จักรพรรดิมังกร – ตอนที่ 521 พายุ

รถเบนซ์เคลื่อนตัวผ่านโกดังซ่อมบำรุง ผู้รับผิดชอบสนามบินต่างตื่นตระหนกขึ้นมาทันที และสั่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสนามบินไปล้อมโกดังซ่อมบำรุงเอาไว้ทันที

ทันใดนั้นบรรยากาศในสนามบินตึงเครียดขึ้น เสียงหวอรถของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจำนวนมากดังขึ้น รถเคลื่อนตัวไปยังโกดังซ่อมบำรุง

ภายในโกดังซ่อมบำรุง พนักงานซ่อมบำรุงที่สนับสนุนทอมป์สันและพวกผิวปากขึ้น เขาเก็บมือถือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อ

“พวกแกนี่หาเรื่องใหญ่ให้ฉันจริงๆ แผนกรักษาความปลอดภัยของสนามบินรู้ตัวแล้ว พวกมันจะล้อมโกดังนี่เอาไว้ พวกแกมีเวลาหนีไปจากที่นี่ในเวลาไม่ถึงสองนาที ฉันไม่อยู่ด้วยแล้ว ขอตัวไปก่อน”

พนักงานซ่อมบำรุงพูดจบก็เดินไปที่ประตูหลัง เขาเปิดประตูและออกไปอย่างรวดเร็ว

ในสถานการณ์คับขันแบบนี้ พนักงานซ่อมบำรุงไม่ยอมอยู่รอความตายกับพวกเขาหรอก

“Fuck! ให้พวกเวรเอ๊ย รีบแยกย้าย!”

ทอมป์สันหยิบหมวกขึ้นมาสวม เขาหยิบปืนกลขนาดเล็กออกมาจากกล่องอาวุธที่อยู่ข้างๆ และนำปืนซ่อนไว้ในอก จากนั้นจึงรีบวิ่งไปที่ประตูหลัง

แคลตี้และพวกต่างพากันเร่งความเร็ว เมื่อหยิบอาวุธเสร็จจึงรีบตามไปทันที

เมื่อทอมป์สันออกมาจากโกดังซ่อมบำรุง เขาเห็นเพียงแค่พนักงานซ่อมบำรุงกระโดดเข้าไปในกำแพง จากนั้นพวกนั้นก็หายลับไปจากสายตาของเขา

เมื่อได้ยินเสียงหวอดังขึ้นรอบๆ ทอมป์สันตื่นตระหนกมาก เขารู้สึกว่าตัวเองฉลาดเกินไปจนเสียรู้ เขาเลือกสิ่งที่ผิดพลาดในสถานการณ์คับขันที่สุด

เดิมทีเขาคิดจะเล่นสกปรก แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่าความคิดของหลี่โม่จะไม่เหมือนคนอื่น เขาทำให้วิธีสกปรกถูกเปิดเผยออกมาจนหมด

ทอมป์สันหดหู่ใจ จากนั้นก็รีบวิ่งตามพนักงานซ่อมบำรุงไป

บนกำแพงนั่นถูกเจาะให้ยุบลงไป จนทำให้คนสามารถปีนและก้าวข้ามกำแพงสูงได้

“shit! นานแล้วที่ฉันไม่ได้ทำเรื่องแบบนี้ วันนี้มาปีนกำแพง มันช่างเป็นเรื่องที่น่าอับอายจริงๆ!”

ถึงแม้ปากจะบ่น แต่ทว่าร่างกายของทอมป์สันกลับจับกำแพงไว้แน่น เขาใช้แรงปีนกำแพง

หลายปีมานี้ ถึงทอมป์สันจะดูแลตัวเองและใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย แต่พละกำลังของเขาไม่เหมือนเมื่อก่อน เขาปีนได้สองทีก็ยังปีนไม่ถึงบนกำแพง

แคลตี้กับเหล่าผู้คุ้มกันข้างกายพุ่งเข้ามา ทอมป์สันใช้แรงปีนกำแพงจนหน้าแดง คอเป็นเอ็น เมื่อเห็นแคลตี้ยืนมองตัวเองอยู่แบบนั้น เขาจึงตวาดออกมาด้วยความโมโห

“พวกแกสนุกหรือไง! หรือเห็นฉันเป็นลิงเป็นค่าง รีบมาช่วยฉันสิ พวกแกบื้อหรือไง!”

แคลตี้เอื้อมมือออกไปเรียกผู้คุ้มกันข้างๆ และแผดเสียงออกมาว่า “ยังไม่รีบไปประคองนายท่านอีก!”

เหล่าผู้คุ้มกันเดินไปข้างหลังทอมป์สัน และช่วยกันดันทอมป์สันขึ้นไปบนกำแพง

……

รถเบนซ์ขับเข้ามาในโกดังซ่อมบำรุง หลี่โม่กวาดตามองภายในโกดังอย่างรวดเร็ว

ภายในโกดังเต็มไปด้วยกองชิ้นส่วนเครื่องกล แต่กลับไม่มีเงาของใครสักคน

ระหว่างนั้นหลี่โม่เห็นร่องรอยของรถซ่อมแซมคันนั้น เขาจึงรีบขับรถไปที่รถซ่อมแซม

เมื่อลงจากรถและมองไปรอบๆ หลี่โม่พูดเสียงทุ้มว่า “เสี่ยวถง เธอกับเหวินซิงรออยู่บนรถ ไอ้ฉู่ไปตรงนั้นกับฉัน”

หลี่โม่ชี้ไปยังห้องซ่อมแซม จากนั้นจึงก้าวไปอย่างรวดเร็ว

ฉู่จงเทียนควักปืนพกออกมา เขาเหนี่ยวไกปืนและวิ่งตามหลี่โม่ไป

เฉินเสี่ยวถงอยากลงจากรถ แต่คางเหวินซิงพูดเบาๆ ว่า “อาจารย์แม่ เราอย่าไปสร้างความลำบากให้เขาเลยครับ ไม่งั้นอาจารย์จะไม่พอใจเอานะครับ”

“นายไม่อยากเห็นท่าทางสุดเท่ของอาจารย์นายเหรอ นายไม่รู้จักการไปเชียร์อาจารย์ของนายหรือไง ลูกศิษย์ประสาอะไรกัน ไม่รู้จักอะไรเอาเสียเลย!”

คางเหวินซิงสับสนอยู่ครู่หนึ่ง เขารู้สึกกระอักกระอ่วน

เฉินเสี่ยวถงยกยิ้มมุมปาก จากนั้นจึงพูดต่อ “นายเคยได้ยินไหม ถ้าอยากเรียนรู้ก็ต้องคลุกคลีกับอาจารย์ จิตสำนึกแบบนาย ชีวิตนี้อย่าหวังว่าจะได้เรียนรู้สกิลการขับรถขั้นสุดยอดเลย”

สติของคางเหวินซิงกระเจิดกระเจิง เขามองเฉินเสี่ยวถงด้วยสีหน้าเหมือนจะร้องไห้ “งั้นเราจะตามไปเหรอ”

“ไร้สาระ ก็ต้องตามไปสิ ฉันอยากเห็นท่าทางสุดเท่ของพี่หลี่โม่!”

คำพูดห้วนๆ ของเฉินเสี่ยวถงทำให้ความกลัวของคางเหวินซิงหายไป เขาเปิดประตูลงจากรถและรีบวิ่งไปที่ห้องซ่อมแซม

หลี่โม่กับฉู่จงเทียนวิ่งเข้ามาในห้องซ่อมแซม เมื่อเห็นกล่องอยู่บนโต๊ะเครื่องมือ เขาจึงแน่ใจว่าพวกของทอมป์สันมาที่นี่

เมื่อมองไปตรงประตูหลังที่อยู่ไม่ไกล หลี่โม่กวักมือให้ฉู่จงเทียน จากนั้นทั้งสองคนจึงเดินไป

หลี่โม่ยืนฟังอยู่หน้าประตู จากนั้นจึงส่งสัญญาณมือให้ฉู่จงเทียนระวังตัว

ฉู่จงเทียนพยักหน้าเบาๆ หลี่โม่เปิดกลอนและถีบประตูออกไป

ขณะที่ประตูเปิดออก ผู้คุ้มกันหนึ่งคนที่ยืนซุ่มอยู่ลั่นไกปืนใส่ประตูที่เปิดออก

เมื่อเสียงปืนหยุดลง ผู้คุ้มกันไม่เห็นว่ามีใครพุ่งออกมา

เมื่อเขารู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ ไขควงอันหนึ่งถูกโยนออกมาและปักอยู่ที่คอของเขา

ผู้คุ้มกันกระอักเลือดออกมา จากนั้นเขาก็หงายหลังล้มลงไปบนพื้น

ฉู่จงเทียนพุ่งเข้าไป เขาเห็นผู้คุ้มกันสองคนกำลังดันทอมป์สันขึ้นไปบนกำแพง โดยมีแคลตี้กับผู้คุ้มกันอีกคนคอยดูลาดเลาให้

เมื่อเห็นฉู่จงเทียนพุ่งออกมา แคลตี้สะดุ้งโหยง เขารีบยกปืนขึ้นมา

“รีบยิงสิไอ้เวร!”

เมื่อแผดเสียงออกมา แคลตี้ก็ยิงออกไป

ผู้คุ้มกันที่อยู่ข้างๆ เล็งปืนไปที่ฉู่จงเทียน ทั้งสองคนสาดกระสุนใส่ฉู่จงเทียน

ฉู่จงเทียนไม่กล้าพุ่งเข้าไป เขาเอามือกุมหัวและมุดกลับมาที่ประตูหลัง

ปังๆๆๆๆ

เสียงปืนพกและปืนกลขนาดเล็กดังขึ้น กระสุนพุ่งมาจากหลายทิศทางอย่างบ้าคลั่ง

“คุณหลี่ ทอมป์สันกำลังปีนกำแพง มีแคลตี้พาคนมาคุ้มกัน นี่มันค่อนข้างแปลก แคลตี้ควรจะเป็นคนที่หนีไปไม่ใช่เหรอ แต่อาวุธของพวกมัน ค่อนข้างรุนแรงครับ”

ฉู่จงเทียนพูดอย่างตื่นตระหนก เสียงกระสุนดังอยู่ข้างนอก ราวกับลูกเห็บ ใครได้ยินก็ต้องตกใจทั้งนั้น

หลี่โม่พยักหน้าเบาๆ เขายกกล่องเครื่องมือที่อยู่ข้างหลังขึ้นมา จากนั้นเขาจึงแอบข้างประตูและโยนกล่องเครื่องมือออกไปตามทางที่เสียงกระสุนดังขึ้น

กล่องเครื่องมือและเครื่องมือในนั้นกระจายออกมา มันพุ่งไปยังแคลตี้และพวก

แคลตี้กับพวกเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เสียเมื่อไร เมื่อเห็นเครื่องมือที่พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว พวกเขาจึงไม่รู้ว่าจะรับมืออย่างไร

“นี่มันอะไรกัน พวกเราต้องหลบไหม!”

แคลตี้ถามอย่างอึ้งๆ

ผู้คุ้มกันที่ยืนอยู่ข้างๆ พูดด้วยสีหน้าไม่แคร์ “ทำไมต้องหลบด้วย ก็แค่เครื่องมือ ทำอะไรพวกเราไม่ได้หรอก!”

ขณะที่ผู้คุ้มกันกำลังพูด ไขควงอันหนึ่งพุ่งมาที่หน้าผากของผู้คุ้มกัน

ผู้คุ้มกันยกมือขึ้น หวังจะกันไขควงเอาไว้ แต่ทว่าไขควงอันนั้นเสียบทะลุฝ่ามือของเขาและปักลงไปกลางหน้าผาก

เลือดไหลออกมาจากบาดแผลของผู้คุ้มกัน จากนั้นเขาก็ล้มลงไปบนพื้น

Comment

Options

not work with dark mode
Reset