“โครม!”
เลือดสดๆพุ่งออกจากปากดอกเตอร์หาน ดอกเตอร์หานค่อยๆไถลลงไปกองกับพื้น มือทั้งสองกุมหน้าอกร้องออกมาอย่างโหยหวน
“กระดูกฉัน กระดูกฉันหักแล้ว!ฉันได้รับบาดเจ็บ ช้ำใน รีบเรียกรถพยาบาล!รีบเรียกรถพยาบาลมาให้ฉัน!”
ในจังหวะนี้ความเชี่ยวชาญเฉพาะทางของดอกเตอร์หานทำให้เขาสรุปได้ว่าตัวเองช้ำใน แน่นอนว่ากระดูกหักด้วย ปอดตับไตดูเหมือนจะโดนกระดูกทิ่ม ไม่งั้นก็คงไม่กระอักเลือด
กระดูกหักไม่กลัว แต่ถ้าช้ำในแล้วไม่รีบช่วย เกรงว่าน่าจะเป็นอันตรายถึงชีวิต
“แกไม่ตายหรอกนะ ฉันจะต้องทำให้แกได้รับโทษทางกฏหมายอย่างยุติธรรมก่อน”
หลี่โม่พูดพลางยิ้มเล็กน้อย
ตอนที่ถีบออกไป หลี่โม่แทบจะไม่ได้ใช้แรงอะไรเลย เขาควบคุมพละกำลังตัวเองอย่างดี
แต่แรงนั้นก็มากพอที่จะทำให้ดอกเตอร์หานได้รับบาดเจ็บหนัก แต่ก็ไม่ถึงตาย
“ไอ้ห่า โทรเรียกตำรวจตรวจการ”
“ครับ ครับๆ”
เห่าว่านหลี่จึงได้สติคืนจากความตกใจ เขาหายใจเข้าลึกๆ หลังจากที่สงบสติอารมณ์แล้วจึงโทรหา ตำรวจตรวจการ
หลังจากที่ติดต่อเรียบร้อย เห่าว่านหลี่ก็หันไปดูสภาพน่าสมเพชของดอกเตอร์หาน ในใจรู้สึกเวทนา
“คุณหลี่ คิดไม่ถึงเลยว่าคุณได้กังฟูด้วย เมื่อกี้ผมตกใจแทบแย่ ไม่รู้ว่าทำไงดี”
“หึหึ เรื่องตรงนี้มอบให้คุณแล้วกัน”
หลี่โม่ลุกขึ้นเตรียมจากไป หลังจากที่หลี่โม่จากไปแล้ว รปภ.จำนวนไม่น้อยแห่กันมาอออยู่หน้าประตู
เมื่อเห็นสภาพอันแสนน่าเวทนาของดอกเตอร์หาน พวกรปภ.ต่างก็เบิกตาโพลงโต
รปภ.ที่หยุนจงหลันกรุ๊ปใช้ล้วนไม่ใช่รปภ.ธรรมดา อย่างเลวที่สุดก็เป็นนายทหารชั้นเกษียณ ดังนั้นต่างก็ตกตะลึง
“ดอกเตอร์หานเจ็บไม่น้อยเลย คงไม่ใช่ฝีมือรองประธานเห่าหรอกมั้ง”
รปภ.คนหนึ่งพูดอย่างสอดรู้
เห่าว่านหลี่ยิ้มแห้งๆส่ายหน้า“ผมไม่มีปัญญาขนาดนั้นหรอก เมื่อกี้ดอกเตอร์หานคลุ้มคลั่ง จะฆ่าคุณหลี่ คุณหลี่ถีบกระเด็นไปทีเดียว ก็กลายเป็นแบบที่เห็นนี่แหละ”
“ซี๊ด!”
พวกรปภ.หายใจลึกเข้าพร้อมกัน แววตากระพริบเป็นประกาย
ถ้าจะให้ซ้อมจนคนกระอักเลือดพวกเขาก็ทำได้ แต่ให้เตะทีเดียวกระอักเลือด ทำไม่ได้แน่นอน
“ก็เลยบาดเจ็บอยู่นี่ แค่เตะกระดูกหักก็ยากแล้ว แต่ดูท่าดอกเตอร์หาน โดนถีบทีเดียวกระดูกหักไปเจ็ดแปดท่อน กำลังต้องมหาศาลแค่ไหน”
“มีแต่พวกทหารเท่านั้นมั้งที่ทำได้ แต่ผมไม่เคยเห็นอะไรที่ร้ายกาจแบบนี้มาก่อน มีแค่วีรบุรุษในตำนานเท่านั้นแหละที่ทำได้”
“นี่มันร้ายกาจกว่าที่เราเคยเรียนมาอีก แค่ท่านี้ท่าเดียวแทบเอาชีวิตไม่รอด มีแค่พวกแม่ทัพในกองทัพเท่านั้นแหละ ถึงได้โหดร้ายขนาดนี้ คุณหลี่จะต้องเป็นยอดฝีมือที่ซ่อนตัวเอาไว้แน่นอน”
พวกรปภ.ทยอยพยักหน้า หลังจากถกเถียงกันพักหนึ่ง ต่างก็ลงความเห็นว่าหลี่โม่ต้องเป็นยอดฝีมือที่ซ่อนตัวตนเอาไว้
“ต่อไปต้องตั้งใจทำงาน อย่าให้คุณหลี่เห็นข้อบกพร่องได้ ไม่งั้นขายหน้าแย่”
“ต้องโชว์ฝีมือให้คุณหลี่เห็นสักหน่อย ไม่แน่ว่าก่อนหน้านี้คุณหลี่อาจจะเป็นกองทัพลี้ลับก็ได้ อย่าให้คุณหลี่ดูถูกพวกเราได้เชียวนา”
พวกรปภ.ตั้งกำลังใจเต็มร้อย เริ่มหารือกันว่าจะพัฒนางานรักษาความปลอดภัยอย่างไรดี
พอเกิดเรื่องดอกเตอร์หานแพร่งพรายความลับ พวกรปภ.ก็มีส่วนรับผิดชอบด้วย
เห่าว่านหลี่รู้สึกปลง คิดไม่ถึงว่าพอหลี่โม่จัดการดอกเตอร์หานแล้ว จะนำพาพลังงานบวกมาให้พวกรปภ.ได้โดยไม่ต้องอบรม
“คุณหลี่บอกว่าเชือดไก่ให้ลิงดู ดูท่าน่าจะได้ผลนะ”เห่าว่านหลี่บ่นพึมพำ
……
หลี่โม่กลับมาถึงห้องทำงานกู้หยุนหลัน เล่าให้กู้หยุนหลันฟังสองสามคำ กู้หยุนหลันจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง
กู้หยุนหลันรู้สึกตกใจ คิดไม่ถึงว่าลับหลังดอกเตอร์หานจะทำเรื่องแบบนี้ได้
“คนเรานี้รู้หน้าไม่รู้ใจ ตอนแรกฉันแค่คิดว่าเขาคงอีคิวต่ำ ใครจะไปรู้… เฮ้อออ ฉันดูคนผิดไปงั้นเหรอเนี่ย”
“จะเรียกว่าดูคนผิดไปได้ไงกัน ดอกเตอร์หานทำผิดร้ายแรงเกินไปต่างหาก”
พูดจบ หลี่โม่ก็มองไปที่โต๊ะ แล้วหยิบบัตรเชิญขึ้นมาอย่างใคร่รู้
“ใครส่งบัตรเชิญมา”
“ชื่อเฉิงซืออู่อะไรสักอย่าง บอกว่าเชิญเราไปร่วมงานเลี้ยง คุยเรื่องเรื่องสมาคมอุตสาหกรรมผลิตยาอะไรพวกนี้”
กู้หยุนหลันไม่ค่อยให้ความสนใจงานเลี้ยงอาหารค่ำเท่าไหร่นัก และการก่อตั้งสมาคมก็ไม่ได้ให้ผลดีอะไรกับหยุนจงหลันกรุ๊ปมากมาย“ก่อตั้งสมาคมเหรอ เฉิงซืออู่คนนี้เป็นมาไงกัน”
หลี่โม่พลิกดูบัตรเชิญ พลางถามอย่างสงสัย
“ฉันเองก็ไม่ค่อยรู้อะไรเท่าไหร่ค่ะ เห็นว่าเป็นผู้บริหารของบริษัทผลิตยาจงไห่ ฉันยังไม่เคยได้ยินชื่อบริษัทผลิตยาจงไห่เลย”
หลี่โม่เสริซดูบนเน็ต ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทผลิตยาจงไห่จริงๆ
ในขณะที่หลี่โม่เรียกเห่าว่านหลี่มาถาม เห่าว่านหลี่ก็ได้เปิดประตูเดินเข้ามา
“คุณหลี่ครับ เรียกตำรวจตรวจการมาเรียบร้อยแล้วครับ”
“อืม งั้นก็ดีไอ้ห่า คุณรู้จักบริษัทผลิตยาจงไห่”
หลี่โม่ถาม
เห่าว่านหลี่สีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย พยักหน้าอย่างหนักใจ
“รู้แน่นอนครับ บริษัทผลิตยาจงไห่เป็นเหมือนจระเข้ตัวใหญ่ที่ซ่อนตัวอยู่ ภายนอกไม่มีชื่อเสียงอะไรเลย แต่ในแวดวงเป็นที่รู้จักดีมาก ถ้าจะจัดอันดับธุรกิจยาสิบอันดับ มีหกบริษัทที่บริษัทผลิตยาจงไห่ถือครองอยู่”
“แน่นอนว่า วิธีการถือหุ้นของพวกเขาไม่ธรรมดาเสียด้วย พวกเขาได้มีการแลกเปลี่ยนหุ้นมากมายจากต่างประเทศ เป็นเหมือนหุ้นใหญ่ที่ซ่อนตัว ถ้าดูตามตัวเลยที่รายงาน เราจะไม่มีทางรู้ว่าพวกเขายิ่งใหญ่แค่ไหน”
กู้หยุนหลันเหม่อลอย เธอตกใจกับเนื้อหาที่เห่าว่านหลี่เล่าให้ฟัง
“บริษัทผลิตยาจงไห่เก่งกาจขนาดนี้ พวกเขาอยากจะจัดตั้งสมาคมแพทย์และเภสัช ก็ไม่เห็นต้องมาคุยกับเรานี่นา เฉิงซืออู่เชิญฉันไปมีอะไรกันแน่”
“จัดตั้งสมาคมงั้นเหรอ เฉิงซืออู่มาแล้วเหรอ”
เห่าว่านหลี่ถามอย่างตะลึง
“ไอ้ห่า นิ่งหน่อย ตื่นเต้นอะไรกัน”
หลี่โม่ยิ้มพลางพูด“รู้อะไรมาก็พูดออกมา ให้พวกเราได้มาช่วยกันแสดงความเห็น”
เห่าว่านหลี่จัดลำดับความคิด“เฉิงซืออู่เป็นลูกศิษย์ตระกูลเฉิง คุณท่านของตระกูลเฉิงเป็นยักษ์ใหญ่ในวงการเภสัช นับได้ว่าเป็นตัวตั้งตัวตีในแวดวงการศึกษาเภสัช พวกแพทย์พยาบาล ศาสตราจารย์ทั้งหลายล้วนเป็นลูกศิษย์ของคุณท่านเฉิง”
“เป็นเพราะความสัมพันธ์ชั้นนี้ ตระกูลเฉิงจึงเหมือนปลาได้น้ำที่อยู่ในวงการ แต่ไม่กี่ปีนี้หลังจากที่เฉิงซืออู่เป็นหางเสือให้ตระกูลเฉิง ความสัมพันธ์กับนายทุนก็ชิดใกล้ขึ้น ผลักดันแวดวงเภสัชมากมาย พูดได้ว่ามีความทะเยอทะยานสูง”
หลี่โม่คิ้วกระตุกเล็กน้อย สำหรับเรื่องบริษัทยา หลี่โม่รู้มาค่อนข้างมาก อย่างไรเสียในสำนักก็ได้ความรู้เรื่องยาจากต่างประเทศมาไม่น้อย
“เขาจะตั้งสมาคมเภสัช คงไม่ได้มีความทะเยอทะยานที่จะรวมวงการเภสัชในประเทศให้เป็นของตัวเองมั้ง”