บทที่ 46 คุณจัดการอย่างไร
ทันทีที่หลี่โม่พูดประโยคนี้ ซู๋ไห่เทียนที่อยู่ตรงหน้าก็ได้ยิน ทันใดนั้นเขาก็หัวเราะ หันหน้าและถามอย่างเยาะเย้ย “คุณบอกว่าอะไรนะ คุณมีบัตรสมาชิกของฮ่านกง?เอามาจากไหนเหรอ? ไม่ใช่ของปลอมใช่ไหม”
หลี่โม่คนนี้ ไร้ยางอายจริงๆ!
กล้าพูดว่ามีบัตรสมาชิกของฮ่านกง?
เขารู้หรือไม่ว่าบัตรสมาชิกต้องใช้เงินหลายล้านบาทต่อปี?
แม้ว่าจะเป็นตระกูลซู๋ ก็มีแต่พ่อเขาเท่านั้นที่มี
โง่จริงๆเลย
ทันใดนั้น ใบหน้าของหวังฟางก็จมลง เธอจ้องมองไปที่หลี่โม่และตะโกนว่า “หลี่โม่ คุณพูดไร้สาระอะไรของคุณ?ต้องให้ฉันไล่คุณออกจากรถใช่มั้ย?”
ใบหน้าสวยงามของกู้หยุนหลันก็บิดเบี้ยวเล็กน้อย เธอก็มองไปที่หลี่โม่ด้วยความโกรธ
ในตอนนี้ ทำไมเขาถึงพูดแทรก หาที่ด่าชัดๆ?
หลี่โม่ยิ้มและพูดว่า “อ่อ ไม่ใช่ของผม เพื่อนของผมเอาไว้ที่ผม”
ซู๋ไห่เทียนหัวเราะพร้อมกับเยาะเย้ยที่มุมตาของเขา พูดด้วยท่าทางแปลกๆ “เก่งนิหลี่โม่ ดูไม่ออกเลยนะว่าคุณมีเพื่อนแบบนี้ด้วยหรือ?”
หลี่โม่แสยะยิ้มเล็กน้อยและกล่าวว่า “พอได้ สิ่งที่คุณดูไม่ออกยังมีอีกเยอะ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ซู๋ไห่เทียนก็โกรธและตะโกนว่า “คุณหมายถึงอะไร?”
“ฮิฮิ ความหมายตามตัวอักษรเลย” หลี่โม่ยังคงยิ้มอย่างใจเย็น
เมื่อเห็นว่าทั้งสองกำลังจะทะเลาะกัน กู้หยุนหลันก็รีบหันหน้าไปมองที่หลี่โม่ จากนั้นก็ดุว่า “เอาล่ะ คุณพูดน้อยหน่อย”
หลังจากนั้น เธอก็หันหน้ามาและพูดกับซู๋ไห่เทียนด้วยรอยยิ้ม ขอโทษว่า “ไห่เทียน ต้องขอโทษนะ คุณอย่าถือสาเขาเลย”
“ไม่เป็นไร ผมจะไปถือสาไอ้ขยะได้อย่างไร”
ซู๋ไห่เทียนหัวเราะเยาะสองครั้ง มองไปที่หลี่โม่ด้วยสีหน้าไม่พอใจ จากนั้นถามกู้หยุนหลัน”เป็นไง ไปกินที่ไหน คุณลองเลือกดู”
กู้หยุนหลันเหลือบดูรีวิวร้านอาหารบนอินเทอร์เน็ต ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งและพูดว่า “กวนเหรินถังไหม ดูแล้วก็ไม่เลวนะ และสภาพแวดล้อมก็ดีมากด้วย”
“โอเค” ซู๋ไห่เทียนยิ้ม หันกลับมาและขับรถต่อ
ส่วนหลี่โม่ ขมวดคิ้วเมื่อได้ยินชื่อของกวนเหรินถัง วันนี้กู้หยุนหลันจะใช้จ่ายฟุ่งเฟือยแบบนี้เหรอ?
กวนเหลินกังเป็นร้านอาหารเปิดหลายสาขาที่มีชื่อเสียงในประเทศ!
ทุกครั้งที่มีการบริโภคก็นับแสน!
อย่างไรก็ตาม เมื่อดูปฏิกิริยาของกู้หยุนหลัน เหมือนเธอยังไม่รู้
ในไม่ช้า พวกเขาก็มาถึงกวนเหลินกัง ในขณะที่กู้หยุนหลันลงจากรถ เธอก็ตกตะลึง
เป็นกวนเหลินกังนี้ได้อย่างไร?
ศาลาสีแดงเหล่านี้ แกะสลักด้วยมังกรและนกฟีนิกซ์ มีชื่อเรียกว่า “หอแดง” ในเมืองฮ่าน
คนที่มาที่นี่ ล้วนเป็นข้าราชการและขุนนางระดับสูงในเมืองฮ่าน
เพราะว่า เพราะอาหารที่กินที่นี่ล้วนเป็นผักซานจื๋อ
ตายละ!
ซู๋ไห่เทียนต้องเข้าใจผิดแน่ๆ ร้านอาหารที่ออกเสียงเหมือนกันแต่ตัวอักษรต่างกัน!
กวนเหลินนี้ไม่ใช่กวนเหรินนั้น
ค่ายใช้จ่ายของกวนเหลินกังนี้สูงเกินไป กู้หยุนหลันรู้ดี
ทำยังไง?
หลี่โม่สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงทางสีหน้าของกู้หยุนหลัน ถามด้วยเสียงทุ้มต่ำ“ เป็นอะไรหรือ?”
กู้หยุนหลันดูกังวลและมองไปที่หลี่โม่ด้วยความเสียใจและพูดว่า”กวนเหลินกังที่ฉันบอกไม่ใช่ที่นี่ … นี่คือร้านอาหารชื่อดังในเมืองฮ่านที่มีค่าบริโภคสูง ฉันควรทำอย่างไร?”
หลี่โม่ยกคิ้วขึ้นเมื่อเขาได้ยินเช่นนี้ จับมือของกู้หยุนหลันแล้วเหลือบมองมัน สักครู่ เขาหัวเราะ จริงอย่างที่เขาคิดไว้ด้วย ออกเสียงเหมือนกันแต่ตัวหนังสือต่างกัน ซู๋ไห่เทียนเข้าใจผิดแล้ว
ร้านค้าตอนนี้ ร้ายกากจริงๆ รู้จักยึดตามประเด็นร้อน
ขณะพูด หลี่โม่ลองถามดู “ไม่ก็ เราเปลี่ยนที่ใหม่ไหม?
คิ้วของกู้หยุนหลันขมวด ยังไม่ทันคิด ซู๋ไห่เทียนหวังฟางและกู้เจี้ยนหมินก็เดินมาจากทางโน้นด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“หยุนหลัน เราเข้าไปกันเถอะ ผู้จัดการที่นี่ ผมรู้จัก ผมได้โทรให้เขาจัดเตรียมห้องสำหรับเราล่วงหน้าแล้ว”
ซู๋ไห่เทียนยิ้มแย้ม คิดไม่ถึงว่า หยุนหลันจะดีต่อเขาขนาดนี้ ถึงกับเลี้ยงอาหารเขาที่นี่ การเดินทางครั้งนี้คุ้มค่าจริงๆ
แม้ว่าเขาจะเป็นนายน้อยคนโตของตระกูลซู๋ แต่เขามาทานอาหารที่กวนเหลินกังปีละไม่กี่ครั้ง
การบริโภคที่นี่สูงเกินไปจริงๆ
การบริโภคหลักหมื่น ก็ทำได้แค่นั่งชั้นล่างเท่านั้น
ยังคงเป็นแบบห้องขนาดใหญ่ ต้องเหมาห้องเล็กด้วย ต้องเพิ่มค่าเหมาห้องอีก
กู่หยุนหลันก็ไม่ทันคิด จึงตอบตกลงกะทันหัน “อ่อ ได้”
ตอนนี้ เธอร้อนใจจะตายแล้ว แต่ก็ไม่สะดวกที่จะพูดออกมา เพราะยังไงก็มาถึงแล้ว
ทำอะไรไม่ได้ละ เอาแบบนี้ละกัน
หลี่โม่ยืนอยู่ข้างหลังเธอ มองไปที่เธอต้องการพูดแต่ก็ไม่พูด เขาส่ายหัวและยิ้มอย่างช่วยไม่ได้และพูดเบาๆว่า “เข้าไปเถอะ ไม่เป็นไร ผมจะจ่ายเงินให้ทีหลัง”
กู้หยุนหลันหันหน้าไปมองอย่างสงสัย จ้องมองไปที่หลี่โม่ด้วยดวงตาที่แผดเผาและถามด้วยเสียงทุ้มต่ำ “คุณจะแก้ปัญหา?คุณจะแก้อย่างไร?นี่คือกวนเหลินกัง ค่าใช้จ่ายอย่างน้อยก็เป็นหมื่น “
เธอก็เกลียดตัวเองเหมือนกัน ทำไมเธอไม่พูดให้ชัดเจน ตอนนี้ต้องเสียเงินเยอะมาก
อย่างไรก็ตาม กู้หยุนหลันยิ่งโกรธหลี่โม่
ถึงตอนนี้แล้ว เขายังจะมีอารมณ์มีเล่นตลกกับเธออีก
ไม่เห็นเหรอว่าเธอร้อนใจจะตายแล้ว?
“คุณเชื่อผมไหม?”
ทันใดนั้น หลี่โม่ก็จับมือเล็กๆที่บอบบางและอ่อนโยนของกู้หยุนหลัน อุณหภูมิของฝ่ามือของเขาส่งผ่านไปที่ฝ่ามือของกู้หยุนหลัน ทำให้หัวใจที่ร้อนรนของเธอสงบลงอย่างช้าๆ
กู้หยุนหลันยกคิ้ว ดวงตาของเธอสั่นไหวไปที่หลี่โม่ที่อยู่ตรงหน้า ความรู้สึกแปลกๆอยู่ในใจของเธอ
ฉันควรจะเชื่อเขาไหม?
กู้หยุนหลันไม่รู้จะพูดยังไง เธอกระซิบอย่างเจ็บปวด “คุณ … คุณจะแก้ปัญหาอย่างไร?คุณมีเงินเหรอ?”
กู้หยุนหลันเสียใจทีหลังทันที หลังจากที่เธอได้ถามประโยคนี้
เธอกลับเชื่อในสิ่งที่หลี่โม่พูด เขาจะไปมีเงินได้อย่างไร แม้กระทั่งค่ารักษาของซีซีก็ยังเป็นเงินที่ยืมมาล่ะสิ
หลี่โม่ยิ้มอย่างจางๆ ยื่นมือไปแตะที่จมูกโด่งของกู้หยุนหลันและยิ้ม “ไม่ต้องกังวล ผมมีวิธีของตัวเอง พวกคุณเข้าไปก่อนเถอะ”
ทันทีที่เขาพูดจบ หวังฟางก็หันหน้าไปทางนั้นด้วยความโกรธ จ้องมองไปที่หลี่โม่และดุว่า “หลี่โม่ คุณกำลังทำอะไรอยู่?จะหลอกอะไรลูกสาวฉันให้หลงคุณอีก?หยุนหลัน ยืนบื้ออยู่ที่นั่นทำไม มาอยู่กับไห่เทียน”
หวังฟางดูถูกหลี่โม่ไอ้ขยะคนนี้จากใจ รู้สึกเสียหน้าทุกที่ที่มีเขาไป
“อ่อ มาแล้ว”
จากนั้น กู้หยุนหลันก็ดึงสติกลับมาได้และมองบนใส่หลี่โม่ด้วยความรังเกียจ แตะจมูกของตนเอง จากนั้นควงแขนของหวังฟางแล้วพาเธอเข้าไปในห้อง
นอกจากนี้ เธอยังได้หันกลับมามองหลี่โม่สองสามครั้งด้วยความรู้สึกห่วงใย
เขาจะแก้ไขยังไง?
ที่นี่ หลี่โม่ยิ้มเล็กน้อยและกำลังจะเดินเข้าไปข้างใน แต่ซู๋ไห่เทียนยื่นมือออกไปขวางทางของเขาและยิ้มอย่างเย้ยหยัน “หลี่โม่ เมื่อกี้คุณกระซิบอะไรกับหยุนหลัน?”
หลี่โม่ขมวดคิ้ว จ้องมองซู๋ไห่เทียนอย่างไม่พอใจและถามว่า “เกี่ยวอะไรกับคุณ?”
ผมกระซิบกับภรรยาของผม เกี่ยวอะไรกับคนโง่อย่างคุณ!
เมื่อซู๋ไห่เทียนได้ยินเช่นนี้ และดูท่าทีที่หลี่โม่มีต่อเขา ก็โกรธทันที!
ในมือของเขา เขาคว้าคอเสื้อสีขาวของหลี่โม่ และเตือนอย่างโหดเหี้ยม”นามสกุลหลี่ ผมขอเตือนคุณนะ อย่าคิดว่าคุณเป็นสามีของกู้หยุนหลันแล้วผมจะไม่กล้าทำอะไรกับคุณ! ในสายตาของผม คุณมันก็แค่ไอ้ขยะที่อยู่ด้านล่างของสังคมเข้าใจไหม?คุณมีส่วนไหนที่สู้ผมได้บ้าง?คุณมีเงินไหม?สัญญาฉบับใหม่ของบริษัทรุงคาง ผมเป็นคนช่วยเธอเอามาจนได้ เธอมีแต่จะรู้สึกขอบคุณผม ดูซิว่าที่นี่คือที่ไหน กวนเหลินกัง!เพื่อผม หยุนหลันยอมเชิญผมมากินข้าวที่นี่ สิ่งนี้หมายความว่าอะไร?หมายความว่าในใจเธอมีผม! “