จู่ๆ สายตาที่เฉินชิงเหมยมองหลี่โม่ก็เปลี่ยนไป ดวงตาสุกสกาวมองไปที่หลี่โม่ ไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่
หลี่โม่หาวออกมา และพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ยอมแพ้หรือยัง”
ราชามือไวนั่งลงบนเก้าอี้อย่างยอมแพ้ จากนั้นจึงพยักหน้าพูดด้วยน้ำเสียงสิ้นหวัง “ฉันยอมแพ้แล้ว ฉันนับถือนาย ฉันไม่ถือสาหาความกับเฉินชิงเหมยอีก”
หลี่โม่เคาะโต๊ะ แล้วพูดกับพวกเจ้าพ่อ “พวกคุณเข้าใจชัดเจนแล้วใช่ไหม ตอนนี้มาคิดบัญชีที่เราพนันกันไว้ข้างนอกดีกว่า”
พวกเจ้าพ่อมองหน้ากันเลิ่กลั่ก เงินร้อยล้านไม่ใช่เงินจำนวนน้อยๆ สำหรับพวกเขา ถึงจะเฉลี่ยกัน ก็ต้องใช้เงินคนละหลายสิบล้าน
“เมื่อกี้ใครพนันกับนาย มีหลักฐาน มีพยานหรือเปล่า อย่าคิดว่าตัวเองเป็นนักเลงในพื้นที่ แล้วพวกเราจะกลัว”
“จะไปพูดมากทำไม รีบเรียกพวกลูกน้องมาสิ ถ้ามันกล้าทำอะไรเหิมเกริม ก็จัดการมันเลย”
พวกเจ้าพ่อปฏิเสธอย่างน้ำขุ่นๆ ตอนนี้เพราะเงิน ทำให้พวกเขาลืมสิ่งที่ผู้บงการสั่งให้ทำจนหมดสิ้น
เฉินชิงเหมยดึงแขนเสื้อหลี่โม่เบาๆ จากนั้นพูดว่า “พอแค่นี้ดีกว่า จะเอาเงินจากคนพวกนี้ ไม่ง่ายหรอก เรารีบไปกันเถอะ”
“เงินของหลี่โม่ ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เหมือนกัน ในการพนันไม่มีพี่น้อง แพ้แล้วก็ต้องจ่าย”
หลี่โม่นั่งบนเก้าอี้ไม่ไปไหน เฉินชิงเหมยไม่สามารถดึงเขาได้
เฉินชิงเหมยกระทืบเท้าอย่างร้อนใจ แต่เธอก็รู้ว่านิสัยหลี่โม่ไม่ดี เกลี้ยกล่อมไปก็ไร้ประโยชน์ เธอร้อนใจจนน้ำตาคลอเบ้า
สีหน้าของราชามือไวเปลี่ยนไปหลายต่อหลายครั้ง เขาคิดถึงคำสั่งของคนที่บงการ และลุกขึ้นพูดไกล่เกลี่ย “สหายทุกท่าน เห็นแก่หน้าของฉัน พวกนายเอาเงินให้คุณหลี่เถอะ”
“ทำไมต้องให้ด้วย เราไม่ได้เสกเงินได้นะ อยู่ๆ ก็จะมาเอาเงินของเรา ไม่มีทางหรอก!” เจ้าพ่อที่กำลังโกรธ ปรบมือเรียกบอดี้การ์ดสิบกว่าคนเข้ามา
“ลูกพี่!” บอดี้การ์ดสิบกว่าคนตะโกนอย่างพร้อมเพรียงจนน่าตกใจ
“เอาอาวุธออกมา ให้คุณหลี่ได้เห็นความน่าเกรงขามของเรา”
บอดี้การ์ดเอากระบองสองท่อนออกมา และสะบัดมันออกอย่างพร้อมเพรียง
พรึ่บๆๆ
กระบองสองท่อนที่พับเอาไว้ ถูกสะบัดออกมา แต่ละอันยาวประมาณหนึ่งเมตร มันส่องแสงแวววาว
ราชามือไวมีสีหน้าทุกข์ใจ เขาหงุดหงิดในใจ เพราะเจ้าพ่อพวกนี้ไม่ไว้หน้าเขาเลย ถ้ามีเรื่องกันขึ้นมา แล้วทำให้คำสั่งล้มเหลว ราชามือไวรับผลที่ตามมาไม่ได้แน่นอน
“สหายทั้งหลาย พวกนายจะไม่ไว้หน้าราชามือไวอย่างฉันจริงเหรอ ครั้งนี้ฉันอยู่ข้างหลี่โม่นะ ในเมื่อแพ้แล้วก็ห้ามหนีหนี้ ฉันยืนยันได้ว่าเมื่อกี้พวกนายพนันกับคุณหลี่ไว้ข้างนอก”
พวกเจ้าพ่อโมโหมาก พวกเขามองราชามือไว้ที่เห็นขี้ดีกว่าไส้ ด้วยแววตาโกรธเคือง
“ราชามือไว! นายมันเลี้ยงเสียข้าวสุก พวกเรายืนข้างนาย แต่นายกลับทรยศเรา”
“ฉันไม่ได้ทรยศ ฉันอยู่ในวงการพนัน ต้องปกป้องกติกา ถ้าทุกคนไม่ทำตามกติกา ฉันคงไม่ต้องอยู่ในวงการนี้แล้ว การที่เรามาอยู่ในวงการนี้ สิ่งสำคัญที่สุดคือกติกาไม่ใช่เหรอ”
หลี่โม่มองราชามือไวอย่างชื่นชม เขาคิดว่าราชามือไวยังเป็นคนมีพรสวรรค์ สายตาหลักแหลม ความคิดว่องไว ความสามารถในการเลือกพรรคพวกถือว่าดีมาก
ราชามือไวเห็นสายตาของหลี่โม่ เขาจึงยิ้มและพูดว่า “วางใจเถอะคุณหลี่ เรื่องทั้งหมดให้ฉันจัดการเอง”
ราชามือไวเดินเข้าไปหาพวกเจ้าพ่อ และเรียกมาคุยเบาๆ
หลังจากพูดจบ สีหน้าของพวกเจ้าพ่อไม่สู้ดี
ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เจ้าพ่อที่มีอำนาจสูงสุดเอ่ยขึ้น “คุณหลี่ เรายอมแพ้แล้ว เอาเลขบัญชีมา เราจะโอนเงินให้”
“ถือว่าพวกคุณอยู่เป็น ถ้าพวกคุณไม่ให้เงิน วันนี้อย่าหวังว่าจะได้ไปไหน ผมรู้ว่าในใจของพวกคุณยังไม่พอใจ งั้นผมจะทำให้พวกคุณยอมรับ”
หลี่โม่พูดจบก็ยืนขึ้น ขณะที่ทุกคนมองด้วยความสงสัย หลี่โม่เดินไปหาบอดี้การ์ดสิบกว่าคน ที่มีกระบองสองท่อนอยู่ในมือ
“พวกนายเข้ามาพร้อมกันได้เลย ฉันใช้ท่าเดียวก็จัดการพวกนายได้หมดแล้ว ให้ลูกพี่ของพวกนายได้เห็นสักหน่อย”
บอดี้การ์ดรับคำเย้ยหยันไม่ได้ จึงพากันควงกระบองสองท่อนเข้ามาหาหลี่โม่
หลี่โม่ลงมืออย่างรวดเร็ว เขาเดินท่ามกลางเหล่าบอดี้การ์ดอย่างสบายๆ เมื่อหลี่โม่ชะงักฝีเท้าลง เหล่าบอดี้การ์ดก็ล้มลงกับพื้น ส่วนกระบองสองท่อนในมือพวกเขาหักจนหมด
พวกเจ้าพ่อมองหลี่โม่อย่างตะลึง เม็ดเหงื่อซึมออกจากหน้าผาก พวกเขาคิดในใจว่าตัวเองยังโชคดี
“ยังดีที่ราชามือไวรั้งพวกเขาไว้ ไม่งั้นคนที่นอนอยู่บนพื้นคงเป็นเรา”
“ไอ้หมอนี่โหดร้ายมาก ลงมือราวกับปีศาจ มองไม่ออกเลยว่าเขาทำยังไง”
หลังจากที่พวกเจ้าพ่อหายกลัว สีหน้าของพวกเขาไม่สู้ดีเป็นอย่างมาก
“ที่แท้ก็เป็นวีรบุรุษที่ยังอายุน้อย คุณหลี่เป็นวีรบุรุษยุคใหม่ ต่อไปต้องมีชื่อเสียงไปทั่วแน่ๆ พวกเรานับถือในตัวคุณหลี่มาก”
“อะไรคือต่อไป ตอนนี้คุณหลี่ก็คือผู้โดดเด่นท่ามกลางผู้คน ต่อไปถ้าคุณหลี่ต้องการอะไร เรียกใช้พวกเราได้เลย พวกเราพอมีอำนาจด้านการขนส่งทางน้ำ”
หลี่โม่กระแอมออกมา และมองทุกคนด้วยสีหน้าราบเรียบ
พวกเจ้าพ่อรู้ทันที และรีบโอนเงินให้หลี่โม่ ไม่นานหลี่โม่ก็ได้รับข้อความเงินเข้า
เมื่อเห็นจำนวนเงิน หลี่โม่จึงพยักหน้าอย่างพอใจ “ขอบใจที่พวกคุณทำให้ผมหาเงินได้เร็วขนาดนี้ ไปละ”
หลี่โม่พาเฉินชิงเหมยออกมา พวกเจ้าพ่อกับราชามือไวส่งหลี่โม่ด้วยสีหน้าทุกข์ใจ
เมื่อออกมาจากโรงแรม หลี่โม่กะจะกลับเลย แต่เขาทนคำขอร้องของเฉินชิงเหมยไม่ไหว จึงไปส่งเธอกลับที่พัก
เมื่อเห็นเฉินชิงเหมยเปิดประตู หลี่โม่จึงหันหลังกลับ แต่ทว่าเฉินชิงเหมยรั้งแขนเขาไว้ เธอพูดอย่างออดอ้อนว่า “หลี่โม่ ครั้งนี้ลำบากคุณแล้ว คุณไม่เข้ามานั่งข้างในเหรอ”
“ทำไมต้องนั่งด้วย คุณจะทำอะไร บอกแล้วไงว่าผมมีเจ้าของแล้ว จะทำอะไรตามใจชอบกับผู้หญิงคนอื่นได้ยังไง”
เฉินชิงเหมยอึ้งไปครู่หนึ่ง จึงเข้าใจคำพูดของหลี่โม่ แต่ตอนนี้หลี่โม่เดินไปไกลแล้ว
เธอโมโหจนกระทืบเท้า และเดินเข้ามาในห้อง จากนั้นจึงปิดประตูลงอย่างแรง เธอทุบลงบนกำแพง เหมือนเห็นกำแพงเป็นหลี่โม่อย่างไรอย่างนั้น
“น่าโมโหชะมัด หลี่โม่น่าโมโหจริงๆ แต่ไหนแต่ไร มีแต่ผู้ชายแย่งกันเอาใจฉัน ตอนนี้ฉันไปเอาใจเขา แต่เขากลับไม่สนใจสักนิด น่าโมโหชะมัด!”
หลังจากระบายอารมณ์เสร็จ เฉินชิงเหมยรู้สึกดีขึ้นมาก เธอเทน้ำดื่มอย่างรวดเร็ว ทว่าตอนนี้มีเสียงแกรกดังขึ้นเบาๆ จากนอกประตู