เสือผีและท่านทะไลลามะโตหลุนเอาคนที่อยู่ในมือยัดเข้าที่นั่งด้านหลัง หลังจากที่ยัดทั้งสี่คนแล้ว เสือผีและท่านทะไลลามะโตหลุนมองหน้ากันยิ้ม แล้วขึ้นรถพร้อมกัน
เสือผีที่เป็นคนขับขับรถออกไป ท่านทะไลลามะโตหลุนหันกลับไปมองสี่คนด้านหลังที่กำลังสลบอยู่ จู่ๆก็รู้สึกขึ้นมาว่ามีอะไรไม่ปกติ
เสือผีขับรถไปด้วยและถามไปด้วยว่า “นายกำลังดูอะไร?”
“ฉันรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างไม่ปกติ มือของพวกเขาสี่คนดูแล้วต่างก็หยาบกร้านทั้งนั้น ถ้าจะบอกว่ามือพ่อแม่ของกู้หยุนหลันก็ยังว่าไปอย่าง แต่ว่ากู้หยุนหลันและยัยเด็กเฉินเสี่ยวถงนั่นมือไม่ควรที่จะหยาบขนาดนี้มั้ง?”
เอี๊ยด!
เสือผีเหยียบเบรกทันที จากนั้นก็เปิดหลังคารถ และเปิดประตูรถลงไป
ดึงประตูที่นั่งด้านหลังออก เสือผีลูบผมของคนหนึ่งออก เตรียมที่จะดูใบหน้าของคนๆนั้น
แต่มือเพิ่งจะจับเข้าที่ผม ผมนั่นก็ถูกเสือผีดึงหลุดออกมา นั่นมันคือวิกผม
“เหี้ยเอ้ย!”
เสือผีตกใจจนสบถคำหยาบออกมา จากนั้นก็ยื่นมือออกไปดึงผมของอีกสองคนอย่างโมโห
เป็นวิกผมเหมือนกัน หลังจากที่วิกผมถูกดึงออก ก็ปรากฏใบหน้าของแม่บ้านและคนรับใช้สาวให้เห็น
“ดูแล้วแผนการของนายจะใช้ไม่ได้นะ หลี่โม่ป้องกันแผนการล่อเสือออกจากถ้ำไว้แต่แรกแล้ว ไม่รู้ว่าลูกน้องที่นายจัดเตรียมไว้ที่สุสานใต้ดินเป็นยังไงบ้าง”
ท่านทะไลลามะโตหลุนเหล่ตาพูด
เสือผีโมโหเป็นอย่างมาก รู้สึกไม่ดีไปทั้งตัว
ความรู้สึกที่ว่าตัวเองโดนหลอกผุดขึ้นในใจของเสือผี เดิมทีเสือผีอยากจะหลอกหลี่โม่ แต่ว่าตอนนี้กลับถูกหลี่โม่หลอกซะได้
แผนที่จะจับกู้หยุนหลันมาขู่หลี่โม่ใช้ไม่ได้แล้ว เหลือทางเดียวคือปะทะต่อหน้ากับหลี่โม่แล้ว
“หลี่โม่ที่สมควรตาย! กล้าหลอกฉัน! ฉันจะทำให้มันไม่ตายดีแน่ คนของฉันอาจจะจับมันไม่ได้ แต่ว่าก็สามารถยื้อมันไว้ได้!”
เสือผีพูดจนจบด้วยความเกลียดชัง ล้วงเอาโทรศัพท์ส่งข้อความให้ลูกน้อง
แต่เมื่อส่งข้อความไปแล้วก็ยังไม่ได้การตอบกลับสักที ในใจของเสือผีถึงกับหมดหวังไปครึ่งหนึ่ง
“ขึ้นรถ พวกเราต้องรีบไปขัดขวางหลี่โม่ไว้ คืนนี้จะต้องจับเขาไว้ให้ได้!”
เสือผีพูดอย่างโมโห
ท่านทะไลลามะโตหลุนส่ายหัวเล็กน้อย นิ้วโป้งกำลังทำการขยับแตะนิ้วอื่นๆเบาๆ เห็นได้ชัดว่ากำลังคำนวณอะไรบางอย่างอยู่
“ตำแหน่งสถานที่สุสานใต้ดินเป็นที่โหดร้าย ห้ามไปอีกเด็ดขาด แต่พวกเราสามารถเฝ้ารอเหยื่ออยู่ที่คฤหาสน์ก็ได้” ท่านทะไลลามะโตหลุนพูดช้าๆ
“เฝ้ารอเหยื่อ?” เสือผีมองท่านทะไลลามะโตหลุนด้วยสายตาสงสัย
ท่านทะไลลามะโตหลุนพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ใช่แล้ว เฝ้ารอเหยื่อ พวกเรารอหลี่โม่กลับมาก็พอแล้ว”
“แล้วถ้าหลี่โม่ไม่กลับมาละ?”
เสือผีรู้สึกว่าโอกาสที่หลี่โม่จะกลับมามีไม่มากนัก ตอนนี้ลลี่โม่ยังคาดคิดได้ว่าพวกเขาทำการล่อเสือออกจากถ้ำ ก็ไม่มีเหตุผลที่จะกลับมาที่คฤหาสน์แน่นอนอยู่แล้ว
“เหอะๆ คนฉลาดมักจะมั่นใจตัวเองเสมอ หลี่โม่จะต้องกลับมาดูที่คฤหาสน์แน่นอน วางใจเถอะ พวกเรารอในคฤหาสน์ก็พอแล้ว พวกคนที่จับมาก็โยนกลับเข้าห้องนอนก็พอแล้ว”
ท่านทะไลลามะโตหลุนทำท่าทางเหมือนสามารถรับมือได้ทุกอย่าง เหมือนว่าทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของเขา
ถึงแม้ว่าเสือผีจะอยากปฏิเสธ แต่ก็ลังเลไปสักพัก แล้วก็ค่อยๆพยักหน้า และตกลงกับแผนการของท่านทะไลลามะโตหลุน
ทั้งสองคนเอาคนใช้ทั้งสี่ที่เพิ่งยกออกมาเมื่อกี้ยกกลับเข้าไปอีกครั้ง ถือเป็นการทำเรื่องไร้ประโยชน์ชัดๆ
……..
หลี่โม่เข้าไปในสุสานใต้ดิน ไม่นานก็เกิดการต่อสู้กับลูกน้องของเสือผี แต่ว่าลูกน้องพวกนั้นของเสือผีไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลี่โม่ด้วยซ้ำ ไม่นานก็ถูกหลี่โม่ฆ่าตายจนหมด
หลังจากที่จัดการลูกน้องของเสือผีแล้ว หลี่โม่เดินเข้าไปใจกลางสุสานใต้ดิน
ปากของฟางรั่วเสว่ถูกยัดผ้าไว้ ถูกใช้เชือกมัดอยู่บนเก้าอี้ไว้ทั้งตัว
เมื่อเห็นว่าหลี่โม่มา ดวงตาของฟางรั่วเสว่ก็น้ำตาไหลออกมา ขยับตัวตะเกียกตะกายขึ้นมา แล้วยังส่งเสียงอื้อๆออกมา คิดว่าคงกำลังขอให้ช่วย
หลี่โม่จ้องมองฟางรั่วเสว่อย่างละเอียด จากนั้นก็ยื่นมือไปหยิบเอาผ้าในปากของฟางรั่วเสว่ออกมา
ฟางรั่วเสว่น้ำตาทะลักไหลออกมา มองหลี่โม่อย่างเศร้าใจ “ครอบครัวฉัน ครอบครัวของฉันตายหมดแล้ว ตายเพราะนายหมดแล้ว!”
“ฉันคิดไม่รอบคอบเอง” หลี่โม่พูดด้วยสายตาเสียใจ
“คิดไม่รอบคอบแค่ประโยคเดียว นายก็อยากจะหนีความรับผิดชอบทั้งหมดงั้นหรอ? แต่ว่าครอบครัวของฉันเป็นสิบชีวิตเลยนะ!”
ฟางรั่วเสว่ตะโกนอย่างหนัก
มองดูครอบครัวของตัวเองถูกฆ่าตายต่อหน้าต่อตา เมื่อฟางรั่วเสว่นึกถึงภาพนั้น ก็รู้สึกว่าจะเสียสติไปแล้ว
“ฉันจะแก้แค้นให้พวกเขาแน่นอน เธอวางใจได้”
“แก้แค้นมีประโยชน์อะไร? คนตายฟื้นคืนชีพไม่ได้ ถึงแม่นายจะแก้แค้นแล้วพวกเขาก็มองไม่เห็น! ฉันเกลียดนาย เกลียดนายที่สุด!”
หลี่โม่เหล่ตามอง จากนั้นก็ยื่นมือออกไปด้วยรอยยิ้มขมขื่น และแกะเชือกที่ตัวปล่อยฟางรั่วเสว่
“งั้นเธอก็มาตีฉันสิ มาตีฉันระบายอารมณ์ได้เลย”
ฟางรั่วเสว่สะบัดเชือกบนตัวออก ลุกขึ้นแล้วกำหมัดทุบไปที่หลี่โม่
แต่ว่าตีไปไม่กี่ครั้ง ฟางรั่วเสว่ก็ล้มลงในอ้อมกอดของหลี่โม่แล้วร้องไห้
“ตีนายจนตายแล้วมีประโยชน์อะไร พวกเขาไม่ฟื้นขึ้นมาแล้ว ไม่ฟื้นแล้ว! ฮือๆๆ ต่อไปฉันจะทำยังไง”
ฟางรั่วเสว่ร้องไห้ในอ้อมกอดของหลี่โม่เหมือนกับเด็กน้อย ไม่นานน้ำตาก็ทำเอาเสื้อของหลี่โม่เปียก
หลี่โม่ก้มหน้ามองฟางรั่วเสว่ด้วยสีหน้าสงบนิ่ง ในใจรู้สึกว่าฟางรั่วเสว่มีอะไรผิดปกติ แต่ก็พูดไม่ออกว่าผิดปกติตรงไหน
“เรื่องอนาคตเธอไม่ต้องเป็นห่วง ฉันจะจัดการทุกอย่างของเธอไว้เอง”
หลี่โม่พูดเสียงต่ำ
“เหอะๆ นายจัดเตรียมไว้ให้ฉัน นายมีสิทธิ์อะไรถึงจัดเตรียมให้ฉัน นายเป็นคนที่ทำให้ครอบครัวของฉันต้องตาย นายเตรียมจะหางานให้ฉันทำสักอย่าง แล้วก็ไล่ฉันไปใช่มั้ย!”
“ไม่เป็นอย่างนั้นแน่นอน ฉันหลี่โม่คนนี้ทำทุกอย่างก็ทำให้ดีมีมโนธรรมเสมอ”
หลี่โม่พูดอย่างจริงจัง
“มโนธรรม? นายยังมีมโนธรรมหรอ? มโนธรรมของนายถูกหมากินไปหมดแล้ว! ครอบครัวฉันตายกันหมดแล้ว นายกลับไม่มีสีหน้าเศร้าเสียใจเลยสักนิด นายยังกล้าพูดเรื่องมโนธรรมที่นี่อย่างหน้าไม่อาย!”
ฟางรั่วเสว่อ้าปากอย่างโมโห แล้วกัดเข้าที่หัวไหล่ของหลี่โม่
หลี่โม่ไม่หลบปล่อยให้ฟางรั่วเสว่กัดหัวไหล่ของตัวเองไป เหตุการณ์ของตระกูลฟางยังไงแล้วก็มีความเกี่ยวข้องกับหลี่โม่ ในใจหลี่โม่เองก็เต็มไปด้วยการกล่าวโทษตัวเอง
ฟางรั่วเสว่รู้สึกได้ว่าในปากของตัวเองมีกลิ่นเลือด ถึงได้ปล่อยปากออก ถอยหลังสองก้าวแล้วจ้องมองหลี่โม่ “นาย บอกว่าจะช่วยครอบครัวฉันแก้แค้น ต้องใช้เวลานานแค่ไหนนายถึงจะสามารถช่วยครอบครัวฉันแก้แค้นได้!”
“ไม่นาน อย่างเร็วเดี๋ยวก็สามารถช่วยครอบครัวเธอแก้แค้นได้แล้ว”
“ได้! ฉันเชื่อนาย งั้นนายก็รีบพาฉันไปแก้แค้นเถอะ ฉันจะใช้หัวของพวกมันมาใช้ไว้อาลัยให้กับดวงวิญญาณบนท้องฟ้าของคนในครอบครัวตระกูลฟางของเรา!”
หลี่โฒ่ค่อยๆพยักหน้า ไม่ได้พูดอะไรมาก หันหลังพาฟางรั่วเสว่เดินออกไปทางด้านนอกของสุสานใต้ดิน
ออกมาจากสุสานใต้ดินแล้วก็ขึ้นรถ หลี่โม่ขับรถมุ่งหน้าสู่คฤหาสน์บนยอดเขา