จักรพรรดิมังกร – ตอนที่ 516 ความขัดแย้งที่รุนแรง

คางเหวินซิงโกรธจนหน้าแดงก่ำที่หน้าเคาน์เตอร์บริการถอนเงินเดิมพัน เงินจำนวน 32 พันล้านหยวนถูกเบี้ยวหนี้ เป็นใครก็ไม่มีทางยอมหรอก

“นี่พวกคุณคิดอะไรอยู่!ทำไม ถึงไม่จ่ายเงินเดิมพันให้ฉัน?”

คางเหวินซิงตบโต๊ะอย่างโกรธเคือง

สาวสวยที่อยู่ด้านหลังเคาน์เตอร์ยิ้มอย่างอักอ่วนและสุภาพ: “กรุณารอสักครู่นะคะท่าน ไม่ใช่ว่าเราไม่จ่ายเงินเดิมพันให้ท่าน แต่เป็นเพราะระบบของเรามีปัญหานิดหน่อย โปรดอดทนรอสักครู่นะคะ”

“มีปัญหาบ้าบออะไรสลิปเดิมพันของฉันอยู่นี่! พวกคุณตั้งใจจะเบี้ยวหนี้ฉันต่างหาก!”

คางเหวินซิงหยิบสลิปเดิมพันและเขย่าไปมาอย่างแรง

ชายผิวขาวร่างใหญ่ที่มีผมสีบลอนด์และตาสีฟ้าหลายคนเดินเข้ามา: “ไอ้เวรเอ๊ย!ฉันขอเตือนคุณอย่ามาสร้างปัญหาที่นี่ มิฉะนั้น คุณจะแบกรับผลที่ตามมาไหวอย่างแน่นอน”

“นี่คุณกำลังขู่ฉันอยู่เหรอ? ไปเรียกเจ้านายของพวกคุณมาเดี๋ยวนี้! ฉันจะคุยกับเขาเอง!”

คางเหวินซิงตะคอกโดยไม่มีความเกรงกลัวใดๆ

เฉินเสี่ยวถงได้โทรหาหลี่โม่ก่อนหน้านี้แล้ว มีหลี่โม่เป็นที่พึ่งให้กับเขา คางเหวินซิงรู้สึกมีความกล้าหาญเต็มอกเขา หรือแม้แต่จะให้เขาไปป่วนแหลกตำหนักสวรรค์กับหลี่โม่เขายังกล้าเลย

เหล่าชาวต่างชาติที่ร่างสูงและแข็งแรงทั้งหลายเริ่มแสดงสีหน้าไม่พอใจเล็กน้อย ในสายตาของพวกเขาคางเหวินซิงเป็นแค่ลิงที่มีผิวสีเหลืองเท่านั้น และเขาควรทำตามคำสั่งอย่างเชื่อฟังถึงจะถูกสิ

“ว่าไงนะ? สารรูปอย่างคุณยังกล้ามาขอพบเจ้านายของเราด้วยเหรอ ช่างเป็นสุนัขตาบอดจริงๆ เรื่องเดิมพันคุณอย่าหวังอีกเลย และรีบส่งใบเสร็จรับเงินของคุณมาเดี๋ยวนี้!”

ชาวต่างชาติทั้งหลายเข้ามารายล้อมคางเหวินซิงกับเฉินเสี่ยวถง และจ้องมองทั้งสองอย่างเคียดแค้น ราวกับว่าหากทั้งสองพูดอะไรไม่ถูกคอแม้แต่คำเดียวพวกเขาก็จะลงไม้ลงมือในทันที

“ทำไมพี่หลี่โม่ถึงยังไม่มาสักทีนะ นี่มันกำลังจะปะทะกันอยู่แล้ว คางเหวินซิงนายไหวหรือเปล่า?”

เฉินเสี่ยวถงกล่าวอย่างกังวล

การอยู่กับคางเหวินซิงนั้นไม่ได้ทำให้เฉินเสี่ยวถงมีความรู้สึกปลอดภัยเลยแม้แต่นิดเดียว มีเพียงหลี่โม่เท่านั้นที่สามารถทำให้เฉินเสี่ยวถงรู้สึกถึงความปลอดภัยอย่างแท้จริง

กล้ามเนื้อและไขมันทุกส่วนในร่างกายของคางเหวินซิงกำลังสั่นคลอน

เมื่อมองไปที่ชาวต่างชาติที่บึกบึนแข็งแรงเหล่านี้ คางเหวินซิงเริ่มกลืนน้ำลายอย่างแรงและเริ่มรู้สึกไม่ดีไปทั่วทั้งกาย

แน่นอนว่าเขาสู้ไม่ไหว!

ตัวเขาเองก็ไม่ต่างอะไรจากไก่ต้มจืด หากต้องถึงขั้นลงไม้ลงมือจริง ๆ พวกชาวต่างชาติเหล่านี้จะต้องฉีกเขาเป็นชิ้นๆแน่เลย!

“ฉัน…ฉันรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย แต่ไม่ต้องกังวล ฉันจะปกป้องคุณเอง ต่อให้ฉันต้องสูญเสียชีวิตก็ตาม!”

“ฉันว่านายไม่ต้องปกป้องฉันหรอก ฉันจะโทรเรียกพี่หลี่โม่อีกครั้ง”

เฉินเสี่ยวถงไม่มีทางวางใจอย่างแน่นอน

หากต้องลงไม้ลงมือจริงเฉินเสี่ยวถงประมาณการว่าไม่เกินสามวินาทีคางเหวินซิงก็จะถูกซ้อมจนนอนราบกับพื้นแน่

ขณะที่เฉินเสี่ยวถงกำลังจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ผู้นำชาวต่างชาติก็คว้าคอของคางเหวินซิงไว้

“ไอ้สารเลวเอ๊ย! แกไม่ได้ยินที่ฉันพูดเหรอ? ฉันบอกให้แกส่งสลิปเดิมพันมาให้ฉันเดี๋ยวนี้!”

ชาวต่างชาติพูดอย่างเย็นชา

“ไม่! ฉันไม่มีทางมอบให้แกหรอก พวกแกอย่าทำอะไรบ้าๆนะ ฉันโทรแจ้งตำรวจแน่!”

คางเหวินซิงตื่นตระหนกและเริ่มรู้สึกหายใจลำบาก เขาคว้าแขนของชาวต่างชาติด้วยมือทั้งสองและพยายามดึงมือที่จับคอของเขาออก

“โธ่เอ๊ย! ดูเหมือนว่าแกจะเป็นลิงผิวเหลืองที่ไม่กลัวตาย ฉันจะสั่งสอนแกเอง!”

ชาวต่างชาติกำหมัดมือซ้ายแน่นจากนั้นก็ฟาดไปที่ใบหน้าของคางเหวินซิง

เมื่อเห็นกำปั้นที่พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว คางเหวินซิงก็หลับตาแน่นเพราะเขาคิดว่ายังไงตัวเองก็คงหนีไม่พ้นการทุบตีอย่างรุนแรงในครั้งนี้แล้ว

แต่คนอย่างคางเหวินซิงยอมตายดีกว่ายอมจำนน!

ต่อให้พวกแกจะทุบตีฉันจนบาดเจ็บสาหัสก็ตาม ฉันจะไม่มอบสลิปเดิมพันให้พวกแกอย่างแน่นอน ฉันจะต่อสู้กับพวกแกให้ถึงที่สุด!

ขณะที่ในใจของคางเหวินซิงเต็มไปด้วยความคิดต่างๆนานาและรู้สึกว่าตัวเองเป็นเหมือนวีรบุรุษในหนังสือนั้น ลมที่ตามกระแสฝ่ามือก็หายไปในทันใด

เอ๊ะ! ดูเหมือนจะมีบางอย่างผิดปกติ

ในเวลานี้ตาที่ปิดสนิทของคางเหวินซิงได้เปิดออกเล็กน้อย

เห็นแต่แขนซ้ายของชาวต่างชาติคนนั้นถูกคว้าไว้ซะก่อน คางเหวินซิงก็มองไปตามแขนของอีกฝ่ายและทันใดนั้นความเบิกบานก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา

“อาจารย์!”

“เรื่องนี้คงสร้างปัญหาให้กับนายไม่น้อยเลยสินะ”

หลี่โม่พูดจบด้วยรอยยิ้ม และวินาทีที่เขาหมุนและพลิกข้อมือนั้น แขนของชาวต่างชาติคนนั้นก็หลุดออกทันที

“โอ๊ย!”

ชาวต่างชาติกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด และมือที่จับคอของคางเหวินซิงก็หลุดออกเหมือนโดนไฟฟ้าช็อต จากนั้นเขาก็มองไปที่หลี่โม่ด้วยสีหน้าตื่นตระหนกตกใจ

“นี่คุณ…คุณจะทำอะไร! ฉันขอเตือนว่าอย่ามายุ่ง ฉันเป็นพนักงานที่นี่!”

ชาวต่างชาติคำรามด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่เคร่งครัด

“พนักงานงั้นเหรอ? ถ้าอย่างนั้นคุณช่วยอธิบายหน่อยสิว่าทำไมถึงไม่ถอนเงินเดิมพันให้เรา?”

หลี่โม่ถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“ไอ้เวร! ปล่อยฉันนะ! พวกแกจะยืนนิ่งทำไมรีบลงมือซะทีสิเว้ย!”

ชาวต่างชาติตะโกนอย่างบ้าคลั่ง ในใจเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

เขาคือแชมป์ของการแข่งมวยดำเชียวนะ!

คู่ต่อสู้ของเขาแต่ละคนล้วนไม่มีจุดจบที่ดีเลยสักคน!

หากเขาเกิดโมโหและฟาดฉันตายขึ้นมาฉันจะทำอย่างไรดี มันไม่คุ้มเลย!

แม้ว่าชาวต่างชาติคนอื่นๆ ที่อยู่รอบข้างจะตื่นตระหนกเช่นกัน แต่พวกเขาก็ต้องกัดกระสุนสู้เพราะมันเป็นคำสั่งของแคลตี้

ชาวต่างชาติคนอื่นๆ พุ่งเข้าหาหลี่โม่พร้อมกัน จากนั้นก็ดึงและผลักหลี่โม่อย่างแรง พวกเขาต้องการให้หลี่โม่ปล่อยชาวต่างชาติที่ถูกจับคนนั้นไป

“พวกคุณนี่ช่างไร้อารยะจริงๆ! ก็บอกแล้วไงว่าระบบของเรามีปัญหาจึงต้องรอก่อน! ฟังไม่รู้เรื่องหรือไง!”

“ปล่อยเขาเดี๋ยวนี้! คุณทำแบบนี้ไม่ได้นะ ถ้าขืนคุณไม่ปล่อยเขาอีกเราจะแจ้งตำรวจทันที เราเป็นคนต่างชาติ! เป็นกลุ่มคนที่มีสิทธิพิเศษกว่าใคร!”

ในขณะที่พวกเขากำลังผลักกันไปมานั้น ก็มีชาวต่างชาติที่หน้าตาอัปลักษณ์คนหนึ่งหยิบปากกาเจาะเลือดทันใจออกมาอย่างเงียบๆ

ปากกาเจาะเลือดทันใจเป็นอุปกรณ์ที่พัฒนาขึ้นใหม่ซึ่งต่างจากปากกาเจาะเลือดรุ่นอื่น ปากกาเจาะเลือดทันใจเพียงแค่เจาะเข้าผิวหนังมนุษย์เท่านั้นก็สามารถเก็บตัวอย่างเลือดในร่างกายมนุษย์ได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งไม่จำเป็นต้องเจาะเข้าไปในเลือดหลักก็ได้

ชาวต่างชาติที่หน้าตาอัปลักษณ์ใช้นิ้วหัวแม่มือดีดฝาป้องกันปลายปากกาเจาะเลือดทันใจออกอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็คว้าปากกาเจาะเลือดทันใจอย่างรวดเร็วแล้วเจาะเข้าแผ่นหลังของหลี่โม่ทันที

เข็มของปากกาเจาะเลือดทันใจนั้นแหลมมาก นอกจากนี้เข็มของปากกาก็ทาด้วยยาที่ทำให้ผิวหนังของมนุษย์เป็นอัมพาต ซึ่งสามารถทำให้เนื้อเยื่อเส้นประสาทในบริเวณที่เจาะเป็นอัมพาตอย่างรวดเร็วโดนที่คนถูกเจาะไม่รู้สึกเจ็บปวดเลยแม้แต่นิดเดียว

พูดได้ว่าคนเหล่านี้ได้เตรียมการมาอย่างดีเพื่อที่จะเก็บตัวอย่างเลือดของหลี่โม่จริงๆ

ปากกาเจาะเลือดทันใจเจาะทะลุเข้าไปที่เสื้อผ้าของหลี่โม่จากนั้นก็เจาะเข้าไปที่แผ่นหลังของหลี่โม่อย่างเงียบๆ

แต่หลี่โม่ไม่รู้ตัวเลยสักนิด!

ส่วนชาวต่างชาติที่เหลือก็พยายามดึงดูดความสนใจของหลี่โม่ บวกกับฝีมืออันคล่องแคล่วของชาวต่างชาติที่หน้าตาอัปลักษณ์คนนั้น ดังนั้นหลี่โม่จึงไม่รู้สึกว่ามีคนกำลังเก็บตัวอย่างเลือดของตัวเองจากด้านหลังเขาเลย

เฉินเสี่ยวถงสังเกตเห็นชาวต่างชาติที่อยู่ข้างหลังหลี่โม่มีความผิดปกติเล็กน้อย ชายคนนั้นอยู่ในท่าเดียวมาโดยตลอดและไม่ขยับเลยราวกับว่าเขาเป็นหุ่นยนต์ตัวหนึ่ง

นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

ชาวต่างชาติคนอื่นๆ ต่างก็กระตือรือร้นอย่างมาก แต่ทำไมผู้ชายคนนั้นถึงยืนนิ่งอยู่ข้างหลังหลี่โม่แบบนั้น?

ราวกับว่าเขาได้กลายเป็นหินไปแล้ว!

ไม่สิ! มันต้องมีบางอย่างผิดปกติแน่ๆ!

เฉินเสี่ยวถงกัดฟันและเห็นว่าไม่มีใครสนใจเธอ ดังนั้นเธอจึงเลี่ยงฝูงชนและรีบไปหาชาวต่างชาติที่อยู่ข้างหลังหลี่โม่ในทันที

“เสี่ยวถง กลับมา เธอคิดจะทำอะไร!”

คางเหวินซิงที่ตกอยู่ในความประหลาดใจต้องการจะดึงเฉินเสี่ยวถงกลับมา แต่มันก็สายเกินไปแล้ว

Comment

Options

not work with dark mode
Reset