สมองมีการตอบสนองอย่างรวดเร็ว แต่ร่างกายตามไม่ทันความเร็วของสมอง ง่ายมากที่จะปรากฏสภาพการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติไป อย่างนั้นก็จะทำให้เปิดเผยจุดบกพร่องออกมา
อีกทั้งร่างกายที่รู้สึกไม่ถึงความเจ็บปวด ไม่ได้หมายความว่าพละกำลังในการตั้งรับของร่างกายจะเพิ่มมากขึ้น
ถ้ากระดูกแตกหัก ในทางกลับกันเนื่องจากสูญเสียความเจ็บปวด ก็จะไม่สามารถวินิจฉัยสภาพร่างกายของตนเองอย่างดีได้
ดังนั้นยาที่พวกแคลตี้เชี่ยวชาญ ก็ไม่ใช่ยาที่ยอดเยี่ยมพิเศษอะไรหรอก บอกได้ว่าเป็นยาที่ค่อนข้างล้มเหลวด้วยซ้ำ
แต่นี่เป็นยาที่พวกแคลตี้เชี่ยวชาญที่สุดแล้ว ยาเสริมความแข็งแกร่งที่สำนักหลงเหมินคิดค้นพัฒนานั้นยอดเยี่ยม แต่พวกแคลตี้กลับทำออกมาไม่ได้
บรูซลังเลอยู่ชั่วครู่ เส้นเลือดบนหน้าผากปูดสูงขึ้น พูดอย่างจริงจัง: “ไม่ต้องพูดมากมาย ถึงเวลาฉีดยาให้ผมก็พอแล้ว แคลตี้ ผมหวังว่าคุณจะทำตามสัญญาที่ให้เอาไว้ ถ้าผมตายบนเวทีมวย พวกคุณต้องดูแลครอบครัวของผม”
“ไม่มีปัญหา ถ้ามันเกิดวินาทีนั้นจริงๆ ฉันจะดูแลครอบครัวของนายอย่างดี”
บรูซหลับตาลง เสียงทุ้มพูดขึ้น: “ครับ ให้ผมอยู่เงียบๆสักพักนะ”
แคลตี้แสดงสัญญาณมือ พวกโค้ชการต่อสู้กับหมอจึงทยอยพากันออกไปจากห้องพัก
แคลตี้ออกไปเป็นคนสุดท้าย ปิดประตูห้องเบาๆ แล้วเดินไปที่ห้องทำงานของทอมป์สัน
……
หนึ่งทุ่มห้าสิบนาที หลี่โม่มาที่หอฝึกฝนการต่อสู้เพียงลำพัง
ฉู่จงเทียนยืนต้อนรับหลี่โม่อยู่ที่ประตูด้านข้าง เห็นหลี่โม่เดินมา ฉู่จงเทียนจึงเข้าไปต้อนรับอย่างเป็นกังวล
“คุณหลี่ ทำไมคุณเพิ่งจะมา? การแข่งขันของพวกคุณโดนเลื่อนขึ้นมาเป็นรอบแรก ได้ยินมาว่ามีคนสำคัญสั่ง”
“คนสำคัญ? คนสำคัญคนไหน?”
“ผมก็ไม่รู้แน่ชัดว่าเป็นใคร อีกเรื่องผมเห็นบรูซคู่ต่อสู้ของคุณเหมือนมีบางอย่างผิดปกติ มีโค้ชการต่อสู้กับหมอมากมายเข้าๆออกๆห้องพักของเขา ไม่รู้ว่าพวกเขากำลังทำอะไร”
หลี่โม่ยิ้มเล็กน้อย ไม่เอาคำพูดของฉู่จงเทียนมาใส่ใจ
“เอาเถอะครับ ไม่ต้องกังวลขนาดนั้น การแข่งขันของผมกำลังจะเริ่มแล้วใช่ไหม?”
“ใช่ เหลือไม่ถึงสิบนาที”
ฉู่จงเทียนพาหลี่โม่ไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า
หลี่โม่เปลี่ยนเป็นชุดแข่งขันแล้ว เดินเข้าไปที่ทางเดินอย่างสบายใจ และรออยู่ภายใน
ภายในหอฝึกฝนการประลองเต็มไปด้วยคนที่นั่งรอชมการแข่งขันราชินีของสำนักหลงเหมินนั่งอยู่ในห้องส่วนตัวชั้นสอง
“การแข่งขันครั้งนี้ไม่มีการเล่นตุกติกใช่ไหม?”
ราชินีของสำนักหลงเหมินถามขึ้นนิ่งๆ
“ไม่มีครับ ผมติดต่อพวกเขาแล้ว ให้พวกเขาเลื่อนการแข่งขันของหลี่โม่ ให้เร็วขึ้น รอบแรกเป็นการแข่งขันของหลี่โม่กับบรูซ แต่บรูซเป็นนักมวยคนหนึ่งที่เก่งกาจมาก ยอดเยี่ยมกว่า นู่หลั่งคราวก่อนเสียอีก”
ในใจของจางเต๋ออู่เต็มไปด้วยความคาดหวัง ถ้าหลี่โม่โดนบรูซชกตายได้ในทันที นั่นก็เป็นผลลัพธ์ที่สวยงามที่สุดแล้ว
หลังจากพิธีกรมวยขึ้นเวที สปอร์ตไลท์ก็สาดไปบนร่างของเขา
“สวัสดีทุกท่าน การแข่งขันมวยดำสากลอย่างเป็นทางการที่ทุกท่านรอคอยกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว การประลองที่กำลังจะเปิดฉากนี้เป็นของนักมวยชาวผิวขาวคนแรกของพวกเราบรูซ และคู่ต่อสู้ของเขาคือนักชกเจ้าถิ่นที่ร่วมแข่งขันในรอบไวด์การ์ดหลี่โม่!”
“ต่อไป ขอเชิญผู้เข้าแข่งขันหลี่โม่ของพวกเราขึ้นเวทีได้เลย ผมอยากจะให้ทุกคนได้รู้จักเขาสักหน่อย ผมอยากถามคำถามเล็กๆน้อยๆกับเขาจะแย่แล้ว”
สปอร์ตไลท์สาดไปที่ทางเดินขึ้นเวทีของนักมวย ร่างของหลี่โม่ออกมาจากทางเดิน ก้าวยาวๆขึ้นไปบนเวทีมวย
“ฮัลโหล ผู้เข้าแข่งขันหลี่โม่สินะครับ ดูจากร่างกายของคุณแล้ว ผอมแห้งกว่าที่ผมคาดการณ์เอาไว้ รูปร่างของนักมวยน่าจะกำยำแข็งแรง แต่ผมเห็นคุณไม่ค่อยมีกล้ามเท่าไหร่เลย”
พิธีกรมองหลี่โม่อย่างดูถูก รู้สึกว่ารูปร่างของหลี่โม่ผ่ายผอมเกินไป ไม่น่าจะเป็นรูปร่างของนักมวยแต่แรกแล้ว
“ไม่เกี่ยวกับมีกล้ามเนื้อมากน้อยแค่ไหน แค่ชนะการแข่งขันก็พอ ไม่ใช่เหรอ?”
หลี่โม่พูดอย่างไม่ใส่ใจ
“เกิดอะไรขึ้นครับเนี่ย ดูแล้วผู้แข่งขันมือใหม่ของเราจะมั่นอกมั่นใจมากเลยนะครับ งั้นก็เชิญบรูซขึ้นมาบนเวทีเลยดีกว่า!”
พิธีกรพูดจบ บรูซก็เดินขึ้นมาบนเวที
เศรษฐีจำนวนไม่น้อยเลยที่แสดงตัวเป็นผู้ชม ล้วนแต่เป็นคนที่คุ้นเคยกับงานแข่งมวยดำสากลกันทั้งนั้น มาที่นี่ไม่ได้แค่มาดูงานแข่งมวยดำสากลที่เร้าใจด้วยตาตัวเองหรอก ที่มากไปกว่านั้นคือการเดิมพัน
“พระเจ้า ไม่นึกว่าจะเป็นการแข่งขันระหว่างบรูซกับหลี่โม่ สงสัยหลี่โม่จะจบเห่แล้ว พ่อหนุ่มที่ไม่มีคนรู้จักนี่คงตายบนเวทีประลองแน่ๆ”
“ฉันจะวางเดิมพันบรูซ หนึ่งล้านดอลลาร์! สงสัยเงินจะหล่นทับไม่รู้ตัวเลยจริงๆ ถ้าไม่เดิมพันก็คงโดนฟ้าผ่าแทน”
“ถึงทุกคนจะเป็นคนจีนกันทั้งนั้น ถึงฉันจะทนดูหลี่โม่โดนต่อยจนตายไม่ได้ แต่ทว่าเมื่อขึ้นเวทีมวยก็กำหนดโชคชะตาของเขาเอาไว้แล้ว ฉันก็เดิมพันว่าบรูซชนะ”
พวกคนรวยพากันทยอยวางเดิมพัน ต่างก็เดิมพันว่าบรูซชนะ จำนวนคนวางเดิมพันบรูซเพิ่มมากขึ้น อัตราต่อรองของบรูซจึงลดลงอย่างต่อเนื่อง เห็นว่าจะเปลี่ยนเป็นอัตราต่อรองเชิงลบแล้ว
อัตราต่อรองเชิงลบหมายความว่าแค่บรูซชนะ คนที่เดิมพันบรูซจะได้เงินที่เป็นเหมือนกำไรแต่กลับขาดทุนจากเจ้ามือพนัน
ราชินีของสำนักหลงเหมินหรี่ตามองทั้งสองคนบนเวทีประลอง ยิ้มเล็กน้อยพูดขึ้น: “วางเดิมพันบรูซให้ฉัน หนึ่งร้อยล้าน”
“ครับ”
จางเต๋ออู่เรียกคนมาจัดการ แล้ววางเดิมพันหนึ่งร้อยล้านอย่างรวดเร็ว
ในทันทีอัตราต่อรองของบรูซก็เปลี่ยนเป็นเดิมพันหนึ่งต่อหนึ่งแล้ว
พิธีกรประคองหูฟังอยู่ครู่หนึ่ง ได้รับการแจ้งให้เริ่มการแข่งขัน
“เอาล่ะ การแข่งขันของเราจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว ก่อนเริ่มผมอยากถามบรูซหน่อย คุณมีความมั่นใจว่าจะจัดการคู่ต่อสู้ของคุณได้ไหม?”
“มั่นใจอยู่แล้ว เจ้าลิงผิวเหลืองนี่มีชีวิตอยู่ได้ไม่เกินห้านาทีหรอก ผมจะเป็นคนส่งเขาไปพบยมทูตของเขาเอง” บรูซพูดด้วยท่าทีโหดเหี้ยม
“โอเค การแข่งขันอย่างเป็นทางการเริ่ม!”
หลังจากพิธีกรพูดจบก็ถอยไปอย่างรวดเร็ว กลัวว่าจะโดนลูกหลงจากทั้งสองคนบนเวทีมวย
งานแข่งมวยดำสากลไม่มีผู้ตัดสินการแข่งขัน นอกจากไม่สามารถใช้อาวุธได้ ก็ไม่มีกฎอย่างอื่นอีก เป็นการตะลุมบอนเอาชีวิตกันระหว่างนักมวยอย่างสมบูรณ์
บรูซสูดหายใจเข้าลึกๆ รู้สึกได้ถึงความรวดเร็วในการตอบสนองของสมองตนเองที่เพิ่มขึ้น รู้สึกว่าทุกอย่างตรงหน้าเปลี่ยนไปช้าลงทั้งหมด
“เฮอะๆ เจ้าลิงผิวเหลือง มาสิ ฉันจะให้นายต่อยฉันก่อน!”
บรูซยิ้มเยาะพูดขึ้น
ให้หลี่โม่ลงมือก่อน เป็นแผนการที่บรูซคำนวณเอาไว้อย่างดี เนื่องจากการตอบสนองของสมองกับร่างกายไม่เท่ากัน บรูซจึงจำเป็นต้องปรับตัวสักครู่
อีกอย่างบรูซรู้สึกว่าเพียงแค่มองจุดอ่อนของหลี่โม่ให้ออกอย่างทะลุปรุโปร่งก่อน ก็มั่นใจว่าจะจับจุดอ่อนนั้นมาจัดการหลี่โม่ได้แน่
หลี่โม่เลิ่กคิ้วเล็กน้อย แล้วเดินไปทางบรูซ
ด้านล่างเวทีจึงมีเสียงโห่ร้องดังไปทั่ว เดิมทีคิดว่าจะมีฉากต่อยมวยที่ยอดเยี่ยม แต่ใครจะคิดว่า หลี่โม่กลับเดินไปรอบๆบนเวที นี่ไม่สอดคล้องกับที่ทุกคนจินตนาการเอาไว้เลย
“แม่งเอ้ยต่อยเป็นไหมเนี่ย ต่อยไม่ได้ก็รีบๆอ้อนวอนขอลงจากเวทีเถอะ”
“อย่ามาทำให้พวกฉันเสียเวลา พวกฉันอยากดูการแข่งขันที่ยอดเยี่ยม!”
“ไอ้ขยะนี่มาจากไหนน่ะ ผ่านรอบไวด์การ์ดมาได้ยังไง!”