บทที่ 65 Vienna Concert Hall
ทันใดนั้นก็มีคนๆหนึ่งพุ่งเข้ามา
หลี่โม่หายใจหอบมองดูโทรศัพท์ในมือของกู้หยุนหลัน ยื่นมือไปหยิบอย่างธรรมชาติ แล้วพูดยิ้มๆว่า “ฉันลืมเอาโทรศัพท์”
กู้หยุนหลันหันกลับมา กลอกตาใส่หลี่โม่ “แม่บอกว่าตอนเย็นให้นายซื้อผักกลับมาด้วย”
หลี่โม่ตอบรับ “ได้”
แล้วเขาก็ถามต่ออย่างไม่วางใจว่า “โทรศัพท์ เธอไม่ได้ดูอะไรใช่มั้ย….”
กู้หยุนหลันฟังแล้วมือหนึ่งเท้าเอว อีกมือบิดหูหลี่โม่ แล้วด่าว่า “หลี่โม่ นายหมายความว่าไง?สงสัยว่าฉันแอบดูโทรศัพท์นาย?โทรศัพท์ของนาย ฉันไม่สนใจหรอก อีกอย่าง ในโทรศัพท์นายมีความลับอย่างนั้นหรอ?”
หลี่โม่เห็นท่าทางโมโหของกู้หยุนหลัน แล้วก็ยิ้มอ่อนๆ “ไม่ ไม่มี…..”
หึ!
กู้หยุนหลันแกล้งโมโหแล้วกลอกตาใส่หลี่โม่ แล้วก็หันหลังกลับ “ฉันโมโหแล้ว”
หลี่โมมองแผ่นหลังที่จากไปของกู้หยุนหลัน ในใจก็สบายใจไปเปราะหนึ่ง ก้มหน้าอ่านดูเนื้อหาของข้อความ
หลังจบเทศกาลดนตรี การพบปะกับคุณจิ่วสืออีร่างเป็นการส่วนตัว จัดการเรียบร้อยแล้วครับ อยู่ที่ Vienna Concert Hall ที่ใหญ่ที่สุดของเมืองฮ่านครับ
หลี่โม่ตอบกลับ : “เดี๋ยวฉันไปดูการจัดแต่งของห้องดนตรี”
ยังไงซะก็เป็นนักเปียโนที่กู้หยุนหลันชอบที่สุด มีชื่อเสียงในนานาชาติ การจัดการและการตกแต่งของห้องดนตรี จะต้องดูดีหรูหราที่สุด
นี่คือของขวัญหนึ่งที่เขามอบให้กู้หยุนหลัน
หลายปีมาแล้ว เขาไม่เคยให้ของขวัญอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันแก่กู้หยุนหลันเลย
…………….
หลังจากหลี่โม่ออกจากบ้านก็ไปโรงพยาบาลก่อน ไปเล่นกับซีซีสักพัก แล้วก็ไปร้านเสริมสวยสปา Beautiful lady ถือว่าไปเจอกับพนักงานทุกๆคน แล้วก็จัดการตารางงาน
ยังไงซะร้านเขาก็ซื้อมาแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำอะไรเอง
จากนั้นเขาก็ไป Vienna Concert Hall เพื่อไปดูงานที่เฉียนฝูจัดการไว้
Vienna Concert Hall ในเมืองฮ่านถือว่าเป็นห้องแสดงดนตรีที่ในที่สุดแล้ว จะมีงานเทศกาลดนตรีมาจัดทุกเดือน คนที่มาที่นี่ ส่วนมากจะเป็นพวกคนรวยหรือพวกยศสูงๆ เป็นคนมีชื่อเสียง
เพราะงั้นที่นี่ก็ถูกเรียกว่าศูนย์รวมคนรวยเช่นกัน
หญิงสาวหลายคนที่อยากจับคนรวยก็มักจะรออยู่หน้าประตูห้องดนตรีเสมอ เมื่อเจอพวกลูกคนรวยหรือพวกเถ้าแก่รวยๆก็จะรุกเข้าไปเสนอตัว
หลี่โม่ขับมอเตอร์ไซค์มาจนถึง Vienna Concert Hall มองดูแล้ว ห้องโชว์รูมนี้มันมีสไตล์ที่ไม่ธรรมดาจริงๆ
หรูหรา ไม่เว่อร์วังอลังการเกินไป และดูมีความหมาย
รูปแบบการก่อสร้างของ Vienna Concert Hall ทั้งหมด เป็นเรือใบที่คว่ำอยู่ ใหญ่ตระหง่านตา โดยรวมแล้วก็เป็นรูปแบบตารางเส้น ใช้สีทองเป็นหลักแล้วตัดด้วยสีขาว ทำให้ดูหรูหรามาก หน้าประตูทั้งสองข้างยังมีรูปปั้นเทวดาสีทอง ถือเครื่องดนตรีไว้ เหมือนดั่งสวรรค์
ส่วนที่อยู่ทางหน้าประตูทางเข้าของ Vienna Concert Hall นั้นมีรูปปั้นแกะสลักหินแกรนิตประติมากรรมครึ่งคนสีทองอยู่ สีทองล้วน เป็นผลงานของสถาปนิกท่านหนึ่งออกแบบ Vienna Concert Hall ชื่อหม่าผิงเทียน
สถาปนิกอันดับต้นๆของนานาชาติ สามปีถึงจะมีผลงานออกแบบมาหนึ่งชิ้น ทุกๆผลงานมีคนกว่าหมื่นคนที่ชื่นชอบ และแย่งกันซื้อเก็บไว้
และ Vienna Concert Hall นี้ก็เป็นผลงานชิ้นสุดท้ายของหม่าผิงเทียน
ดังนั้น คนที่จะมาจัดเทศกาลดนตรีที่ Vienna Concert Hall ได้นั้นจะต้องเป็นที่มีชื่อเสียงและโด่งดังเป็นอย่างมาก
รวมทั้งผู้คนที่สามารถเข้าออก Vienna Concert Hall ได้ก็ถือเป็นบุคคลระดับต้นของเมืองฮ่าน
หลี่โม่ยืนอยู่หน้าประตู มองดูรูปปั้นสักพัก แล้วก็ยกยิ้มที่มุมปาก “ที่แท้ก็เป็นผลงานของตาแก่นี้ น่าเบื่อจริงๆ”
นึกถึงตอนนี้ หม่าผิงเทียนนั้นตามติดหลี่โม่เพื่อจะขอออกแบบสร้างตึกให้เขา
หลี่โม่รำคาญที่ตอนนั้นเขามาบ้านทุกๆวัน ก็เลยเอาเงินออกมาให้ไม่กี่พันล้าน เพื่อให้เขาเอาไปสร้างรีสอร์ตบนดอย
ไม่มีทางเลือก การได้สร้างรีสอร์ตให้นายน้อยสำนักหลงเหมินนั้นเป็นความฝันของสถาปนิกหลายคน
หลี่โม่หัวเราะเยาะตัวเอง แต่ตอนนี้สถานการณ์ไม่เหมือนเดิมแล้ว
แล้วเขาก็ยกเท้าเดินเข้าไปด้านในห้องโถง
“สวัสดีค่ะคุณผู้ชายท่านนี้ ขณะนี้ห้องดนตรีไม่เปิดให้บุคคลอื่นเข้ามาชั่วคราวค่ะ”
หน้าประตู มีพนักงานต้อนรับหญิงหน้าตาดีคนหนึ่ง ใส่เสื้อพนักงานสีทองอ่อน บนคอยังผูกผ้าพันคอไหมปักลายดอกสีทองขาวไว้
หลี่โม่ตกใจ มองไปที่หญิงสาว แล้วยิ้มอ่อนๆ “ฉันมาหาคน”
“ขอถามว่าคุณมาหาใครคะ ดิฉันจะช่วยถามให้ค่ะ”
หนักงานต้อนรับสาวมีมารยาทมาก ไม่ได้ทำตัวแตกต่างเพราะหลี่โม่แต่งตัวธรรมดา
“ฉันหา…….”
หลี่โม่กำลังจะพูด ตรงหน้าประตูก็มีสาวสวยหุ่นดีคนหนึ่งรีบเดินอย่างโมโห มาถึงก็ตัดบทสนทนาของพวกเขาทันที
ชุดพนักงานสีทองอ่อนเหมือนกัน แต่ว่าผ้าไหมบนคอเป็นสีแดงและปักลายดอกกล้วยไม้ไว้
หน้าตาไม่เลว รูปร่างก็ดี แต่ว่าดูแล้วท่าทางอวดดี
รองเท้าส้นสูงนั้นเหยียบบนพื้นกระเบื้องหินแกรนิตเสียงดัง “ตึงๆๆ”ก็สามารถฟังออกได้ว่ามาด้วยความอารมณ์เสีย
“สูหาน เธอทำอะไรอยู่ ประกาศไปแล้วไม่ใช่หรอ ว่าห้องดนตรีไม่เปิดให้บุคคลอื่นเข้ามาชั่วคราว ห้ามใครสักคนเข้ามาไง?!”
เมื่อมาถึงตรงหน้าหลี่โม่ ก็ชี้หน้าพนักงานสาวคนนั้นแล้วก่นด่า
“พี่เสี่ยวหย่า คุณผู้ชายท่านนี้บอกว่ามาหาคนค่ะ”ใบหน้าของสูหานแสดงออกถึงความกลัว แล้วรีบอธิบายอย่างร้อนรน
ซุนเสี่ยวหย่าเป็นหัวหน้าของพนักงานต้อนรับสาวที่ Vienna Concert Hall มีนิสัยหยิ่ง ปกติก็ทำตัวรุนแรงต่อทุกคน เป็นอย่างนี้มาตลอด ถ้ามีอะไรที่ไม่พอใจ ก็จะใช้ทุกคนมาเป็นที่ระบายอารมณ์เสมอ
เมื่อได้ฟังประโยคนี้จากสูหาน ซุนเสี่ยวหย่าก็ใช้สายตามองดูสภาพของหลี่โม่ ขมวดคิ้วแล้วถามอย่างสงสัย “นายหาใคร?”
คนเรานี่นะ แต่งตัวธรรมดา นี่มันสินค้าตลาดนัดมั้ง คนจนอย่างนี้ ยังมาหาคนที่ Vienna Concert Hall ?
อ้อ ใช่สิ น่าจะเป็นพวกคนงานเข้ามาช่วยขนของ
“สวัสดี ฉันขื่อหลี่โม่ มาหา….”
หลี่โม่ยิ้มแล้วพูด
“ช่างเถอะๆ ฉันรู้แล้ว ใครจะอยากรู้ว่านายชื่ออะไร นายตามฉันมาละกัน”ซุนเสี่ยวหย่าโบกมือตัดคำพูดของหลี่โม่ หันหลังกลับไปถลึงตาใส่สูหาน แล้วใช้มือหยิกไปบนแขนของเธอ “เธอเฝ้าประตูไว้ อย่าปล่อยคนขยะอะไรเข้ามาได้ง่ายๆ ถ้าทำเทศกาลดนตรีวันมะรืนพัง เธอได้โดนดีแน่!”
สูหานนวดๆบนแขนของเธอ น้ำตาคลอ ก้มหน้าขอโทษไม่หยุด แล้วยังหางตามองไปที่หลี่โม่ แล้วยิ้มให้เขานิดหน่อย
หลี่โม่ก็ยิ้มกลับอย่างมีมารยาท ในใจคิดว่าผู้หญิงคนนี้อายุก็ไม่เยอะ แต่ว่ามีมารยาทกับผู้คนมาก นิสัยอ่อนโยน
ไม่ได้คิดอะไรมาก หลี่โม่ก็เดินตามซุนเสี่ยวหย่าเข้าไปข้างในของห้องดนตรี
หลี่โม่อดไม่ได้ที่จะมองดูด้านหลังของเธอ ก้นงอนๆส่ายไปมา จึกๆ…
เป็นผู้หญิงที่น่าดึงดูดจริงๆ
“นายดูอะไร?!”
ทันใดนั้น!
ซุนเสี่ยวหย่าที่อยู่ข้างหน้าก็หันหลังกลับมา จ้องไปที่หลี่โม่ด้วยใบหน้าเย็นชาและขยะแขยง
“หา?ไม่ ไม่มีอะไร……ฉันก็แค่ดูไปเรื่อยเปื่อย….”หลี่โม่อึดอัดนิดหน่อย
ถูกเขาจับได้แล้ว
ซุนเสี่ยวหย่าเอามือทั้งสองข้างกอดอกไว้ ทำเสียงหึอย่างเย็นชา “เหอะๆ คนงานอย่างนายฉันเจอมาเยอะแล้ว ถ้านายยังดูไปเรื่อย ระวังฉันจะหาคนมาควักลูกตานาย!”