บทที่ 22 การจัดอันดับนักฆ่าห่วย ๆ
แววตาของชายชุดดำโหดร้ายราวกับอสรพิษ มันก็มากพอที่จะซุนหยิงรับรู้ได้ถึงความอันตรายจนตัวเขาเริ่มสั่นกลัว
“วูบบบบ!”
เพียงพริบตาเดียวร่างของชายชุดดำหายไปอย่างไร้ร่องรอย ชายชุดดำปรากฏขึ้นอีกครั้งตรงเบื้องหน้าของซุนหยิง ก่อนจะยกมือขึ้นหมายจะฟาดลงไป
ระลอกคลื่นเล็ก ๆ เกิดขึ้นตามอิทธิฤทธิ์ของแผ่นหยก ฝ่ามือที่หมายจะฟาดลงมาเมื่อครู่ถูกสกัดกั้นเอาไว้ ไม่ได้ส่งผลใด ๆ ต่อซุนหยิง
“ปังงงง!”
เสียงดังขึ้นทำให้แววตาของชายชุดดำเปลี่ยนไป ก่อนจะหมุนตลบพลิกตัวกลับ
แววตาของชายชุดดำแฝงไปด้วยความร้ายกาจแต่กลับมีแววตาของความตกตะลึงและแขนก็สั่นเบา ๆ ซุนหยิงปาดเหงื่อบนหน้าผากออก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ทำให้เขาตกใจไม่น้อย ฝีมือของชายชุดดำน่ากลัวจริง ๆ ไม่มีเวลาให้เขาได้รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ
“ชักสนุกขึ้นมาแล้วสิ!” เสียงของชายชุดดำดูแหบแห้ง แววตาเริ่มร้อนแผดเผาบ่งบอกถึงความอยากรู้อยากเห็น เมื่อตอนที่เขาแอบสังเกตซุนหยิงก็มีความรู้สึกแปลก ๆ ฝ่ามือเมื่อครู่ก็แค่การหยั่งเชิงดูเท่านั้น ดูเหมือนว่าการคาดคะเนของเขาจะเป็นจริง ซุนหยิงมีของดีอยู่กับตัว ของดีแบบนี้มันจะต้องตกเป็นของเขาเท่านั้น
“วูบบบ!”
ร่างของชายชุดดำไหวตัวอีกครั้ง แต่เป้าหมายกลับเป็นเฉินฮั่นหลง ถ้าจับเฉินฮั่นหลงได้ เขามั่นใจว่าซุนหยิงจะต้องยอมส่งของนั้นมาให้เขาแต่โดยดีแน่นอน
“พี่หลง ระวัง!” ซุนหยิงตะโกนขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อนจะรีบวิ่งไปที่เฉินฮั่นหลงหมายจะขัดขวาง
แต่เป็นเพราะชายชุดดำนั้นเร็วมาก ๆ เพียงพริบตาเดียวก็อยู่ตรงหน้าของเฉินฮั่นหลงแล้ว เฉินฮั่นหลงเย็นไปทั้งมือทั้งเท้า พอต้องเผชิญหน้ากับชายชุดดำ เขาไม่สามารถขัดขืนใด ๆ ได้เลย
พวกลูกน้องในกลุ่มเหยี่ยวมังกรยังไม่ทันได้มีปฏิกิริยาตอบสนองใด ๆ มือของชายชุดดำก็บีบอยู่ที่คอของเฉินฮั่นหลงอย่างรวดเร็ว
“หยุดนะ!” ซุนหยิงจ้องมองอีกฝ่ายอย่างโกรธแค้นและร้องออกมาจนสุดเสียง ชายชุดดำหันมามองเขาด้วยสายตาที่บ่งบอกถึงความไม่ชอบใจ ใบหน้าของเฉินฮั่นหลงซีดลง เขารู้ดีว่าความตายยากที่จะหลีกเลี่ยง ฝ่ามือของชายชุดดำทาบอยู่บนคอของเฉินฮั่นหลงเรียบร้อยแล้ว
ในขณะนี้เอง ฝ่ามือที่ซีดขาวราวกับคมมีดนั้นพุ่งออกมาและปาดลงเบา ๆ
“ซือออ” เสียงมันเหมือนกับมีดที่หั่นลงบนก้อนเต้าหู้
ชายชุดดำกลับรู้สึกว่าเขาไม่สามารถควบคุมมือตัวเองได้ ถึงกับไม่รู้สึกถึงมือของตัวเองอีกแล้ว
“ปึก!”
ฝ่ามือหนึ่งตกกระทบพื้นจนเกิดเสียงดัง ชายชุดดำยืนมองมือที่ตกอยู่บนพื้น ก่อนจะกลับมาดูข้อมือที่ไร้ซึ่งฝ่ามือของตัวเอง….
มือที่ตกลงเมื่อครู่นั้น คือมือของเขา? มือของเขาขาดได้ยังไง? ทำไมถึงไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวด ไม่มีเลือดไหล? และในตอนที่เขากำลังคิดเรื่องนี้อยู่นั่นเอง
ความรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวก็แล่นจากข้อมือไปจนทั่วร่างกาย ทำให้ทั้งร่างของเขาชักขึ้นด้วยความเจ็บปวด
“อ๊ากกก…”
ชายชุดดำอดไม่ได้ที่จะร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด พอเสียงร้องนั้นดังขึ้น เลือดสด ๆ ก็ไหลออกมาจากข้อมือของชายชุดดำพุ่งไปรดบนตัวของเฉินฮั่นหลง
เฉินฮั่นหลงเลือดไหลอาบ เขาหันไปมองรอบ ๆ และทันใดนั้นก็อุทานออกมา “นายท่าน”
สีหน้าของซุนหยิงเองก็เต็มไปด้วยความดีใจ “นายท่าน”
ฉู่ชวิ๋นพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะสะบัดมือเบา ๆ
“ปังงง!” ชายชุดดำเหมือนโดนค้อนหนัก ๆ ทุบเต็มตัว กระอักเลือกและกระเด็นปลิวออกไปราวสิบเมตร ลูกน้องพวกกลุ่มเหยี่ยวมังกรยืนแข็งเป็นหิน
พวกเขาเคยเจอฉู่ชวิ๋นมาก่อน และก็เคยเห็นเฉินฮั่นหลงกับซุนหยิงเคารพฉู่ชวิ๋นเป็นอย่างดี เมื่อก่อนพวกเขาไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่ตอนนี้รู้แล้วเพียงแค่ฉู่ชวิ๋นสะบัดมือเบา ๆ ก็จัดการทำเอาคนที่พวกเขาคิดว่าเป็นราชาปีศาจราวกับหมา นี่มันอะไรกัน? สายตาของพวกเขาที่มองฉู่ชวิ๋นเปลี่ยนไปมีทั้งความเคารพและความหวาดกลัว
“พวกนายไม่เป็นอะไรสินะ?” ฉู่ชวิ๋นถาม เฉินฮั่นหลงกับซุนหยิงส่ายหัว ก่อนจะชายตามองไปยังลูกสมุนที่ตายไปสายตาก็เปลี่ยนเป็นโศกเศร้า
“พวกเขาเป็นใครกัน?” ฉู่ชวิ๋นมองไปที่ศพคนชุดขาวแล้วถามขึ้น
“เป็นคนของตระกูลไป๋” ซุนหยิงพูดขึ้นมาด้วยความโกรธแค้น สายตาของฉู่ชวิ๋นบ่งบอกถึงความดุดัน เขาประมาทไปจริง ๆ เขาคิดว่าคนของตระกูลไป๋ไม่น่าจะยอมจำนนโดยง่าย แต่คิดไม่ถึงว่าจะส่งคนมาลงมือแบบนี้
“แล้วเขาเป็นใคร?” ฉู่ชวิ๋นมองไปที่ชายชุดดำ
ถ้าเขามาช้าอีกนิดเดียว เฉินฮั่นหลงก็คงจะตายไปแล้ว เฉินฮั่นหลงส่ายหัว ก่อนจะเล่าเรื่องราวหลังจากที่เจอชายชุดดำพอฉู่ชวิ๋นฟังจบ ก็เข้าสู่ภวังค์ความคิด
ในขณะเดียวกันนี้เอง ชายชุดดำที่กระเด็นไปไกลเกือบสิบเมตร ก็ถือโอกาสนี้ลุกขึ้นมาแล้ววิ่งหนีออกไป ใครจะรู้ว่าชายชุดดำนั้นยังจะสามารถลุกขึ้นหนีได้อีก
เฉินฮั่นหลงกับซุนหยิงยิ่งคิดไม่ถึงเข้าไปใหญ่ เรื่องมือขาดไม่เท่าไหร่ แต่โดนฉู่ชวิ๋นซัดไปขนาดนั้นยังหนีได้อีก? แต่บอกเลยฉู่ชวิ๋นคิดเรื่องนี้ไว้ก่อนแล้ว เขาแสยะยิ้มก่อนจะหายตัวไป
“ปัง!”
ชายชุดดำที่เพิ่งจะหายไปอย่างรวดเร็วเมื่อครู่ กระเด็นกลับมาที่เดิม ร่างของฉู่ชวิ๋นปรากฏขึ้นข้าง ๆ ชายชุดดำ พร้อมกับแววตาที่เย้ยหยัน
“ฉันถามนายตอบ อย่าคิดหนี เพราะมันจะทำให้นายตายเร็วขึ้นไปอีก” แววตาของชายชุดดำบ่งบอกถึงความกลัวและเลือดที่ข้อมือก็ยังคงไหลอยู่ เขาเชื่อมั่นในความเร็วของตัวเองมาโดยตลอด แต่เรื่องเมื่อกี้นี้มัน?
เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉู่ชวิ๋นมาอยู่ตรงหน้าเขาได้ยังไง? ชายชุดดำรู้ดีว่าเมื่อเทียบกันเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า ฝีมือมันคนละชั้นกันเกินไป
เขาพยักหน้าเมื่อได้ยินที่ฉู่ชวิ๋นพูด เขาละทิ้งความพยายามที่จะหลบหนีในตอนนี้คิดอยู่อย่างเดียวคือพอตอบคำถามจบจะขอให้คนตรงหน้าไว้ชีวิตเขา
“นายเป็นใคร?” ฉู่ชวิ๋นถาม
“ดอกบัวดำ” ชายชุดดำบอกด้วยความภูมิใจเล็ก ๆ แววตาของฉู่ชวิ๋นบ่งบอกถึงความสงสัย
“นายคือดอกบัวดำ?”
“ดอกบัวดำที่อยู่อันดับที่สิบ ของวงการใต้ดิน?” เฉินฮั่นหลงกับซุนหยิงตกตะลึง พอเห็นสายตาของฉู่ชวิ๋น เฉินฮั่นหลงก็รีบพูดขึ้นทันที
“นายท่านอาจจะไม่รู้ว่าดอกบัวดำคนนี้เป็นนักฆ่าอันดับสิบ ในวงการใต้ดิน”
“อันดับอะไรนะ?” ฉู่ชวิ๋นถามอย่างสงสัย
“อันดับวงการใต้ดิน คือการจัดอันดับนักฆ่าในประเทศเราจะเรียกง่าย ๆ ก็คือเครื่องมือของคนมีเงิน” เฉินฮั่นหลงเล่าอย่างละเอียด ฉู่ชวิ๋นฟังจบก็เข้าใจการจัดอันดับจริง ๆ แล้วก็คือการจัดอันดับบนเว็บที่มีไว้สำหรับจัดการปัญหาให้กับพวกคนรวยโดยเฉพาะ
แน่นอนหน้าเว็บไม่ใช่ใครก็สามารถเข้าไปดูได้ มีเพียงคนกลุ่มน้อยเท่านั้นที่รู้ และคนพวกนี้ก็ล้วนแล้วแต่เป็นพวกที่มีอำนาจบาตรใหญ่ทั้งนั้น คนธรรมดาไม่มีทางที่จะจ่ายค่าตอบแทนไหวแน่ ๆ
ฉู่วิ้นส่ายหัวด้วยความเหยียดหยามและพูดขึ้น “พวกนายจะบอกว่านี่คือนักฆ่าที่อยู่อันดับสิบ?” เฉินฮั่นหลงไม่เข้าใจว่าทำไมฉู่ชวิ๋นถึงถามขึ้นมาแบบนี้แต่ก็พยักหน้า
ฉู่ชวิ๋นหัวเราะก่อนจะพูดขึ้น “ฮ่าฮ่า ดูเหมือนว่าการจัดอันดับนักฆ่านี่มันจะห่วยไปหน่อยนะ คนแบบนี้ก็สามารถอยู่อันดับที่สิบ ได้งั้นเหรอ?”
ตอนแรกเขาก็สนใจเรื่องการจัดอันดับนักฆ่านี่อยู่หรอก แต่พอได้ยินเฉินฮั่นหลง พูดออกมาแบบนี้แล้วความสนใจก็หมดลงไปเลย
ชายชุดดำกระตุกตา สองถึงสามครั้ง อันดับสิบ ที่เขาได้มาไม่ใช่เพราะมีการจัดอันดับห่วย ๆ แต่เป็นเพราะวันนี้*ก้าวเท้าออกจากบ้านผิดข้าง มาเจอกับคนอย่างฉู่ชวิ๋นต่างหาก
*ก้าวเท้าออกจากบ้านผิดข้าง หมายถึงโชคร้าย
ฉู่ชวิ๋นไม่ได้ถามอะไรขึ้นอีก เฉินฮั่นหลงกับซุนหยิงก็เงียบไป เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องถามอะไรอีกแล้ว ดอกบัวดำเป็นนักฆ่า ที่ทำแบบนี้ก็ต้องเป็นเพราะถูกจ้างมา คงจะมีคนจากในเว็บจ้างมาฆ่าคนพวกนี้
สีหน้าของเฉินฮั่นหลงกับซุนหยิงหวาดกลัว การที่โดนนักฆ่าติดอันดับตามฆ่าแบบนี้มันไม่ใช่เรื่องที่น่าสนุกเลยสักนิด ซุนหยิงนึกคิดได้ก็เลยเอาโน้ตบุ๊กออกมา
“พี่หลง พี่ก็รู้จักเว็บนี้ไม่ใช่เหรอ? พวกเราลองเข้าไปดู” ซุนหยิงพูดขึ้น เฉินฮั่นหลงพยักหน้า ก่อนจะเข้าเว็บและใส่รหัส
พอเข้ามาหน้าเว็บได้ตัวหนังสือสีเลือดคำว่า ฆ่า ก็ปรากฏออกมาทันที เว็บนี้มันง่าย ๆ ด้านในมีเพียงแค่อันดับนักฆ่าและภารกิจเท่านั้น เฉินฮั่นหลงกดไปที่ภารกิจ มือก็สั่นจนเกือบทำโน้ตบุ๊กตกพื้น
“นายท่าน” เฉินฮั่นหลงพูดด้วยอาการตกตะลึง ฉู่ชวิ๋นก็มาดูเช่นกัน หน้าต่างภารกิจคือ ตามฆ่าฉู่ชวิ๋น เงินรางวัลสูงถึงหนึ่งร้อยล้าน
ชื่อ : ฉู่ชวิ๋น
อายุ : 21
ส่วนสูง : 180 เซนติเมตร
ผู้ว่าจ้างเหมือนจะรู้จักฉู่ชวิ๋นเป็นอย่างดี นอกจากเรื่องฝึกตนแล้วเรื่องอื่น ๆ ก็เขียนได้อย่างละเอียด ขนาดเรื่องที่เพิ่งออกจากคุกมาก็เขียนไว้อย่างชัดเจน รวมถึงเรื่องที่ออกจากคุกมาแล้วฆ่านักฆ่าอย่าง*ป้านเตี้ยวจึ
*ป้านเตี้ยวจึ ชื่อของชายที่ดักฆ่า ฉู่ชวิ๋น ตอนพึ่งออกจากคุกใหม่ ๆ
แต่ความอันตรายกลับเขียนไว้ว่า…..ไม่ทราบและอีกอย่างภารกิจนี้ก็มีคนรับไปแล้ว ฉู่ชวิ๋นไม่แสดงท่าทางใด ๆ ออกมาทางสีหน้า แต่ในใจกลับไม่ได้เป็นอย่างนั้น ดูเหมือนว่าคนที่ใส่ร้ายให้เขาต้องติดคุกจะเริ่มวางแผนบางอย่างแล้ว
สีหน้าของเฉินฮั่นหลงกับซุนหยิงบ่งบอกถึงความตกใจ คนที่เขาเคารพอย่างฉู่ชวิ๋นเคยติดคุก? เรื่องแบบนี้มันไร้สาระชัด ๆ เพราะพวกเขาคิดว่ามันเป็นเรื่องโกหกทั้งเพ ใครมันจะเก่งถึงขั้นเอาเทพเซียนเข้าคุกได้?
ฉู่ชวิ๋นไม่พูดอะไร พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะถาม เฉินฮั่นหลงยังคงหาภารกิจที่ตามฆ่าตัวเองกับซุนหยิงต่อ และเป็นไปตามคาด เมื่ออันหลังสุดคือภารกิจตามฆ่าเขากับซุนหยิงด้วยเงินรางวัล ห้าแสนหยวน
“นานท่าน ดูนี่ครับ” เฉินฮั่นหลงชี้ไปยังวันที่ด้านล่าง เฉินฮั่นหลงไม่ต้องชี้ฉู่ชวิ๋นก็เห็นอยู่ก่อนแล้ว ทั้งสองภารกิจประกาศในวันเดียวกัน เพียงครู่เดียวฉู่ชวิ๋นก็เข้าใจว่าเป็นเพราะคนที่อยู่เบื้องหลังอยากจะตัดปีกของเขา
สรุปง่าย ๆ เลยก็คือ เรื่องที่เฉินฮั่นหลงกับซุนหยิงเกือบตายก็เพราะเขานั่นเอง ความโกรธมันมากจนล้นออกมา
“ปัง!”
ฉู่ชวิ๋น ชกหมัดลงไปที่พื้นจนพื้นแยกออกจากกัน คนที่อยู่รอบ ๆ ต่างหายใจแบบติด ๆ ขัด ๆ หมัดที่เพิ่งจะชกลงไปมันทะลุร่างของชายชุดดำลงไปจนถึงพื้นที่แตกเป็นรอยแยก ความโกรธในใจของฉู่ชวิ๋นยังคงปะทุขึ้นมาเรื่อย ๆ ราวกับหมาป่าที่กระหายเลือด
ในเมื่อพวกมันอยากตาย เขาก็จะจัดการพวกมันด้วยมือของเขาเอง ฉู่ชวิ๋นตอนนี้เต็มไปด้วยความน่ากลัวและดุดัน ตระกูลไป๋ เริ่มจากพวกแกเลยก็แล้วกัน!
“พาตัว ไป๋เซ่าออกมา” ฉู่ชวิ๋นพูดขึ้น อึดใจเดียวสมุนของกลุ่มเหยี่ยวมังกรก็เอาตัวไป๋เซ่าออกมา
ตอนนี้ไป๋เซ่ามีสภาพเหมือนขอทาน แววตาเหม่อลอย มือขวาไร้ซึ่งนิ้วมือ รอยบาดแผลที่ผ้าพันแผลสีขาว ม้วนกันเป็นก้อนกลม
พอสมุนทั้งสองปล่อยมือออก ไป๋เซ่าก็รีบคุกเข่าลงก้มคำนับ พร้อมกับร้องไห้ออกมา “ถือว่าผมขอร้องนะ….ปล่อยผมไปเถอะ คุณอยากได้อะไรผมจะให้หมดเลย ผมจะเอาเงินให้พวกคุณ เงินเยอะ ๆ เลย ขอร้องล่ะ ปล่อยผมไปเถอะนะ…..” ไป๋เซ่ามีอาการเหมือนคนบ้ามากขึ้นทุกที
ฉู่ชวิ๋นวางมือลงบนไหล่ของไป๋เซ่า ฝ่ามือมีพลังลมปราณรวมตัวกันเป็นก้อนกลม ๆ ไม่นานก่อนจะแทรกเข้าไปในตัวของไป๋เซ่า แน่นอนว่าคนที่อยู่รอบ ๆ ไม่มีใครรู้สึกอะไรเลย
“ปล่อยมันไป” ฉู่ชวิ๋นชักมือกลับแล้วพูดขึ้น ไป๋เซ่าเงยหน้าขึ้นมองฉู่ชวิ๋นอย่างรวดเร็วด้วยท่าทางที่ไม่อยากจะเชื่อ ไท้ถานก้าวออกมาพร้อมกับขยับปากเหมือนจะพูดอะไรแต่ก็ไม่ได้พูดออกมา
เฉินฮั่นหลงกับซุนหยิงหันมาสบตากัน พวกเขารู้สึกสัมผัสแต่ก็ไม่อยากจะขัดคำสั่งของฉู่ชวิ๋น
“ยังไม่รีบไปอีก!!” ซุนหยิงถีบเข้าที่ตัวของไป๋เซ่า
ไป๋เซ่าตัวสั่นและแสดงสีหน้าที่บ่งบอกถึงความดีใจ ขนาดในฝันยังไม่กล้าฝันว่าพวกเขาจะปล่อยตัวเองไป
“ขอบคุณ…ขอบคุณ….” ไป๋เซ่าก้มคำนับคนรอบ ๆ จนหัวเกือบแตกก่อนจะรีบวิ่งไปอย่างรวดเร็ว นึกไม่ถึงว่าโดนขนาดนั้นแล้วยังจะวิ่งไปเร็วขนาดนี้ ใครจะไปรู้ว่าตอนนี้ไป๋เซ่ากำลังเกลียดพ่อแม่ตัวเองที่ให้เขาเกิดมามีแค่สองขา