บทที่ 52 คู่กัด[รีไรท์]
ฉู่ชวิ๋นพนันฝั่งเจ้ามือรวมกัน 6 ครั้ง และทั้ง 6 ครั้งก็ยังคงออกเจ้ามือ ครั้งแรกคือโชคดี ครั้งที่สองคือบังเอิญ ครั้งที่สามคือความสามารถแล้วครั้งที่สี่ ครั้งที่ห้า ครั้งที่หกละเรียกว่าอะไร
เงิน 5 เท่าของ 3500 ล้าน คือ 17500 ล้าน บวกกับเงินต้นอีก 3500 ล้าน ถ้าอย่างนั้นก็เป็น 21000 ล้าน นับเป็นตัวเลขที่น่าหวาดกลัวเกินไปจริง ๆ ชายชรา หงหลิง ชายร่างยักษ์ ชายหน้าบาก รวมถึงผู้คุมเหลย สีหน้าที่ดูเหลือเชื่อสุด ๆ
“แกทำได้ยังไง?” ชายชรายังคงใจเย็นอยู่
“ก็แค่โชคดี!”
ฉู่ชวิ๋นพูดขึ้นมา ประโยคนี้ก่อนหน้านี้ฉู่ชวิ๋นเคยพูดกับนักพนันชายที่อยู่ข้าง ๆ แต่มันจะเป็นไปได้เหรอ? ถ้าหากว่าตอนนี้ยังมีคนเชื่อว่าเป็นความโชคดีอยู่ คนนั้นก็ต้องเป็นคนโง่อย่างไม่ต้องสงสัย
“ยังอยากเล่นต่อไหม?” มือของฉู่ชวิ๋นเคาะอยู่บนเข่าก่อนถามอย่างใจเย็น
ดวงตาทั้งสองที่ขุ่นมัวของชายชราเริ่มเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วชายชราจ้องมองไปที่ฉู่ชวิ๋นแล้วพูดว่า “แน่นอน”
สายตาของฉู่ชวิ๋นเย้ยหยันและพูดอย่างถากถางว่า “พวกแกยังเหลือเงินอีกงั้นเหรอ?”
ชายชราตกใจจนอดไม่ได้ที่จะแสดงท่าทีอ่อนแรงออกมา พวกเขายังเหลือเงินอีกเหรอ? แน่นอนคำตอบก็คือไม่มี เงินมากมายขนาดนี้แม้แต่ตระกูลใหญ่ในเมืองกู่เจียงเองก็คงไม่สามารถเอาออกมาได้โดยง่าย
เมื่อดูปฏิกิริยาของทั้ง 5 คนแล้ว เฉินฮั่นหลงก็ยิ้มแปลกๆ แล้วพูดขึ้น
“เล่นมาตั้งนานไม่มีจ่าย งั้นที่นายท่านเล่นมาทั้งหมดไม่สูญเปล่าหรือไง ไอ้พวกจับเสือมือเปล่า!”
หงหลิงและอีก 4 คนที่เหลือสีหน้าไม่สู้ดี แถวนี่ยังมีลูกค้าคนอื่นอยู่ ถ้าเกิดได้ยินคำพูดเมื่อไหร่พวกเขาแย่แน่
“ท่านทั้งสอง บ่อนใต้ดินจินหยินฮวาของพวกเรายุติธรรมมาตลอด ไม่ติดเงินใครอย่างแน่นอน แต่เงินมากมายขนาดนี้ พวกเราต้องการเวลาเตรียมการ” ชายร่างยักษ์พูดอย่างใจเย็น
“ถ้าอย่างนั้นต้องใช้เวลาเท่าไร 1 วัน 1 ปี คงจะไม่ให้พวกฉันรอตลอดชีวิตหรอกนะ” เฉินฮั่นหลงพูดอย่างประชดประชัน
“แต่ก็นะทรัพย์สินของตระกูลไป๋แม้จะมากมายมหาศาลแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเอาออกมาใช้ได้ ฉันพูดถูกไหม? คุณลำดับสามของตระกูลไป๋ ไป๋เหรินฉง”
ชายร่างยักษ์คนนี้ก็คือไป๋เหรินฉงของตระกูลไป๋ เขาถูกเฉินฮั่นหลงเปิดโปงฐานะต่อหน้าทุกคน
ถึงแม้จะถูกเปิดโปงฐานะ แต่ไป๋เหรินฉงก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร นักพนันทั้งหมดที่เข้ามาในนี้ล้วนเป็นคนที่มีฐานะทางสังคม ใครจะรู้จักกับเขาก็ไม่มีอะไรน่าแปลก
สายตาของชายหน้าบากเปลี่ยนไป มันเต็มไปด้วยไอสังหาร ถ้าหากว่าบริเวณรอบ ๆ ไม่มีลูกค้าคนอื่นอยู่ เขาคงได้ลงมือฆ่าคนแน่ ๆ ดวงตาที่ดุดันของชายชรากวาดมองไปยังฉู่ชวิ๋นตลอดเวลา แต่ผลลัพธ์ที่เขาได้กลับเหมือนกับนักพนันชายและนักพนันหญิง ฉู่ชวิ๋นก็เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง
“ท่าทางที่พวกแกแสดงออกมานี้คืออะไรกัน? ติดเงินก็ต้องชดใช้เป็นสัจธรรมที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้อยู่แล้ว หรือว่าตระกูลใหญ่จะเปิดบ่อนแค่หาเงินใช้เท่านั้น” เฉินฮั่นหลงพูดเสียงดังออกมา
นักพนันที่อยู่บริเวณรอบ ๆ ทยอยพากันพยักหน้า สายตาของหงหลิงเปล่งประกายและก้าวออกมาก่อนพูดขึ้นว่า
“คุณชายท่านนี้เข้าใจล้อเล่นจริง ๆ บ่อนจื่อจิงฮวาของฉันไม่มีการรังแกใคร พวกเรายอมรับความพ่ายแพ้ เพียงแต่เงินมันมากมายมหาศาลมากเกินไป พวกเราอยากจะขอให้ท่านทั้งสองใจกว้างสักนิด และให้เวลาฉันสัก 3 วันได้ไหม”
“ตั้ง 3 วัน พวกเธอวางแผนเล่นตุกติกอะไร?” เฉินฮั่นหลงใช้สายตาถากถางและพูดเหยียดหยามออกมา
“หลังจาก 3 วันผ่านไป พระราชวังใต้ดินที่หรูหราแห่งนี้ไม่นานก็จะกลายเป็นถ้ำธรรมดา ๆ แล้วละ” พอเฉินฮั่นหลงพูดแบบนี้สีหน้าของหงหลิงก็เปลี่ยนเป็นอึดอัดใจ
“บ่อนสามารถทิ้งได้ทุกเวลา แต่ตระกูลไป๋ของฉันไม่มีวันหนีหาย” ไป๋เหรินฉงพูดออกมาอย่างเย็นชา
“มีท่านลำดับสามตระกูลไป๋ยืนยัน คุณชายวางใจเถอะ” หงหลิงพูดเสริม
เฉินฮั่นหลงยิ้ม เขาเข้าใจแจ่มแจ้งถึงจุดประสงค์ที่มาในครั้งนี้ และพวกเขาไม่ใช่มาเพื่อหาเพื่อนหรือเล่นพนัน พวกเขามาเพื่อสืบข่าว
“ตระกูลไป๋ยิ่งใหญ่ก็จริง แต่ขอถามท่านลำดับสามตระกูลไป๋หน่อย แกคือคนรับผิดชอบตระกูลไป๋หรือไง?”
ลูกค้าคนอื่น ๆ ที่อยู่บริเวณรอบ ๆ เมื่อได้ยินเสียงของ เฉินฮั่นหลง พวกเขาต่างก็ส่งเสียงหัวเราะเยาะออกมา เพราะใคร ๆ ก็รู้ว่าไป๋เหรินอัน ต่างหากที่เป็นคนดำรงตำแหน่งผู้นำตระกูลไป๋ ลำดับสามอย่างไป๋เหรินฉงจะมีสิทธิ์มีเสียงอะไรในตระกูลไป๋
เฉินฮั่นหลงพูดแบบนี้ก็เหมือนการตบหน้าในที่โจ่งแจ้ง และก็เป็นไปตามที่คาดไว้สีหน้าของไป๋เหรินฉงดำเหมือนก้นหม้อ หงหลิงอดไม่ได้ที่จะลำบากใจ ผู้ชายคนนี้ดื้อรั้นมาก ไม่ได้ให้เวลาพวกเธอปรึกษาหารือกันเลยสักนิด
ชายหน้าบากหมุนกายหันไปมองนักพนันคนอื่น ๆ ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้นแล้วพูดขึ้น
“ทุกท่านบ่อนปิดลงแล้ว วันนี้บ่อนของพวกเราจะรับผิดชอบไม่คิดเงินที่พวกท่านเสียในวันนี้ขอให้ทุกท่านรีบจากไป พวกเรามีเรื่องส่วนตัวที่จะต้องจัดการ”
หงหลิงและไป๋เหรินฉงตกใจ พวกเขารู้ว่าชายหน้าบากอดทนไม่ไหวแล้ว เขาคิดจะลงมือฆ่าคน แต่ทำแบบนี้มันดีแล้วงั้นเหรอ?
เมื่อมองเห็นใบหน้าที่โหดเหี้ยมอำมหิตของชายหน้าบาก ทุกคนต่างก็รู้ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น ไม่ว่ายังไงบ่อนแห่งนี้ก็คงไม่อาจสูญเสียเงินมากมายขนาดนั้นได้ เกรงว่าสองคนนี้จะต้องประสบกับความหายนะแล้วละ นี่คือสิ่งที่ทุกคนคิด
แต่ว่า มันเกี่ยวอะไรกับพวกเขา? มีคนมากมายวันนี้สูญเสียไม่น้อย ในเมื่อพวกเขาพูดว่าบ่อนจะชดใช้คืนให้ งั้นก็ทำเรื่องที่อยากทำไปเถอะ ก็แค่ชีวิตขยะ 2 ตัว!
พวกนักพนันทยอยกันจากไป “พวกนายไม่ไปเหรอ?”
จากเริ่มต้นจนถึงตอนนี้ฉู่ชวิ๋นไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ ทั้งสิ้น เขามองนักพนันชายและหญิงที่ยังอยู่ก็นึกแปลกใจจนพูดขึ้นมา
“คนดีต้องรู้จักตอบแทนบุญคุณ แทงตามนายจนชนะได้กำไรมาตั้งมากมายขนาดนี้ ยังไงก็ต้องเชิญนายไปดื่มสักแก้ว” นักพนันชายพูดอย่างจริงจัง
“แหม ๆ อย่าสวมมงกุฎให้ตัวเองหน่อยเลย นายแค่รอดูความสนุกล่ะสิไม่ว่า?” นักพนันหญิงพูดเยาะเย้ย
“เงียบเลยนะ ผู้ชายเขาคุยกัน ผู้หญิงถอยไป” น้ำเสียงของนักพนันชายเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
“แกพูดใหม่ซิ อยากมีเรื่องเหรอ?” นักพนันหญิงตบมือลงบนโต๊ะเสียงดังจนนักพนันชายท่าทีโอนอ่อน เขาไม่สบอารมณ์จนต้องหันหน้าไปพึมพำ
“ผู้ชายที่ดีจะต้องไม่ต่อสู้กับผู้หญิงชั่ว ฉันไม่เอาเรื่องยายบ้าคนนี้แล้วกัน” นักพนันหญิงโกรธมาก ไม่ปริปากพูดอะไรแต่ ขาเรียวยาวของเธอเตะออกไปทันที
นักพนันหนุ่มกระโดดหลบ แต่ผลสุดท้ายก็ถูกนักพนันหญิงคว้าข้อเท้าเอาไว้ไม่ให้หลบไปไหน
“ปัง!” นักพนันชายลอยไปกระแทกโต๊ะพนันจนเกิดเสียงดัง ฟังดูแล้วเจ็บปวดและน่าหวาดกลัวมาก
“ยายบ้า เธอจะเล่นแบบนี้เหรอ?” เขากระโดดขึ้นมา นวดแขนไปมาพร้อมร้องเสียงแปลก ๆ
“แกยังกล้าพูด?” ความเร็วของนักพนันหญิงเร็วมาก เท้าที่ออกไปกระแทกโต๊ะพนันที่ทำด้วยไม้จนพลิกคว่ำ
นักพนันชายกระโดดข้ามไปโต๊ะพนันหนึ่งตัวข้าง ๆ เขาเห็นนักพนันหญิงไล่ตามมาก็รีบร้อนหลบใหญ่ก่อนจะตะโกนออกมา
“พอแล้ว อย่าทำให้ฉันโมโห” นักพนันหญิงทำเป็นไม่ได้ยิน แล้วรีบพุ่งเข้าใส่ทันที นักพนันชายถูกคว้าแขนเอาไว้ก่อนจะถูกโยนออกไปไกล
ปัง!
นักพนันชายกระแทกโต๊ะพนัน
โครม!
โต๊ะพนันถูกทำลายเป็น 2 ส่วน นักพนันชายกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด
ดวงตาที่งดงามของนักพนันหญิงแสดงความห่วงใยออกมาอย่างชัดเจน แต่ก็ยังอดทนไม่เข้าไปหา เธอส่งเสียง “ฮึ่ม” ออกมาแล้วกลับไปนั่งที่
นักพนันชายพลิกร่าง นอนหงายอยู่บนพื้น ปากก็พึมพำความในใจออกมาว่า “แค้นผู้หญิงคนนั้นที่สุด” เป็นฉากที่ทำให้หลายคนดูตกตะลึง
ไม่เว้นแม้แต่ฉู่ชวิ๋น เขาได้แต่ยิ้มออกมา ฝีมือของนักพนันหญิงจริง ๆ แล้ว เทียบกับนักพนันชายไม่ได้เลย อีกทั้งโต๊ะพนันนั้น จริง ๆ แล้วเป็นนักพนันผู้ชายที่ทำหัก ชั่วขณะร่างกายได้สัมผัสโต๊ะ เขาก็ใช้พลังออกมาทำให้โต๊ะหักเป็น 2 ส่วน
คู่กัด
ในสมองของฉู่ชวิ๋นมีแต่คำนี้ นับตั้งแต่กลับมาถึงโลก เขาพบว่าตัวเองเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์เหมือนว่าเขาใจอ่อนและเป็นคนง่าย ๆ
……
ชายหน้าบากเงียบมาตลอด เขารู้ว่าตอนนี้ใบหน้าที่อัปลักษณ์ของเขายิ้มออกมา แต่รอยยิ้มนี้มันดำมืดน่ากลัวมาก
“แกอย่ายิ้มดีกว่า มันทำให้คนอื่นตกใจ ฉันละตกใจจนหำหดหมดแล้ว” เฉินฮั่นหลังพูดเยาะเย้ยอย่างไม่มีความเกรงใจ
รอยยิ้มของชายหน้าบากหยุดชะงัก ชายหน้าบากจ้องมองเฉินฮั่นหลงแล้วพูดว่า “แกอยากตายงั้นเหรอ?”
แต่เดิมเฉินฮั่นหลง ไม่กลัวฟ้าไม่กลัวดินอยู่แล้ว อีกทั้งที่มาครั้งนี้ก็เพราะจะมาหาเรื่อง ยิ่งไปกว่านั้นยังมีฉู่ชวิ๋นอยู่ข้าง ๆ เขาจึงแสดงความกล้าหาญออกมาอย่างเต็มที่ไม่เกรงกลัวใครทั้งนั้น
ปากของเฉินฮั่นหลงร้ายกาจมาก แม้แต่ชายชราก็ยังขมวดคิ้ว เหนือสิ่งอื่นใดแม้แต่ หงหลิงกับนักพนันหญิงก็มอง เฉินฮั่นหลงด้วยความรังเกียจ
ฮ่าๆ
ทันใดนั้นนักพนันที่อยู่บนพื้นก็หัวเราะแล้วลุกขึ้นมานั่งข้างฉู่ชวิ๋น ทุกคนมองเขาอย่างงุนงง ไอ้นี่เป็นแมลงสาบจริง ๆ โดนไปขนาดนั้นยังไม่เป็นไร
“ปัง!” ทันใดนั้นชายหน้าบากก็ยกเท้ากระทืบโต๊ะพนันแล้วใช้ฝ่ามือตบลงบนหัวของเฉินฮั่นหลง
ฝ่ามือร้ายกาจมากถ้าโดนหัวของเฉินฮั่นหลงได้กลายเป็นระเบิดแตงโมแน่ เฉินฮั่นหลงเองก็รู้สึกหวาดกลัว สายตาเปลี่ยนไปในทันที ทันใดนั้น นักพนันชายก็ออกมาขวางหน้าเฉินฮั่นหลง ซัดฝ่ามือออกมาช่วยป้องกันเฉินฮั่นหลงเอาไว้
ตู้ม!
ทุกคนรู้สึกถึงคลื่นพลังที่แผ่ขยายออกมา ชายหน้าบากพลิกตัวอย่างมั่นคงกลับไปที่เดิม มือหนึ่งจับหน้ากากเอาไว้ แววตาเหยียดหยามมองไปยังนักพนันชาย ทางด้านนักพนันชายถูกพลังฝ่ามือกระแทกจนต้องถอยออกมา
แผ่นกระเบื้องใต้เท้าถูกกระทืบจนแตกกระจาย แผ่นหลังของเขาถอยไปชนเฉินฮั่นหลงจึงหยุดลง ตอนนี้ทุกคนต่างมองใบหน้าของเขาเพราะหน้ากากที่เขาใส่ถูกแย่งชิงไปแล้ว! นักพนันชาย ใบหน้าหล่อเหล่าแต่สีหน้าซีดขาวริมฝีปากมีเลือดไหลออกมา
“น้องชาย นายไม่เป็นไรนะ?”
เฉินฮั่นหลงรีบพูด
นักพนันชายเช็ดคราบเลือดจากริมฝีปาก สีหน้าเต็มไปด้วยความดูถูก เขาเคลื่อนไหวร่างกายเล็กน้อยแล้วแสยะยิ้ม “ผีน่าเกลียดตนนี้นี่ดุร้ายจริง ๆ”
เฉินฮั่นหลงดึงหน้ากากที่อยู่บนใบหน้าตัวเองออก แล้วพูดกับนักพนันชายด้วยความจริงใจ “ขอบคุณ ฉันชื่อเฉินฮั่นหลง น้ำใจในครั้งนี้ฉันจะจำมันไว้”
สีหน้าของนักพนันชายแสดงความแปลกใจออกมาแวบหนึ่ง จากนั้นก็ยิ้มแล้วออกพูดว่า “อย่าเกรงใจไปเลย เมื่อเห็นความไม่ยุติธรรมก็ต้องเข้าช่วยนั่นคือสิ่งที่วัยรุ่นอย่างฉันควรทำ ฉันทนเห็นพฤติกรรมที่น่ารังเกียจแบบนี้ ไม่ได้ ฉันถามนายหน่อย เมื่อกี้ฉันหล่อไหม เท่โคตร ๆ ใช่ปะ?”
เฉินฮั่นหลงตกใจ เขารู้ว่าตนเองก็เป็นคนหน้าด้านคนหนึ่ง แต่คนตรงหน้าไร้ยางอายกว่าเขาซะอีก แต่เฉินฮั่นหลงกลับรู้สึกชอบใจมาก “หล่อ หล่อจนไร้ที่ติ นอกจากนายท่านแล้ว ก็ไม่มีใครหล่อเท่านายอีกแล้ว”
“นายท่าน? อาจารย์นายเหรอ” ไม่รอให้เฉินฮั่นหลงพูดจบ เขาก็ถามอย่างสนใจ
“เขายังหล่อกว่าฉันอีกเหรอ? งั้นแนะนำให้ฉันรู้จักหน่อย ฉันอยากเปรียบเทียบกับเขา” เมื่อเฉินฮั่นหลงแสดงใบหน้าจริงออกมาแววตาของหงหลิงก็เปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน เธอรีบมองผู้ชายที่ใส่หน้ากากจางเฟย สีหน้าท่าทางแสดงถึงความหวาดกลัวออกมา
“เพี๊ยะ!” ทันใดนั้น นักพนันหญิงก็โจมตี แส้ที่ขาเรียวงามฟาดใบหน้าของชายหน้าบากอย่างรวดเร็ว
ฮึ่ม!
ชายหน้าบากส่งเสียง ฮึ่ม ออกมา แส้ที่ขาเรียวยาวของนักพนันหญิงฟาดลงไป แต่ร่างกายของเธอจู่ ๆ ก็เสียสมดุลเนื่องจากมือข้างหนึ่งของชายหน้าบากจับแส้ของนักพนันหญิงเอาไว้
ทันใดนั้น ทุกคนก็รู้สึกตาลายไปหมด นักพนันหญิงหายตัวไป มือของชายหน้าบากก็ค้างนิ่งอยู่กลางอากาศ
หัวใจของทุกคนเต้นแรง มองดี ๆ พวกเขาเห็นนักพนันหญิงยังนั่งอยู่ที่เดิม เหมือนกับว่าเธอไม่ได้ขยับตัวตั้งแต่แรก
มีแค่ดวงตาของชายชราที่จ้องมองฉู่ชวิ๋นอย่างแปลกประหลาด ร่างกายเกร็งไปทั้งตัว สีหน้าชายชราเปลี่ยนไปตอนนี้ชายชราพร้อมต่อสู้ทุกเมื่อ!