“ทำไมใช้ไม่ได้ล่ะ เงินต้นทุนก็เหมือนกับที่เขาพูดไว้นี่นา ตั้งราคาสูงขึ้นหน่อย แต่ยาของพวกเรามีประสิทธิภาพ!คุณภาพดี!แพงหน่อยก็เป็นเรื่องปกตินี่นา!”
ดอกเตอร์หานที่คืนสติทำหน้าไม่สบอารมณ์ คิดไม่ออกว่าโครงการของตนเองนั้นไม่เหมาะสมตรงไหน
“คุณไม่รู้เรื่องการขายอะไรเลยจริงๆ งั้นผมจะอธิบายให้คุณฟัง”
เห่าว่านหลี่กำลังจะอธิบายให้ดอกเตอร์หานฟัง แต่เห็นหลี่โม่โบกปัดมือให้
เห่าว่านหลี่หยุดพูดทันที เข้าใจทันทีว่าหลี่โม่จะเป็นคนอบรมดอกเตอร์หานเอง
หลี่โม่ยิ้มเล็กน้อย“ถ้าจะพูดถึงประสิทธิภาพของยา งั้นเรามาถกเรื่องประสิทธิภาพของยาแล้วกัน ประสิทธิภาพยาของโสมภูเขายี่สิบปี ย่อมแกร่งกว่ายาเม็ดนำเข้าสีฟ้านั่นอยู่แล้ว งั้นคุณลองคิดเอาว่ายาบำรุงของเราเป็นยาบำรุงไต หรือว่าเป็นยาแบบยาเม็ดสีฟ้านั่นล่ะ”
“แล้ว แล้วมันต่างกันยังไง!”
ดอกเตอร์หานขมวดคิ้ว คิดถึงกลไกในนั้นไม่ออก
“ประสิทธิภาพยาอย่างยาเม็ดสีฟ้า พอใส่ไปในยาจีนเรียกว่ายารุนแรง คุณเข้าใจดี”
แม้ว่าดอกเตอร์หานจะเรียนแพทย์แผนตะวันตก แต่ก็พอฟังศัพท์แพทย์แผนจีนออก รู้ถึงความหมาย
ของยารุนแรง
ฉับพลันดอกเตอร์หานจึงได้สติคืน รู้ว่าตัวเองผิดพลาดตรงไหน
“ดูท่าคุณเหมือนเข้าใจแล้วนะ ยาฤทธิ์แรงเกินไปก็มิใช่ว่าจะเป็นเรื่องดีเสมอไป อีกอย่างพวกเราต้องหาเงินนะ ฤทธิ์ยาแรงขนาดนี้ ถ้าคนเอาไปแทนยาเม็ดสีฟ้า ยอดขายของเราก็จะลด”
“บำรุงแบบอ่อน บำรุงแบบอ่อน หมายความว่าบำรุงแบบอ่อนโยน จะไม่แสดงผลของการบำรุงที่รุนแรงอย่างเด่นชัด แบบนี้จะดีต่อร่างกาย ดีต่อสารอาหารเราด้วย ยาจีนกับยาฝรั่งน่ะ ไม่เหมือนกันอยู่ดี”
หลี่โม่พูดจบ ดอกเตอร์หานก็รู้สึกละอายยิ่ง
ก่อนหน้าดอกเตอร์หานแทบจะไม่ได้สังเกตถึงยาฝรั่งกับยาจีนเลย ในด้านการบริหารการขาย ก็เลย ไม่รู้ถึงความผิดพลาดของตนเอง
เห่าว่านหลี่พูดตาม“คุณหลี่พูดมามากมาย ฤทธิ์ของยารุ่นนี้จะแรงมากไม่ได้ ยาจีนที่มีฤทธิ์บำรุงแบบอ่อนจะทำเป็นยารุนแรง ถ้าเกิดกินไปแล้วมีปัญหา คงจะเดือดร้อน”
“ผมไม่ได้คิดเยอะขนาดนั้น คิดแค่ว่าฤทธิ์ยาจะต้องแกร่ง ก็เลย……”
ดอกเตอร์หานก้มหน้าลง คิดถึงคำพูดที่ตัวเองตั้งขึ้น จู่ๆก็ไม่รู้ว่าต้องทำไงดี
หรือว่าจะต้องคำนับหลี่โม่แล้วเรียกว่าคุณปู่
งั้นตัวเองก็คงต้องหน้าแตกแบบหมอไม่รับเย็บสิ!
แล้วแถมยังต่อหน้ากู้หยุนหลันอีกด้วย!เขาจะมาขายหน้าต่อหน้าเทพธิดาของตัวเองได้ไง!
“ก็เลยมั่นใจตัวเองเกินไป ฟังความเห็นคนอื่นไม่ได้ ไม่รู้ว่าเรียนดอกเตอร์มาได้ไง”
หลี่โม่แค่นเสียงเย็น
ดอกเตอร์หานหน้าแดงก่ำ แดงจนเหมือนมีเลือดพุ่งออกมา รู้สึกว่าหลี่โม่กำลังลบหลู่ตัวเองอยู่
“ผมไม่ ผมไม่ใช่ฟังความเห็นอื่นไม่ได้!”
เขาโต้กลับอย่างขุ่นเคืองเล็กน้อย ดอกเตอร์หานมองไปทางกู้หยุนหลันแล้วพูด“ท่านประธานครับ รายงานการทดลองผมได้ให้ไปแล้ว ถ้าคำแนะนำผมไม่เหมาะสม จะไม่รับฟังก็ได้นะครับ ถ้าไม่มีอะไรผมไปก่อน”
ดอกเตอร์หานหมุนตัวเตรียมกลับ รู้สึกว่ารีบหนีไปก่อนดีกว่า ไม่งั้นคงโดนหลี่โม่ลบหลู่อย่างอัปยศ อดสูแน่
“นี่จะไปแล้วเหรอ คุณมีท่าทีแบบนี้ต่อผู้บังคับบัญชาเหรอ”
หลี่โม่ยิ่งไม่สบอารมณ์
เดิมทีอยากจะให้โอกาสดอกเตอร์ที่ไม่ใช้หัวคิดคนนี้สักหน่อย แต่ดอกเตอร์หานรนหาเรื่องทำให้เรื่องเลยเถิดไปกันใหญ่
“ผมบอกประธานกู้ไปแล้วครับ หรือว่าจะไม่ให้ผมไป”
ดอกเตอร์หานหยุดฝีเท้าแล้วพูด
“เมื่อกี้ใครบอกคนที่เบี้ยวเงินเป็นหมา”
ดอกเตอร์หานหัวว่างเปล่าขึ้นมาทันที กลัวอะไรมักได้อย่างนั้นจริงๆ กลัวที่สุดคือโดนหลี่โม่พูดถึงเรื่องนี้
ดอกเตอร์หานส่งแววตาวิงวอนไปทางเห่าว่านหลี่ หวังว่าเห่าว่านหลี่จะช่วยแก้ต่างให้
เห่าว่านหลี่ถอนหายใจออกมาเบาๆ เดินถอยหลังไปสองก้าว ไม่คิดที่จะช่วยดอกเตอร์หานพูดแก้ต่างแม้แต่น้อย
ดอกเตอร์หานทำให้เรื่องกลืนไม่เข้าคายไม่ออกขนาดนี้ คงช่วยอะไรไม่ได้แล้วล่ะ
หลี่โม่มองดอกเตอร์หานด้วยแววตาเย้ยหยัน“มา ถ้าอยากพนันต้องยอมแพ้”
“ผม……ผม ผมไม่ได้พนันกับคุณ !คำพูดเลื่อนลอยที่ไม่มีหลักฐานคุณก็เชื่อ คุณบ้าหรือเปล่า!ผมไม่พูดกับคนบ้าอย่างคุณหรอกนะ อย่างมากกูก็ไม่ทำโว้ย!”
หลังจากที่ดอกเตอร์หานคำรามก็พรวดออกจากห้องทำงานไป ตัดสินใจแล้วว่าต่อให้ต้องสูญเสียงานที่เงินเดือนสูงขนาดนี้แต่จะไม่ยอมเสียหน้าเป็นอันขาด
เมื่อมองตามเงาหลังที่จากไปของดอกเตอร์หาน หลี่โม่จึงส่ายหน้าช้าๆ“บอกรปภ. ให้ดักดอกเตอร์หานเอาไว้ก่อน”
“เอ่อ เกรงว่าไม่ค่อยดีมั้งครับ ให้ผมคุยกับเขาก่อนดีมั้ย ผมพาเขามาขอขมาคุณเอง”
เห่าว่านหลี่พูดเสียงค่อย
“ขอโทษหรือไม่ไม่สำคัญ แต่จะให้เขาแพร่งพรายความลับไม่ได้”
เห่าว่านหลี่ฉุกคิดได้ เขาเข้าใจความหมายของหลี่โม่ทันที
เห็นท่าทีของดอกเตอร์หาน ดูก็รู้ว่าเขาได้ชิงชังเข้ากระดูกดำไปแล้ว ไม่แน่ว่าต่อไปอาจจะแพร่งพรายความลับเรื่องสูตรยาก็ได้ นี่ต้องระวังไว้จริงๆ!
“เข้าใจแล้วครับ ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้”
เห่าว่านหลี่รีบสาวเท้าไปห้องทำงาน ติดต่อให้รปภ.ดักตัวดอกเตอร์หานเอาไวก่อน
กู้หยุนหลันพูดขึ้นอย่างลังเล“เขาเป็นคนนึงที่เรียนหนังสือจนเพี้ยน คุณอย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่นักล่ะ”
“วางใจเถอะ ผมจะคุยกับเขาดีๆ ไม่ทำอะไรเขาหรอกนะ”
หลี่โม่เดินสบายอารมณ์ออกจากห้องทำงานกู้หยุนหลัน แล้วเดินไปทางรปภ.
ในตอนที่หลี่โม่เดินถึงห้องรปภ. เห็นเห่าว่านหลี่กำลังสั่งรปภ.กดตัวดอกเตอร์หานไว้พอดี
สภาพดอกเตอร์หานทุลักทุเลเหลือเกิน สีหน้าเขียวคล้ำ เห็นได้ชัดว่าโดนไปหลายหมัดตอนที่ต่อต้าน
เห่าว่านหลี่ยังคงปั้นหน้าตึง ในมือถือโทรศัพท์ของดอกเตอร์หานอยู่
“คุณหลี่ คุณพูดได้แม่นเหลือเกิน เจ้านี่มันเป็นสุนัขจิ้งจอกชัดๆ!”
เห่าว่านหลี่พูดพลาง ยื่นโทรศัพท์ของดอกเตอร์หานให้หลี่โม่
หลี่โม่หยิบโทรศัพท์ขึ้นดู บนหน้าจอมีรูปที่ถ่ายเอาไว้ มีทั้งภาพสูตรยาและห้องทดลองต่างๆ ก็ได้ถูก ถ่ายเก็บเอาไว้หมด
แค่ภาพถ่ายพวกนี้ก็พิสูจน์ได้แล้วว่า ก่อนที่ดอกเตอร์หานกับหลี่โม่จะมีเรื่องขัดแย้งกัน เขาก็เริ่มมีใจ คิดทรยศแล้ว
ในการทดลองปกติ ไม่มีความจำเป็นต้องถ่ายรูปพวกนี้เลย
“ไอ้พวกบ้า!พวกแกปล่อยฉันนะ!พวกแกไม่มีสิทธิ์มาจับฉัน คืนโทรศัพท์ฉันมา ฉันก็แค่ถ่ายการทดลองเก็บไว้เฉยๆ พวกแกจะมาปรักปรำฉันไม่ได้!”
“แล้วมีความจำเป็นต้องใช้วิธีการถ่ายภาพเก็บไว้ด้วยหรือไง ข้อมูลพวกนี้ต้องเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์สิ”
หลี่โม่ถามเสียงเรียบ
ดอกเตอร์หานตะลึง แล้วตะคอกเสียงดัง“ตอนทดลองผมลืมเอาโน๊ตบุ๊คมา ก็เลยใช้มือถือ!”
“แม้แต่สูตรยาแกก็ถ่ายด้วยเหรอ จะทำไร”
“ผม คือผม คือ……”ดอกเตอร์หานพูดไม่ออกโดยสิ้นเชิง ไม่รู้ว่าควรแก้ตัวอย่างไร
“กดตัวไป ผมจะคุยเรื่องชีวิตกับเขาสักหน่อย”