“เหอะๆ ฉันตบแกแล้วนิ ทำไม เพิ่งสำนึกได้เหรอ”
ท่านแปดนั่งอยู่ในรถ เขาพูดด้วยท่าทีสงบ
“สำนึกแล้ว เมื่อกี้ผมผิดไปแล้ว ปู่แปดอย่าบอกปู่ผมเลยนะ เมื่อกี้ผมหน้ามืดตามัว” หลงโปเอาแต่พูดสำนึกผิดไม่หยุด
ท่านแปดส่งเสียงหึออกมา เขาพูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “อย่ามาพูดตอแหล ถ้าไม่อยากให้ฉันบอกปู่แก เป็นเรื่องง่ายมาก ฉันคิดว่าแกน่าจะรู้ว่าควรทำยังไง”
หลงโปลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงพูดเสียงเบา “ปู่ผมไม่ได้มีท่าทีอะไรชัดเจน เขาพูดแค่ว่าต้องรอดู”
“รอดูงั้นเหรอ ปู่แกนี่เป็นเฒ่าสารพัดพิษจริงๆ ฉันให้เวลาหนึ่งวัน แค่แกทำให้หลี่โม่ไม่เอาความแก ฉันก็จะไม่บอกปู่แก”
ท่านแปดพูดเนิบๆ
“ปู่แปด นี่ปู่……อยู่ข้างหลี่โม่เหรอ”
หลงโปถามลองเชิง
“ฮ่าๆๆๆ แกเดาดูสิ”
หลังจากท่านแปดวางสาย หลงโปวางมือถือลงข้างเตียงด้วยสีหน้าสับสน
“เขาหมายความว่าอะไรกันแน่ ช่างเถอะ คิดเรื่องพรุ่งนี้ดีกว่า! ฉันโดนมันทำลายแล้ว คิดไม่ถึงว่าจะต้องไปขอโทษมันอีก นี่มัน……”
หลงโปยิ่งคิดยิ่งโมโห แต่สถานการณ์มันรุนแรงกว่าคน เขาจำใจสะกดกลั้นความโกรธ และหลับตาคิดต่อไป
……
เช้าวันใหม่ หลี่โม่กับกู้หยุนหลันมาถึงบริษัทตั้งแต่เช้า
กู้หยุนหลันเข้ามาในห้องทำงาน เธอเห็นเอกสารกองหนึ่งอยู่บนโต๊ะ เธออดกุมขมับไม่ได้
เมื่อธุรกิจขยายออกไป งานต่างๆ ก็หลั่งไหลเข้ามาเหมือนน้ำ ทำให้กู้หยุนหลันมีงานเพิ่มขึ้นเยอะ
“เอกสารเยอะขนาดนี้เลยเหรอ ไม่ต้องลงมือทำทุกอย่างด้วยตัวเองก็ได้ ถ้าเหนื่อยคุณจะไม่ไหวเอา”
หลี่โม่ยิ้มและเอ่ยขึ้น
“ไม่เหนื่อยหรอก ตอนนี้บริษัทกำลังไปได้สวย งานก็เลยเยอะหน่อย”
กู้หยุนหลันนั่งที่โต๊ะทำงานและเริ่มทำงาน หลี่โม่ลากเก้าอี้มานั่งข้างๆ และช่วยกู้หยุนหลันจัดการเอกสาร
ขณะที่ทั้งสองกำลังทำงาน เสียงฝีเท้าที่เดินอย่างรีบร้อนดังขึ้น เลขาผลักประตูห้องเข้ามา “ประธาน มีคนชื่อว่าหลงโป บอกว่ามาขอโทษคุณหลี่”
“หลงโปคือใคร”
กู้หยุนหลันถามอย่างสงสัย
“เอ่อ”
หลี่โม่รู้สึกกลุ้มใจ ถ้าหลงโปมาเพื่อแก้แค้น หลี่โม่ยังพอเข้าใจได้ แต่นี่เขามาขอโทษทำผีอะไร
อย่าบอกนะว่าที่แพ้เมื่อวาน ทำให้หลงโปเปลี่ยนนิสัย เตรียมที่จะมาเรียนสกิลการขับรถกับเขา เหมือนคางเหวินซิง
“หลงโปคือคนที่แข่งรถแพ้ผมเมื่อวาน คิดไม่ถึงว่าเขาจะมาขอโทษ”
หลี่โม่พูดอธิบาย และกำลังคิดว่าหลงโปมาขอโทษจริงหรือเปล่า หรือแค่อ้างว่ามาขอโทษ แต่มาสร้างเรื่อง
“อ๋อ”
กู้หยุนหลันตอบ จากนั้นจึงพูดว่า “หรือนายจะไปจัดการข้างนอก เอกสารเยอะ อย่าให้เขาเข้ามาเลย รบกวนเวลางานฉัน”
“ได้ ผมจะออกไปดูว่าเขามาทำอะไร”
หลี่โม่ลุกขึ้น และเดินออกไปนอกห้องทำงาน เขาเห็นหลงโปที่กำลังหิ้วถุงเล็กถุงใหญ่ อยู่ตรงทางเดิน
ตงจื่อเดินตามอยู่ข้างหลัง ในมือหิ้วถุงเต็มไปหมด ทั้งสองเหมือนคนที่กำลังมาติดสินบน
เมื่อเห็นหลี่โม่เดินออกมา หลงโปตากระตุก เขากัดฟันแค่นยิ้มออกมา
“สหายหลี่โม่ ขอโทษจริงๆ เรื่องเมื่อคืนเป็นความผิดของฉันเอง ฉันมาทำตามที่เดิมพันเอาไว้ ฉันจะเป็นหมารับใช้ของนาย”
ตอนที่หลงโปพูดออกมา ในใจก็สบถด่าหลี่โม่ไม่หยุด
นี่มันน่าอายมาก! เป็นความอัปยศในชีวิตของหลงโป! ฉันจะเอาคืนแกเพิ่มเป็นอีกเท่า!
ความเคียดแค้นฉายออกมาจากแววตาของหลงโป แต่สุดท้ายเขาก็เก็บความแค้นเอาไว้ในใจ
หลี่โม่มองหลงโปอย่างยียวน เขาเอามือลูบคางแล้วพูดว่า “ฉันไม่ได้ขาดหมารับใช้ คนอย่างนาย ไม่เหมาะสมที่จะเป็นหมารับใช้ของฉัน เชิญกลับไปซะ”
หลงโปอึ้งไป จากนั้นความโมโหก็ปรากฏบนใบหน้าของเขา
แต่ไหนแต่ไรมา ไม่ว่าหลงโปจะเดินไปไหน ก็มีแต่คำชม วันนี้เขายอมเป็นหมารับใช้ แต่กลับโดนเมิน ทำให้คนที่มีความโอหังอย่างหลงโปรับไม่ได้
“นายหมายความว่าอะไร ฉัน……”
หลงโปสูดหายใจลึก เพื่อระงับความโกรธในใจตัวเอง เขาก้มหน้าพูดว่า “ฉันมาขอโทษจริงๆ ฉันยอมเป็นหมารับใช้ของนายอย่างเต็มใจ”
“แต่ดูนายจะไม่เต็มใจสักนิด ฉันกลัวว่าจะเข้าใจผิด เอาจิ้งจอกมาเลี้ยงเป็นหมาไว้ในบ้าน แล้วมันจะสร้างปัญหาในอนาคต”
ตงจื่อยิ้มแห้งและรีบพูดไกล่เกลี่ย “เข้าใจผิดแล้วครับๆ ก่อนหน้านี้พวกคุณเข้าใจผิดกันเล็กน้อย ทำไมถึงไม่ยอมให้อภัยกันล่ะ หลงโปมาขอโทษถึงที่แล้ว คุณหลี่เป็นคนใหญ่คนโตที่ใจกว้าง ให้โอกาสเขาสักครั้งเถอะ”
“นายเป็นใคร มีสิทธิ์อะไรมาพูด”
หลี่โม่พูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก
“ผม ผมเป็นเพื่อนของหลงโป”
ตงจื่อพูดสอพลอ เขาตกใจกับความน่าเกรงขามของหลี่โม่
เขาส่งสายตาให้หลงโปช่วยเหลือตัวเอง ตงจื่อถอยไปข้างหลัง เขาตัดสินใจไม่เข้าไปก้าวก่ายอีก
ขืนไปก้าวก่ายเรื่องแบบนี้ ผลที่ได้ไม่ใช่เรื่องดี สุภาษิตกล่าวไว้ถูกต้อง เทพเทวดาตีกัน มนุษย์โลกรับกรรม ถ้าหลานชายของราชาใหญ่ของสำนักหลงเหมินกับเจ้านายของสำนักหลงเหมินตีกันขึ้นมา ตงจื่อไปช่วยใครก็ไม่เป็นการดีทั้งนั้น
หลงโปหลับตาลง ถ้าไม่ใช่เพราะการข่มขู่ของท่านแปด เขาสะบัดตูดไปนานแล้ว
“หลี่โม่ จะให้ทำยังไง นายถึงจะให้อภัยฉัน นายพูดมาเลย ฉันจะทำตาม หรือนายจะให้ฉันคุกเข่าขอโทษ”
“ฉันล่ะแปลกใจ ทำไมนายถึงมาขอโทษฉัน นี่ไม่ใช่นิสัยนายนิ”
หลงโปเงียบไป จากนั้นจึงพูดขึ้น “ท่านแปดบังคับฉันมา ฉันไม่มีทางเลือก เลยต้องมาขอโทษนาย พอใจหรือยัง”
“อ้อ ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เอง ฉันไม่เคยรับคำขอโทษที่ไม่จริงใจ นายไสหัวไปได้แล้ว”
หลี่โม่พูดจบก็เดินกลับห้องทำงาน หลงโปโยนของในมือทิ้ง และเดินเข้าไปหาหลี่โม่ เขากะจะดึงแขนของหลี่โม่เอาไว้
แววตาของหลี่โม่ฉายแววเย็นยะเยือก จากนั้นก็เตะไปที่ขาของหลงโป จนหลงโปกระเด็นออกไป
“ฉันบอกให้ไสหัวไป ได้ยินหรือยัง ไม่งั้นฉันจะไม่เกรงใจ”
หลงโปสะกดกลั้นความเจ็บปวด และคุกเข่าลงบนพื้น เขาพูดเหมือนจะร้องไห้ “คุณหลี่ให้อภัยด้วย ให้อภัยฉันด้วยเถอะ”
“ฉันให้อภัยนาย ไสหัวไปซะ อย่ามาวุ่นวายกับฉันอีก”
หลี่โม่พูดจบก็กลับไปที่ห้องทำงาน และปิดประตูลงอย่างแรง
ตงจื่อโยนของในมือทิ้ง และประคองหลงโปที่กำลังคุกเข่าขึ้นมา “นายจะลำบากไปทำไม นี่นายมาหาเรื่องใส่ตัวชัดๆ”
“นายคิดว่าฉันเต็มใจเหรอ ถ้าให้ตาเฒ่ากระจอกอย่างท่านแปด โทรไปบอกปู่ฉัน ปู่ฉันคงรีบมาจัดการฉันน่ะสิ ฉันไม่อยากถูกขังไว้ในห้องใต้ดินที่บ้านนะโว้ย!”
“เฮ้อ ทุกบ้านล้วนมีปัญหาของตัวเองสินะ”
ตงจื่อทอดถอนใจและประคองหลงโปออกมาอย่างรวดเร็ว