บทที่ 49 เห็นแก่หน้าใคร
ก่อนที่เขาจะบอกว่าตนเองเป็นใคร ซู๋ไห่เทียนที่นั่งอยู่ที่นั่นก็ลุกขึ้นยืนทันที พร้อมกับรอยยิ้มที่ประจบและกล่าวว่า “ผู้จัดการอู๋ ผมเอง ซู๋ไห่เทียน พ่อของผมคือซู๋โห้เฟิง”
อู๋เต้าเหวินหันหน้าไป เห็นลูกชายของซู๋โห้เฟิง บริษัทซู๋ซื่อ
เขาแค่ยิ้มจางๆและพูดว่า “คุณชายซู๋เองเหรอ”
ซู๋ไห่เทียนรีบแนะนำ “คุณป้า คุณลุง หยุนหลันนี่คือผู้จัดการอู๋ อู๋เต้าเหวิน ผู้จัดการใหญ่ของกวนเหลินกัง เป็นคนที่มีหน้ามีตาในเมืองฮ่าน “
หวังฟางตกตะลึง ในใจคิดว่าซวยละ รีบมาพร้อมกับใบหน้าที่ยิ้มแย้มและพูดว่า”ผู้จัดการอู๋ ฉันขอโทษ ฉันมีตาแต่หามีแววไม่ ขอโทษขอโทษ”
กู้หยุนหลันพยักหน้าและยิ้มเล็กน้อย
กู้เจี้ยนหมินไม่ได้อะไร อย่างไรก็ตาม เขาก็เป็นลูกหลานของตระกูลกู้ อยู่ข้างนอก ยังไงก็ต้องรักษาหน้าไว้
อู๋เต้าเหวินกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “เพราะห้องของพวกคุณเล็กเกินไป จึงอยากย้ายขึ้นไปชั้นใช่ไหม?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หวังฟางรีบโบกมือและพูดว่า “อ๋อ ไม่ ไม่ไม่ เราไม่ได้หมายถึงแบบนั้น ผู้จัดการอู๋เข้าใจผิดแล้ว”
ขณะที่เธอพูด เธอจ้องไปที่หลี่โม่ด้วยความโกรธ
นี่คือการสอบสวนเหรอ จะไล่ผู้ก่อเหตุออกไปใช่ไหม?
อย่างไรก็ตาม ประโยคต่อไปของอู๋เต้าเหวิน ทำให้พวกเขาประหลาดใจและพวกเขาไม่อยากจะเชื่อเลย
เขาพูดว่า “เอาแบบนี้ละกัน ผมช่วยพวกคุณเปลี่ยนเป็นห้องชั้นบนสุด สวนลอยฟ้าที่อยู่ชั้นบนสุดดีไหม?”
เมื่อเขากล่าวเช่นนี้ เขาก็เหลือบมองไปที่หลี่โม่ เขารู้สึกโล่งใจที่เห็นว่าอีกฝ่ายไม่คัดค้าน
นี่คือวีไอพีของบอสใหญ่!
“ หา ห้อง … ห้องสวนลอยฟ้า?”
ปากของกู้หยุนหลันเปิดกว้างและดวงตากลมโตของเธอกะพริบ เต็มไปด้วยความสงสัย
ซู๋ไห่เทียนและหวังฟางรู้สึกอธิบายไม่ถูก
สวนลอยฟ้าที่ชั้นบนสุด แม้แต่ซู๋ไห่เทียนก็ยังไม่เคยไป!
เขาเคยไปที่ชั้นสามเท่านั้น ได้ไปเพราะเกาะพ่อของเขาที่มาคุยธุรกิจ ซึ่งเป็นมาตรฐานการบริโภคเริ่มต้นที่ 500,000
และสวนลอยฟ้าแห่งนี้ เป็นชั้นที่สูงที่สุดและแพงที่สุดในกวนเหลินกัง มีเพียงสี่ห้องเท่านั้น!
แต่ละห้องมีพนักงานเสิร์ฟที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นพิเศษจากพระราชวัง
ยิ่งไปกว่านั้น สวนลอยฟ้าแห่งนี้ ไม่ใช่คนธรรมดาจะขึ้นไปได้ บัตรเข้าชมต้องเป็นคนรวยที่มีมูลค่ามากกว่า 100 ล้านและมีข้อกำหนดแปลกๆทุกประเภท กล่าวสั้นๆก็คือเข้มงวดมาก!
“ไม่ ไม่จำเป็น ผู้จัดการอู๋ พวกเราอยู่ที่นี่ก็ดีมากแล้ว”
กู้หยุนหลันไม่ได้โง่ เธอเพิ่งรู้จากปากของซู๋ไห่เทียนว่า บัตรเข้าสวนลอยฟ้าที่อยู่บนสุด ต้องมีมูลค่ามากกว่า 100 ล้าน!
ยิ่งไปกว่านั้น มาตรฐานการบริโภคมากกว่าหนึ่งล้าน!
แต่ว่า
อู๋เต้าเหวินยิ้มและพูดว่า “นี่คือคุณกู้ใช่ไหม ผมรู้ว่าคุณกังวลเรื่องอะไร คราวนี้ห้องของคุณไม่นับการบริโภคขั้นต่ำ แม้ว่าคุณจะดื่มน้ำเพียงไม่กี่แก้วก็ไม่เป็นไร”
เมื่อพูดอย่างนั้น เขาก็โค้งคำนับและแสดงท่าทางด้วยความเคารพ “ทุกท่าน โปรดขึ้นไปชั้นบนกันเถอะ”
ในเวลานี้ ทำให้กู้หยุนหลันและคนอื่นๆงงไปหมด
นี่ยังรีบไล้ให้พวกเขาขึ้นไปชั้นบนหรือ?
พวกเขาลุกขึ้นและทุกคนก็เดินตามอู๋เต้าเหวินขึ้นไปชั้นบนอย่างกระวนกระวาย
ฉากนี้ ทำให้เกิดความฮือฮาในร้านอาหารอย่างเป็นธรรมชาติ
หลายคนลุกขึ้นและเริ่มถ่ายรูปด้วยโทรศัพท์
เพราะแขกทุกคนที่มาที่สวนลอยฟ้าจะมีคนร้องกันทั้งร้าน
นอกจากนี้ เมนูทั้งหมดยังลด 10%!
ในไม่ช้า พวกเขาก็มาถึงสวนลอยฟ้าที่อยู่ชั้นบนสุด มีทั้งหมดสี่ห้อง แต่ละห้องแยกจากกันสามารถมองเห็นภาพมุมสูงของฉากกลางคืนที่มีแสงสีสว่างจ้าอยู่ใกล้ๆได้ ยิ่งไปกว่านั้นสภาพแวดล้อมในห้องนั้น อลังการราวกับพระราชวัง ทำให้คนแทบเดินไม่ได้ มันช่างหรูหราและฟุ่มเฟือยมาก!
นี่ นี่มันพระราชวังจริงๆ!
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่พวกเขาเข้าไปในห้องนั้น ประตูของห้องที่อยู่ข้างๆก็เปิดออกผู้หญิงคนหนึ่งในกระโปรงสั้นและสวมเสื้อกอดอกก็เดินออกมาจากห้อง แต่งตัวดูมีเสน่ห์เปรี้ยวจี๊ดและทันสมัย
หญิงสาวเดินโซเซไปสองสามก้าว เห็นได้ชัดว่าดื่มมากไปหน่อย
มันคือกู้ชิงหลิน
วันนี้เธอมาสนุกกับเพื่อนคนรวยรุ่นที่สอง
ไม่ทันไร พึ่งออกจากประตูก็เห็นร่างที่ดูเหมือนกู้หยุนหลันและหลี่โม่ เข้าไปในห้องที่อยู่ข้างๆ
พวกเขามีคุณสมบัติิที่จะมาชั้นนี้ได้อย่างไร?
เมื่อคิดเช่นนี้ กู้ชิงหลินต้องการที่จะดู แต่ถูกหยุดโดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่หน้าประตูห้อง “คุณผู้หญิง นี่คือห้องส่วนตัว”
กู้ชิงหลินส่งเสียงหัวเราะเยาะ ไม่ได้ไปตรวจเช็ดอย่างละเอียด คิดว่าตนเองดื่มมากเกินไป
ฝั่งนี้ กู้หยุนหลันและคนอื่นๆเข้าไปในห้อง นั่งลงอย่างเกรงๆ
เหมือนคนดอยเข้าเมืองจริงๆ
“ทุกท่าน อยากกินอะไรก็สั่งได้ตามใจชอบเลย”
หลังจากพูดจบ อู๋เต้าเหวินก็กระซิบกับพนักงานเสิร์ฟรอบๆตัวเขาว่า “ไปเอาชุดเมนูใหม่มา ผมอยากได้ชุดราคาต่ำสุด แต่อาหารในนั้นห้ามเปลี่ยน เข้าใจไหม?”
อู๋เต้าเหวินคนนี้ฉลาดมาก เมื่อกี้แค่ดูจากคำพูดและการกระทำ เขาก็พอจะเข้าใจทุกอย่างแล้ว
คุณหลี่คนนี้ ไม่ต้องการเปิดเผยตัวตนต่อหน้าคนเหล่านี้
ไม่นาน บริกรก็มาพร้อมกับเมนูใหม่
กู้หยุนหลันรับมันด้วยรอยยิ้มและเปิดมาดู เธอคิดว่ามันแพง แต่เมื่อเธอดูแล้ว ราคาต่อจานก็แค่ไม่กี่สิบบาทและที่ราคาแพงกว่านั้นก็ไม่ถึงหนึ่งร้อย
แม้แต่ปูราชาแดงและคาเวียร์ซึ่งเป็นอาหารที่คนทั่วไปหารับประทานได้ยาก ก็มีราคาเพียงไม่กี่ร้อย
นี่ … ทำไมเมนูนี้ถึงถูกจัง?
“ทุกท่าน ผมจะไม่รบกวนพวกคุณแล้ว มีอะไรก็สามารถโทรหาผมได้ทุกเมื่อที่คุณต้องการ”
หลังจากพูดจบ อู๋เต้าเหวินก็ออกจากห้อง ก่อนที่จะออกไป เขาเหลือบมองไปที่หลี่โม่ที่กำลังนั่งอยู่ที่มุม
หลี่โม่ก็พยักหน้าให้เขา
เห็นแบบนี้ การเตรียมการของเฉียนฝูทำได้ดีมากแล้ว
จนกระทั่ง อู๋เต้าเหวินออกจากห้อง ทุกคนก็ถอนหายใจ
ใบหน้าของหวังฟางเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เธอติดใจในสไตล์การตกแต่งของที่นี่แต่แรกแล้ว
กู้หยุนหลันกระซิบถามว่า “นี่มัน เกิดอะไรขึ้น?ทำไมผู้จัดการอู๋จึงเชิญพวกเราขึ้นมาอย่างสุภาพ?ไหนบอกว่าค่าใช้จ่ายของสวนลอยฟ้าหลายร้อยล้านไม่ใช่เหรอ”
ไม่เพียงแต่เธอเท่านั้นที่งง แม้แต่ซู๋ไห่เทียนก็งงไปหมด
แม่ง นี่มันหมายความว่ายังไง?
แต่หวังฟางที่กลับมามีสติในขณะนี้ พร้อมกับรอยยิ้มที่ประจบและกล่าวว่า “เจ้าเด็กโง่ ยังดูไม่ออกเหรอ ผู้จัดการอู๋ เป็นเพราะเห็นแก่หน้าของไห่เทียนของเรา จึงยอมเชิญเรามา ที่นี่ ไม่อย่างนั้นเราจะโชคดีแบบนี้ได้ยังไง คุณดูสิ กำแพงที่นี่มีมังกรและนกฟีนิกซ์แกะสลักอยู่ เหมือนกับพระราชวังเลย บรรยากาศดีมาก ฉันอยากจะถ่ายรูปให้เพื่อนๆของฉันดู “
กู้เจี้ยนหมินไม่ได้พูดอะไรมากตั้งแต่ต้นจนจบ ในตอนนี้ใบหน้าของเขาร้อนผ่าว พยักหน้าด้วยความดีใจ “ไห่เทียน คุณนี่มธรรมดาจริงๆ ต่อไปก็ติดต่อกับหยุนหลันของเราให้มากขึ้นนะ”
พ่อตาเอ่ยปากพูดแล้ว กู้หยุนหลันก็หน้าแดงมากขึ้น
ซู๋ไห่เทียนผงะ เขายังคิดไม่ได้แบบนี้ แต่ตอนนี้เมื่อหวังฟางและกู้เจี้ยนหมินพูดเช่นนั้น เขาเองก็เชื่อทันที พูดอย่างภาคภูมิใจทันที “เรื่องเล็กน้อย เรื่องเล็กน้อย เจ้านายของกวนเหลินกัง เขารู้จักกับพ่อของผม พวกเขาเป็นเพื่อนกัน”
“ถ้าให้ผมพูดนะ การตกแต่งของที่นี่ยังค่อนข้างแย่หน่อย ครั้งที่แล้วที่ผมไปฮ่านกง … “
ซู๋ไห่เทียนก็เริ่มโม้ ใบหน้าเบิกบาน
แต่.
ทันใดนั้น เสียงที่ไม่ลงรอยกันก็ดังขึ้น
หลี่โม่ที่นั่งอยู่ที่มุมหนึ่งและพูดจาง “ซู๋ไห่เทียน คุณแน่ใจหรือว่าผู้จัดการอู๋เชิญเราขึ้นมาเพราะเห็นแก่หน้าคุณ”
หลี่โม่หมดความอดทนแล้ว เมื่อเห็นซู๋ไห่เทียนไร้ยางอายเช่นนี้ สิ่งดีๆทั้งหมดก็เอามาไว้ที่ตัวเองจนหมด?