จักรพรรดิมังกร – ตอนที่ 496 มองไม่เห็นข้อบกพร่อง

“รับทราบ งั้นคุณเลิกงานแล้วกลับบ้านไปคนเดียวก่อนนะ ผมสอนคางเหวินซิงหัดขับรถถึงช่วงค่ำๆเสร็จแล้วจะกลับไป”

หลี่โม่ยิ้มพูดขึ้น

“ไปเถอะๆ ตอนที่สอนเหวินซิงก็ตั้งใจหน่อยนะ อย่าสอนครึ่งๆกลางๆล่ะ”

“ไม่แน่นอน จะพูดยังไงก็เป็นลูกศิษย์คนแรกของผมนะ ต้องสอนให้เต็มที่อยู่แล้ว”

หลี่โม่ส่งสัญญาณมือให้คางเหวินซิง เปิดประตูห้องทำงานแล้วเดินออกไป

เฉินเสี่ยวถงกับคางเหวินซิงตามหลังหลี่โม่ออกไปจากห้องทำงาน ทั้งสามคนออกไปจากอาคาร เข้าไปนั่งในรถเบนซ์ของคางเหวินซิงด้วยกัน

คางเหวินซิงสตาร์ทรถขับออกไป เฉินเสี่ยวถงดึงแขนของหลี่โม่พูดขึ้น: “พี่หลี่โม่คะ พี่จะไปที่เวทีประลองการแข่งขันเลยใช่ไหม? ต้องพาฉันไปด้วยนะ ฉันต้องไปให้กำลังใจพี่ที่ข้างเวที!”

“เธอจะไปทำไม? จางเต๋ออู่ก็อาจจะไปด้วยนะ เธอคิดว่าเธอเหมาะที่จะเจอเขาไหม?”

ใบหน้าของเฉินเสี่ยวถงเศร้าสลดในทันที เบ้ปากพูด: “ไม่อยากเห็นหน้ามัน ไอ้คนเลวทราม เลวระยำจริงๆ”

“ถึงเวลาเธอก็รออยู่ข้างนอกกับเหวินซิง ฉันเข้าไปชกรอบหนึ่ง ไปกลับคงจะไม่เกินครึ่งชั่วโมง”

หลี่โม่พูดอย่างสงบ

“อาจารย์ คุณอย่าประมาทนะครับ นึกถึงปีนั้นที่ท่านรองกวนได้รับบาดเจ็บเพราะประมาท……เอ่อ ผมปากเสียอีกแล้ว ถุยๆๆ”

คางเหวินซิงพ่นๆน้ำลายออกมา แล้วจึงพูดขึ้น: “อาจารย์ ตอนนี้เราจะไปไหนกันครับ? ถ้าไปหอฝึกฝนการต่อสู้ตอนนี้คงจะเร็วเกินไป”

“เร็วเกินไปแน่ๆ ลองหาๆที่พักผ่อนดู เราไปนั่งฆ่าเวลากัน”

เฉินเสี่ยวถงดวงตาเป็นประกายทันที พูดด้วยความตื่นเต้น: “ฉันเห็นร้านอาหารที่โด่งดังในอินเตอร์เน็ตร้านหนึ่ง เราไปกินข้าวเช็คอินที่นั่นกันดีไหมคะ?”

“ก็ได้ ตามนี้แหละ”

หลี่โม่กำลังหลับตาพูด ราวกับไม่ได้สนใจอย่างนั้น

เฉินเสี่ยวถงบอกตำแหน่งให้คางเหวินซิง แล้วพูดเจื้อยแจ้วถึงร้านอาหารที่โด่งดังว่าดีขนาดไหน

……

ภายในหอฝึกฝนการต่อสู้

บรูซนั่งอยู่ในห้องพัก กำลังดูวิดีโอที่ด้านหน้าอย่างละเอียด

ในโทรทัศน์กำลังฉายวิดีโอการต่อสู้ระหว่างหลี่โม่กับนู่หลั่งของครั้งที่แล้วอยู่

วิดีโอลดความเร็วลง หลี่โม่กับนู่หลั่งราวกับกลายเป็นคนแก่ ที่การเคลื่อนไหวเชื่องช้าซะจนทำให้คนอารมณ์ขึ้น

โค้ชการต่อสู้กลุ่มหนึ่งที่นั่งอยู่ด้านหลังบรูซ ก็จ้องเขม็งไปที่จอภาพด้านหน้าเช่นกัน

“วิดีโอส่วนนี้ ดูมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว แต่ผมยังมองไม่ออกเลยว่าเขาออกแรงยังไง ผมถึงกับรู้สึกว่าตอนที่เขาปล่อยหมัด ร่างกายไม่ได้เคลื่อนไหวสักเท่าไหร่เลย ดูไม่สอดคล้องกับวิธีการต่อสู้ในปัจจุบันแต่แรกแล้ว”

“ใช่ ปกติควรจะเคลื่อนไหวผ่านขาเอวไหล่ศอก เพื่อปลุกพลังของทั้งร่างกาย แต่การเคลื่อนไหวของหลี่โม่ ไม่มีท่าทางพวกนี้เลย เหมือนอาศัยแค่กำลังจากแขนและมือทั้งสองข้างเท่านั้น เป็นสไตล์ที่หยอกล้อนู่หลั่งให้ตายใจแล้วจัดการฆ่า”

“คู่ต่อสู้อย่างนี้ทำให้ปวดหัวจริงๆ บรูซ นายต้องเตรียมตัวยืนหยัดต่อสู้ให้ดี ถ้าให้ฉันแนะนำนายควรใช้ยาสักหน่อยจะดีที่สุด ด้านหนึ่งเพื่อลดความรู้สึกเจ็บปวดของนาย อีกด้านหนึ่ง เพื่อเพิ่มระดับความกระปรี้กระเปร่าของเส้นประสาทในสมองของนาย ทำให้การตอบโต้ที่รวดเร็วของนายยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้น”

พวกโค้ชสอนการต่อสู้กำลังหาจุดอ่อนของหลี่โม่ อยากจะช่วยให้บรูซชนะการแข่งขัน

แต่ความแข็งแกร่งของหลี่โม่ทำให้พวกเขารู้สึกหมดหวัง พวกเขารู้สึกว่าหมดหนทางที่จะช่วยบรูซผ่านทางความสามารถแล้ว จึงตัดสินใจใช้เล่ห์เหลี่ยม

มียาพิเศษชนิดหนึ่ง ที่สามารถเพิ่มระดับการตอบโต้ให้รวดเร็วยิ่งขึ้น ทั้งยังสามารถลดระดับความรู้สึกเจ็บปวดได้อีกด้วย อย่างนี้ก็เท่ากับว่าทำให้ความสามารถในการต่อสู้และการตอบโต้แข็งแกร่งมากขึ้น

ในงานแข่งมวยดำสากลของแต่ก่อน มีสถานการณ์ใช้ยาเกิดขึ้นไม่น้อยเลย เพียงแต่คนส่วนใหญ่แม้จะใช้ยา ก็จนปัญญาที่จะได้รับชัยชนะ

บรูซกัดฟันแน่น สำหรับเขาแล้วการต่อสู้ครั้งนี้สำคัญที่สุด เพราะทอมป์สันกับแคลตี้ส่งคำสั่งตายไปยังหน่วยงานแล้ว ถ้าไม่ชนะหลี่โม่ งั้นก็มีแค่ตายบนเวทีมวยเท่านั้น มิเช่นนั้นครอบครัวของเขาจะพลอยเดือดร้อนไปด้วย

“เจ้าลิงผิวเหลืองที่สมควรตายนี่ เขาได้ฝึกฝนกังฟูตามที่เล่าลือมาหรือเปล่า? แย่จริงๆ ทำไมปีนั้นฉันถึงไม่เรียนกังฟูนะ!”

“ไม่ ไม่ ไม่! บรูซ นายพูดอย่างนี้ไม่ถูกต้องมากๆ กังฟูของจีนไม่มีอะไรเลยจริงๆ เทียบไม่ได้กับทักษะการต่อสู้ MMA ของพวกเราด้วยซ้ำ กังฟูพวกนั้นเอาไว้โชว์อย่างเดียวไม่มีประโยชน์อะไร พอๆกับแอโรบิคนั่นแหละ”

“ฉันก็รู้สึกอย่างนั้น ฉันเคยได้ประมือกับคนที่เรียกว่าเป็นเซียนกังฟูมาไม่น้อยเลย แต่ไม่มีสักคนที่ใช้ต่อสู้ได้ พวกเขายังคงตกอยู่ในภวังค์ของนิทานที่ตัวเองจินตนาการขึ้นมา กังฟูก็เป็นแค่เรื่องโกหกที่สวยงามเท่านั้นเอง”

พวกโค้ชสอนการต่อสู้พากันโต้แย้งคำพูดของบรูซ รู้สึกว่าเดิมทีกังฟูใช้ไม่ได้จริงๆอยู่แล้ว ถึงขนาดที่มีโค้ชสอนการต่อสู้หาวิดีโอของอาจารย์สอนวูซูหลายๆท่านออกมา ให้บรูซดูอย่างละเอียด

หลังจากที่บรูซดูวิดีโอวูซูที่คล้ายๆกับการแอโรบิคพวกนั้นจบแล้ว ก็ออกแรงตบๆหน้าผากของตนเอง: “เอาเถอะ งั้น 18 ฝ่ามือพิชิตมังกรอะไรนั่นที่หลี่โม่พูดถึง เป็นเรื่องหลอกลวงจริงๆเหรอ? การตายของนู่หลั่งเป็นของปลอมเหรอ?”

“เรื่องนี้ ฉันคิดว่าเขาก็พูดไปเรื่อย เพื่อสร้างความสับสนให้พวกเรา แล้วก็เพื่อทำให้นายไม่มีสมาธิ ดังนั้นนายห้ามโดนเขาหลอก”

“ในเมื่อไม่มีวิธีดีๆ งั้นก็ฉีดยาแล้วกัน ให้คนไปเตรียมเถอะ ผมจะเพิ่มโดสด้วย”

บรูซพูดอย่างหนักแน่น

ในเมื่อตัดสินใจใช้ยาแล้ว บรูซก็รู้สึกว่าต้องโหดร้ายกับตนเองหน่อย ใช้ยาในปริมาณที่มากขึ้นทันที

“บรูซ นายแน่ใจ? ถ้าเพิ่มโดส ร่างกายของนายอาจจะทนอยู่บนเวทีมวยได้แค่สิบนาที หลังจากสิบนาทีผ่านไปฤทธิ์ของยาจะทำให้นายหมดสติ”

โค้ชคนหนึ่งเตือนขึ้น

“สิบนาทีก็เพียงพอแล้ว ถ้าภายในสิบนาทีผมยังชกเขาไม่ตาย งั้นบทสรุปของผมก็มีแค่ตายเท่านั้น”

บรูซพูดอย่างเคร่งขรึม

พวกโค้ชสอนการต่อสู้เงียบกันหมด ที่บรูซพูดเป็นเรื่องจริง

หลังจากใช้ยาถ้ายังไม่สามารถบดขยี้หลี่โม่ได้ งั้นต่อให้บรูซมีเวลาไม่จำกัด ก็หมดหนทางที่จะชนะหลี่โม่แล้ว

“ฉันจะไปตามหมอมา ตรวจสุขภาพของนาย เพื่อยืนยันปริมาณยาที่ใช้ได้”

“ฉันจะไปรายงานคุณแคลตี้หน่อย การใช้ยายังต้องให้พวกเขาตรวจสอบและอนุมัติ”

พวกโค้ชสอนการต่อสู้ทยอยๆกันยุ่งขึ้นมา บรูซยังคงนั่งอยู่ ดูวิดีโออย่างเงียบๆครั้งแล้วครั้งเล่า ดูทุกการเคลื่อนไหวของหลี่โม่

ชั่วครู่ก็มีหมอเข้ามาในห้องพัก ดำเนินการเจาะเลือดของบรูซไปตรวจสอบอย่างรวดเร็ว แล้วรวบรวมข้อมูลสุขภาพเบื้องต้นของบรูซ

แคลตี้เดินเข้ามาในห้องพักด้วยใบหน้าเคร่งขรึม มองหมอแล้วพูดขึ้น: “เป็นยังไง? สามารถฉีดยาได้กี่โดส?”

“ตามที่พิจารณาจากสภาวะจำกัด สามารถฉีดยาที่เข้มข้นกว่าเดิมได้สามเท่า เขาจะสูญเสียความรู้สึกเจ็บปวดอย่างสมบูรณ์ และปฏิกิริยาทางสมองจะรวดเร็วถึงห้าเท่าเหมือนก่อนหน้านี้ แต่ทว่าพละกำลังและความรวดเร็วของร่างกายเขา อาจจะตามไม่ทันความรวดเร็วของสมอง”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset