“คุณหลี่จะมาร่วมงานแลกเปลี่ยนตัวแบบนี้ได้ไงเล่า”
ฉู่จงเทียนพูดตาไม่กระพริบ
ลอดรูว์ยักไหล่ สีหน้าแสดงความเสียดาย
“เอาเถอะ ในเมื่อหลี่โม่ไม่มา งั้นเราก็มาแลกตัวประกันกันเถอะ ผมจะนับถึงสาม พวกเราต่างปล่อยตัวประกัน”
ฉู่จงเทียนพยักหน้า“งั้นก็เริ่มเลย”
“สาม สอง หนึ่ง ปล่อยคน!”
ลอดรูว์เก็บปืน ยกเท้าขึ้นถีบเอวฉู่ฟางเฉิง ถีบจนฉู่ฟางเฉิงพุ่งไปข้างหน้า
ส่วนมือของฉู่จงเทียนเองนั้นก็เริ่มคลายจากทอมป์สัน ในใจก็หวั่นว่าทอมป์สันจะหนีไป
ฉู่ฟางเฉิงเดินผ่านบ่ากับทอมป์สัน ทั้งคู่ต่างกลับไปในค่ายของตนเอง
ฉู่จงเทียนจำคำของหลี่โม่ไว้ หลังจากที่ฉู่ฟางเฉิงกลับมา อดที่จะดูลูกชายอย่างละเอียดไม่ได้ จึงได้แต่ดุนหลังฉู่ฟางเฉิงขึ้นรถเก๋ง
“ไป!ไปๆ!”
ฉู่จงเทียนตะโกนพลางขึ้นรถตาม
วอลเลซหรี่ตา เอียงหัวพูดกับวอลเลซ“จะขวางพวกเขาไว้หน่อยมั้ย มันง่ายมากเลย แบบนั้นก็มีตัวประกันแล้ว ถ้าจะให้ทำภารกิจให้สำเร็จง่ายมากเลย”
“พูดได้มีเหตุผล ผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน งั้นเตรียมไฟกันเถอะ ฮ่าๆๆๆๆๆ”
ลอดรูว์หัวเราะเสียงดัง หยิบบุหรี่ออกมาคาบ
ภายใต้การออกคำสั่งของวอลเลซ จู่ๆข้างหูก็มีเสียงลูกน้องลอดผ่านมา
“หมายเลขหนึ่งรายงาน ด้านหลังเขามีคนบุกมา จำนวนคนกว่าร้อย บอกให้ปล่อย……อ๊า!ผมโดนโจมตี!”
หัวของนักรบผู้น้อยที่กำลังรายงานแตก จู่ๆเลือดสดไหลลงมา ทำให้สิ่งที่สายตาเห็นเป็นสีแดงฉาน
นักรบรอบๆค่ายหึกเหิมขึ้น รอวอลเลซจุดไฟสัญญาณ
วอลเลซตะลึงเล็กน้อย คำรามเดือดดาล“FUCK!พวกมันซุ่มกำลัง ทุกคนยิงปืนได้อิสระ!ฆ่าพวกสวะพวกนี้ให้หมด!”
ตอนนี้พวกฉู่จงเฉิงขึ้นรถแล้ว ตอนที่หลี่โม่ฟังเสียงด่า จึงรีบเร่งเร้า“ออกรถๆ ไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด!”
รถเก๋งห้าคันอย่างกับม้าป่า ทะยานออกไป
“ไอ้บ้าเอ๊ย!กล้าหนีไปต่อหน้าต่อตา โจมตี!”
วอลเลซชักปืนออก เล็งไปที่รถเก๋ง
ตอนนี้รถเก๋งห้าคันพุ่งลงเขา วอลเลซกับนักรบสี่คนแม้จะกระหน่ำโจมตี แต่ลูกกระสุนยิงโดนรถเก๋งคันสุดท้าย
แม้ว่าด้านหลังของรถเก๋งคันสุดท้ายจะถูกยิงไปสิบกว่านัด แต่โชคดีที่คนรถไม่ได้รับบาดเจ็บ คนรถกัดฟันข่มความหวาดกลัว ขับรถเก๋งฝ่าไป
“สมควรตาย!ฉันจะต้องจับพวกมันฆ่าให้ตายให้หมด!”
วอลเลซเก็บปืนอย่างเดือดดาล แล้วหันพละกำลังทั้งหมดไปที่ด้านหลังเขา
“รายงานสถานการณ์!”
“ได้สกัดต้นทางพวกมันไว้แล้วครับ พวกนี้แปลก เหมือนกับมนุษย์หิน มันใช้แค่หินกับไม้ ไม่มีปืนเลย แต่พวกมันโยนหินแม่นมาก เล็งแม่นแทบทุกนัด มีนักรบหกคนโดนหินโจมตีจนได้รับบาดเจ็บ”
“ไอ้ผีลิงหน้าเหลือง!ใช้หินโจมตีลูกน้องฉันตั้งหกคน!ช่างน่าอัปยศนัก !โจมตีมันด้วยพลังสูงสุด!ฆ่าพวกมันให้ตายให้หมด!”
วอลเลซคำรามอย่างโกรธ
พวกนักรบเองก็เดือดดาล หลังจากที่เกิดจลาจลแล้ว การยิงปืนอย่างฉับพลันก็เกิดขึ้น
พวกศิษย์พี่ใหญ่ต่างโดนโจมตีกันจนโงหัวไม่ขึ้น ภายในเวลาสั้นๆล้มหายตายจากไปจำนวนมาก
“บ้าเอ๊ย!ศิษย์พี่ใหญ่ นี่พาเรามาหาที่ตายเหรอ !กูไม่ทำแล้ว กูจะไป!”
“นี่ไปรบอะไรกับคนอื่น ฉันสงสัยว่ามันเป็นกับดัก !ฉันถอยด้วย!”
ผู้คนทยอยถอย เหลือแต่พวกลูกศิษย์กลุ่มที่เหลือ ที่จู่ๆก็ลุกขึ้นมาหนี
แต่ว่าพวกเขาหนีผิดจังหวะไปหน่อย วิ่งไปยังไม่ทันสองก้าว ก็โดนนักรบกลุ่มที่สิบเอ็ดโจมตี
ศิษย์พี่ใหญ่เห็นพวกลูกศิษย์ล้มกันระนาวราวกับต้นข้าว จึงพยายามตะกายพื้น
“บ้าเอียๆ!ฉันทำให้ทุกคนเดือดร้อน!ไอ้บ้าหลี่โม่ ต้องเป็นกับดักที่มันวาง!เลวมาก พิษสงมาก!ชาตินี้กูซือหม่าฉางคงจะจองเวรมันให้ถึงที่สุด!”
ศิษย์พี่ใหญ่ซือหม่าฉางคงน้ำตาไหลออกมาด้วยความคับแค้นใจ อดไม่ได้ที่จะฆ่าหลี่โม่
พวกคนที่ยังเหลือข้างเคียงซือหม่าฉางคง ถอนหายใจออกมาในใจ รู้สึกว่าเรื่องนี้ดูท่ายากที่จะถอย
“ศิษย์พี่ใหญ่ นี่มันกลายเป็นเพลิงแค้นแล้วนะ!พวกเรากี่คนจะคอยกันท่าพี่ออกไป แล้วพี่ต้องคอยแก้แค้นนะ!”
“ความแค้นของสำนักต้องอาศัยศิษย์พี่ใหญ่ชำระแล้วล่ะ !พวกเราจะปกป้องพี่ ศิษย์พี่ใหญ่รีบไปเถอะ ถ้าไม่ไปหนีไม่ทันแล้ว!”
ซือหม่าฉางคงหลังน้ำตาเลือดหันไปทางศิษย์น้องทั้งหลาย“ฉันไม่ไป ฉันจะคอยปกป้องพวกแก!”
“ศิษย์พี่ใหญ่ นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาพูดอะไรแบบนี้นะ !ในนี้มีแต่พี่ที่ความสามารถสูงสุด มีโอกาสรอดมากสุด!รีบไปหาอาจารย์ลุงเถอะ!”
“รีบไปเถอะศิษย์พี่ใหญ่ อย่าปล่อยให้ความเสียสละของเราสูญเปล่า!จะต้องแก้แค้นคนแซ่หลี่ให้ได้ ล้างโคตรพวกมัน!”
ศิษย์พี่ใหญ่กัดฟันกรอด หันไปแล้วค่อยๆเปลี่ยนลงเขา
วอลเลซสั่งกลยุทธ์สุดท้ายให้กับเหล่านักรบ เสียงปืนรัวดังก้องขึ้น
“พวกลิงหน้าเหลืองสมควรตายพวกนี้ จะปล่อยไปไม่ได้สักคน!พวกเรานักรบหน่วยที่สิบเอ็ดจะไม่ยอมตายอยู่ที่นี่!”
วอลเลซคำรามเสียงดัง
เสียงปืนบนเขาดังสะท้อนไปไกล ศิษย์พี่หงกับคางหย่งเฉียนที่อยู่หลังเขาก็พลอยสะดุ้งไหน้าซีดไปด้วย
“ทำไมถึงยังมีเสียงปืนอีก ทำไมเสียงรัวขนาดนี้ ตกลงมันเกิดอะไรขึ้น!”
ศิษย์พี่หงพูดอย่างตะลึง
“ผมจะรู้ได้ไง เราขับรถกลับดีมั้ย”
คางหย่งเฉียนตัวสั่นเทา
ศิษย์พี่หงลังเลอยู่ครู่ ในขณะที่เตรียมหนี ศิษย์พี่หงเห็นซือหม่าฉางคงที่เลือดท่วมตัว
ในตอนที่หนีลงเขา ซือหม่าฉางคงโดนปืนไปสามนัด แม้จะผึกกำลังภายในอย่างหนัก ซือหม่าฉางคงหลีกหนีโดนจุดสำคัญ ทำให้เมื่อโดนยิงสามนัดก็ยังไม่ถึงชีวิต
แต่แม้ว่าไม่ถึงชีวิต แต่เลือดก็ยังไหลเป็นทางไม่หยุด ซือหม่าฉางคงรู้สึกว่าคนทั้งคนช่างว่างเปล่า
ศิษย์พี่หงเห็นว่าซือหม่าฉางคงอยู่ในสภาวะแข็งขืน จึงรีบปลดเข็มขัดนิรภัยออก
“ฉันจะไปช่วยศิษย์พี่ใหญ่ แกอยู่ที่นี่อย่าขยับ!ถ้าขยับกูเอามึงตาย!”
พูดจบศิษย์พี่หงลงรถพุ่งออกไป คางหย่งเฉียนกลอกตา อดกลั้นต่อความหวาดกลัว จึงปลดเข็มขัดนิรภัย ไปนั่งที่นั่งคนขับ