“อ๋อ นายพูดต่อสิ มีคนมาท้านายไม่ใช่เหรอ นายแข่งกับเขาสิ”
หลี่โม่พูดขึ้น
คางเหวินซิงยิ้มอย่างลำบากใจ “ผมก็อยากแข่งกับเขานะครับ แต่ผมอ่อนกว่าเขาเยอะ ถึงผมจะใช้พละกำลังทั้งหมด ก็ไม่น่าจะสู้เขาได้”
“เป็นใครกันแน่ นายพูดมาตั้งนาน แต่ไม่ยอมบอกว่าอีกฝ่ายคือใคร”
เฉินเสี่ยวถงพูดแทรกขึ้นมา
คางเหวินซิงหยิบไอแพดตรงคอนโซลรถขึ้นมา “คนนี้ครับ อาจารย์ดูสิ เขาคือหลงโป เคยแข่ง Formula Two ว่ากันว่าเขาเป็นนักแข่งคนแรกในประเทศที่มีศักยภาพสูงสุด ในการเข้าร่วม Formula One”
หลี่โม่ไม่ได้รับไอแพดมา เพราะโดนเฉินเสี่ยวถงเอาไป
เฉินเสี่ยวถงหยิบไอแพดมาดู เธออุทานออกมาอย่างตกใจ
“ประวัติยาวมาก เริ่มเรียนรู้การแข่งรถตั้งแต่เด็ก เป็นแชมป์การแข่งขันโกคาร์ทระดับนานาชาติ เคยเข้าร่วมการแข่งรถบนทางเรียบ ตอนนี้เป็นนักแข่ง Formula Two เป็นแชมป์การแข่งสี่รายการ”
“โอ้มายก๊อด มิน่าล่ะทำไมคางเหวินซิงถึงกลัวขนาดนี้ ประวัติของเขาน่ากลัวมาก”
เฉินเสี่ยวถงพูดจบ ก็เอาไอแพดยัดใส่มือคางเหวินซิง ที่มีสีหน้าทุกข์ใจ
สีหน้าของคางเหวินซิงขื่นขมยิ่งกว่ามะระ ตอนนี้เขาอยากเอาหัวโขกก้อนเต้าหู้ให้ตายไปซะ
คางเหวินซิงที่มีความฝันอยากแข่งรถมาตลอด เขาไม่มีความกล้าที่จะเผชิญหน้ากับนักแข่งมืออาชีพอย่างหลงโป“นักแข่งมืออาชีพมาท้านาย นี่มันน่าอายมากเลยนะ”
หลี่โม่ปรายตามองคางเหวินซิง
“เฮ้อ!” คางเหวินซิงถอนหายใจออกมา “ตระกูลหลงกับตระกูลผมถือว่าเป็นศัตรูกันตลอดชาติ การที่เขามาท้าผม ไม่ได้เป็นเรื่องน่าอายอะไร ก่อนหน้านี้เขาไม่ชอบใจที่จะมาท้าประลองกับผม เพราะผมไม่ใช่นักแข่งมืออาชีพ”
“แต่ตอนนี้ไม่ใช่แบบนั้นแล้ว ผมจะทำราซิ่งคลับ มันไปกระทบกับผลประโยชน์ของหลงโป เพราะเขาก็อยากมาสายนี้เหมือนกัน ตอนนี้ตัวตนของเขาดึงดูดพวกลูกคนรวย ถ้าผมทำราซิ่งคลับสำเร็จในตอนนี้ มันเป็นการดึงฐานแฟนคลับของเขามา”
คางเหวินซิงอธิบายเช่นนี้ หลี่โม่จึงเข้าใจสาเหตุที่อยู่ข้างใน พูดไปพูดมาก็เป็นเรื่องผลประโยชน์
เฉินเสี่ยวถงย่นจมูก เธอกลอกตาไปมา และพูดกับหลี่โม่ว่า “พี่หลี่โม่ พี่ต้องช่วยคางเหวินซิงนะ ไม่งั้นราซิ่งคลับที่พี่ลงทุน จะกลายเป็นเรื่องตลก”
“ใช่ๆ เฉินเสี่ยวถงพูดถูก อาจารย์ นี่เป็นเงินที่เราลงทุนไป 32 ร้อยล้านเลยนะครับ เราจะยอมแพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มไม่ได้นะครับ!”
คางเหวินซิงพูดอย่างสลด
“จะแข่งตอนไหน”
“ตอนเที่ยงคืนวันนี้ครับ เริ่มที่ตีนเขาลั่วย่าน อาจารย์รู้จักถนนเขาลั่วย่านใช่ไหม”
หลี่โม่ส่ายหน้าแบบงุนงง “ฉันไม่ได้อยู่ในวงการแข่งรถ จะรู้ได้ยังไงว่าเขาลั่วย่านอยู่ที่ไหน”
คางเหวินซิงช็อกไป เขาคิดในใจว่าหลี่โม่เก่งเรื่องแข่งรถได้ยังไง หรือว่าจะเป็นพรสวรรค์ที่ได้มาตั้งแต่เกิด
เฉินเสี่ยวถงตื่นเต้น เธอเขย่าแขนหลี่โม่ และพูดว่า “พี่จะไปแข่งสินะ พาฉันไปด้วย ฉันจะเป็นเรซควีนให้พี่เอง”
“เอ่อ…”
คางเหวินซิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงเอ่ยขึ้นว่า “ปกติการแข่งรถจะไม่มีคนนั่งไปด้วย เพราะต้องการทำให้น้ำหนักเบา ไม่ใช่การแข่งรถแรลลี่ที่ต้องมีผู้นำทาง การแข่งรถอื่นๆ มีเพียงคนขับเท่านั้น”
“นายหมายความว่ายังไง ว่าฉันตัวหนักเหรอ!”
แววตาของเฉินเสี่ยวถงแทบจะฆ่าคนได้
คางเหวินซิงกลัวจนคอหด เขาโบกมือไปมา แล้วพูดว่า “ไม่ใช่แบบนั้นครับ คุณเข้าใจผิดแล้ว ผมหมายความว่าเราต้องทำให้น้ำหนักของรถน้อยที่สุด เท่าที่จะทำได้”
“ยิ่งรถเบาเท่าไร รถจะวิ่งได้เร็วขึ้นภายใต้แรงม้าเท่าเดิม คุณเข้าใจแล้วใช่ไหม ผมต้องการสื่อแบบนี้ คุณดูรถสปอร์ตสิ โดยทั่วไปไม่มีระบบปรับอากาศ เพราะต้องการลดน้ำหนักของรถ ขับรถสปอร์ตช่วงหน้าร้อน อาจจะเป็นไข้แดดได้ เพราะเขาต้องการเอาน้ำหนักของแอร์ออกไป”
คางเหวินซิงพยายามอธิบายอย่างสุดความสามารถ โดยนำความสัมพันธ์ของน้ำหนักและความเร็วมาอธิบาย
ถึงเฉินเสี่ยวถงจะเข้าใจ แต่เธอก็ยังย่นปากยู่ อย่างไม่พอใจ “หึ! แต่ฉันคิดว่านายพูดไม่ถูกต้อง ฉันจะตามไปเป็นเรซควีน ในหนังก็ทำกันแบบนี้”
“ในหนังก็แค่หลอกคนดู ยังไม่ได้ทำอะไร รถก็ระเบิดแล้ว ในชีวิตจริงมีเรื่องแบบนี้ที่ไหนกัน”
คางเหวินซิงบ่นออกมาอีก
“นายอยากตายเหรอ ถ้ายังกล้าพูดอีก ฉันจะบีบคอนายให้ตาย”
เมื่อดุใส่คางเหวินซิงจบ จู่ๆ ใบหน้าอันงดงามของเฉินเสี่ยวถง ก็เปลี่ยนเป็นใบหน้าน่ารัก เธอดึงแขนหลี่โม่และพูดอย่างออดอ้อน “พี่หลี่โม่ ฉันจะ……”
“พรวด!”
หลี่โม่ที่กำลังดื่มน้ำแร่อยู่ ถึงกับพ่นน้ำออกมาจากปาก
“เธออย่ามาทำท่าทางแบบนี้ ฉันรับไม่ได้จริงๆ เราทำตัวปกติกันได้ไหม”
“นี่ฉันไม่ปกติตรงไหนเหรอ ดูไม่ออกเหรอ ฉันกำลังอ้อนพี่ไง พี่นี่มันไม่รู้เรื่องอะไรเลย!”
เฉินเสี่ยวถงพองแก้มอย่างไม่พอใจ เธอย่นปากใส่หลี่โม่
หลี่โม่นวดหัวคิ้ว “เหวินซิง นายพูดเรื่องเขาลั่วย่านอะไรนั่นต่อสิ”
“ครับๆ”
คางเหวินซิงตั้งสติ และพูดต่อ “เขาลั่วย่านเป็นสถานที่แข่งรถใต้ดินที่มีชื่อเสียงแถวเมืองฮ่าน ที่นั่นเคยเป็นเส้นทางหลักในการเข้ามาเมืองฮ่าน แต่เมื่ออุโมงค์หนานซานซ่อมเสร็จ ถนนเขาลั่วย่านก็ถูกทิ้งร้าง”
“ตอนนี้มีแต่แก๊งแข่งรถเท่านั้น ที่จะไปถนนเขาลั่วย่าน ส่วนรถอื่นๆ ไม่มีใครใช้ถนนเส้นนั้นแล้ว อีกอย่างตรงนั้นยังมีเรื่องเล่าแปลกๆ ด้วย แน่นอนว่าตอนที่มีการแข่งรถ จะมีคนตายไม่น้อยเลย”
“ทั้งเขาลั่วย่านมีโค้ง Hair Pin 46 โค้ง โค้งพวกนี้เป็นโค้งหักมุม 90 องศา ทำให้เขาลั่วย่านเป็นถนนที่อันตรายที่สุดเป็นอันดับสามในประเทศ จากสถิติพบว่ามีอุบัติเหตุรถหลุดโค้งเกินกว่าแปดพันครั้ง”
คางเหวินซิงพูดบรรยายออกมา เฉินเสี่ยวถงได้ฟัง ก็ตกใจจนพูดไม่ออก เธอรู้สึกว่าความยากของถนน มันเกินกว่าที่เธอจินตนาการเอาไว้
“ถนนโค้งเยอะแบบนี้ แถมยังเกิดอุบัติเหตุมากมาย มันน่ากลัวมากเลยนะ”
“ก็ใช่ไง นักแข่งใต้ดินทั่วๆ ไป ไม่กล้าไปแข่งที่นั่น ผมยังไม่กล้าเลย” คางเหวินซิงพูดอย่างกระอักกระอ่วน
“อืม งั้นอีกเดี๋ยวจะใช้รถอะไรแข่งล่ะ รถคันนี้หรือเปล่า”
หลี่โม่เอ่ยถาม
“รถสปอร์ตของผมพังแล้ว เวลาแค่นี้คงหารถอะไรมาไม่ได้ คงต้องใช้รถเบนซ์คันนี้แล้วล่ะ ผมเดาว่าหลงโปจะต้องใช้รถซูเปอร์คาร์ดัดแปลงของเขา รถของเขาแข็งแกร่งมาก”
คางเหวินซิงยิ่งพูด สีหน้าของเขาก็สลดลงเรื่อยๆ เหมือนคิดว่าจะไม่มีโอกาสชนะ “หรือเราจะไม่แข่งแล้ว ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับอาจารย์ ผมจะสู้หน้าอาจารย์หญิงยังไงล่ะ”
“จะไม่แข่งได้ยังไง มากลั่นแกล้งถึงที่ ยังไงก็ต้องแข่ง”