บทที่ 40 องค์กรแมงป่องพิษ
เมื่อชายฉกรรจ์ชกไปที่กระจกนั้นก็มีรถยนต์สีดำขับเข้ามา แสงที่แยงตาทำให้ทุกคนต้องหลับตาลง
“บรื้น ๆ!” เสียงของเครื่องยนต์ดังขึ้น!
“หลบเร็ว!” หัวหน้ากลุ่มชายฉกรรจ์ตะโกนขึ้นอย่างโมโห
ชายฉกรรจ์พวกนี้ได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดี เมื่อได้ยินเสียงตะโกนก็หลบอย่างรวดเร็ว รถยนต์สีดำขับปาดผ่านไปถ้าหากชายฉกรรจ์พวกนี้ไม่หลบอย่างรวดเร็ว คงโดนชนตัวปลิวอย่างแน่นอน
รถยนต์ขับผ่านไปประมาณ สิบเมตรประตูก็เปิดออก มีผู้ชายหลายคนเดินลงมา ร่างกายเผยกลิ่นความอำมหิตออกมาพวกเขาคือสายลับที่ปกป้องถางโร้วเป็นสมาชิกของกลุ่มเหยี่ยวมังกร
ทั้งสองฝ่ายต่างพิจารณาฝ่ายตรงข้ามทันที!
คนของกลุ่มเหยี่ยวมังกรเมื่อมองเห็นว่าฝ่ายตรงข้ามมีรูปแมงป่องสักอยู่บนคอก็สีหน้าจะเปลี่ยนไปแบบฉับพลัน
แมงป่องพิษ นี่เป็นองค์กรที่รู้จักกันดีในเมืองกู่เจียงจำนวนคนในกลุ่มมีไม่มากแต่จิตใจเลวทรามฝีมือดีเพียงจ่ายเงินให้ไม่ว่าจะหน้าที่อะไรก็รับหมด รับเผา ปล้น ฆ่า เรื่องผิดศีลธรรมทำทุกอย่างที่ทำได้ไม่มีอะไรที่ไม่ทำ
สมาชิกขององค์กรแมงป่องพิษลึกลับมาก คนที่ได้เจอกับพวกเขาล้วนตายหมดสิ้น จากข่าวลือรอยสักแมงป่องพวกนี้มีเจ็ดสี แดง ฟ้า น้ำเงิน เขียวเหลือง แสด แดง มีสีมากเท่าไหร่ก็แสดงว่าระดับสูงเท่านั้น และชายฉกรรจ์ตรงหน้าสีรอยสักมีน้อยที่สุดก็คือ สองสีมากที่สุดคือมีห้าสี
“พวกแกเป็นใคร?” หัวหน้ากลุ่มแมงป่องพิษตะโกนถาม รอยสักของเขามีห้าสี ซึ่งเยอะกว่าสมาชิกคนอื่น ๆ แสดงว่าชายคนนี้คือหัวหน้า “กลุ่มเหยี่ยวมังกร”
หัวหน้าขององค์กรแมงป่องพิษประหลาดใจก่อนพูดออกมา “กลุ่มเหยี่ยวมังกรก็ทำเรื่องแบบนี้แล้วเหรอ?”
“พวกแกเข้าใจผิดแล้วพวกเรามาเพื่อปกป้องคุณถางโร้ว ยังไงรบกวนพวกพี่น้องแมงป่องพิษถอยไป ฉันในนามของกลุ่มเหยี่ยวมังกรจะจดจำบุญคุณครั้งนี้ไว้เป็นอย่างดี”
“ฮ่าฮ่าฮ่า…” หัวหน้ากลุ่มแมงป่องพิษหัวเราะขึ้น “กลุ่มเหยี่ยวมังกรเปลี่ยนไปเป็นผู้คุมกันตั้งแต่เมื่อไหร่? ไม่ใช่ว่าคุณผู้หญิงคนนี้เป็นเมียเก็บหัวหน้าพวกแกหรอกนะ?”
“สามหาว รนหาที่ตาย?” สมาชิกของกลุ่มเหยี่ยวมังกรโกรธมาก ถางโร้วเป็นผู้หญิงของนายท่านฉู่ชวิ๋น ไม่คิดว่าจะกล้ามีคนดูถูกแบบนี้
“ฉันบอกพวกแกเลยนะ อย่าได้รนหาที่ตายถ้าหากคุณถางโร้วผมร่วงแค่หนึ่งเส้น ฉันสัญญาว่าพวกแก องค์กรแมงป่องพิษต้องตายทั้งหมด!!”
“กลุ่มเหยี่ยวมังกรปากเก่งซะจริงถึงแม้ว่าพวกแกจะมีจำนวนคนมาก แต่พวกเราองค์กรแมงป่องพิษก็ไม่กลัวพวกแกหรอกนะ” หัวหน้ากลุ่มพูดด้วยความมั่นใจ
คนของกลุ่มเหยี่ยวมังกรล้วนแสดงออกถึงความรังเกียจมีคนหนึ่งพูดขึ้น “แย่หน่อยที่ไม่ใช่กลุ่มเหยี่ยวมังกรอย่างพวกเรา แต่แค่คนเดียวพวกแกก็สู้ไม่ได้แล้ว”
“พวกเราสู้ไม่ได้?” ใบหน้าของหัวหน้ากลุ่มแมงป่องพิษเผยความสงสัยหันไปมองลูกน้องตัวเองและพูดขึ้นว่า “พวกแกว่าบนโลกใบนี้มีคนที่พวกเราต้องเกรงกลัวไหม?”
“มีสิ! คนที่พวกเราเกรงกลัวที่สุดก็คือตัวของพวกเราเองไง เวลาพวกเราโกรธขึ้นมายังต้องกลัวตัวเองเลย ฮ่าฮ่าฮ่า…..”
“ใช่แล้ว พวกเราองค์กรแมงป่องพิษในพจนานุกรมไม่มีคำว่าเกรงกลัว!”
“ไม่ต้องพูดถึงกลุ่มเหยี่ยวมังกรของพวกแกเลย ต่อพวกแกร่วมมือกับกลุ่มพันธมิตรโลหิต ก็ไม่อยู่ในสายตาของพวกเรา อย่าหาว่าฉันพูดเกินตัว ไม่เชื่อก็ลองดูได้” สมาชิกแมงป่องตะโกนออกมาอย่างไม่เกรงกลัว
“งั้นถ้าหากบวกพวกฉันเพิ่มเข้าไปล่ะ?” ท่ามกลางความมืดเสียงพูดอันน่าเกรงขามดังขึ้น
คนของแมงป่องพิษและคนของกลุ่มเหยี่ยวมังกรหันกลับไปมองทันที เงาเลือนลานในความมืดเดินเข้ามาอยู่ตรงกลางระหว่างพวกเขาทั้งสองฝ่ายอย่างรวดเร็ว เขาคนนั้นก็คือผู้อาวุโสของภัตตาคารป่าไผ่สีม่วง!
“แล้วแกเป็นใครอีกล่ะ?” หัวหน้ากลุ่มแมงป่องพิษหรี่ตาลงแล้วพูดด้วยเสียงเยือกเย็น
ผู้อาวุโสจ้องมองพวกเขาและพูดอย่างเย็นชา “เป็นผู้ถวายชีวิตเพื่อปกป้องคุณถางโร้วและยังเป็นคนที่มาฆ่าพวกแก!” คนของแมงป่องพิษหรี่ตาลงพร้อม ๆ กัน
“หัวหน้า นี่มันอะไรกัน? ยัยเด็กนี้มันเป็นใครกันแน่?”
หัวหน้ากลุ่มแมงป่องพิษขยับมุมปากแล้วพูดแบบไม่สนใจ “เกรงว่าเธอจะมีตัวตนที่ไม่ธรรมดาจริง ๆ จะดีที่สุดถ้าจับตัวเธอไปอาจเอามาชดใช้แทนเงิน ห้าล้านที่พวกเราได้เสียไป”
“หัวหน้าพูดถูก” ชายฉกรรจ์ที่ยืออยู่ด้านหลังพยักหน้า กลุ่มเหยี่ยวมังกรคำนับผู้อาวุโส พวกเขามาเพื่อปกป้องถางโร้วเหมือนกันงั้นก็แสดงว่าเป็นพวกเดียวกัน
“ปล่อยคุณถางไปพวกเราจะไว้ชีวิตพวกแก” ผู้อาวุโสมองไปทางองค์กรแมงป่องพิษ
“ไอ้แก่ ระวังคำพูดคำจาของตัวเองเอาไว้บ้างแก่ขนาดนี้แล้ว แตะนิดเดียวก็แขนขาหักแล้วมั้ง ฉันว่าแกควรกลับบ้านไปอุ้มหลานเก็บไข่ไก่ที่บ้านถึงจะถูก” คนขององค์กรแมงป่องพิษคนหนึ่งพูดออกมา
“รนหาที่ตาย” ผู้อาวุโสพูดขึ้นแวบเดียวร่างกายเขาก็หายไปจากที่ตรงนั้น
“ออกมาเดี๋ยวนี้!” หัวหน้ากลุ่มแมงป่องพิษตะโกนเรียกอย่างโมโหแล้วผลักลูกน้องที่อยู่ด้านข้างถอยออกไป
“ปัง!”
มือของผู้อาวุโสราวกับคมมีด เขาฟาดลงไปที่หน้าอกของอีกฝ่ายอย่างโหดเหี้ยม จนหน้าอกหัวหน้ากลุ่มแมงป่องพิษยุบลงไป
หัวหน้ากลุ่มแมงป่องพิษสีหน้าเปลี่ยนไปแต่สายตาส่อถึงการท้าทายอีกฝ่าย จากนั้นหน้าอกของเขาก็บวมขึ้น ในเวลาเดียวกันเขาก็ได้ชกหมัดออกไป
ผู้อาวุโสสีหน้าเปลี่ยนไป ร่างกายถอยหลังออกมาอย่างรวดเร็ว ชายฉกรรจ์เห็นว่าไม่ได้ผลเลยใช้กำปั้นทุบที่หน้าอกตัวเองแล้วชี้นิ้วไปที่ผู้อาวุโส
ผู้อาวุโสมองอย่างดุร้ายก่อนที่จะซ่อนมือไว้ในแขนเสื้อด้านขวา ตอนนี้มือของผู้อาวุโสสั่นเทา เขาคิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะฝึกฝนมาอย่างหนัก จนร่างกายแข็งดั่งหินผาแบบนี้
“เมื่อกี้คิดว่าเก่งแล้วเหรอ? แบบนี้ต้องฉันต้องสั่งสอนสักหน่อยแล้ว?” ผู้อาวุโสพูดข่มอีกฝ่าย
“ฉันบอกแล้วไงให้รีบกลับบ้านไปเลี้ยงหลานเก็บไข่อยู่บ้าน ไม่ยอมฟัง ตอนนี้แกล้งทำเป็นเก่งไม่ได้แล้วละซิ เหอะ ๆ?”
สมาชิกขององค์กรแมงป่องพิษเห็นผู้อาวุโสพลาดท่าเขาก็ไม่หยุดที่จะตะโกน ร้องโห่พูดเรื่องตลกออกมา ผู้อาวุโสทำหน้าเคร่งขรึมและพลิกมือเพื่อออกท่ากลยุทธ์
“ป้าบ!”
ผู้อาวุโสใช้ความเร็วทั้งหมดจากร่างกายเหมือนดังปีศาจร้าย “ทุกคนระวังตัว….!” เสียงหัวหน้ากลุ่มแมงป่องพิษยังไม่ทันพูดจบก็ได้ยินเสียง
“แกระ” เป็นเสียงแหวกออกมาจากพุ่มไม้
ร่างของผู้อาวุโสอยู่ห่างออกไปประมาณสิบเมตร หัวหน้ากลุ่มแมงป่องพิษมองมีดมือผู้อาวุโสด้วยใบหน้าเยาะเย้ย แต่หัวหน้ากลุ่มแมงป่องพิษก็ก้มลงมองที่หน้าอกตัวเองก็พบกับเสื้อผ้าที่โดนมีดตัดออกไปรูหนึ่งบนหน้าอก
“ช้าไป!” ผู้อาวุโสส่ายหน้าอย่างยั่วยุ
หัวหน้ากลุ่มแมงป่องพิษดวงตาเบิกกว้าง วิชาที่เขาฝึกคือพลังกังฟูภายนอกความเร็วนั้นถือเป็นจุดอ่อนของเขา ร่างของผู้อาวุโสขยับไปหัวหน้ากลุ่มแมงป่องพิษอีกครั้ง
“ฮ่า!”
ร่างผู้อาวุโสถอยออกไปสิบกว่าเมตร หัวหน้ากลุ่มแมงป่องพิษก้มมองแผลบนหน้าอกตัวเองด้วยสายตาอาฆาตแค้น “บอกแล้วแกช้าไปแล้ว!”
ผู้อาวุโสเริ่มลงมือภาพร่างเงาปรากฏ หัวหน้ากลุ่มแมงป่องพิษมองด้วยสายตาที่โหดเหี้ยมและชกหมัดไปทางผู้อาวุโส
“ย้าก ฮ่า”
“ตู้ม ตู้ม”
ทั้งสองคนต่อสู้กันอย่างดุเดือด
ผู้อาวุโสไม่หยุดลงมือแต่ชายฉกรรจ์เองก็สู้ตายไม่คิดชีวิต ผู้อาวุโสไม่สามารถปกป้องหมัดของชายร่างใหญ่ได้หมด เขาโดนหมัดที่แหวกอากาศหลายครั้งแม้ร่างกายจะไม่มีบาดแผล แต่ภายในบาดเจ็บสาหัสพอสมควร หัวหน้ากลุ่มแมงป่องพิษเองก็ไม่เลยแม้แต่น้อยหลบเสื้อผ้าบนร่างฉีกขาด
ไม่เหลือชิ้นดีโดยเฉพาะกางเกงเปลี่ยนเป็นกางเกงที่เป้าขาด ถ้าเขาปฏิกิริยาช้าอีกนิดเดียวคงถูกมีดตัดอวัยวะเพศทิ้งไปแล้ว ผู้อาวุโสคุมการหายใจเข้าออก ในใจรู้สึกเจ็บปวดผู้ชายคนนี้ล้มไม่ได้ง่าย ๆ เลยตอนนี้เขาอยากนำถางโร้วออกมาก่อนไม่งั้นเธออาจโดนลูกหลงได้
“ฉันจะถ่วงเวลามันไว้ พวกแกเข้าไปช่วยคุณถางโร้ว” ผู้อาวุโสพูดขึ้นเบา ๆ คนอื่น ๆ ที่ได้ยินก็พยักหน้าทันที ผู้อาวุโสหันตัวกลับไปเผชิญหน้ากับหัวหน้ากลุ่มแมงป่องพิษก่อนจะเริ่มลงมืออีกครั้ง
“ยังไม่รู้ผลซะหน่อย มาสู้กันต่อสิ?”
“เหอะ!” หัวหน้ากลุ่มแมงป่องพิษอุทานออกมา ไม่รู้จะพูดยังไง
“ไอ้แก่ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่าแกจะมาไม้ไหน ฉันเลยว่าแกอย่าเสียแรงเปล่าเลยนอกจากนี้แกทำลายพลังป้องกันของฉันไม่ได้หรอก” ไม่รอให้ผู้อาวุโสพูดจบ เขาก็หันไปบีบคอของถางเหวินเหยียนไว้แล้วลากเขาลงมาจากรถ
“หยุดเดี๋ยวนี้!” ผู้อาวุโสรีบร้อนพูดขึ้น “แกก็เป็นคนมีฝีมือทำแบบนี้กับคนธรรมดาได้ยังไง มีความสามารถอะไรก็เอาออกมาสู้กับฉันสิ?”
หัวหน้ากลุ่มแมงป่องพิษเลียริมฝีปากและยิ้ม “ไอ้แก่ เปล่าประโยชน์ อย่าขยับเด็ดขาดไม่งั้น แกจะได้ลองว่าความเร็วของแกหรือว่ามือของฉันใครจะไวกว่ากัน” พูดจบหัวหน้ากลุ่มแมงป่องพิษก็หุบยิ้มลงถางเหวินเหยียนที่อยู่ในกำมืออีกฝ่ายไร้เรี่ยวแรงตอบโต้ใด ๆ ไม่นานใบหน้าก็เปลี่ยนเป็นสีแดงตาขาวเหลือกขึ้น
“ปล่อยพ่อของฉันนะ …พวกนายต้องการเงิน ฉันจะเอาให้ ฉันให้พวกนายสิบล้าน…ฉันให้ทั้งหมดเลย…”
ถางโร้วตกใจกลัวจนตัวสั่นแต่ยังรวบรวมความกล้าเปิดประตูออกมาวิ่งเข้าไปแกะมือของชายฉกรรจ์ให้เอามือออกจากคอของพ่อเธอ
“คุณหนูถาง ถอยไป!” ผู้อาวุโสตะโกนอย่างร้อนใจ หัวหน้ากลุ่มแมงป่องพิษยื่นมืออีกข้างรวบตัวของถางโร้วเอาไว้ในอ้อมแขน
“ไอ้พวกชั่ว ปล่อยนะ….” ซ่งซื๋อตะโกนออกมาด้วยความกลัวเธอลงจากรถแล้ววิ่งไปทางหัวหน้ากลุ่มแมงป่องพิษสุดท้ายวิ่งได้ครึ่งทางก็โดนรวบตัวเอาไว้
หัวหน้ากลุ่มแมงป่องพิษปล่อยมือแล้วโยนถางเหวินเหยียนให้กับลูกน้องคนหนึ่งแหงนมองผู้อาวุโสแล้วพูดว่า “ไอ้แก่ เอาจริง ๆ เลยนะฉันชื่นชมความว่องไวของแก แต่ฉันก็เกลียดแกถ้าหากปล่อยแกไว้ไม่ช้าก็เร็วต้องเป็นศัตรูกันอยู่ดี องค์กรแมงป่องพิษของพวกเราไม่ว่าจะทำเรื่องอะไรก็ไม่เคยเหลือหลักฐานไว้ให้เป็นปัญหาภายหลัง ฆ่าตัวตายซะจะได้จบ ๆ ไป” หัวหน้ากลุ่มแมงป่องพิษพูดอย่างโหดเหี้ยม
ผู้อาวุโสถึงกับสีหน้าเปลี่ยนไปเรื่องนี้มันเกินกว่าที่เขาคิดไว้มาก โดยเฉพาะหัวหน้ากลุ่มแมงป่องพิษที่ยืนอยู่ตรงหน้าตัวเองตั้งแต่เริ่มมองเขาผิดไปไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะใจสู้เต็มที่ยอมแลกตายแบบนี้ ผู้อาวุโสในตอนนี้ตกอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
“หัวหน้า สาวน้อยคนนี้หอมซะจริง” คนที่กอดรัดถางโร้วเอาไว้สูดหายใจเข้าอย่างลึกเพื่อดมกลิ่นของถางโร้ว หน้าเผยให้เห็นถึงความหลงใหล
หัวหน้ากลุ่มหันไปมองแวบหนึ่ง แล้วพูดขึ้นมา “ถึงแม้ว่าไอ้แก่นี้จะฆ่ายาก แต่สาวน้อยคนนี้ยังไงก็ต้องตาย! ก่อนเธอตายก็ให้เธอได้ลิ้มรสความสุขของผู้หญิงสักนิดดีไหมจะได้ไม่เสียชาติเกิด”
“ขอบคุณหัวหน้า ขอบคุณหัวหน้ามากครับ!” ลูกน้องพูดอย่างดีอกดีใจ เขามองถางโร้วอย่างโรคจิต
“หยุดนะ ห้ามแตะต้องเธอเด็ดขาด ไม่งั้นพวกนายได้ตายอย่างอนาถแน่” ผู้อาวุโสตะโกนพูดอย่างรีบร้อน
“ฉันฆ่าตัวตายได้ แต่อย่าได้แตะต้องเธอ”
ลูกน้องพูดขึ้นมาอย่างหื่นกระหาย “แตะต้องแล้วจะทำไมวะ? ฮ่าฮ่าฮ่า….ฉันไม่เพียงแต่จะแตะต้อง ซ้ำจะย่ำยีเธอต่อหน้าพวกแกด้วย ฮ่าฮ่าฮ่า…”
“ฉึก!”
จู่ ๆ ก็มีแสงสีรุ้งพุ่งแทงคอคนที่กำลังพูดอยู่เมื่อกี้ ร่างกายมันแข็งทื่อ ดวงตาว่างเปล่า มือที่รัดถางโร้วอยู่หมดแรงและล้มลงกับพื้น ก่อนที่ร่างกายจะสลายกลายเป็นฝุ่นผง!