บทที่ 156 ใครไม่เกี่ยวก็ถอยไป![รีไรท์]
ดึกสงัด ดาวเต็มฟ้า ดวงจันทร์ลอยตัวอยู่กลางท้องนภา
ในความมืดมิด เงาร่างของคนกลุ่มหนึ่งปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้าภัตตาคารป่าไผ่สีม่วง
นี่คือกลุ่มคนของชายชราชุดดำจากสำนักสวรรค์ฟ้านั่นเอง
เพล้ง!
กระจกนิรภัยขนาดใหญ่ถูกฝ่ามือกระแทกจนแตกกระจายอย่างง่ายดาย
สัญญาณเตือนภัยดังขึ้นมาแล้ว
หลังจากที่ฉู่ชวิ๋นไม่อยู่ ฮวาชิงหวู่ก็สั่งปิดภัตตาคารป่าไผ่สีม่วงเป็นการชั่วคราว
ในขณะนี้ จึงมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่แค่เพียงไม่กี่คน
หลังจากได้ยินสัญญาณเตือนภัยดังขึ้น เจ้าหน้าที่ก็รีบกระโดดเข้าลิฟต์และกดลงไปที่ชั้นล่างทันที
แต่โชคไม่ดีที่เมื่อประตูลิฟต์เปิดออก ทุกคนก็ถูกก้อนหินจำนวนหนึ่งดีดใส่จนสลบไป
“อ่อนหัด”
ชายหนุ่มในชุดดำโยนก้อนหินที่เหลืออยู่ในมือทิ้งไปและมองเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่นอนสลบอยู่บนพื้นด้วยสายตาดูถูก
“ไปกันเถอะ”
ชายชราในชุดดำก้าวเดินเข้าไปในลิฟต์เป็นคนแรก
คนอื่นๆ ก้าวเดินตามเข้าไป
แล้วลิฟต์ก็เคลื่อนตัวขึ้นไปอย่างเชื่องช้า
……
……
ประตูห้องทำงานของฮวาชิงหวู่ถูกเคาะดังก๊อกๆ
“คุณผู้หญิงครับ มีคนบุกเข้ามา”
เมื่อประตูห้องทำงานเปิดออก ผู้ที่มารายงานก็เห็นว่าฮวาชิงหวู่มีสีหน้าเคร่งขรึมอยู่ไม่น้อย “ฉันรู้แล้ว”
เสียงสัญญาณเตือนภัยเป็นสิ่งที่ทุกคนได้ยินไม่ยากเลย
ทุกคนทยอยเข้ามารายงานตัว ไม่ว่าจะเป็นเฉินฮั่นหลง โม่ซิงเหอ และคนอื่น ๆ
”ผู้อาวุโสหลงอ๋าวอยู่ที่ไหน?” ฮวาชิงหวู่ถาม
พูดจบ ประตูห้องก็เปิดออก หลงอ๋าวเดินเข้ามา
“มีอะไรกัน?” น้ำเสียงของหลงอ๋าวบอกชัดว่าอารมณ์ไม่ดี
เขาอยู่ที่นี่มาหลายวันแล้ว ยังไม่มีวี่แววว่าฉู่ชวิ๋นจะกลับมา นี่คือเหตุผลที่ทำให้เขาหงุดหงิดและอีกเหตุผลก็คือ ชายชราเพิ่งจะฝึกวิชาเสร็จในตอนนี้ท้องของเขาจึงว่างเปล่า ทำให้เกิดอาการโมโหหิวขึ้นมาด้วยอีกหนึ่งประการ
ฮวาชิงหวู่กำลังจะอธิบาย เธอก็ได้ยินเสียงดัง “ติ๊ง” ประตูลิฟต์เปิดออก แล้วชายชราในชุดดำคนหนึ่งก็ก้าวเดินออกมา
เมื่อกลุ่มผู้มาเยือนเห็นพวกของฮวาชิงหวู่ พวกเขาก็ยืนอึ้งไปเล็กน้อย ก่อนระเบิดเสียงหัวเราะออกมาด้วยความเย้ยหยัน
“เธอรู้จักฉู่ชวิ๋นหรือเปล่า?” ชายชราในชุดดำถาม
“คุณเป็นใคร?” ใบหน้าที่สวยงามของฮวาชิงหวู่เป็นประกายดุดัน
“เธอคือผู้หญิงของฉู่ชวิ๋น ที่ชื่อว่าฮวาชิงหวู่ใช่ไหม?” ดวงตาของผู้มาเยือนเป็นประกายวาบหวาม หลายคนกลืนน้ำลายเอื๊อก
“ห้ามมองคุณผู้หญิงเด็ดขาด ไม่งั้นฉันจะควักลูกตาพวกแกแน่” เฉินฮั่นหลงคำรามด้วยความเกรี้ยวกราด
ดวงตาและน้ำเสียงของชายชราเครายาวปรากฏความอำมหิตขึ้นมาแล้ว ขณะที่พูดว่า “สามหาว กล้าดียังไงมาตะโกนใส่หน้าฉัน”
“แล้วแกเป็นใครล่ะ หน้าตาอย่างกับลิงตกยุค” เฉินฮั่นหลงพูดด้วยน้ำเสียงเดือดดาล
เมื่อเจอตอบกลับเข้าไปแบบนี้ ท่าทางของชายชราเครายาวก็อยากจะกินเลือดกินเนื้อเฉินฮั่นหลงเต็มทีแล้ว
ชายชราในชุดดำก้าวเดินออกมาข้างหน้าสองก้าวและฉีกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “ดูเหมือนว่าทุกคนจะเป็นคนสนิทของฉู่ชวิ๋นกันหมดสินะ ในเมื่อรวมตัวกันอยู่ที่นี่ก็ดีแล้ว พวกฉันจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปที่อื่นอีก”
ชายชราในชุดดำยิ้มอย่างชั่วร้าย ยกมือขึ้น เตรียมลงมือ
“จำเอาไว้ พวกแกทุกคนต้องตายในเงื้อมมือของสำนักสวรรค์ฟ้า ตายซะเถอะ!”
ไม่ทันขาดคำ การต่อสู้ก็เกิดขึ้น
ชายชราเครายาวดีดกายพุ่งเข้าไปหาเฉินฮั่นหลงด้วยความเร็วปานสายฟ้าฟาด สีหน้าของเขาบิดเบี้ยวด้วยความอำมหิต
“ลงนรกไปซะเถอะ ไอ้คนสามหาว”
ชายชราเครายาวกางมือเป็นกรงเล็บและตะปบลงไปที่ศีรษะของเฉินฮั่นหลงด้วยความดุดัน
แต่ในทันใดนั้นเอง มือของใครคนหนึ่งก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศ และกระแทกเข้าใส่ใบหน้าของชายชราเครายาวเข้าเต็มแรง
พลั่ก!
เลือดสาดกระจายเป็นวงกว้าง
ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บก็คือชายชราเครายาว เขาลอยละลิ่วไปกระแทกกับผนัง จากนั้นจึงค่อยไหลลงไปนอนกองอยู่บนพื้น
เมื่อชายชราชุดดำหันไปมอง ดวงตาของเขาก็เบิกโต สีหน้าปรากฏความพรั่นพรึงขึ้นมา ชายชราชุดดำพบว่าในขณะนี้ใบหน้าของชายชราเครายาวบิดเบี้ยว ริมฝีปากผิดรูป ดวงตาโปนถลน จมูกหักงอ เครายาว ๆ ใต้คางถูกกระชากจนฉีกขาดออกไปครึ่งหนึ่ง ใบหน้ามีเลือดไหลทะลักออกมาราวกับน้ำพุ
“ไม่ได้เรื่อง”
สีหน้าของหลงอ๋าวเต็มไปด้วยความดูถูกขณะที่ลดมือลง เลือดจากใบหน้าของชายชราเครายาวสาดกระจายไปทั่วทุกทิศทุกทาง กระเด็นไปไกลจนเปื้อนใบหน้าของชายหนุ่มในชุดดำที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้าม
ชายหนุ่มชุดดำปาดเลือดออกไปจากใบหน้า และกลืนน้ำลายอย่างฝืดคอ สิ่งที่กระเด็นมาโดนหน้าของเขาไม่ใช่มีเพียงแค่เลือดของชายชราเครายาวเท่านั้น แต่ยังติดเศษผิวหนังมาด้วย น่าขยะแขยงที่สุด
หลังจากที่หันไปอาเจียนอยู่ครึ่งค่อนวัน ชายหนุ่มก็ตวัดสายตามามองที่หลงอ๋าว ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความตื่นกลัว เนื่องจากทราบดีว่าชายชราเครายาวมีฝีมือไม่อ่อนด้อย แต่ก็ยังถูกซัดกระเด็นไปแบบนั้น แล้วตัวเขาจะรอดได้อย่างไร?
คำอธิบายเดียวของสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ชายชราที่ยืนอยู่ในกลุ่มคนฝ่ายตรงข้าม มีฝีมือที่สูงส่งไม่แพ้ชายชราชุดดำของพวกเขาเลย
อันที่จริงแล้ว เฉินฮั่นหลงก็กำลังตื่นกลัวอยู่ไม่น้อย ขาของเขาสั่น ปากเขาสั่นจนฟันกระทบกันดังกึก ๆ ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าในดวงตาจะปรากฏความหวาดกลัวขนาดไหน
“แม่เจ้า ตาแก่นี่ทำไมฝีมือน่ากลัวขนาดนี้”
เฉินฮั่นหลงพูดอะไรไม่ออกอีกแล้ว
บรรดาลูกน้องของฉู่ชวิ๋นคนอื่น ๆ ก็มีอาการไม่ต่างกัน
ในตอนที่พวกเขารู้ว่าหลงอ๋าวจะมาหาเรื่องก่อกวนฉู่ชวิ๋น ทุกคนจึงพร้อมใจกันกลั่นแกล้งชายชราในทุกครั้งที่มีโอกาส
ตัวอย่างเช่น แอบใส่เกลือลงไปในน้ำชา แอบใส่แมลงสาบลงไปในจานอาหาร และอื่น ๆ อีกมากมาย
ถ้ารู้ว่าหลงอ๋าวมีฝีมือร้ายกาจขนาดนี้ พวกเขาสาบานว่าจะไม่มีทางกลั่นแกล้งแน่นอน
โชคดีที่พวกเขาไม่ได้ทิ้งร่องรอยเอาไว้ให้สืบได้ว่าใครเป็นคนกลั่นแกล้ง
พวกของโม่ซิงเหอก็มีอาการไม่ต่างกันทุกคนตกตะลึงไม่คิดเลยว่าหลงอ๋าวจะมีฝีมือแข็งแกร่งถึงเพียงนี้
มีแต่เพียงฮวาชิงหวู่คนเดียวเท่านั้นที่เหมือนคาดการณ์ไว้อยู่แล้ว เธอรู้มานานแล้วว่าหลงอ๋าวมีฝีมือไม่ธรรมดา ไม่อย่างนั้นจะมาเป็นคู่ปรับกับฉู่ชวิ๋นได้ยังไง?
“นี่คือโทษที่พวกแกต้องได้รับ ในฐานะที่มาก่อกวนความสงบสุขของฉัน” หลงอ๋าวพูดพร้อมกับมองหน้าผู้มาเยือนทีละคน
“แกเป็นใคร” ชายชราในชุดดำถามพร้อมกับกำหมัด
ในตอนนี้พวกเขาไม่รู้เลยว่าหลงอ๋าวอยู่ขั้นไหน ส่วนชายชราเครายาวมีระดับฝีมืออยู่ขั้นปรมาจารย์ระดับ 3 ซึ่งเพียงพอแล้วที่จะเอาชนะขั้นปรมาจารย์ระดับ 4
“ฟังฉันให้ดี พวกแกมาที่นี่เพื่อหาเรื่องฉู่ชวิ๋นใช่ไหม?” หลงอ๋าวไม่ตอบคำถาม
ชายชราในชุดดำตกตะลึงไปเล็กน้อย เมื่อได้ยินน้ำเสียงของหลงอ๋าวก็อดไม่ได้ที่จะพูดออกไปว่า “หรือว่าแกก็มาสะสางบัญชีกับฉู่ชวิ๋นเหมือนกันใช่ไหม?”
เมื่อได้ยินคำนี้เข้าไป สีหน้าของหลงอ๋าวก็เปลี่ยนแปลงไปเมื่อนึกถึงไม้แขวนเสื้อที่ฉู่ชวิ๋นใช้ฟาดศีรษะเขา ชายชราก็รู้สึกปวดหัวจนต้องเลิกคิ้วขึ้นสูง และตอบกลับไปด้วยความโกรธแค้นว่า “มันไม่ใช่เรื่องของพวกแก!”
ชายชราในชุดดำสับสนจนไม่พูดอะไร สีหน้าของเขาเคียดแค้นยิ่งกว่าหลงอ๋าวเสียอีก ก่อนจะพูดออกมาในที่สุดว่า “ฉันขอแนะนำให้แกอย่ามายุ่งกับเรื่องของพวกเราดีกว่า ฉู่ชวิ๋นฆ่าคนของสำนักเราไปมากมาย วันนี้ ฉันจะฆ่าคนของมันเป็นการแก้แค้นบ้าง ถ้าใครมาขวางทางฉัน จะถือว่าเป็นศัตรูของสำนักสวรรค์ฟ้าโดยทันที”
หลงอ๋าวมีสีหน้าไม่ชอบใจขึ้นมาแล้ว เขามีอายุยืนยาวมาเกือบ 200 ปี นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนกล้าพูดใส่หน้าเขาแบบนี้ หลงอ๋าวจึงตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่ทั้งโกรธแค้นและเยาะเย้ยว่า “เจ้าหนู แกกำลังพูดอยู่กับใคร? สำนักสวรรค์ฟ้าสูงส่งมาจากไหน? อีกอย่าง พวกแกไม่เข้าใจกฎยุทธภพหรือไง จอมยุทธ์ย่อมไม่เข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์ กล้าดียังไงถึงมาแหกกฎข้อนี้ฮะ”
เจ้าหนูอย่างนั้นหรือ? สีหน้าของชายชราในชุดดำเปลี่ยนแปลงไปแล้ว มีคนกล้าเรียกเขาว่าเจ้าหนูตอนอายุ 80 ปี ชายชราจึงได้แต่หัวเราะเยาะกลับไปว่า “กฎมีไว้ให้แหก คืนนี้ทุกคนต้องตายทั้งหมด ต่อให้เทพเซียนลงมาจุติ ก็อย่าหวังเลยว่าจะช่วยพวกแกได้”
“แกนี่มันปากดีจริง ๆ พวกแกนั่นแหละที่จะต้องตาย ไม่เชื่อก็เข้ามา” หลงอ๋าวระเบิดเสียงหัวเราะด้วยความมั่นใจ
ชายชราในชุดดำกัดฟันกรอด เหลียวหน้ากลับมามองที่ชายหนุ่มร่างสูง ร่างกายเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างหลัง แล้วพูดว่า “จัดการมันซะ”
ชายหนุ่มคนนั้นงงงันไปเล็กน้อย ก่อนที่จะรับคำว่า “ครับนายท่าน!”
พรึบ!
ชายหนุ่มร่างสูงจ้องมองมาที่หลงอ๋าว แล้วเขาก็สับเท้าวิ่งตรงเข้ามาหาชายชรา เศษฝุ่นบนพื้นปลิวกระจาย
ความเร็วของชายหนุ่มเหมือนกับแรดตัวใหญ่ที่บ้าคลั่งวิ่งเข้าชนหลงอ๋าว พลังลมปราณแผ่ออกมาจากตัวของเขา ทุกจังหวะที่เท้าของชายหนุ่มสัมผัสพื้นตึกจะสั่นสะเทือนไปทั้งหลัง
“โง่จริง ๆ” หลงอ๋าวคำนวณแล้วว่าชายหนุ่มคนนี้จัดเป็นแค่ขั้นปรมาจารย์ระดับ 4 ฝึกฝนแต่ความแข็งแกร่งทางร่างกาย ไม่ได้ฝึกฝนความสามารถทางสติปัญญามาด้วยเลย
ชายชรายกมือขึ้นและสะบัดฝ่ามือกระแทกเข้าใส่ศีรษะของขั้นปรมาจารย์ระดับ 4 ที่พุ่งเข้ามาหา
ร่างของชายหนุ่มทรุดฮวบลงไปตรงหน้าหลงอ๋าวทันที
พรึบ!
เลือดสาดกระจาย พื้นหินยุบตัว ตึกสะเทือนไปทั้งหลัง
เมื่อชายชราชุดดำทอดสายตามองไป ก็แทบจะต้องกลั้นหายใจเลยทีเดียว
บนพื้นปรากฏหลุมขนาดใหญ่ที่มีศีรษะของขั้นปรมาจารย์ระดับ 4 โผล่ขึ้นมา นี่ไม่ใช่แค่พื้นธรรมดา แต่มันเป็นพื้นที่ทำมาจากคอนกรีตเสริมใยเหล็ก
ในจังหวะนี้ พวกของเฉินฮั่นหลงเตรียมเข้าไปรุมเล่นงานทันที โทษฐานที่อีกฝ่ายหนึ่งคิดมิดีมิร้ายต่อคุณผู้หญิงของพวกเขา
แต่อย่างไรก็ตาม ขั้นปรมาจารย์ระดับ 4 ไม่ใช่คนที่มีฝีมืออ่อนด้อย โดยเฉพาะกับคนรุ่นเดียวกัน ถือว่าเขาเป็นผู้ที่ฝึกหนักมากที่สุดคนหนึ่ง
เขาปีนกลับขึ้นมาจากหลุมอย่างทุลักทุเล ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือดสีแดงสดผสมกับเศษคอนกรีตจากบนพื้น ทำให้ดูน่าเกลียดน่ากลัวเป็นที่สุด
“ฉัน…จะ…ฆ่า…” ดวงตาแดงก่ำของเขาจ้องมองไปยังหลงอ๋าว
โครม!
พื้นคอนกรีตยุบตัวลงไปอีกครั้ง ทุกสายตาได้แต่จ้องมองด้วยความตกตะลึง
ชายหนุ่มกล้ามใหญ่ที่เป็นถึงขั้นปรมาจารย์ระดับ 4 ร่วงหล่นลงไป ศีรษะกระแทกกับพื้นคอนกรีตอีกครั้ง เลือดไหลนองเต็มพื้นไม่สามารถปีนกลับขึ้นมาได้อีกแล้ว
“มีฝีมือแค่นี้เองเหรอ”
หลงอ๋าวสะบัดมือและจ้องมองไปยังชายหนุ่มกล้ามใหญ่ด้วยสายตาเบื่อหน่าย