“เฮ้!”
ฉู่จงเทียนถอนหายใจอย่างหนัก ใช้มือทั้งสองนวดไปที่ขมับ
คางเฝยเอ่อได้เปรียบแล้ว อีกทั้งในช่วงเวลาที่สำคัญ เขายังสามารถเพิ่มพละกำลังได้อีก ทำให้ฉู่จงเทียนรู้สึกกังวลกับชีวิตของหลี่โม่
ตอนนี้ในสมองของฉู่จงเทียนกลายเป็นหม้อโจ๊กไปแล้ว สับสนครุ่นคิดอะไรไม่ออก
หากหลี่โม่ตาย ควรทำยังไงต่อไป?
ถ้าอำนาจมหาศาลที่อยู่เบื้องหลังหลี่โม่ต้องการบดขยี้ตนเอง เกรงว่าครอบครัวตัวเองคงต้องตายกันหมดแล้วล่ะ?
อยากจะตายแทนหลี่โม่จริง ๆ!
น่าเสียดายที่ฉู่จงเทียนได้แต่ครุ่นคิด ยังไงตอนนี้หลี่โม่อยู่บนเวทีประลอง
ขณะที่ฉู่จงเทียนหยิบซองบุหรี่ขึ้นมา ต้องการสูบบุหรี่เพื่อผ่อนคลายสักหน่อย มือที่กำลังหยิบซองบุหรี่หยุดชะงักลงในทันที
ในขณะนั้นในดวงตาฉู่จงเทียเปล่งประกาย มือที่ถือซองบุหรี่อยู่นั้นบีบจนเป็นก้อน กล่องบุหรี่ทั้งกล่อง ถูกฉู่จงเทียนบดขยี้จนแหลกละเอียด
กระดาษและใบยาสูบในม้วนบุหรี่แหลกละเอียดผสมเข้าด้วยกัน ลอยออกจากนิ้วมือของฉู่จงเทียน เหมือนกับว่าในเวลานั้นฉู่จงเทียนรู้สึกประหลาดใจมาก
“โอ้พระเจ้า! ฉันไม่ได้ตาฝาดใช่ไหม!”
ฉู่จงเทียนที่กำลังประหลาดใจ ยื่นมือซ้ายหยิกไปที่ขาของตัวเองอย่างรุนแรง รู้สึกถึงความเจ็บปวด ทำให้ฉู่จงเทียนสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า! ดูเหมือนฉันไม่ได้ตาฝาด คุณหลี่ชนะแน่ ๆ แล้ว!”
ฉู่จงเทียนนิ่งเงียบชั่วครู่หนึ่ง หน้าจอเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน!
เดิมทีเกมรุกอันทรงพลังที่ไม่มีใครต่อต้าน รวมถึงคางเฝยเอ่อเองยังใช้เวทมนตร์ลึกลับเพิ่มพลังของตัวเองอีก ใช้กระบวนท่าไม้ตาย
คางเฝยเอ่อไม่ต้องใช้กระบวนท่าที่หนักหน่วง เพียงแค่ใช้มัน แน่นอนว่าต้องตายอย่างแน่นอน
เห็นเพียงคางเฝยเอ่อพุ่งไปเหมือนดั่งเสือร้ายกระหายเลือด มือซ้ายพุ่งไปที่คอหอยของหลี่โม่ มือขวาตบไปที่หน้าอกของหลี่โม่ ในเวลาเดียวกันขาขวายังคงสะสมพลังไว้
สองกระบวนท่าแรกจริงหลอกสลับกัน สามารถสับเปลี่ยนได้เสมือนจริง ต้องดูว่าคู่ต่อสู้จะรับมืออย่างไร หากคู่ต่อสู้สามารถแก้ไขสองกระบวนท่านี้ได้ สองกระบวนท่านี้ก็จะกลายเป็นเสมือนจริง การสะสมพลังไว้ที่ขาขวาก็จะเป็นกระบวนท่าไม้ตาย
นี่คือการเรียนอย่างเหนือชั้นของคางเฝยเอ่อ ในสมัยยังหนุ่มร่ำเรียนจากโรงเรียนมัธยมชนเผ่า ในเส้นทางการแข่งมวยดำสากล คางเฝยเอ่อเคยใช้กระบวนท่าแบบนี้ไปแค่สองครั้ง และทั้งสองครั้งที่ใช้ล้วนประสบความสำเร็จอย่างมาก จนทำให้คู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งตายในทันที
ขณะที่คางเฝยเอ่อกำลังได้ใจ คิดว่าตนเองใช้ท่าไม้ตายก็จะสามารถสังหารหลี่โม่ได้ จู่ ๆ หลี่โม่ก็เปลี่ยนจากป้องกันเป็นจู่โจม การจู่โจมพุ่งไปที่คางเฝยเอ่ออย่างรวดเร็ว การเปลี่ยนแผนจากรับเป็นรุกของหลี่โม่ในทันทีทันใดนั้น ทำให้คางเฝยเอ่อไม่ทันได้ระวังตัว ขณะที่คางเฝยเอ่อไม่ทันได้ตอบโต้ต่อการเปลี่ยนแปลง กลับรู้สึกตกใจมากเมื่อข้อมือทั้งสองข้างของตนถูกหลี่โม่จับเอาไว้
นี่มันเกิดอะไรขึ้น!
ข้อมือของตัวเองทำไมจึงถูกหลี่โม่จับไว้ได้!
หลี่โม่ใช้กระบวนท่าอะไรกันแน่ จับข้อมือทั้งสองของคางเฝยเอ่อได้ยังไง คางเฝยเอ่อมองไม่เห็นเลยเหรอ
คางเฝยเอ่อที่รู้สึกตื่นตกใจ เตะเท้าขวาออกไปอย่างลนลาน กระบวนท่าไม้ตายที่ซ่อนไว้ได้เผยออกมา
และในเวลานั้นเอง คางเฝยเอ่อรีบดึงแขนสองข้างกลับมาในทันที คิดจะสลัดมือทั้งสองข้างของตนเองออกจากมือของหลี่โม่
แต่ขณะที่คางเฝยเอ่อใช้แรงที่แขนทั้งสองข้าง จู่ ๆก็รู้สึกว่าข้อมือของตนเองปวดอย่างรุนแรง ขณะที่แขนทั้งสองของคางเฝยเอ่อออกแรงไปทางด้านหลังในเวลานั้น แววตาคางเฝยเอ่อเผยให้เห็นความรู้สึกหวาดกลัว
พลังของคางเฝยเอ่อในตอนนี้แข็งแกร่งไร้เทียมทาน แต่ว่ากระดูกกลับไม่ได้แข็งแกร่งเพิ่มขึ้นเลย เมื่อคางเฝยเอ่อ
กระชากแขนทั้งสองข้างไปด้านหลัง มือของหลี่โม่ก็ได้หักข้อมือของคางเฝยเอ่อไปแล้ว
เสียงกล้ามเนื้อฉีก!
มีเสียงดังสนั่น แขนที่ดึงกลับมาของคางเฝยเอ่อ ไม่เพียงแต่ไม่ได้ดึงแขนทั้งสองของตนเองกลับมา แต่กลับทำให้กล้ามเนื้อบริเวณข้อมือฉีกขาด พริบตาเดียวฝ่ามือและข้อมือของคางเฝยเอ่อขาดออกจากกัน เลือดไหลพุ่งออกเป็นสาย
ในขณะที่เลือดพุ่งออกมานั้น หลี่โม่ได้ถอยฉากไปแล้ว ไม่เพียงหลบเลือดที่ไหลพุ่งออกมาได้ ยังหลบฉากการเตะอย่างหนักหน่วงของคางเฝยเอ่อได้อีกด้วย
“โอ้ว!”
คางเฝยเอ่อไม่ได้สนใจว่าตนเองจะชนะหลี่โม่ได้หรือไม่ ใบหน้าหวาดกลัวมองดูแขนทั้งสองข้างของตนเองที่ได้รับบาดเจ็บ
“มือของฉัน! ไม่มีมือแล้ว ฉันจะต่อสู้บนเวทีการประลองได้อย่างไร!”
คางเฝยเอ่อมองขึ้นไปบนท้องฟ้าแผดเสียงดัง
และในตอนนั้นเอง หลี่โม่เหมือนดั่งปีศาจร้าย อ้อมมาทางด้านหลังคางเฝยเอ่อ
คางเฝยเอ่อที่ยังคงจมในอารมณ์เศร้าโศกเสียใจ และไม่รู้ว่าตนเองกำลังเผชิญหน้าอยู่กับอะไร
ตุบ!
เพียะ เพียะ เพียะ! ตุบ ตุบ ตุบ!
เสียงโจมตีเหมือนดั่งพายุดังอย่างต่อเนื่อง หลี่โม่รัวหมัดโจมตีอย่างหนักหน่วงไปที่กระดูกสันหลังของคางเฝยเอ่อ
กร๊อบแกรบ กร๊อบแกรบ
เสียงแตกหักดังขึ้นเป็นชุด ๆ และเสียงการโจมตีของหลี่โม่ทำให้เกิดเป็นเสียงเหมือนวงดนตรีซิมโฟนี่
กระดูกสันหลังทุกข้อแตกออก แผ่นหลังคางเฝยเอ่อกระฉูดออกมาเป็นเลือดสด ๆ จากนั้นคางเฝยเอ่อที่มีรูปร่างใหญ่เหมือนยักษ์ล้มลงไปกองกับพื้น
กระดูกสันหลังที่ได้รับความเสียหาย ทำให้คางเฝยเอ่อเป็นอัมพาตในทันที ตั้งแต่บริเวณคอลงไปได้สูญเสียความรู้สึกไปแล้ว
“FUCK! สารเลว! แกทำได้ยังไง? แกเอาชนะฉันได้ยังไง!”
คางเฝยเอ่อไม่อยากจะเชื่อกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ตรงหน้า ไม่นึกไม่ฝันว่าตนเองจะแพ้!
“ฮ่า ฮ่า แกแพ้เป็นเรื่องปกติไม่ใช่เหรอ? อย่าคิดว่ามียากระตุ้นแล้วจะเก่งว่าฉันนะ”
หลี่โม่พูดเบา ๆ และค่อย ๆ เดินไปหาคางเฝยเอ่อ
ดวงตาคางเฝยเอ่อเผยให้เห็นถึงความหวาดกลัว ร้องตะโกนดัง ๆว่า: “ฉันยอมแพ้แล้ว! ฉันยอมแล้ว! อย่าทำร้ายฉัน อย่าฆ่าฉันเลย!”
หลี่โม่หัวเราะเบาๆ ยกปลายเท้าเตะที่หว่างคิ้วเบา ๆ
ขณะที่หลี่โม่ใช้ปลายเท้าเตะออกไป คางเฝยเอ่อส่งเสียงร้องอย่างสยดสยอง
แต่เมื่อรอจนเสียงร้องนั้นเงียบลง คางเฝยเอ่อก็ไม่มีความรู้สึกอะไรอีกเลย
ขณะคางเฝยเอ่อสงบสติอารมณ์ มองเห็นหลี่โม่เดินกลับไปหลังเวทีประลองแล้ว
ในห้องวีไอพีสำหรับชมการประลองแข่งขัน จางเต๋ออู่กำลังถือโทรศัพท์ เพื่อเตรียมสั่งการไปยังผู้ใต้บังคับบัญชาให้ปฏิบัติงาน
แต่เมื่อเห็นภาพที่อยู่ตรงหน้า เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน จางเต๋ออู่อ้าปากค้างพูดจาไม่ออก
ราชินีของสำนักหลงเหมินสีหน้าถมึงตึง โบกมือด้วยความอับอาย ขว้างแก้วไวน์ ขวดไวน์ที่อยู่บนโต๊ะ ลงพื้นแตกกระจาย
เพล้ง
แควก
ชุดแก้วไวน์หรูหรา ไวน์แดง Romani Conti ราคาแพง แตกละเอียด เหมือนจะส่งสัญญาณอย่างเงียบ ๆ ว่าในเวลานั้นราชินีของสำนักหลงเหมินกำลังเดือดดาลมาก
“ฮัลโหล ฮัลโหล คุณจาง คุณมีอะไรจะสั่งเหรอ?”
โทรศัพท์ของจางเต๋ออู่มีเสียงของผู้ใต้บังคับบัญชาร้องเรียก ในตอนนั้นผู้ใต้บังคับบัญชาถือโทรศัพท์ด้วยความสับสน ไม่รู้ว่าจางเต๋ออู่ต้องการทำอะไร
จางเต๋ออู่ตั้งสติได้ พูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้งว่า: “ไม่ ไม่มีอะไร กดหมายเลขผิด”
รีบตัดสายโทรศัพท์ลงในทันที จางเต๋ออู่ก้มหน้าถอยหลังไปสองก้าว ยืนชิดผนัง ไม่กล้าแม้แต่ส่งเสียงออกมา เกรงว่าจะทำให้ราชินีของสำนักหลงเหมินต้องโมโห
ราชินีของสำนักหลงเหมินเดือดดาลเหมือนดั่งภูเขาไฟที่กำลังปะทุ โกรธจนหัวร้อน
“ไอ้สวะ! ไร้ประโยชน์! ถึงขนาดนี้แล้วยังชนะหลี่โม่ไม่ได้อีก! หรือว่าหลี่โม่เป็นเทพลงมาจุติ!”
ราชินีของสำนักหลงเหมินแผดเสียงดังด้วยความโกรธ
จางเต๋ออู่สั่นไปทั้งตัว พูดเบา ๆว่า: “ท่านโปรดระงับโทสะ วิธีการที่สามารถกำจัดเขาได้ พวกเรายังไม่ได้ใช้วิธีของเราไม่ไช่เหรอ”
“กลับ!”
ราชินีของสำนักหลงเหมินกัดฟันกรอดพูดออกมาคำเดียว เดินออกจากห้องวีไอพีทันที