ปัง!
เสียงปืนดังก้องกังวานขึ้น ระหว่างคิ้วของฮ่วยซัวมีรูหนึ่งเพิ่มเข้ามา เลือดค่อยๆไหลออกมาผสมกับสมอง
ในสายตาของฮ่วยซัวมีความไม่พอใจ มีความตกใจ มีความอาลัยอาวรณ์
พลังในร่างกายหมดลงอย่างรวดเร็ว ร่างกายของฮ่วยซัวเอียงตัวล้มลงกับพื้น และหมดลมหายใจไปในที่สุด
“ท่าทางทำได้ไม่เลว แต่ว่าช้าไปสักหน่อย” หลี่โม่วิจารณ์ท่าทางของฮ่วยซัว จากนั้นก็รีบก้าวเดินไปยังหน้าจอกล้องวงจรปิด
ในโกดังนั้นไอ้หลิวจับตัวเฉินเสี่ยวถงไว้ได้แล้ว กำลังใช้สายรัดทำการรัดแขนขาของเฉินเสี่ยวถงไว้ ทำการควบคุมอิสระในการขยับตัวของเฉินเสี่ยวถง
เมื่อทำทั้งหมดเสร็จแล้ว ไอ้หลิวก็มองไปทางกล้องวงจรปิดที่อยู่บนประตูโกดัง ค่อยๆเปิดหน้ากากออก ปรากฏรอยยิ้มได้ใจให้เห็น
“ไอ้หนุ่ม ผู้หญิงของแกอยู่ในกำมือของฉัน ถ้าอยากช่วยเธอ ก็รีบมาซะเถอะ! นาแกร่งมากจริงๆ แต่ว่าฉันนั้นก็ชอบท้าทายความแกร่ง นายทำให้ฉันมีความสุขมาก เกมของพวกเราเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น ฮ่าๆๆ”
เสียงของไอ้หลิว ดังออกมาจากลำโพง ลำโพงคุณภาพต่ำทำให้เสียงของไอ้หลิวฟังดูแปลกประหลาด
สีหน้าของหลี่โม่มีความมืดขรึมเล็กน้อย กำปืนสั้นในมือแน่น แล้วรีบเดินลงจากหอคอย
เพิ่งเดินออกมาจากหอคอย หลี่โม่ก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้น
โดรนเครื่องหนึ่งกำลังบินอยู่ที่ไม่ไกลนัก มองเห็นด้านล่างของโดรนมีกระบอกยิงปืนที่ติดตั้งไว้ หลี่โม่ก็หรี่ตาลงเล็กน้อย
ปังๆๆ!
โดรนทำการเปิดฉากยิงกระสุนออกมาก่อน แรงกระทบทำให้โดรนสั่นสะท้านอยู่ในอากาศ ดูแล้วเหมือนกับว่าเครื่องจะพังกระจายได้อยู่ตลอดเวลา
ขณะเดียวกันแรงกระทบก็มีผลต่อความแม่นยำของการยิง กระสุนยิงทำให้เกิดควันเขม่ารอบกายหลี่โม่เป็นวงกลม แต่ว่ากลับไม่มีกระสุนสักนัดที่ยิงโดนหลี่โม่
“Fuck!” ไอ้หลิวที่ทำการควบคุมโดรนอยู่ส่งเสียงสบถออกมา
ขยับจอยสติ๊กของโดรน ไอ้หลิวอยากจะให้โดรนบินถอยกลับมา จากนั้นค่อยหาโอกาสยิง
แต่ว่าหลี่โม่ยกปากกระบอกปืนขึ้นแล้ว ส่ายหัวไปด้วยและเหนี่ยวไกปืนไปด้วย
“ของเล่นเด็กๆก็เท่านั้น ระเบิดของนายและโดรน จริงๆแล้วเป็นแค่สิ่งของมือสมัครเล่นก็เท่านั้น”
หลี่โม่พึมพำคนเดียว กระสุนถูกยิงออกจากปากกระบอก
โดรนในอากาศกระตุกอย่างแรงทีหนึ่ง และส่งเสียงดังเพล้งออกมา จากนั้นก็ตกลงมาจากบนฟ้า
หลี่โม่มองดูโดรนที่ตกลงมาแล้วเกิดเปลวเพลิงทีหนึ่ง จากนั้นก็ก้าวขาเดินไปยังโกดัง
ไอ้หลิวมองดูตัวควบคุมที่หน้าจอดับไปแล้ว ก็ได้โยนตัวควบคุมลงพื้นอย่างแรง
“แม่งเอ้ย วันนี้กูออกจากบ้านมาไม่ได้ดูฤกษ์มงคลแน่เลย ถึงได้เจอกับเรื่องเฮงซวยมากมายขนาดนี้ แต่ก็ยังดี ที่ยังมีสาวสวยอย่างเธอเป็นตัวประกัน
ตอนนี้เป็นเวลาที่จะทดสอบความสัมพันธ์ของพวกแกสองคนแล้ว ดูสิว่าความสัมพันธ์ของพวกแกนั้นหนักแน่นมากจริงๆมั้ย แกคอยภาวนาขอให้มันรักแกมากกว่ารักตัวเองเถอะ”
ไอ้หลิวพูดอย่างชั่วร้าย ยื่นมือไปดึงให้เฉินเสี่ยวถงล้มลงมาที่ด้านหน้าของตัวเอง ใช้ปืนเล็งขมับของเฉินเสี่ยวถงไว้ แล้วก็ลากเฉินเสี่ยวถงเดินออกจากประตูโกดัง
มองดูหลี่โม่ที่เดินมาแต่ไกล ไอ้หลิวตะโกนเสียงดังว่า “ทิ้งปืนของแกซะ แล้วเอาสองมือกุมหัวเดินเข้ามา”
หลี่โม่โยนปืนสั้นทิ้งอย่างง่ายดาย แล้วเอาสองมือกุมหัวเดินเข้าไปหาไอ้หลิวอย่างรวดเร็ว
ไอ้หลิวจับปืนในมือแน่น รู้สึกว่าฝ่ามือที่ตื่นเต้นมีเหงื่อออกเล็กน้อยแล้ว
เฉินเสี่ยวถงมองดูหลี่โม่ที่ก้าวเดินเข้ามา ดวงตามีน้ำตารื้นขึ้นมา เป็นเพราะตัวเธอเองไร้ประโยชน์ ถูกจับมาเป็นตัวประกัน ตอนนี้ก็ต้องมาลำบากหลี่โม่อีก
“หลี่โม่ นายอย่าเข้ามานะ นายไปซะ เก็บปืนขึ้นมาสู้กับเขา ไม่ต้องสนใจฉัน!” น้ำตาที่ดวงตาของเฉินเสี่ยวถงไหลริน ตะโกนขึ้นเสียงดัง
เฉินเสี่ยวถงไม่อยากเป็นภาระของหลี่โม่ และยิ่งไม่อยากให้หลี่โม่ได้รับบาดเจ็บเพราะตัวเธอเอง
เฉินเสี่ยวถงยอมให้ตัวเองตายแล้วให้หลี่โม่มาแก้แค้นให้ แบบนี้จะทำให้หลี่โม่จดจำเธอไว้ในใจไปตลอดชีวิต
ไอ้หลิวใช้ปืนกดลงที่ขมับของเฉินเสี่ยวถงอย่างแรง พูดด้วยความโมโหอย่างหนักว่า “อีผู้หญิงบ้า หุบปากของแกซะ ถ้าหากว่ากล้าพูดมากอีกฉันจะฆ่าแกซะก่อน”
“ฆ่าสิ แกรีบฆ่าฉันสิ ฉันรอให้แกฆ่าอยู่” เฉินเสี่ยวถงตะคอกอย่างไม่หวาดกลัวสักนิด
“แกแม่ง!” ไอ้หลิวสบถคำหนึ่ง แล้วถลึงตามองหลี่โม่ที่เดินมาใกล้ระยะห่างประมาณ 7-8 เมตรแล้ว “หยุด แกยืนอยู่ตรงนั้นอย่าขยับ ไม่อย่างนั้นฉันจะฆ่าอีนี่ซะ”
หลี่โม่หยุดตามคำพูดของไอ้หลิว มองไปยังเฉินเสี่ยวถงด้วยสายตาอ่อนโยน เป็นสัญญาณบอกให้เฉินเสี่ยวถงสงบลงอย่าได้ตื่นเต้นไป
สายตาของหลี่โม่เหมือนกับว่ามีเวทมนตร์ เฉินเสี่ยวถงมองดูสายตาที่อ่อนโยนของหลี่โม่ จิตใจก็ค่อยๆสงบลง
ถ้าหากว่าตอนนี้ไม่ได้ถูกใช้เป็นตัวประกันอยู่ เฉินเสี่ยวถงอยากจะซบลงไปในอ้อมกอดของหลี่โม่ แล้วบอกว่าความรักที่เธอมีต่อเขานั้นมากมายสักแค่ไหน
หลี่โม่เห็นว่าเฉินเสี่ยวถงสงบสติได้แล้ว สายตาก็มองไปยังไอ้หลิว พูดอย่างยิ้มแย้มว่า “เจอกันอีกแล้วนะ ไอ้หลิว”
“เหอะๆ ใช่ เจอกันอีกแล้ว เดิมทีไม่ได้อยากจะเจอกับแกแบบนี้ สามารถบีบฉันให้มาถึงจุดนี้ได้ แกนั้นเป็นคนแรกเลย” ไอ้หลิวพูดอย่างเกลียดชัง “ถ้าหากว่าแกอยากจะช่วยอีนี่ แกก็ทำตามที่ฉันพูดซะ”
ไอ้หลิวล้วงเอาสายรัดหลายเส้นโยนให้หลี่โม่ “รัดแขนขาของแกด้วยตัวเองซะ วันนี้ฉันจะเล่นเกมให้สนุกสักหน่อย”
เฉินเสี่ยวถงมองดูหลี่โม่ที่ก้มตัวลงไปเก็บสายรัด ก็พยายามตะโกนร้องว่าไม่เอา
แต่ว่าหลี่โม่เหมือนกับว่าไม่ได้ยิน ก้มตัวหยิบสายรัดขึ้น แล้วก็รัดสองขาของตัวเองไว้อย่างคล่องแคล่ว
ของสิ่งนี้หลี่โม่เล่นบ่อย ถึงขั้นสามารถเล่นออกมาได้หลายรูปแบบ แต่ว่าการรัดไว้ที่ตัวเองนี่ก็เป็นครั้งแรก
หลังจากที่รัดขาทั้งสองเสร็จ หลี่โม่ก็ใช้สายรัดทำให้รัดเป็นวง แล้วก็สวมเข้ามือสองข้างของตัวเอง จากนั้นก็ใช้ฟันกัดสายรัด แล้วสองแขนออกแรงดึงลงด้านล่าง สองแขนก็ถูกรัดไว้อย่างแน่นหนาแล้ว
ไอ้หลิวมองดูหลี่โม่ที่สองแขนขาถูกรัดไว้แล้ว ใบหน้าก็ปรากฏรอยยิ้มชั่วร้ายขึ้น
วินาทีนี้ไอ้หลิวคิดว่าในที่สุดทุกอย่างก็กลับสู่ปกติ กลับสู่ในการควบคุมของตัวเอง
“ไม่เลว ใช้สายรัดได้คล่องแคล่วดีนี่ ดูแล้วแกก็น่าจะเป็นไอ้คนที่ชอบเล่นแบบนี้เป็นปกตินี่”
สายรัดพวกนี้เป็นระดับของพวกทหารใช้ ไอ้หลิวคิดว่าถึงแม้หลี่โม่จะเป็นราชาทหาร ก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากพันธนาการของสายรัดได้อย่างรวดเร็ว
และแค่เพียงหลี่โม่มีการขยับตัว ไอ้หลิวก็สามารถยิงหัวของหลี่โม่ได้ตลอดเวลา
หลี่โม่วางแขนสองข้างที่ถูกรัดไว้ด้วยกันลง ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองไปที่ไอ้หลิว แล้วยิ้มออกมา
“ฉันทำตามที่แกบอกแล้ว ตอนนี้ปล่อยเธอไปได้รึยัง เรื่องระหว่างลูกผู้ชายของเรา ก็อย่าได้ลากผู้หญิงเข้ามาข้องเกี่ยว”
ไอ้หลิวยกปากกระบอกปืนที่เล็งขมับของเฉินเสี่ยวถงขึ้น มองไปที่หลี่โม่ด้วยสีหน้าบิดเบี้ยว
เมื่อพูดถึงผู้หญิง ทำให้ไอ้หลิวนึกถึงหลายเรื่องราวที่ไม่ดีขึ้น คำว่าผู้หญิงกลายเป็นจุดอ่อนของไอ้หลิวไปแล้ว
ในตอนที่เขากำลังทำหน้าที่สายลับ ผู้หญิงของเขาและเพื่อนที่ดีที่สุดของเขาแอบเป็นชู้กัน และเพื่อนคนนั้น ก็คือหัวหน้าของไอ้หลิว ตั้งแต่ที่รู้เรื่องนี้ ไอ้หลิวก็เปลี่ยนไป ใช้เวลาวางแผนคิดหาวิธีจัดการหัวหน้าของตัวเอง
ในระหว่างที่กำลังฆ่าทรมานหัวหน้า ไอ้หลิวก็ชอบการฆ่าคนในที่สุด เขาเริ่มเปลี่ยนลูกเล่นในการฆ่าคน
สุดท้ายแล้วไอ้หลิวก็ก่อตั้งกลุ่มฆาตกรนี้ขึ้นมา ทั้งสามารถฆ่าคนให้พอใจต่อความต้องการของตัวเอง แล้วยังสามารถหาเงินมาใช้ชีวิตสุขสบายได้ด้วย