฉินเสี่ยวถงกอดแขนของหลี่โม่ พูดเสียงหวาน “พี่หลี่โม่ คุณอย่าส่งฉันไปเลย จากนี้ฉันจะกวาดพื้นทำกับข้าวทำงานบ้านดีไหม ฉันจะดูแลคุณและพี่หยุนหลันอย่างดี”

หลี่โม่ดึงแขนอย่างควบคุมอารมณ์ กลัวว่ากู้หยุนหลันจะเข้าใจผิด

กู้หยุนหลันดึงมือเฉินเสี่ยวถงอย่างเป็นธรรมชาติ เฉินเสี่ยวถงจะได้ไม่ขยับมือขยับเท้าผู้ชายตนเองต่อ

“หลี่โม่ ท่านนี้คือใคร?”

กู้หยุนหลันถามด้วยความสงสัย

“ผมคือคางเหวินซิง คนของตระกูลคางเมืองปินไห่ คืออย่างนี้นะครับ ผมเชื่อในทักษะการขับรถของคุณหลี่ ต้องการเรียนรู้ทักษะการใช้รถจากคุณหลี่ ผมจริงใจมากจริงๆ นะครับ”

มองไปที่คางเหวินซิงที่ท่าทางจะคุกเข่าตลอดเวลา หลี่โม่พูดอย่างปวดหัวเล็กน้อย “คุณอย่ามาขวางทาง พวกเราต้องไปตอกบัตรเข้างาน สอนทักษะการใช้รถอะไรให้คุณไม่ได้หรอก คุณอย่าคิดเลย”

“คุณหลี่คุณอย่าทำอย่างนี้เลย ผมจริงใจจริงๆ ถ้าคุณไม่ตอบรับผมเป็นศิษย์ ผมก็จะนั่งยองๆ อยู่หน้าประตูบ้านคุณไม่ไปไหน”

กู้หยุนหลันดึงหลี่โม่เล็กน้อย พูดเสียงเบา “คุณพูดกับเขาดีๆ ฉันว่าเขาก็บริสุทธิ์ใจมากนะ สอนขับรถก็ไม่ใช่เรื่องอะไร อย่างไรก็ตามคุณว่างอยู่แล้ว”

ในความเห็นกู้หยุนหลันอย่างไรก็ตามหลี่โม่มีเวลาเยอะมาก ถือโอกาสเอาเวลาออกมาสอนคางเหวินซิงก็ได้ อีกทั้งให้หลี่โม่ไปสอบคางเหวินซิง ก็จะได้ไม่ให้เขากับเฉินเสี่ยวถงผ่านวันเวลาเกิดความรักอะไรด้วยกัน

คางเหวินซิงปากมีความสุขอยากยิ้มให้ไปถึงบนฟ้า “ขอบคุณพี่สะใภ้ ผมขอชื่นชมพี่สะใภ้อย่างจริงใจ ท่านคือผู้กลับชาติมาเกิดของพระโพธิสัตว์กวนอิม”

หลี่โม่มองคางเหวินซิงไม่พูด รู้สึกว่าคนคนนี้ช่างโชคดีจริงๆ

“ได้ พรุ่งนี้คุณค่อยมาหาผมอีกทีเถอะ วันนี้ไม่มีเวลาสอนคุณ”

“ได้ๆ อาจารย์พวกคุณจะไปไหน ผมจะขับรถไปส่งพวกคุณ”

คางเหวินซิงวิ่งไปที่ด้านข้างของรถดึงเปิดประตูรถอย่างคล่องแคล่ว

มองคางเหวินซิงที่เปิดประตูรถเบนซ์s600 หลี่โม่ส่งสัญญาณให้กู้หยุนหลันและเฉินเสี่ยวถงนั่งแถวหลัง ตนเองเดินไปในตำแหน่งที่นั่งข้างคนขับแล้วเข้าไป

“รถคุณมีเยอะจริงๆ เลย”

หลี่โม่ถอนหายใจ

“ผมก็ชอบรถ ผมรู้สึกว่าคู่ควรกับความรักมากกว่าหญิงสาว อืม……คืออย่างนี้นะครับ นี้เป็นความเห็นส่วนตัวของผม”

คางเหวินซิงรู้สึกว่าตนเองมีความภูมิใจเกินไปหน่อย รีบหุบปาก สตาร์ทรถอย่างจริงจัง

ส่งหลี่โม่พร้อมพวกสามคนถึงบริษัท คางเหวินซิงครุ่นคิดเล็กน้อย รถจอดไม่ไกลจากข้างทาง วางแผนจะรับใช้หลี่โม่ทุกเวลา

มีคำกล่าวโบราณว่าถ้าคิดจะเรียนต้องนอนกับอาจารย์ คางเหวินซิงรู้สึกว่าตนเองคงไม่มีโอกาสได้นอนกับอาจารย์ สามารถเพียงรับใช้เอาใจใส่ได้ในเวลาปกติเท่านั้น

ไม่ได้ขอให้หลี่โม่ถ่ายทอดทีเด็ดให้กับตนเอง ถ้าหากสามารถทำให้ไปถึงเขตแดนบรรลุความสามัคคีของคนและรถได้ก็พอแล้ว

หลี่โม่ กู้หยุนหลัน เฉินเสี่ยวถงทั้งสามคนเข้าสำนักงานไปด้วยกัน เฉินเสี่ยวถงพูดอย่างมีชีวิตชีวา “พี่หยุนหลัน คุณมีเลขาหรือยังคะ? ถ้าคุณไม่มีเลขา ก็ให้ฉันเป็นเลขาของคุณเถอะค่ะ”

“ยังไม่มีเลขาจริงๆ แหละ คุณอยากเป็นเลขาก็ช่วยจัดระเบียบเอกสารเหล่านี้ก่อนเถอะ”

กู้หยุนหลันจัดงานให้กับเฉินเสี่ยวถง จากนั้นหยิบเอกสารที่ส่งมาใหม่ขึ้นมา

หลี่โม่นั่งไขว่ห้างเล่นโทรศัพท์บนโซฟา ท่าทางของคุณลุงแกว่งแขน

เฉินเสี่ยวถงจัดการเอกสารเสร็จ ก็เสิร์ฟน้ำชาให้กับกู้หยุนหลันและหลี่โม่ แต่กลับยุ่งจนไม่รู้อะไรเป็นอะไร

ยุ่งกับการจัดเอกสารในมือเสร็จจนหอบหายใจ เฉินเสี่ยวถงนั่งลงติดๆ กับหลี่โม่

กู้หยุนหลันเอียงสายตามองหลี่โม่และเฉินเสี่ยวถง จากนั้นแสร้งพูดเป็นไม่รู้ไม่ชี้ “หลี่โม่ คุณไม่ต้องไปช่วยฉู่จงเทียนหรือ ในเมื่อต้องการความช่วยเหลือคุณก็ไปเร็วหน่อยสิ อย่าให้ฉู่จงเทียนรออย่างร้อนใจ”

“อืม ก็ใช่ อย่างนั้นผมไปก่อนนะ พวกคุณมีเรื่องก็โทรศัพท์หาผม”

หลี่โม่เก็บโทรศัพท์ลุกขึ้นเดินออกไป นัยน์ตาเฉินเสี่ยวถงกลอกไปมา ครุ่นคิดว่าควรจะแอบตามหลี่ออกไปหรือไม่

Comment

Options

not work with dark mode
Reset