บทที่ 185 พบครอบครัวอีกครั้ง[รีไรท์]
วันถัดมา ในที่สุดก็ครบกำหนดเวลาหนึ่งเดือน!!
ทุกคนกำลังรอคอยมันอยู่บนภูเขาเซวียนฉี ในเวลานี้ พระอาทิตย์ขึ้นแล้วมีการเคลื่อนไหวมากมายภายในสำนักสวรรค์ฟ้าและเฉินหวูฮุย (เจ้าสำนักสวรรค์ฟ้า) ก็ปรากฏตัวขึ้น เขามองไปรอบ ๆ และมอบของให้ทุกคน ยังไงซะสำนักสวรรค์ฟ้าก็เป็นสำนักที่ทรงอำนาจ พวกเขาไม่ยอมเสียหน้าให้มีใครมาถล่มสำนักง่าย ๆ แน่
“ฉู่ชวิ๋นจะมาหรือยัง?” เฉินหวูฮุยถามขึ้น แต่ทุกคนต่างก็ส่ายหัว
“หึ ไม่เป็นไร ยังไงมันก็ต้องตาย ต่างกับแค่ช้าหรือเร็วเท่านั้น” เฉินหวูฮุยหันกลับไปที่ภูเขาเซวียนฉี
ดวงตาของหยานอี้สั่นไหว เขามองไปในทิศทางของสำนักเทียนหวู่ เช่นเดียวกับที่อีกฝ่ายมองไป
“พี่หยานเองก็สงสัยเหมือนกันหรือ?” เจ้าสำนักเทียนหวู่ถามหยานอี้พยักหน้าและพูด “มันไม่ถูกต้อง”
“มันไม่ถูกต้องเลย ด้วยชื่อเสียงของฉู่ชวิ๋น อะไรทำให้เจ้าสำนักสวรรค์ฟ้ามั่นใจได้ขนาดนั้น?” เจ้าสำนักเทียนหวู่พูดขึ้น ไม่ใช่เพียงแค่พวกเขาสองคนเท่านั้นที่สงสัยแต่คนอื่น ๆ เองก็สงสัยแบบนี้เช่นกัน สำนักสวรรค์ฟ้าทำตัวอย่างใจเย็นเกินไปเหมือนไม่เห็นฉู่ชวิ๋นอยู่ในสายตาเลย
ทุกคนรู้กันดีว่าฉู่ชวิ๋นเป็นที่รู้จักกันในนามของจอมมารฉู่ แล้วนี่ยังพวกเขากลับกล้าดูถูกคนอย่างฉู่ชวิ๋นอีกงั้นเหรอ?
“ทำไมฉู่ชวิ๋นยังไม่มาที่นี่อีก?” มีคนเริ่มรอไม่ไหวแล้ว
“ไม่ใช่ว่าเขากลัวสำนักสวรรค์ฟ้าจนไม่กล้ามาหรือไง?”
“ไอ้แก่นี่! แกมีสิทธิ์มาตัดสินจอมมารฉู่ด้วยหรือไง?” ผู้คนในเหตุการณ์เริ่มโวยวายและมีเรื่องกันหลายกลุ่ม พวกเขาต้องแข่งกันพูดเหมือนกันอยู่ในตลาดสด
“ฉู่ชวิ๋น มาแล้ว!” ไม่รู้ว่าใครเป็นคนตะโกนออกมา เสียงนั้นไม่ได้ดังนัก แต่มันก็ทำให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเงียบลงไปในทันที
ดวงตาหลายแสนคู่จ้องมองไปในทางต้นเสียงพร้อม ๆ กันโดยมิได้นัดหมาย มีคนสี่คนกำลังเดินเข้ามาอย่างช้า ๆ
“คนตรงกลางคือฉู่ชวิ๋น หญิงสาวสวยนั้นเป็นผู้หญิงของฉู่ชวิ๋น ชื่อฮวาชิงหวู่ ส่วนตาแก่นั้น…คาดว่าน่าจะเป็นผู้ติดตามนะ ส่วนไอ้ที่จมูกบวม ๆ นั้น ก็น่าจะเป็นตัวประกันของเขา เฉินเฉา” หลายคนที่จำหน้าต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าใครคือฉู่ชวิ๋น! ฝูงชนแยกกันเหมือนสายน้ำเพื่อสร้างทางเดินให้แก่ฉู่ชวิ๋น
รูปลักษณ์ของฉู่ชวิ๋นไม่ได้ดูแปลกตาสำหรับพวกเขา เพราะที่นี่มีแต่คนในโลกยุทธภพ ชุดจอมยุทธ์สีขาวเป็นเหมือนชุดปกติมีคนมากมายที่แต่งกายด้วยชุดเช่นนี้
ฉู่ชวิ๋นเงยหน้าขึ้นมองภูเขาเซวียนฉีแล้วตะโกนออกมา “สำนักสวรรค์ฟ้า ฉันมาแล้ว!!!” เสียงของเขาดังราวกับฟ้าร้อง แค่เสียงของเขาก็ทำให้ภูเขาสั่นสะเทือนได้แล้ว
ในขณะเดียวกัน คนกลุ่มหนึ่งก็ปรากฏตัวที่ด้านบนของภูเขาเซวียนฉี ซึ่งนำโดยเฉินหวูฮุยพร้อมชายชราคนหนึ่งอยู่ข้าง ๆ ชายชราคนนี้มีผมสีขาวใบหน้าอ่อนโยน เสื้อคลุมพลิ้วไหวไปตามแรงลม บรรยากาศรอบตัวราวกับเทพเซียน เขาคือผู้อาวุโสใหญ่สำนักสวรรค์ฟ้า หวูฉางเฟิง และเขาเป็นคนที่ทำให้ชีวิตของฉู่ชวิ๋นต้องถูกทำลายภายในประโยคเดียวนั้นเอง
“จอมมารฉู่ ฉันไม่คาดคิดเลยว่าแกจะกล้ามาที่นี่จริง ๆ” เฉินหวูฮุยพูด เสียงของเขาดังก้องอยู่ในอากาศจนทุกคนได้ยินอย่างชัดเจน
“เฉินหวูฮุย ฉันจะไม่มาได้ยังไง? มาวันนี้ฉันจะมาทำแค่สองเรื่องเท่านั้น หนึ่งคือรับพ่อแม่ของฉันกลับบ้าน อย่างที่สองคือทำลายสำนักสวรรค์ฟ้าและทำลายภูเขาเซวียนฉีนี้ทิ้งซะ”
น้ำเสียงของฉู่ชวิ๋นพูดเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา แต่เมื่อเขามาถึง เขากลับทำให้คนหลายพันคนรอบตัวเขาเริ่มแตกกระจาย คำพูดของฉู่ชวิ๋นนั้นเต็มไปด้วความหยิ่งผยองและท้าทายสำนักสวรรค์ฟ้า
ฉู่ชวิ๋นเป็นคนแรกที่กล้าพูดแบบนี้และพูดได้เลยว่า ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์หลายร้อยปีของสำนักสวรรค์ฟ้า!!!
“จอมมารฉู่ ปากเก่งสมชื่อ ช่างยอดเยี่ยมจริง ๆ แกไม่กลัวลมพัดลิ้นของแกหรือไง? ฉันกลัวว่าสำนักสวรรค์ฟ้าของฉันจะทำให้แกย่อยยับจะสำนึกตัวตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วนะ” เฉินหวูฮุยพูดเย้ยหยัน
ดวงตาของฉู่ชวิ๋นเต็มไปด้วยความแค้นและเย็นชา ” เฉินหวูฮุย คำพูดของแกไม่ได้ทำให้ฉันกลัวหรอกนะ พ่อแม่ของฉันอยู่ที่ไหน?” ฉู่ชวิ๋นพูดขึ้น
เฉินหวูฮุยหัวเราะเยาะและโบกมือ คู่สามีภรรยาคู่หนึ่งที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความทุกข์ทรมานถูกพามาโดยหลิวเซียงหรู พวกเขาเป็นพ่อแม่ของฉู่ชวิ๋น ซึ่งก็คือฉู่เทียนเหอและหลิวหราน
เมื่อมองดูคู่สามีภรรยาวัยกลางคนที่ด้านบนของภูเขาใบหน้าของพวกเขาเต็มด้วยความกังวล ริมฝีปากของพวกเขาก็สั่นไหวและดวงตาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด
ฮวาชิงหวู่ก้าวไปข้างหน้าเพื่อยืนข้าง ๆ ฉู่ชวิ๋น คว้ามือของเขาอย่างแน่น ๆ เพื่อปลอบโยนเขา
“ดูสิ ลูกชายของแกอยู่ข้างล่างไงละ ลองดูดี ๆ สิ เพราะพวกแกก็จะไม่ได้เห็นมันอีกแล้ว” หลิวเซียงหรูกล่าวอย่างเย้ยหยัน
ฉู่เทียนเหอและหลิวหรานตกใจและมองลงไปที่ด้านล่างภูเขาอย่างร้อนรน
ฉู่เทียนเหอเป็นเพียงคนธรรมดา ภูเขาลึกลับแห่งนี้มีความสูงหลายร้อยเมตร สายตาของเขามองไม่เห็นด้านล่าง หลิวหรานจับแขนของฉู่เทียนเหอไว้แน่นและในขณะเดียวกันก็มองลงไปที่ภูเขาอย่างกระตือรือร้นมันช่างดูน่าเวทนาเพราะดวงตาของเธอมองไม่เห็นอีกแล้ว
“คุณเห็นเสี่ยวชวิ๋นไหม? คุณเห็นเขาไหมคะ?” หลิวหรานถามอย่างใจจดใจจ่อ ฉู่เทียนเหอพยายามมองแต่เขาก็ยังไม่เห็นอะไรเลย
“ดวงตาของป้า…” ฮวาชิงหวู่พูดไม่ออก เธอมองเห็นแล้วมีหรือที่ฉู่ชวิ๋นจะมองไม่เห็น?
“อ่า…อ่า” ดวงตาของฉู่ชวิ๋นน้ำตาคลอ จู่ ๆ ท้องฟ้าก็ส่งเสียงคำรามราวกับฟ้าร้องจนทุกคนเริ่มตกใจกลัว
เขามองเห็นแม่ของเขาชัดเจน เขาจะได้ว่าแม่ของเขา หลิวหราน เธอมีดวงตาที่สวยงามแต่ตอนนี้เธอสูญเสียความสว่างไสวและสวยงามนั้นไปแล้วนี่ พ่อแม่ของเขาทนรับความทุกข์ทรมานมามากขนาดไหนกันในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้?
ดวงตาของฉู่ชวิ๋นเหมือนเปลวเพลิงสีดำที่ลุกไหม้ ความโกรธแค้นภายในใจของเขา มากจนไม่เคยมากขนาดนี้มาก่อน
“ปล่อยพ่อแม่ฉัน ลงมาจากภูเขาซะ!!!” ฉู่ชวิ๋นพูดทีละคำด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ
“ปล่อยลูกชายฉัน เฉินเฉา ก่อนสิวะ” เฉินหวูฮุยตะโกนสวนออกมาทันที
ทุกคนมองด้วยความแปลกใจ พวกเขาได้ยินว่าเฉินหวูฮุย ส่งคนไปทิ้งระเบิดที่ภูเขาเฉียนหลง เพื่อจัดการฉู่ชวิ๋นพร้อม ๆ กับเฉินเฉาทิ้งนี้น่า แม้เขาจะมีลูกชายหลายคนจนไม่สำคัญว่าเฉินเฉาจะตายหรือไม่ แต่ด้วยวิธีนี้…มันทำให้ทุกคนละอายใจมาก แม้แต่เสือมันยังไม่กินลูกตัวเองเลย
“ปล่อยพวกเขามาพร้อม ๆ กัน” หลงอ๋าวกล่าวออกมา พวกเขา ไม่เชื่อใจซึ่งกันและกัน นี่เป็นทางออกที่ประนีประนอมมากที่สุดแล้ว เฉินหวูฮุยพยักหน้าและเห็นด้วย
“ส่งพวกเขาลงไปจากภูเขา” หวูฉางเฟิงสั่งหลิวเซียงหรู
“ครับ” หลิวเซียงหรูรับคำและมองกลับไปที่ฉู่เทียนเหอ พร้อมปากกระตุก
“ไป กลับไปพบกับครอบครัวของแกกัน” ฉู่เทียนเหอและภรรยาของเขาถูกส่งลงจากภูเขา
“ปล่อยมาพร้อมกัน!” หลิวเซียงหรูตะโกน ระยะห่างระหว่างทั้งสองฝ่ายคือหนึ่งร้อยเมตร หลงอ๋าวปล่อยเฉินเฉาไปและหลิวเซียงหรูก็ปล่อยฉู่เทียนเหอและภรรยาของเขา เฉินเฉาวิ่งไปทางหลิวเซียงหรูในทันทีและฉู่เทียนเหอก็ประคองหลิวหราน มาหาฉู่ชวิ๋น
ความคิดของฉู่ชวิ๋นกระจัดกระจายปกติเมื่อมีวิกฤตใด ๆ เขาจะเป็นคนแรกที่สังเกตเห็น แต่ตอนนี้หลงอ๋าวเป็นคนระวังรอบข้างอย่างรัดกุมพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเวลา
ฉู่เทียนเหอและภรรยาของเขาเดินไปเรื่อย ๆ โดยไม่มีอันตรายใดๆ เลย ซึ่งห่างจากฉู่ชวิ๋นเพียงสิบเมตรแล้วเท่านั้น
ผู้คนรอบตัวรู้สึกแปลกใจกับเฉินหวูฮุย แม้แต่ลูกชายของเขาเองก็สั่งฆ่าได้ เขาจะปล่อยพ่อแม่ของฉู่ชวิ๋นออกมาง่าย ๆ ได้ยังไง?
“ระวังตัวด้วย” หลงอ๋าวเตือน หากมีอะไรผิดปกติจะต้องมีปัญหาแน่ ๆ
“พ่อแม่…” ฉู่ชวิ๋นตัวสั่นและนั่งคุกเข่าลงบนพื้น
“เสี่ยวชวิ๋น…” หลิวหรานเมื่อได้ยินเสียงลูกชาย เธอผละออกจากการประคองของฉู่เทียนเหอและเดินโซเซไปตามเสียง ฉู่ชวิ๋นรีบไปหาแม่ของเขาทันที
หลิวหรานแตะแขนของฉู่ชวิ๋น เธอจับมันไว้แน่นแล้วยกมือของเธอลูบแก้มของฉู่ชวิ๋นด้วยมือที่สั่นเทา
“เสี่ยวชวิ๋น…” หลังจากห่างหายกันไปนาน หลิวหรานก็ตื่นเต้นตกใจและร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ
“แม่….ผมขอโทษ!” ใบหน้าของฉู่ชวิ๋นนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด มันเป็นเพราะเขา พ่อกับแม่จึงต้องทุกข์ทรมานแบบนี้
“เด็กโง่ ขอโทษพ่อแม่อะไรกัน” หลิวหรานส่งเสียงพึมพำและส่ายหน้า “…สูงขึ้นมากเลยนะ แข็งแกร่งขึ้นด้วย…”
“พ่อ” ฉู่ชวิ๋นมองฉู่เทียนเหอและคุกเข่า ฉู่เทียนเหอดึงเขาขึ้น มองไปรอบ ๆ ภูเขาและพยักหน้าด้วยความพึงพอใจพร้อมน้ำตาคลอ “ในที่สุดก็กลับมารวมกันอีกครั้ง”
“ฉู่ชวิ๋น ยินดีกับการกลับมาเจอกันอีกครั้งของครอบครัวของแกด้วยนะ” ทันใดนั้นเสียงแปลกๆ ก็ดังขึ้น ฉู่ชวิ๋นมองไปตามที่มาของเสียงนั้นเป็น เสียงของหลิวเซียงหรู
“ฉู่ชวิ๋น อย่าไปสนใจเขาเลย รีบไปกันเถอะ” หลิวหรานพูดอย่างกังวลใจ
“เขาคือใครครับแม่?” ดวงตาของฉู่ชวิ๋นหรี่ลงล็กน้อย
“ฉันคือ หลิวเซียงหรู ตามความอาวุโสแล้วแก ควรเรียกฉันว่าพี่ชายนะ” ใบหน้าที่หล่อเหลาของหลิวเซียงหรูดูแปลกไป ดวงตาของฉู่ชวิ๋นหรี่ลงแล้วมองเขาอย่างเฉยเมยราวกับมองศพที่พูดได้!!
Related