บทที่ 55 ความเข้มแข็งของกู้หยุนหลัน
“กู้หยุนหลัน เธอพูดว่าไงนะ?เธอไม่ตกลง?นี่เป็นคำสั่งของคุณปู่ ฉันเป็นคนรับผิดชอบ เธอไม่ตกลงแล้วทำอะไรได้!”
กู้ซิงเว๋ยยิ้มเย็นชา สายตานั้นเต็มไปด้วยความอวดดี
ก็แค่กู้หยุนหลัน ยังกล้ามาแย่งกับเขา ฝันไปเถอะ!
เขากู้ซิงเว๋ยเป็นลูกชายคนโตของบ้านตระกูลกู้ เป็นอนาคตของตระกูลกู้
คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้รักลูกชายมากกว่าลูกสาวไม่ใช่แค่วันสองวันแล้ว ในใจของเขา ได้ตัดสินใจให้กู้ซิงเว๋ยเป็นคนรับช่วงต่อตั้งนานแล้ว
บริษัทวินเซิง สุดท้ายก็ต้องมอบให้กับกู้ซิงเว๋ยเช่นกัน
สัญญากับทางบริษัทรุงคาง จึงเป็นโอกาสดีที่จะทดสอบกู้ซิงเว๋ย ให้เขาได้รับประสบการณ์อย่างก้าวกระโดด
เรื่องนี้ คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้คิดไว้ตั้งนานแล้ว เพราะอย่างนั้น เขาถึงได้เด็ดขาดอย่างนี้
ในตอนนี้ ได้ยินว่ากู้หยุนหลันไม่ตกลง คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ก็หันหลังกลับมา มองกู้หยุนหลันด้วยสายตาเย็นชา “บังอาจ! บริษัทนี้เธอเป็นคนตัดสินใจหรือฉันเป็นคนตัดสินใจ?เธอนี่ยิ่งอยู่ยิ่งไม่รู้จักมารยาท ไปเรียนรู้มาจากหลี่โม่นั่นใช่มั้ย?!”
ในสายตาของคุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ กู้หยุนหลันเป็นหลานสาวที่เขาเอ็นดูที่สุด มีความสามารถ หน้าตาสะสวย สามารถแต่งงานกับเศรษฐีเมืองฮ่านเพื่อนเป็นการสานสัมพันธ์ได้
แต่ว่า ใครจะไปคิดว่าสี่ปีก่อน เธอกับท้องก่อนแต่งกับหลี่โม่ ทำให้ตระกูลกู้เสียโอกาสหนึ่งที่จะขึ้นเป็นเศรษฐีของเมืองฮ่าน!
เพราะเรื่องนั้น คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ยังไม่พอใจมาจนถึงทุกวันนี้
หลังจากนั้น เขาก็ไม่คาดหวังอะไรกับกู้หยุนหลันอีก
โบราณว่าไว้ แต่งกับอะไรก็จะเป็นอย่างนั้น หลานสาวที่แต่งกับคนไร้ประโยชน์ มีอะไรที่จะสามารถเขามาอวดได้?
และอีกอย่าง เป็นเพราะไอ้หลี่โม่นั่น ตระกูลกู้ก็กลายเป็นเรื่องตลกของเมืองฮ่าน
“เปล่าค่ะ คุณปู่ หนูไม่สนใจว่าคุณปู่จะมองหนูยังไง เรื่องนี้หนูไม่ตกลง หนูเป็นคนเอาสัญญามา ทำไมคุณปู่ถึงได้มอบมันให้กับกู้ซิงเว๋ย?หนูไม่ยอม!”
กู้หยุนหลันกำมือแน่น กัดฟัน มองไปที่คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้
“เพี๊ยะ!”
ปรากฏว่าคุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ยกมือขึ้นแล้วก็ตบไปที่หน้าของกู้หยุนหลันหนึ่งที พูดอย่างดุร้ายว่า “ตายแล้วๆ ตอนนี้แกกล้าใช้ท่าทางแบบนี้พูดกับฉันแล้วหรอ?สรุปว่าใครสอนแก?หลี่โม่คนนั้นใช่มั้ย!”
กู้หงไท่โมโหหนัก
หลานสาวที่ตัวเองเลี้ยงมากล้ามาพูดจาอย่างนี้กับเขา
ยังวางคุณปู่คนนี้ไว้ในสายตาอยู่มั้ย?
กู้หยุนหลันกุมหน้า น้ำตาคลอ มองไปที่คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้อย่างเข้มแข็ง
เธอไม่ยอม!
ยังไงเธอก็ไม่ยอม!
ผู้คนตำแหน่งใหญ่ของบริษัทแต่ละคนไม่กล้าออกเสียง
กู้ซิงเว๋ยที่ตอนนี้เห็นกู้หยุนหลันโดนคุณปู่ตบไปหนึ่งที
ในใจนั้นสะใจมาก แล้วใส่สีตีไข่ตามมา “คุณปู่ ผมดูแล้วกู้หยุนหลันยิ่งอยู่ก็ยิ่งไม่วางท่านไว้ในสายตาแล้ว ถ้าอย่างนั้นเรายึดตำแหน่งผู้อำนวยการของเธอ แล้วให้เธอไปอยู่ฝ่ายการตลาด ให้เธอได้ฝึกฝนอีกสักหน่อย พอได้ลำบากแล้วก็คงจำสำนึกว่าคุณปู่นั้นดีกับเธอแค่ไหน”
“ใช่แล้ว คุณปู่ หนูคิดว่าซิงเว๋ยพูดถูก กู้หยุนหลันนั้นใช้ที่ว่าหลายปีมานี้ท่านเอ็นดูเธอถึงได้กล้าทำแบบนี้ น่าจะลดให้ไปอยู่ระดับพื้นฐาน แล้วไปฝึกมาดีๆ”
กู้ชิงหลินใส่ไฟตามมา ในสายตาเต็มไปด้วยความเยาะเย้ยและได้ใจ
คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้คิดตาม แล้วใช้ไม้เท้ากระแทกลงพื้นอย่างหนัก “อย่างนั้นก็ทำตามที่กู้ซิงเว๋ยพูด ตั้งแต่วันนี้ยกเลิกตำแหน่งผู้อำนวยการของกู้หยุนหลัน ลดลงไปอยู่ฝ่ายการตลาดมาตรฐาน เริ่มต้นใหม่ทั้งหมด!”
“คุณปู่!”
กู้หยุนหลันน้อยใจมาก ร้อนรนจนน้ำตาไหล
สารเลวกู้ซิงเว๋ยและกู้ชิงหลินทั้งสองคน ช่างน่ารังเกียจจริงๆ ใช้เวลานี้ทำให้เธอตกต่ำ
“เธอไม่ต้องพูดแล้ว รอเธอสำนึกผิดเมื่อไหร่ คิดได้แล้วค่อยมาหาฉัน!”คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้พูดจบแล้วก็หันหลังเดินจากไป
และในตอนนี้โทรศัพท์ของเธอที่อยู่บนโต๊ะก็สั่นขึ้น เธอเห้นหลี่โม่ส่งข้อความมา : ข้อตกลงของสัญญา นอกจากเธอ ไม่ว่าลายเซ็นใครก็ไม่มีผล หยุนหลันสู้ๆ เข้มแข็งหน่อย อย่าถูกกู้ซิงเว๋ยและคุณปู่เขาผลักล้ม เธอทำได้!
เมื่อเห็นข้อความนี้ กู้หยุนหลันกัดฟันแล้วเงยหน้าขึ้น
เธอก็ไม่รู้ว่าความใจกล้านั้นมาจากไหน ตะโกนออกไปว่า “คุณปู่ หนูหวังว่าคุณปู่จะดูสัญญาฉบับใหม่ให้ดี มีอยู่ข้อตกลงหนี่ง นอกจากหนูแล้ว ไม่ว่าใครเซ็นรับผิดชอบ สัญญาฉบับนี้ก็จะเป็นโมฆะ ตระกูลกู้ก็จะเสียการทำธุรกิจร่วมกับบริษัทรุงคาง”
“ฟึ่บฟั่บ!”
ผู้คนในห้องประชุมใบหน้าเต็มไปด้วยความตกตะลึง มองไปที่กู้หยุนหลันอย่างไม่กล้าเชื่อ
คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ชักสีหน้า บอกให้กู้ซิงเว๋ยรีบดูข้อตกลงใหม่อีกครั้ง
ในใจกู้ซิงเว๋ยเองก็ร้อนรน รีบเปิดดูแล้วก็เจอข้อนั้นจริงๆ แล้วชี้ให้คุณปู่ดู “คุณปู่ ลองดูนี่ นี่ต้องเป็นข้อตกลงเพิ่มเติมที่กู้หยุนหลันขอแน่ๆ ตอนแรกเธอก็อยากจะมีอำนาจคนเดียวในบริษัทอยู่แล้ว ไม่วางท่าน ไม่วางบริษัทไว้ในสายตาจริงๆ เธอคิดว่าตระกูลกู้และบริษัทวินเซิงคืออะไร?”
กู้ซิงเว๋ยโมโหหนัก หันหน้ามาหากู้หยุนหลันแล้วก็ด่า “กู้หยุนหลัน คิดไม่ถึงว่าเธอจะแผนเยอะอย่างนี้ พูด เธอไปทำข้อตกลงอะไรที่ไม่สามารถบอกผู้คนได้ใช่มั้ย ไม่อย่างนั้น ทำไมในสัญญาถึงได้มีข้อนี้!”
น่ารังเกียจ!
กู้หยุนหลันที่สมควรตาย มองดูแล้วเหมือนจะอ่อนแอ แต่คิดไม่ถึงว่าจะแผนการเยอะแบบนี้
นี่มันนางมารยาชัดๆ!
กู้ชิงหลินก็ชี้นิ้วด่ากู้หยุนหลันอย่างโมโห “กู้หยุนหลัน ไม่อยากจะเชื่อว่าเธอเป็นลูกพี่ลูกน้องของฉัน ตอนนี้ฉันรังเกียจที่จะนับญาติกับเธอ!”
หลังจากที่คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้เห็นข้อตกลงนี้แล้วนิ่งเงียบ เงยหน้าจ้องมองไปที่กู้หยุนหลันแล้วถาม “เธอต้องการอะไร?”
กู้หงไท่ไม่โง่ เขาสามารถพัฒนาบริษัทวินเซิงให้ใหญ่ขนาดนี้ได้ แน่นอนว่าต้องความรู้ของเขา
กู้หยุนหลันเช็ดน้ำตาออก จ้องไปที่กู้ซิงเว๋ยอย่างเย็นชา ชี้ไปที่เขา แล้วบอกกับคุณปู่ว่า “ข้อหนึ่ง สัญญาระหว่างบริษัทรุงคางมีเพียงแค่หนูเท่านั้นที่รับผิดชอบ เขาไม่มีสิทธิ์มาแทรก!”
“เธออย่าหวังเลย เธอมัน….เธอฝันไปเถอะ!”
ตอนนี้กู้ซิงเว๋ยโมโหจนไม่รู้จะพูดอะไร จับแขนของคุณปู่ไว้ “คุณปู่ ท่านจะฟังมันไม่ได้นะ มันอยากจะแย่งอำนาจ ถ้ามันบรรลุเป้าหมาย อย่างนั้นต่อไปบริษัทวินเซิงก็จะตกลงไปอยู่ในมือของมันนะ”
คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ขมวดคิ้วแล้วมองไปที่กู้ซิงเว๋ย ถอนหายใจไปที่แล้วพูด “ได้ ข้อนี้ฉันตกลง”
พูดจบ
กู้ซิงเว๋ยท่าทางหมดหวังแล้วล้มลงไปที่เก้าอี้ ในใจยิ่งเกลียดกู้หยุนหลันมากขึ้น
ตามมาด้วยกู้หยุนหลันพูดต่อหน้าทุกคนว่า “ข้อสอง หนูต้องการให้พวกคุณทุกคนขอโทษหนูต่อการกระทำเมื่อวานของทุกคน และยังต้องขอโทษหลี่โม่ด้วย! กู้ซิงเว๋ย นายคนแรกเลยที่ต้องขอโทษ คุณปู่ ท่านก็ต้องขอโทษเหมือนกัน”
พูดจบ ฝ่ามือของกู้หยุนหลันที่กำไว้แน่นนั้นมีแต่เหงื่อ
ในใจเธอเองก็ลุกลี้ลุกลนเช่นกัน รู้สึกแค่ว่าใจเต้นแรงขึ้น ขาเล็กๆนั่นก็กำลังสั่น
สงบนิ่ง ต้องสงบนิ่ง!
กู้หยุนหลัน เธอทำได้ ตอนนี้เธอเป็นคนกุมอำนาจไว้ในมือ!
เชื่อมั่นในตัวเองและต้องเชื่อมั่นในหลี่โม่!
ฟึ่บฟั่บ!
ทันใดนั้นทั้งห้องประชุมก็ตกอยู่ในความเงียบงัน!
ทุกคนเบิกตาโต จ้องมองไปที่กู้หลุนหลันอย่างเหลือเชื่อ
เธอบ้าไปแล้วหรอ?
ถึงได้กล้าเรียกร้องข้อตกลงแบบนี้!
ให้กู้ซิงเว๋ยขอโทษก็ว่าไปอย่าง แต่เธอยังหวังให้คุณปู่ขอโทษเธอและหลี่โม่ที่ไร้ประโยชน์นั่นเนี่ยนะ?