“มี มีอยู่แล้ว พวกคุณนี่บังเอิญจริงๆเลย บังเอิญที่ตอนนั้นผมรับซื้อไว้คู่นึง ผมจะไปหยิบให้นะ”
เถียนจินหมิงเดินอารมณ์ดีเข้าไปในห้องสินค้า เฉินเสี่ยวถงกระตุกแขนหลี่โม่ถาม“พี่หลี่โม่ นี่มันอะไรกัน ไหนว่าเป็นของปลอมไง”
“ก็ต้องมีหลักฐานสิวะ จับโจรต้องมีมูลเข้าใจมั้ย ตอนซื้อได้ถ่ายคลิปไว้มั้ย มีใบเสร็จมั้ย ไม่มีอะไรสักอย่าง เขาจะปฏิเสธก็ได้ จะป้ายสีพวกเธอยังได้”
หลี่โม่พูดแบบนี้ เฉินเสี่ยวถงกับคางเหวินซิงต่างได้สติกลับมา เป็นแบบนั้นจริงๆด้วย
พวกพ่อค้าของโบราณน่ะแค่ขายของปลอม มักจะมีวิธีการรับมือลูกค้า ถ้าหากไม่มีหลักฐานมัดตัว จะให้ชดใช้เงินเป็นไปไม่ได้
“อาจารย์ล้ำลึกจริงๆ ผมคิดไม่คิดขนาดนี้เลย คิดไม่ถึงแม้แต่น้อย พวกขายของโบราณนี่ เจ้าเล่ห์เป็นจิ้งจอกพันปีเลย”
คางเหวินซิงชูนิ้วโป้งให้หลี่โม่แสดงความชอบใจ รู้สึกว่าหลี่โม่นี่ช่างไร้เทียมทาน
แววตาที่แสดงความนับถือของเฉินเสี่ยวถงมองไปทางหลี่โม่ แววตาเป็นประกายดาวเล็กน้อย
เถียนจินหมิงหยิบกล่องโบราณออกมา ยิ้มทักทาย“เชิญนั่งๆๆทุกท่าน มาแล้วอย่าได้เกรงใจ ทำตัวตามสบายเหมือนอยู่บ้าน นั่งดื่มชากันก่อน”
พวกหลี่โม่ทยอยนั่งลง เถียนจินหมิงรินชาให้ทั้งสาม จากนั้นเปิดกล่อง วางตรงหน้าหลี่โม่
“เชิญคุณผู้ชายดูครับ นี่เป็นของหายากแน่นอน พวกท่านทั้งสามมีบุญตาแล้ว ถ้าเป็นคนอื่นผมไม่ให้ดูหรอก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงขาย”
“ท่านดูเนื้อหยก ขาวเนียนน้ำงาม เป็นหยกขาวชั้นเลิศแน่นอน ความมันวาวนี้ ดูเหมือนน้ำมันแพะเลยมั้ยล่ะ”
“แล้วมาดูการแกะสลัก ประณีตละเมียดละไม ถ้าไม่ใช่ช่างแกะสลักวังหลวง แกะลายออกมาละเอียดแบบนี้ไม่ได้หรอก”
เถียนจินหมิงคุยฟุ้ง โม้จนแทบหยกชิ้นนั้นจะลอยฟ้าได้อยู่แล้ว
หลี่โม่พยักหน้าเล็กน้อย ทำท่าทางดีใจที่ได้เห็นหยกมังกร“เป็นของดีจริงๆด้วยนะ ไม่เลวเลยทีเดียว ไม่ทราบว่าราคาเท่าไหร่”
“เพื่อนคุณซื้อไปห้าล้าน แต่ชิ้นนั้นมีตำหนินิดหน่อย ชิ้นนี้ไม่เหมือนกัน ไม่มีตำหนิแม้แต่น้อย ราคาย่อมแพงกว่า ราคาเดียว สิบล้าน”
เถียนจินหมิงชูนิ้วชี้ขึ้นหนึ่งนิ้ว รู้สึกว่าครั้งนี้จะผิดพลาดอีกไม่ได้ จะหลอกก็ต้องเอาให้ถึงที่สุด จะได้ไม่ต้องเสียดาย
“ราคาพอไหว แต่รับประกันของแท้ไหม ตอนนี้ของปลอมเยอะนัก ไม่ระวังก็โดนหลอกได้”
“แท้ ของแท้แน่นอน ร้านผมใหญ่ขนาดนี้ ยังต้องกลัวของปลอมอีกเหรอ จะว่าไปคนใหญ่คนโตทั้งหลาย เวลาซื้อของพวกนี้ต้องให้ผมเซ็นรับประกันทั้งนั้น ผมไม่ขายของปลอมหรอก”
เถียนจินหมิงหลอกล่อเต็มที่ คิดหาวิธีให้หลี่โม่ชำระเงินโดยเร็ว จึงรีบชี้ไปที่ใบรับรองที่แขวนอยู่ที่ผนังโดยเฉพาะ มีแต่ใบรับรองสมาคมโน่นนี่นั่น
ถ้าดูละเอียด ก็จะเห็นว่าเป็นสมาคมอะไรก็ไม่รู้ ไม่มีสมาคมที่เป็นทางการสักอัน
“ปลอมหนึ่งชดใช้สิบเท่ามั้ย”
หลี่โม่หรี่ตายิ้มถาม
“มันแน่นอนอยู่แล้ว ผมเถียนจินหมิงเป็นคนมีศีลธรรม ไม่เคยขายของปลอมสักชิ้น ถ้าผมขายของปลอมไป ชดใช้คืนสิบเท่าแน่นอน”
เถียนจินหมิงพูดจบก็ตบอกผาง แสดงว่าตนเองเป็นคนรักษาคำพูด
หลี่โม่หยิบบัตรธนาคารมาพูดขึ้น“ตกลง งั้นก็รูดบัตรแล้วกัน”
“ได้ครับ”
เถียนจินหมิงหยิบเครื่องรูดบัตรPOSออกมาอย่างอารมณ์ดี วันนึงเจอลูกค้าใหญ่ขนาดนี้ ช่างเป็นวันดีๆโดยแท้
ถ้าได้เจอแบบนี้ทุกวัน คงกลายเป็นเศรษฐีอันดับหนึ่งแล้ว
หลี่โม่รูดบัตรกดพาสเวิร์ด ไม่นานเครื่องPOSก็คายกระดาษออกมา
“มา เซ็นชื่อหน่อยครับ”
เถียนจินหมิงหยิบปากกายื่นให้หลี่โม่ ให้หลี่โม่เซ็นรับ
หลี่โม่ยิ้มวางปากกาลง มือขวาถือหยกมังกรพูด“ไม่รีบ พวกเรามาคุยเรื่องการชดใช้สินค้าปลอมดีกว่า”
“ชดใช้ ชดใช้อะไร ของผมของแท้ หมายความว่าไง”
เถียนจินหมิงในแขวน เจอแผนของหลี่โม่แล้วชะงัก
“ดูท่าไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตานะ นี่เป็นงานกอปที่ทำจากกระจก ก่อนหน้าที่ขายให้เพื่อนผมก็เหมือนกัน ของเนี่ยถ้าคุณขายแค่สามพันห้า ผมก็คงบอกให้เพื่อนผมช่างเถอะ แต่นี่คุณเปิดปากก็ห้าล้านสิบล้าน ใจดำไปหน่อยมั้ย”
หลี่โม่เจาะทะลุฐานหยกมังกร เถียนจินหมิงรู้สึกว่าเจอคนรู้จริงเข้าแล้ว คงไปต่อไม่ได้แล้ว
แต่ว่าคืนเงิน นั่นเป็นไปไม่ได้!
“ทำไม มาหาเรื่องกันเหรอ ลองไปสืบชื่อเสียงของคนอย่างเถียนจินหมิงเสียหน่อย กูไม่ธรรมดานะว้อย”
เถียนจินหมิงพูดอันธพาล
“แกไม่ใช่คนธรรมดาแล้วแกเป็นอะไรวะ ฉันไม่มีเวลามานั่งฟังชื่อเสียงแก ถ้าแกเรียกคน ก็รีบโทร”
หลี่โม่ไม่อยากต่อปากคำกับเถียนจินหมิง อยากรีบจัดการเรื่องราวให้เสร็จสิ้น
“เฮ้ย มึงแน่นี่หว่า คิดว่าแน่แค่ไหนเชียว กูน่ะไหว้ครูมานะว้อย อาจารย์กูน่ะมาจากสำนัก เจ้าสำนักสำนักหมัดทงเป้ชื่อหานซื่อเจี๋ย กลัวมั้ยล่ะ”
หานซื่อเจี๋ยเป็นเจ้าสำนักวิทยายุทธ์ที่มีชื่อเสียงในมณฑล ลูกศิษย์ลูกหาล้วนมีสำนักของตัวเองทั้งสิ้น และหานซื่อเจี๋ยเองก็เปิดสำนักตัวเองในเมืองฮ่าน
เพียงแต่ไม่กี่ปีมานี้หานซื่อเจี๋ยไม่ค่อยสนใจบริหารสำนัก ทำให้เกิดการต่อสู้กันระหว่างเทควันโด คาราเต้ ธุรกิจตกยอด
หลี่โม่อดขำไม่ได้“แกก็แค่ลูกศิษย์ที่เคยเรียนสินะ ยังมีหน้าอ้างชื่อหานซื่อเจี๋ย”
“เฮ้ย กูเป็นลูกศิษย์สายตรงนะว้อย ไม่เธอปะทะฝีมือกัน สามหมัดสองตีนกูก็เอามึงอยู่แล้ว”
เถียนจินหมิงลุกขึ้นวางท่าทาง แสดงให้หลี่โม่รู้ว่าเขาเคยฝึก
หลี่โม่ยิ้มพูด“ถ้าชนะแกแล้ว ได้ชดใช้คืนสิบเท่าสินะ”
“ถุย!”
เถียนจินหมิงพ่นมาคำ พูดอย่างเหี้ยมโหด“แกจะไม่พูดเรื่องอื่นเลยใช่ไหม!เชื่อไหมว่ากูเรียกอาจารย์มาได้!”
“เรียกมาสิ ก็อยากจะถามหานซื่อเจี๋ยเหมือนกัน ว่าทำไมถึงรับศิษย์สารเลวแบบแก”
หลี่โม่ไม่ไว้หน้า ทำให้เถียนจินหมิงเดือดดาล
อีกอย่างเขามีหลักฐานให้ชดใช้ ไม่ต้องเชิญใครมาพิสูจน์ เถียนจินหมิงก็รู้สึกใจโหวง
“ตกลง มึงคอยเดี๋ยว กูจะโทรหาอาจารย์ ให้อาจารย์มา มึงต้องมีเวลาที่หลั่งน้ำตาแน่!”
เถียนจินหมิงพูดเสียงแข็ง หยิบโทรศัพท์ออกมาโทร